พลังของการสวดอ้อนวอนในเรือนจำ
ดิฉันจะจดจำคริสต์มาสอีฟปีนี้ตลอดไป
ดิฉันรับโทษในเรือนจำกลางสี่ปีครึ่งฐานฉ้อโกงอสังหาริมทรัพย์ ผู้หญิงส่วนใหญ่ที่นั่นเงียบและให้เกียรติผู้อื่น จากนั้นผู้หญิง 10 คนย้ายเข้ามาในห้องขังตรงข้ามดิฉัน
พวกเธอจะนอนดึก หัวเราะและฟังเพลงเสียงดัง ดูเหมือนไม่สนใจว่าพฤติกรรมของพวกเธอมีผลต่อคนอื่นอย่างไร เพื่อนร่วมห้องขอให้ดิฉันพูดคุยกับพวกเธอ แต่การสนทนาทำนองนี้ในเรือนจำมักไม่ประสบผลดี ดิฉันจึงสวดอ้อนวอนให้ผู้หญิงเหล่านี้เปลี่ยนพฤติกรรมและขอให้สันติสุขกลับมาเหมือนเดิม แต่สถานการณ์กลับแย่ลง
ขณะสวดอ้อนวอนคืนหนึ่ง ดิฉันรู้ตัวว่าไม่ได้พยายามทำความรู้จักเพื่อนบ้านของดิฉัน วันรุ่งขึ้นดิฉันไปห้องขังของพวกเธอและพูดคุยกับพวกเธอ พวกเธอให้ดิฉันดูรูปครอบครัวกับคนที่พวกเธอรัก และขอโทษที่เสียงดังเกินไป นับจากนั้นพวกเธอโบกมือและดูมีความสุขเมื่อเห็นดิฉัน
ไม่กี่สัปดาห์ก่อนคริสต์มาส พวกเธอชวนดิฉันมารับประทานอาหารคริสต์มาสอีฟกับพวกเธอ เราวางแผนแบ่งปันประสบการณ์ทางวิญญาณที่เราเคยมีให้กันด้วย ในวันคริสต์มาสอีฟ เรามารวมกันและแขวนของตกแต่งที่ทำด้วยกระดาษ เราไม่มีต้นคริสต์มาส แต่เราทุกคนรู้สึกสงบ หลังจากกินปลาทูน่ากับมันฝรั่งทอดเป็นอาหารเย็น เราแบ่งปันประสบการณ์ของเรา เราทุกคนมีภูมิหลังทางศาสนาต่างกันและเรื่องราวของแต่ละคนไม่เหมือนกัน แต่ใจเราผูกพันกันและพระวิญญาณสถิตที่นั่น
เอพริลบอกเราว่าคุณแม่ของเธอเสียชีวิตเพราะกินยาเกินขนาดเมื่อเอพริลอายุ 14 ปี เอพริลอาศัยอยู่ข้างถนนและมีลูกอ่อนที่เธอยกเป็นบุตรบุญธรรมเมื่ออายุ 15 ปี เธอดิ้นรนกับการเสพยา เริ่มขายยา และสุดท้ายก็ถูกส่งเข้าเรือนจำ
“วันหนึ่งดิฉันสงสัยว่าทำไมดิฉันยังมีชีวิตอยู่” เอพริลพูด “คงไม่มีผลอะไรถ้าดิฉันตาย ไม่มีใครรู้ว่าดิฉันอยู่ในคุก คงไม่มีใครรู้ถ้าดิฉันตาย” จากนั้นเธอสวดอ้อนวอนและทูลถามพระผู้เป็นเจ้าว่าพระองค์ทรงทราบหรือไม่ว่าเธอเป็นใคร
สัปดาห์ต่อมา ผู้ให้คำปรึกษาคนหนึ่งในเรือนจำยื่นจดหมายฉบับหนึ่งจากเด็กหญิงที่เธอยกเป็นบุตรบุญธรรมให้เธอ
“พระผู้เป็นเจ้าจะต้องดูแลคุณแน่นอน” ผู้ให้คำปรึกษาบอก
“ตอนนี้ดิฉันเขียนไปหาลูกสาวแล้ว และเธอมาเยี่ยมดิฉันครั้งหนึ่ง” เอพริลบอก “ดิฉันรู้เรื่องศาสนาไม่มาก แต่รู้ว่าพระผู้เป็นเจ้าทรงห่วงใยดิฉันเพราะพระองค์ทรงตอบคำสวดอ้อนวอนของดิฉัน”
หลังจากเอพริลเล่าเรื่องของเธอ เราทุกคนนั่งเงียบและน้ำตาคลอ
ในช่วงที่ดิฉันอยู่ในเรือนจำ ดิฉันระบายความในใจในการสวดอ้อนวอนทูลขอให้พระบิดาในสวรรค์ทรงดูแลและคุ้มครองครอบครัวของดิฉัน แต่เมื่อดิฉันสวดอ้อนวอนให้เพื่อนบ้านในเรือนจำ ดิฉันเริ่มรับรู้ศักยภาพอันสูงส่งของพวกเธอและรู้สึกถึงความรักและพระเมตตาของพระผู้ช่วยให้รอดอย่างเต็มที่มากขึ้น
คริสต์มาสอีฟปีนี้ในเรือนจำเป็นคริสต์มาสอีฟที่สวยงาม