คนหนุ่มสาว
ทำความเข้าใจ อัตลักษณ์อันสูงส่ง ของท่าน
เมื่อเราพยายามทำความเข้าใจอัตลักษณ์อันสูงส่งของเราอย่างแท้จริง มุมมองของเราจะเปลี่ยนไป
ฉันคือใคร? ฉันต้องการเป็นใคร? คำถามสองข้อที่เราทุกคนอาจถามในบางช่วงของชีวิตเรา
การทำความเข้าใจอัตลักษณ์ของเราเป็นกุญแจสำคัญของวิธีที่เรามองตัวเราเองและผู้อื่น แต่คำถามเหล่านี้อาจตอบได้ยากเมื่อผู้คนรอบข้างพูดว่าอัตลักษณ์และคุณค่าของเรามาจากสิ่งชั่วคราว เช่น รูปลักษณ์ สถานะทางสังคม หรือความสำเร็จในที่ทำงานหรือโรงเรียน
โลกใบนี้มีเสียงที่ฟังง่ายเกินไป และเสียงของมันอาจทำให้เรารู้สึกหนักใจ เสียกำลังใจ หรือหลงทางได้ แต่เมื่อเราเข้าใจคุณลักษณะแห่งสวรรค์ของเราอย่างแท้จริง เราก็จะเริ่มมองเห็นตัวเราเองและผู้อื่นตามที่พระผู้เป็นเจ้าทรงเห็นเรา
เราคือใคร?
พวกเราบางคนเติบโตมาพร้อมกับการร้องเพลง “ฉันลูกพระผู้เป็นเจ้า” (เพลงสวด, บทเพลงที่ 149) หรือได้เรียนเพลงนี้ในช่วงหนึ่ง แต่ถึงแม้ว่าท่านจะจำเนื้อเพลงได้ขึ้นใจ แต่ก็ง่ายที่จะมองข้ามความสำคัญของมรดกจากสวรรค์ของเรา
อัครสาวกเปาโลสอนว่าเราเป็นมากกว่าสัตภาวะที่เป็นมรรตัย:
“พระวิญญาณนั้นเป็นพยานร่วมกับจิตวิญญาณของเราว่า เราเป็นลูกของพระเจ้า” (โรม 8:16)
ศาสดาพยากรณ์และอัครสาวกในยุคปัจจุบันยืนยันความจริงข้อนี้อีกครั้ง ประธานเอ็ม. รัสเซลล์ บัลลาร์ด รักษาการประธานโควรัมอัครสาวกสิบสองสอนว่า: “เพราะเราเป็นลูกทางวิญญาณของพระผู้เป็นเจ้า ทุกคนจึงมีแหล่งกำเนิด ธรรมชาติ และศักยภาพอันสูงส่ง เราแต่ละคน ‘เป็นปิยบุตรและปิยธิดาทางวิญญาณของพระบิดาพระมารดาบนสวรรค์’ นี่คืออัตลักษณ์ของเรา! นี่คือตัวตนเราจริงๆ!”1
ความจริงข้อนี้รวมถึงความรู้ที่ว่าเราเคยอาศัยอยู่กับพระผู้เป็นเจ้าก่อนชีวิตนี้ ว่าเราถูกสร้างขึ้นในรูปลักษณ์ของพระองค์ และเราไม่เพียงแต่มีคุณลักษณะแห่งสวรรค์แต่ยังมีจุดหมายแห่งสวรรค์ด้วย
การสร้างความมั่นใจ
แม้จะมีสิ่งช่วยเตือนทั้งหมดนี้แล้ว แต่บางครั้งเราก็ยังสงสัยว่าเราเป็นใคร ซาตานทำงานอย่างสม่ำเสมอให้เราขาดวิสัยทัศน์ว่าเราเป็นใคร เพราะเขารู้ดีว่าเมื่อเราเข้าใจและดำเนินชีวิตตามคุณลักษณะแห่งสวรรค์ของเรา เราจะได้รับพรจากอำนาจศักดิ์สิทธิ์ ความมั่นใจของเราสามารถเพิ่มขึ้นได้เมื่อเรามารู้จักกับพระบิดาบนสวรรค์และพระเยซูคริสต์
ขณะที่ท่านศึกษาพระคัมภีร์ ขอให้มองหาหลักฐานแห่งความรักของพระผู้เป็นเจ้าที่ทรงมีต่อบุตรธิดาของพระองค์ สวดอ้อนวอนให้เห็นพระหัตถ์ของพระผู้เป็นเจ้าในชีวิตท่าน และจดบันทึกช่วงเวลาที่ท่านรู้สึกถึงความรักของพระองค์หรือตระหนักถึงการนำทางของพระองค์ หากมีความคิดในแง่ลบเข้ามา ให้เตือนตัวท่านเองว่าท่านทราบว่าพระผู้เป็นเจ้าทรงทราบและห่วงใยท่านอย่างไร
เรียนรู้คุณลักษณะของพระผู้ช่วยให้รอด ท่านจะสามารถมองเห็นคุณลักษณะเหล่านั้นในตัวท่านได้ดียิ่งขึ้นและมีวิสัยทัศน์ของบุคคลที่ท่านสามารถเป็นได้แจ้งชัดขึ้นด้วยความช่วยเหลือของพระองค์ ( ดู โมโรไน 7:48)
และการพัฒนาความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดยิ่งขึ้นกับพระบิดาบนสวรรค์และพระผู้ช่วยให้รอดจะช่วยให้ท่านเห็นศักยภาพอันไร้ขีดจำกัดที่พระองค์ทรงเห็นในตัวท่าน
การรู้ธรรมชาติแห่งสวรรค์ของเรา
แล้วความรู้นี้สามารถช่วยอะไรท่านได้บ้าง? เมื่อเราเข้าใจอย่างแท้จริงว่าเราเป็นบุตรธิดาของพระผู้เป็นเจ้า เราสามารถ:
-
ค้นพบคุณค่าของเราในความสัมพันธ์กับพระผู้เป็นเจ้าแทนที่จะเป็นในสิ่งชั่วคราวหรือแหล่งทางโลก
-
เห็นว่าความรักของพระองค์ขับความกลัวออกไปและนำสันติมาสู่ชีวิตเรา (ดู 1 ยอห์น 4:18)
-
มองผ่านความแตกต่างของเราและรักผู้อื่น เราทุกคนล้วนเป็น “พี่น้องชายหญิงที่ผูกพันกันด้วยมรดกจากสวรรค์ที่เหมือนกัน” ประธานบัลลาร์ดอธิบาย “ความจริงข้อนั้นที่เรียบง่ายและเป็นเอกภาพควรลบล้างสิ่งอื่นทั้งหมดที่เราอนุญาตให้ทำการแบ่งและแยกระหว่างเรา”2
-
มีมุมมองนิรันดร์ อัตลักษณ์อันสูงส่งของเราเตือนให้เราตระหนักถึงเป้าหมายสุดท้ายของเรา เพื่อจะเป็นเหมือนพระบิดาพระมารดาบนสวรรค์และกลับไปอยู่กับพระองค์ ดังที่เอ็ลเดอร์โฮเซ เอ. เทียเซียราแห่งสาวกเจ็ดสิบสอน “การเข้าใจว่าแท้จริงแล้วท่านเป็นใครจะเตรียมท่านให้รับรู้และจดจำหนทางกลับบ้านบนสวรรค์ได้ดีขึ้นและปรารถนาจะไปอยู่ที่นั่น”3
-
ค้นหาความมั่นใจและยังคงวางใจในการนำทางของพระผู้เป็นเจ้าผ่านโอกาส ความท้าทาย และประสบการณ์ทั้งหมดที่มาสู่เรา
การรู้ว่าตัวตนที่แท้จริงของเราเป็นใครช่วยให้เราพบความสุขและสันติที่ยั่งยืน ดังนั้นเมื่อชีวิตเกิดความยากลำบากหรือเสียงทางโลกดังขึ้น ขอให้จำไว้ว่าพระบิดาบนสวรรค์ของเราจะทรงช่วยเหลือเราเสมอให้มองเห็นว่าแท้จริงแล้วเราเป็นใครและสามารถเป็นใครได้