ดิจิทัลเท่านั้น
การเตรียมตัวสำหรับบทบาทสามีและพ่อในอนาคต
ผู้เขียนอาศัยอยู่ในยูทาห์ สหรัฐอเมริกา
ในฐานะผู้ใหญ่โสด ผมตั้งใจใช้ชีวิตในวันนี้เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้ครอบครัวในอนาคต
ในช่วงวัยรุ่นตอนต้น ผมเข้าค่ายฝึกอบรมผู้นำเยาวชน ตลอดทั้งสัปดาห์ ไบรอัน เทลินหนึ่งในผู้นำเยาวชนชายของผมพบข้อความหลายฉบับที่จูลี่ ภรรยาของเขาเขียนไว้และซ่อนไว้ในข้าวของต่างๆ ของเขา เขาแบ่งปันข้อความที่อ่อนโยนและส่งเสริมศรัทธาเหล่านั้นกับเรา ผมรู้สึกประทับใจและสัมผัสได้ถึงความรักที่เกิดจากการกระทำอันเรียบง่ายและเอาใจใส่ของภรรยาในชีวิตแต่งงาน แม้ว่าไบรอันและจูลี่จะไม่ได้อยู่ด้วยกันในสัปดาห์นั้น แต่ชีวิตแต่งงานของพวกเขาก็เข้มแข็งขึ้น
ต่อมาในฐานะผู้สอนศาสนาในอาร์เจนตินา ผมสังเกตเห็นสามีภรรยาคู่หนึ่งในเขตหนึ่งซึ่งเปี่ยมด้วยความรักของพระคริสต์ ทุกครั้งที่เห็นเขาทั้งสองอยู่ด้วยกัน ความดีของพวกเขาฉายส่องออกมา ผมรู้สึกได้ว่าพวกเขาไม่เพียงห่วงใยกันมากแต่ดูเหมือนห่วงใยทุกคนที่พวกเขาพบเจอ ผมรู้สึกถึงความจริงใจที่พวกเขามีต่อผมทุกครั้งที่เราพูดคุยกัน ผมต้องการใช้เวลาอยู่กับพวกเขามากขึ้นเพราะความรักของพระคริสต์ที่ออกมาจากพวกเขา
แบบอย่างของสองคู่นี้เป็นพรแก่ชีวิตผม พวกเขาช่วยให้ผมเห็นว่าผมสามารถเสริมสร้างชีวิตแต่งงานและครอบครัวในอนาคตของผมได้อย่างไร
บันทึกความประทับใจจากพระวิญญาณ
ผมตั้งตารอคอยวันที่ผมสามารถสร้างชีวิตแต่งงานที่เข้มแข็งได้ อย่างไรก็ตาม ผมสังเกตว่าในฐานะผู้ใหญ่โสด ผมไม่ต้องรอจนกว่าจะแต่งงานเพื่อมองหาและเรียนรู้วิธีที่จะช่วยเตรียมรับบทบาทสามีและพ่อในอนาคต
“ท่านสามารถเรียนรู้สิ่งที่สำคัญอย่างยิ่งยวดจากสิ่งที่ท่าน ได้ยิน และ ดู และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง โดยสิ่งที่ท่าน รู้สึกตามที่พระวิญญาณบริสุทธิ์กระตุ้นเตือน” เอ็ลเดอร์ริชาร์ด จี. สก็อตต์ (1928–2015) แห่งโควรัมอัครสาวกสิบสองสอน
ท่านกล่าวต่อว่า “ให้เขียนสิ่งสำคัญที่ท่านเรียนรู้จากพระวิญญาณลงในที่ซึ่งเก็บรักษาอย่างดี ท่านจะพบว่าเมื่อท่านจดความประทับใจอันล้ำค่า ความประทับใจเหล่านั้นจะมาบ่อยขึ้น”1
ความประทับใจที่ช่วยเสริมสร้างความเข้มแข็งให้ครอบครัวผมในช่วงเวลาต่างๆ บางครั้งผมรู้สึกถึงความประทับใจเหล่านี้เมื่อได้เห็นแบบอย่างที่ดีในชีวิต บางครั้งผมรู้สึกประทับใจขณะฟังคำปราศรัยหรือศึกษาพระคัมภีร์ เราแต่ละคนสามารถรับความประทับใจได้หลายวิธี
เมื่อผมได้รับความประทับใจหรือได้ยินแนวคิดเกี่ยวกับสิ่งที่ผมสามารถทำได้ ผมจะบันทึกลงในสมุดจด ตัวอย่างเช่น ผมมีสมุดจดหนึ่งเล่มที่เขียนแนวคิดเพื่อช่วยเสริมสร้างศรัทธาของลูกๆ และผมมีสมุดจดอีกเล่มหนึ่งที่มีแนวคิดเพื่อช่วยเสริมสร้างชีวิตแต่งงานของผม ผมชอบสร้างสมุดบันทึกเหล่านี้เป็นเอกสารออนไลน์ เพื่อให้ผมสามารถเข้าถึงได้จากโทรศัพท์ของผมทุกที่ทุกเวลา แต่แนวทางปฏิบัตินี้สามารถทำได้ด้วยสมุดบันทึกจริงด้วย การรวบรวมความคิดเหล่านี้เป็นพรแก่ผมเมื่อผมพยายามเตรียมรับบทบาทเหล่านี้ในอนาคต
แบบอย่างของสมุดจดบันทึก
ประธานจีน บี. บิงแฮม ประธานสมาคมสงเคราะห์สามัญกล่าวว่า “บทบาทสำคัญที่สุดของบิดามารดาคือช่วยให้ลูกๆ เชื่อมโยงกับสวรรค์ พัฒนาระบบคุณค่าที่มีพระกิตติคุณเป็นฐานให้ยึดยามเกิดความท้าทายในชีวิต”2 ดังนั้น ในสมุดบันทึกเล่มหนึ่งของผม ผมบันทึกแนวคิดที่จะช่วยยึดลูกในอนาคตของผมไว้กับรากฐานแห่งศรัทธาในพระบิดาบนสวรรค์และพระเยซูคริสต์ แนวคิดเหล่านี้บางส่วนรวมถึงประเพณีที่ผมต้องการสร้างเพื่อช่วยให้เรามีประจักษ์พยานที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น สมุดบันทึกนี้มีแนวคิดดังนี้:
-
ใช้เวลาห้านาทีในแต่ละวันกับลูกๆ เพื่อช่วยพวกเขาจดบันทึกพรจากพระบิดาบนสวรรค์ที่พวกเขาสำนึกคุณ กิจกรรมนี้สามารถใช้ร่วมกับการศึกษาพระคัมภีร์เป็นครอบครัวได้
-
หากท่านถามลูกวัยหัดเดินว่าใครเป็นศาสดาพยากรณ์และพวกเขาไม่แน่ใจ ให้แขวนรูปภาพศาสดาพยากรณ์จากนิตยสาร เพื่อนเด็ก ไว้ที่ระดับสายตารอบห้อง
-
จัดทริปไปพระวิหารเป็นประจำเพื่อรับบัพติศมาแทนคนตายเมื่อลูกของคุณโตพอ เชิญให้เพื่อนบ้านและเพื่อน ๆ เข้าไปด้วยหากระยะทางเอื้ออำนวย ประเพณีที่จะได้ทำร่วมกันในช่วงวันหยุดคริสต์มาสคือการหาชื่อครอบครัวด้วยกันและนำชื่อเหล่านั้นไปที่พระวิหาร
-
หากท่านมีลูกเตรียมรับใช้งานเผยแผ่ ขอให้พวกเขาเขียนจดหมายแสดงประจักษ์พยานส่วนตัวถึงพี่น้องก่อนเริ่มงานเผยแผ่
-
สำหรับวันเกิด ให้สมาชิกในครอบครัวและแขกเขียนคุณสมบัติที่พวกเขาชื่นชมหรือประสบการณ์ที่พวกเขามีกับเจ้าของวันเกิด หลังจากอ่านความทรงจำร่วมกันและได้รับอนุญาตจากผู้ที่เกี่ยวข้องแล้ว ให้อัปโหลดสำเนาเอกสารไปที่ส่วนความทรงจำของบันทึกสาแหรกครอบครัวของบุคคลนั้นที่ FamilySearch.org เพื่อเข้าถึงในภายหลังหรือเมื่อพวกเขาต้องการรับ
มีแนวคิดมากมาย และเมื่อท่านแสวงหาการนำทางจากสวรรค์ ท่านจะได้รับการกระตุ้นเตือนให้รู้ว่าต้องบันทึกอะไรขณะเตรียมสำหรับครอบครัวในอนาคต
ตัวอย่างสมุดบันทึกอีกแบบหนึ่งคือการบันทึกแนวคิดสำหรับการสร้างสภาพแวดล้อมที่พระวิญญาณประทับอยู่ การช่วยให้เด็กๆ เรียนรู้ที่จะตระหนักถึงการกระตุ้นเตือนของพระวิญญาณบริสุทธิ์มีความสำคัญอย่างยิ่ง ประธานรัสเซลล์ เอ็ม. เนลสันสอนว่า “เมื่อเกิดความวุ่นวายรอบตัว เรา เราต้องสร้างสถานที่ให้ เรา อยู่อย่างปลอดภัยทั้งทางร่างกายและทางวิญญาณ เมื่อบ้านของท่านเป็นสถานศักดิ์สิทธิ์ส่วนตัวแห่งศรัทธา—ที่ซึ่งพระวิญญาณสถิตอยู่—บ้านท่านจะกลายเป็นแนวป้องกันอันดับแรก”3
นึกถึงสภาพแวดล้อมของพระกิตติคุณที่ท่านต้องการปลูกฝัง เราสามารถมุ่งความสนใจไปที่การสร้างบ้านที่พระวิญญาณประทับอยู่ ผมไม่จำเป็นต้องแต่งงานเพื่อเริ่มสร้างสภาพแวดล้อมเช่นนี้ เป็นโอกาสอันยอดเยี่ยมในการสร้างบ้านที่อัญเชิญพระวิญญาณ เราแต่ละคนสามารถใช้สิทธิ์เสรีของเราเพื่อส่งเสริมสภาพแวดล้อมที่มีพระกิตติคุณเป็นศูนย์กลาง เราสามารถบันทึกแนวคิดเพื่อสร้างสภาพแวดล้อมนี้ และเราสามารถทำมันได้ในวันนี้
จงพร้อมที่จะรับแรงบันดาลใจแล้วลงมือทำ
เมื่อโจเซฟ สมิธและซิดนีย์ ริกดันได้รับนิมิตของรัศมีภาพสามระดับ พวกเขาได้รับบัญชาสามครั้งให้เขียน “ขณะที่ [พวกเขา] ยังอยู่ในพระวิญญาณ” (หลักคำสอนและพันธสัญญา 76:28, 80, 113) การบันทึกความประทับใจทางวิญญาณในลักษณะนี้เป็นพรแก่ชีวิตผม การเขียนความประทับใจลงไปทันทีที่เราได้รับจะช่วยรักษาความชัดเจนของข่าวสาร นอกจากนี้ยังเก็บรักษาข่าวสารสำหรับการแบ่งปันในอนาคตกับผู้อื่น เมื่อเราจดความประทับใจเหล่านี้ เราเป็นพยานต่อพระบิดาบนสวรรค์ว่าเราใส่ใจเกี่ยวกับความประทับใจที่เราได้รับและเราเต็มใจจะได้รับมากขึ้น สิ่งนี้แข็งแกร่งขึ้นเมื่อเราดำเนินการตามความประทับใจที่ทำได้ในตอนนี้
การกระทำโดยเจตนาเหล่านี้ในวันนี้กำลังช่วยเสริมสร้างความเข้มแข็งให้ครอบครัวในอนาคตของผม ผมได้รับพรโดยรวบรวมความประทับใจเกี่ยวกับวิธีที่ผมจะเตรียมเสริมสร้างการแต่งงานในอนาคตและเสริมสร้างศรัทธาของลูกๆ ในอนาคตได้ดีขึ้น ผมเชื้อเชิญให้ท่านพิจารณาถึงวิธีเตรียมตัวสำหรับบทบาทของท่านในฐานะคู่สมรสและบิดามารดา เมื่อเราทำเช่นนั้น ผมรู้ว่าพระบิดาบนสวรรค์และพระเยซูคริสต์จะทรงนำทางเราในความพยายามอันชอบธรรมของเรา