เอื้อมออกไปหาแอนนา
มาร์กาเร็ต เอส. ลิฟเฟิร์ธ
รัฐยูทาห์ สหรัฐอเมริกา
หลายปีก่อน ดิฉันสอนเด็กวัยหกขวบในปฐมวัย แอนนาอยู่ในรายชื่อที่ดิฉันสอน ดิฉันรู้จักครอบครัวนั้นดีพอที่จะรู้ว่าพ่อแม่ของเธอแยกทางกันและเธออยู่กับคุณพ่อ พวกเขาไม่ค่อยมาโบสถ์
ดิฉันแวะที่บ้านของแอนนาเพื่อพบเธอกับคุณพ่อและชวนเธอมาปฐมวัย แอนนาดูท่าทางสนใจ แต่เธอไม่มา ดิฉันโทรไปที่บ้านและชวนเธอมาปฐมวัยทุกเช้าวันอาทิตย์นานหลายสัปดาห์ ไม่มีใครรับสาย แต่ดิฉันฝากข้อความบอกแอนนาทุกครั้งว่าดิฉันจะมีความสุขมากถ้าได้พบเธอในปฐมวัย
เช้าวันอาทิตย์วันหนึ่งแอนนาอยู่ที่นั่น คุณพ่อของเธอช่วยเตรียมเธอให้พร้อมมาปฐมวัยในชุดวันอาทิตย์ที่ดีที่สุดแล้วมาส่งเธอที่โบสถ์ ดิฉันมีความสุขที่ได้เจอเธอ ต้อนรับเธอ และช่วยให้เธอรู้จักเด็กคนอื่นๆ ในชั้นเรียน
เรามีบทเรียน ร้องเพลง และมีกิจกรรมระบายสีตอนปลายชั้นเรียน ขณะที่เด็กๆ ออกจากห้อง แอนนามาหาดิฉันและหย่อนแผ่นกระดาษยับยู่ยี่ใส่มือดิฉัน ตอนแรกดิฉันคิดว่าเป็นขยะ ดิฉันเกือบจะโยนทิ้ง แต่พระวิญญาณกระตุ้นเตือนให้ดิฉันคลี่กระดาษแผ่นนั้น แอนนาเขียนข้อความถึงดิฉัน ลายมือวัยหกขวบของเธอเขียนว่า “หนูรักคุณ”
แอนนาไม่รู้จักดิฉันมากพอจะรักดิฉัน เท่าที่เธอรู้จักดิฉันคือเสียงทางโทรศัพท์ชวนเธอมาปฐมวัย แต่ความพยายามเล็กน้อยนั้นช่วยให้แอนนารู้ว่ามีคนห่วงใยเธอและต้องการช่วยให้เธอรู้สึกถึงความรักของพระผู้ช่วยให้รอด
ดิฉันเจอแอนนาในปฐมวัยนานๆ ครั้งและคุณพ่อของเธอเริ่มมาโบสถ์บางครั้งด้วย แต่เมื่อสภาวการณ์ของครอบครัวเปลี่ยนไปอีกครั้ง เราเจอพวกเขาไม่บ่อย
ดิฉันคิดถึงแอนนาตลอดหลายปีที่ผ่านมา ดิฉันหวังอย่างสุดใจว่าเธอจะจำเวลาของเธอในปฐมวัยได้ เธออาจจะจำสิ่งที่เรียนรู้ได้บ้าง แต่ดิฉันหวังยิ่งกว่านั้นคือเธอจะจำได้ว่าเธอรู้สึกถึงความรักของพระเจ้า การปลอบโยนของพระวิญญาณ และความรักของครู