การสอนในวิธีของพระผู้ช่วยให้รอด
การเข้าใจ เยาวชนที่ท่านสอน
การพยายามเรียนรู้เกี่ยวกับเยาวชนที่ท่านสอนสามารถไขประตูสู่การเปลี่ยนใจเลื่อมใสของพวกเขาได้
เยาวชนจำนวนมากมีความกระตือรือร้นและพลังชีวิตที่สามารถทำให้การสอนและการให้คำปรึกษาพวกเขาเป็นเรื่องน่ายินดี แต่บางคนอาจเผชิญความท้าทายขณะพวกเขาเติบโตเป็นผู้ใหญ่—ทุกอย่าง ตั้งแต่การปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงในร่างกายของพวกเขา ไปจนถึงความเครียดที่โรงเรียน และแรงกดดันทางวัฒนธรรมที่พยายามชักนำให้พวกเขาต่อต้านการดำเนินชีวิตตามพระกิตติคุณ เยาวชนต้องการครูที่เข้าใจและห่วงใยพวกเขา พวกเขาต้องการผู้ให้คำปรึกษาที่ส่งเสริมสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยให้พวกเขาได้เรียนรู้และทำตามสิ่งที่พวกเขาเรียนรู้
บางสิ่งต่อไปนี้อาจจะช่วยให้รู้จักเยาวชนขณะที่ท่านวางแผน เตรียม และสอนพวกเขาในวิธีของพระผู้ช่วยให้รอด
1. เยาวชนต้องการและจำเป็นต้องเรียนรู้หลักคำสอน ในโลกที่กำลังออกห่างจากมาตรฐานของพระกิตติคุณมากขึ้นทุกที เยาวชนกำลังหิวกระหายความจริงนิรันดร์ พวกเขาต้องการให้สอน “เรื่องดังที่มันเป็นจริง, และถึงเรื่องดังที่มันจะเป็นจริง” (เจคอบ 4:13) สิ่งเหล่านี้พบในหลักคำสอนพระกิตติคุณ ขณะที่ท่านสอน จงมุ่งเน้นหลักคำสอนที่พบในพระคัมภีร์ คำสอนของศาสดาพยากรณ์และอัครสาวกที่มีชีวิต ตลอดจนสื่อการเรียนการสอนอย่างเป็นทางการอื่นๆ ของศาสนจักร กระตุ้นให้เยาวชนศึกษาแหล่งข้อมูลเหล่านี้ด้วยตนเอง หลักคำสอนมีผลอันทรงพลัง (ดู แอลมา 31:5)
2. เยาวชนกำลังสร้างอัตลักษณ์ของตน พวกเขาพยายามจะคิดให้ออกว่าพวกเขาเป็นใครและต้องการเป็นอะไร ขณะพวกเขาเตรียมรับบทบาทในอนาคต พวกเขาอาจสงสัยว่าพระเจ้าทรงวางแผนอะไรให้พวกเขาและพวกเขาจะสามารถทำทั้งหมดที่คาดหวังจากพวกเขาได้หรือไม่ ในฐานะบิดามารดาหรือครู ท่านสามารถสร้างความเชื่อมั่นเกี่ยวกับอนาคตและให้การนำทางในการเตรียมรับสิ่งนี้ จงช่วยให้พวกเขาใกล้ชิดพระผู้เป็นเจ้ามากขึ้นและสร้างชีวิตพวกเขาบนมาตรฐานของพระกิตติคุณ จงสอนให้พวกเขารู้ความสำคัญของพระวิหารและบทบาทของพวกเขาในการสร้างอาณาจักรของพระผู้เป็นเจ้า
3. เยาวชนรู้เมื่อท่านห่วงใย เพื่อให้เยาวชนมีส่วนร่วมอย่างแท้จริงในการเรียนรู้พระกิตติคุณ พวกเขาจำเป็นต้องรู้ว่าท่านรักพวกเขาและสนใจพวกเขาแต่ละคน จงฟังพวกเขา มองหาส่วนดีในพวกเขาและเสริมสร้างสิ่งนั้น แสดงความเชื่อมั่นของท่านในตัวพวกเขาและให้ความมั่นใจว่าพวกเขามีค่าและเป็นที่ต้องการ
4. เยาวชนมีความสนใจหลากหลาย เยาวชนแต่ละคนเป็นคนพิเศษไม่เหมือนใคร จงรู้ความสนใจ ความต้องการ และความท้าทายส่วนตัวของพวกเขา ทั้งหมดนี้อาจต้องเอื้อมออกไปหาพวกเขานอกเหนือจากการประชุม ชั้นเรียน และกิจกรรมตามปกติ โดยรู้จักพวกเขา ท่านจะได้ความเข้าใจและการดลใจผ่านพระวิญญาณเกี่ยวกับความต้องการของพวกเขาซึ่งจะมีผลต่อวิธีที่ท่านสอนพวกเขา เมื่อเยาวชนรู้สึกว่าท่านสนใจชีวิตพวกเขาจริงๆ ใจพวกเขาจะเปิดรับการสอนและประจักษ์พยานของท่านมากขึ้น
5. เยาวชนสามารถพบคำตอบของคำถามที่พวกเขามี ผู้เรียนทุกวัยชอบค้นหาความเข้าใจลึกซึ้งในพระกิตติคุณ แต่เรื่องนี้สำคัญเป็นพิเศษสำหรับวัยรุ่นขณะพวกเขาพัฒนาค่านิยมและความเชื่อของตนเอง บทเรียนพระกิตติคุณมีผลอันยั่งยืนเมื่อเรียนรู้ด้วยตนเอง—และดำเนินชีวิตตาม แทนที่จะให้คำตอบเยาวชน ท่านสามารถใช้วิธีสอนที่เชื้อเชิญและสร้างแรงบันดาลใจให้พวกเขาหาคำตอบของพวกเขาเอง การทำเช่นนี้จะทำให้การเปลี่ยนใจเลื่อมใสลึกซึ้งขึ้น—อันเป็นเป้าหมายสูงสุดของการสอนพระกิตติคุณทั้งหมด
6. เยาวชนสามารถสอนกันได้ เยาวชนมีความสนใจในการให้ข้อมูลเกี่ยวกับสิ่งที่ท่านสอนพวกเขาและตื่นเต้นกับการแบ่งปันสิ่งที่พวกเขารู้ โดยแบบอย่างและการสอนของท่าน ท่านสามารถช่วยพวกเขาฝึกสอนในวิธีของพระผู้ช่วยให้รอด ด้วยการนำทางของท่าน พวกเขาอาจจะเริ่มสอนบทเรียนส่วนหนึ่งหรือนำการสนทนาสั้นๆ เมื่อพวกเขาได้รับประสบการณ์และเกิดความเชื่อมั่นแล้ว ท่านอาจให้โอกาสสอนบทเรียนทั้งบทเป็นบางครั้ง เมื่อเยาวชนเรียนรู้จากกัน พวกเขาจะช่วยเพิ่มพลังให้กันต้านแรงกดดันจากคนที่มีค่านิยมต่างจากพวกเขา
7. เยาวชนกำลังเรียนรู้การเป็นผู้นำ ฝ่ายประธานชั้นเรียนและฝ่ายประธานโควรัมมีการเรียกอันศักดิ์สิทธิ์ที่จะนำเพื่อนวัยเดียวกันกับพวกเขา แต่ถึงแม้พวกเขาเคยมีประสบการณ์การเป็นผู้นำมาแล้ว แต่ก็ยังต้องได้รับการชี้นำจากท่านเกี่ยวกับวิธีดำเนินการประชุม ช่วยให้ผู้อื่นเรียนรู้ และปฏิบัติศาสนกิจ โอกาสอื่นในการเป็นผู้นำอาจเกิดขึ้นที่บ้านเมื่อให้ความรับผิดชอบที่มีความหมายแก่เยาวชน
8. เยาวชนเรียนรู้จากต้นแบบของบิดามารดาและผู้ใหญ่คนอื่นๆ ส่วนสำคัญของความรับผิดชอบของท่านในฐานะครูคือช่วยกระชับความสัมพันธ์ระหว่างเยาวชน ผู้นำ และบิดามารดาของพวกเขา ท่านสามารถช่วยเยาวชนหาคำตอบของคำถามมากมาย แต่บางคำถามบิดามารดาหรือผู้นำของพวกเขาจะตอบได้ดีกว่า แนะนำให้เยาวชนไปหาบิดามารดาและกระตุ้นพวกเขาให้กระชับความสัมพันธ์ในครอบครัว สื่อสารกับบิดามารดาเป็นประจำเกี่ยวกับสิ่งที่ท่านกำลังศึกษาในชั้นเรียนและบอกเรื่องพรสวรรค์ การเติบโต และคุณความดีที่ท่านสังเกตเห็นในบุตรธิดาของพวกเขา ถามว่าท่านจะทำอะไรได้บ้างเพื่อช่วยพวกเขาขณะสอนบุตรธิดา
การช่วยให้เยาวชนเปลี่ยนใจเลื่อมใสเรียกร้องความพยายามร่วมกันของบิดามารดา ผู้นำ ผู้ให้คำปรึกษา และครู รวมถึงครูเซมินารีด้วย ท่านจะสามารถช่วยกันสร้างประสบการณ์การเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพให้เยาวชนได้มากยิ่งกว่าท่านทำเอง