รอยแย้มพระสรวลของการยอมรับ
แฟรงคลิน โรเมโร มานาบี เอกวาดอร์
คืนหนึ่งวอร์ดของเราจัดกิจกรรมที่เราใช้เวลาเตรียมหลายชั่วโมง หลังเลิกกิจกรรม ผู้สนใจวัยหนุ่มคนหนึ่งมาลาผมแต่ไม่กี่นาทีให้หลังเขากลับมาถามว่า “อธิการครับ ผมต้องกลับมาอีกเมื่อไร” ผมบอกเขาว่าวันอาทิตย์ และเด็กหนุ่มตอบกลับทันทีว่า “ไม่ใช่ครับ ไม่มีกิจกรรมอีกหรือครับ” เขามีช่วงเวลาที่ดีกับเยาวชนของวอร์ดจนเขาอยากกลับมาอีก
ผมสนทนากับสามีภรรยาคู่หนึ่งที่แวะมาเข้าร่วมกิจกรรมและถามพวกเขาว่าคิดอย่างไร สามีตอบว่า “ตั้งแต่เรามาถึง เรารู้สึกถึงสันติสุขและความสงบ” ซึ่งภรรยาเขายืนยันด้วยการพยักหน้า ผมประหลาดใจกับเรื่องนี้เพราะตอนแรกที่พวกเขามาถึง มีคนเยอะมากกำลังคุยกันเสียงดัง แต่เขามองผมและถามต่อว่า “นั่นพระวิญญาณบริสุทธิ์ใช่ไหมครับ” น่าแปลกที่ผมตอบได้เพียงว่าใช่
มีสิ่งต่างๆ มากมายให้ทำเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับกิจกรรมครั้งนี้ คืนนั้นเมื่อทุกอย่างจบลงแล้ว สิ่งเดียวที่ผมอยากทำคือกลับบ้านนอน เพราะผมเหนื่อยมาก ผมจึงไม่ได้คิดทบทวนการสนทนาของผมกับผู้สนใจ เมื่อถึงบ้าน ผมกล่าวคำสวดอ้อนวอนและเข้านอน แต่นอนไม่หลับเพราะในความคิดผมเห็นภาพพระเจ้ากำลังแย้มพระสรวล นั่นเป็นรอยแย้มพระสรวลของการยอมรับ ตอนนั้นผมเริ่มนึกถึงเรื่องดีๆ ที่เกิดขึ้นในกิจกรรมนั้น
ผมเข้าใจว่าความขยันหมั่นเพียรและความรักของสมาชิกวอร์ดทำให้ผู้สนใจสามคนนั้นประทับใจ ผมเข้าใจว่ารอยแย้มพระสรวลของการยอมรับมีให้สิ่งที่เราทำ ผมอดร้องไห้ไม่ได้ และรู้สึกสำนึกคุณอย่างยิ่งต่อของขวัญที่พระเจ้าประทานแก่เรา พระองค์ประทานรอยแย้มพระสรวลของการยอมรับ ผมเป็นพยานว่าพระดำรัสของพระเจ้าเป็นจริงที่ว่าเมื่อเรานำแม้จิตวิญญาณเดียวมาหาพระองค์ ปีติของเราจะใหญ่หลวงในอาณาจักรของพระบิดา (ดู คพ. 18:15)