2023
การค้ำจุนสมาชิกผู้ประสบกับการหย่าร้าง
กรกฎาคม 2023


การค้ำจุนสมาชิกผู้ประสบกับการหย่าร้าง

พระบิดาบนสวรรค์จะทรงช่วยให้เรารู้ว่าเราจะสร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยและอบอุ่นในวอร์ดและสาขาของเราให้กับผู้ที่หย่าร้างหรือกำลังประสบกับการหย่าร้างได้เหมาะสมที่สุดอย่างไร

บ้านที่ปรากฏในรูปภาพที่มีรอยขาดครึ่งหนึ่ง

ชายสองคนในวอร์ดกลายเป็นคนโสดในเวลาเดียวกันหลังแต่งงานกับภรรยาของพวกเขาหลายปี เมื่อชายคนแรกกลายเป็นคนโสด วอร์ดได้ยื่นมือช่วยเหลือบ่อยครั้ง จัดหาอาหาร และหาวิธีช่วยให้มั่นใจว่าเขาไม่ได้รู้สึกโดดเดี่ยว สำหรับชายคนที่สอง การปฏิบัติศาสนกิจเช่นนี้ไม่ได้เกิดขึ้น เขารู้สึกโดดเดี่ยวและไม่เท่าเทียมกัน

อะไรคือความแตกต่างระหว่างชายสองคนนี้? ชายคนแรกเป็นม่ายและชายคนที่สองหย่าร้าง ในขณะที่ชายผู้หย่าร้างเล่าประสบการณ์นี้กับดิฉัน คำร้องขอของเขาเป็นสิ่งเรียบง่าย นั่นคือเราจะช่วยให้สมาชิกศาสนจักรเข้าใจดีขึ้นได้ไหมว่าเราจะปฏิบัติศาสนกิจต่อผู้ที่หย่าร้างอย่างไรและให้รับรู้ว่าพวกเขายังมีที่ซึ่งให้ความเท่าเทียมกัน ยังคงมีค่าในวอร์ดและสาขาของเรา?

หลายวอร์ดทำงานอย่างยอดเยี่ยมในการปฏิบัติศาสนกิจต่อผู้ที่ประสบปัญหาการหย่าร้าง แต่คำร้องขอของชายคนนี้ทำให้เราทุกคนตั้งคำถามว่ามีอะไรอีกบ้างที่เราสามารถทำได้ดีกว่านี้ ความต้องการที่จะรู้สึกถึงการต้อนรับและการสนับสนุนนี้เกี่ยวข้องกับการเชื้อเชิญอย่างต่อเนื่องจากผู้นำศาสนจักรที่จะรักทุกคนภายในคอกของพระผู้เป็นเจ้าและช่วยให้พวกเขารู้สึกว่าได้รับการต้อนรับและรู้สึกปลอดภัยในสเตคแห่งไซอันของเรา1

“เมื่อใดก็ตามที่เรายกผู้อื่น เมื่อนั้นเราได้เป็นผู้สร้างสถานที่อันปลอดภัยให้พวกเขา”2 วอร์ดและสาขาของเราควรอยู่ท่ามกลางสถานที่เหล่านั้นขณะที่เราพยายามรักษาพระบัญญัติข้อสำคัญสองข้อ อันได้แก่ รักพระผู้เป็นเจ้า และรักผู้อื่นเหมือนตัวเราเอง (ดู มัทธิว 22:37–39) หลักการต่อไปนี้จะช่วยให้เรารู้วิธีสนับสนุนผู้ที่อยู่ในวอร์ดและสาขาของเราได้ดียิ่งขึ้น ผู้ซึ่งประสบหรือกำลังประสบกับการหย่าร้าง

พึงจำไว้ว่ามีหลายอารมณ์ในการหย่าร้าง

เพราะเรารู้หลักคำสอนพื้นฐานของการแต่งงานนิรันดร์และพลังพันธสัญญาการผนึกในแผนแห่งความรอดของพระผู้เป็นเจ้า การหย่าร้างจึงอาจทำให้ใจสลาย แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะรู้สึกแบบเดียวกันเกี่ยวกับการหย่าร้างของพวกเขา ประธานดัลลิน เอช. โอ๊คส์ ที่ปรึกษาที่หนึ่งในฝ่ายประธานสูงสุดสอนว่า การหย่าร้าง “เป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนเพราะก่อให้เกิดอารมณ์รุนแรงจากบุคคลที่ได้รับผลกระทบในด้านต่างๆ บางคนมองว่าตนเองหรือคนที่ตนรักเป็น เหยื่อ ของการหย่าร้าง บางคนมองว่าตนเองเป็น ผู้ได้รับประโยชน์ จากการหย่าร้าง บ้างก็มองว่าการหย่าร้างเป็นหลักฐานบ่งบอกถึงความล้มเหลว บางคนถือว่าการหย่าร้างเป็นทางออกที่จำเป็นของชีวิตสมรส”3

แทนที่จะคิดว่าคนที่หย่าร้างมีมุมมองต่อสภาวการณ์ของตนอย่างไร ให้เตรียมรับฟังทุกเมื่อและทุกรูปแบบเมื่อบุคคลนั้นพร้อม ท่านอาจถามคำถามที่เรียบง่ายว่า “ฉันจะช่วยเหลือในครั้งนี้ได้อย่างไร?” หรือ “เราสามารถช่วยเหลือคุณให้ผ่านพ้นเรื่องการหย่าร้างด้วยวิธีใดบ้าง?”

คำถามพึงพิจารณา:

  • บุคคลอาจเผชิญความรู้สึกที่ หลากหลาย ณ จุดต่างๆ ในแต่ละวัน แต่ละสัปดาห์ หรือแต่ละเดือนอย่างไร? ฉันจะคิดรอบคอบและให้กำลังใจในแต่ละอารมณ์เหล่านั้นได้อย่างไร?

  • ฉันจะเปิดรับการเปิดเผยเกี่ยวกับวิธีช่วยเหลือในเวลาต่างๆ ได้อย่างไร?

  • ฉันมีข้อสันนิษฐานอะไรที่อาจต้องละทิ้งเพื่อค้นหาและทำตามการเปิดเผยเกี่ยวกับวิธีช่วยเหลือให้ดีขึ้น?

หัวใจดวงหนึ่งลอยอยู่เหนือมือข้างหนึ่ง

มุ่งเน้นที่ความรักแทนการตัดสิน

ในเรื่องของการหย่าร้าง เราแทบจะไม่มีทางรู้รายละเอียดทั้งหมดที่ทำให้สามีภรรยาต้องหย่ากัน และเราไม่จำเป็นต้องรู้ “เมื่อมีการหย่าร้างเกิดขึ้น บุคคลย่อมมีหน้าที่ต้องให้อภัย ยก และช่วยเหลือแทนที่จะกล่าวโทษ”4 นี่เป็นความจริงทั้งสำหรับคู่และคนรอบข้างพวกเขา เราต้องระมัดระวังในการมุ่งเน้นที่จะรักผู้อื่น ไม่ตัดสินพวกเขาโดยไม่คำนึงว่าเราจะมีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับคู่ฝ่ายใดก็ตาม

แทนที่จะมุ่งเน้นการตัดสิน เราสามารถมุ่งเน้นที่ความรักและความเป็นหนึ่งเดียวกัน ดังที่ซิสเตอร์เจ. อาเนตต์ เดนนิส ที่ปรึกษาที่หนึ่งในฝ่ายประธานสมาคมสงเคราะห์สามัญสอนว่า

“บ่อยเพียงใดที่เราตัดสินคนอื่นจากลักษณะและการกระทำภายนอก หรือจากการ ไม่ได้ ทำอะไร ซึ่งหากเราเข้าใจอย่างถ่องแท้ เราจะตอบสนองด้วยความเห็นอกเห็นใจและความปรารถนาที่จะช่วยแทนการเพิ่มภาระให้พวกเขาด้วยการตัดสินของเรา …

“เราได้รับพระบัญชาให้ รัก ผู้อื่น ไม่ใช่ตัดสินพวกเขา จงวางภาระหนักนั้นลงเสีย นั่นไม่ใช่สิ่งที่เราต้องแบก แต่เราสามารถแบกแอกแห่งความรักและความเห็นอกเห็นใจของพระผู้ช่วยให้รอดแทนได้ …

“… ทุกคน จำเป็นต้องรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งอย่างแท้จริง จริงๆ และ เป็นที่ ต้องการในพระวรกายของพระคริสต์”5

คำถามพึงพิจารณา:

  • ฉันจะทำอะไรได้บ้างเพื่อมุ่งเน้นที่จะรักผู้อื่นมากขึ้นดังที่พระเยซูคริสต์ทรงรัก?

  • ฉันตัดสินใครสักคน รวมทั้งจับผิดหรือยัดเยียดความผิด ซึ่งอาจขัดขวางไม่ให้ฉันให้การสนับสนุนที่จำเป็นหรือไม่?

  • ฉันจะทำอย่างไรเพื่อให้รู้สึกถึงความรักของพระผู้เป็นเจ้าต่อผู้อื่นได้ดียิ่งขึ้น?

หาวิธีที่จะรวมพวกเขาอยู่ด้วย

บุคคลมักสูญเสียมิตรภาพที่เกิดจากเพื่อนหรือครอบครัวของอดีตคู่สมรสผ่านการหย่าร้าง และจะเกิดอะไรขึ้นเมื่อมิตรภาพเกิดขึ้นระหว่างการแต่งงาน และเพื่อนๆ อาจไม่สามารถเชิญอดีตคู่สมรสทั้งสองให้เข้าร่วมกิจกรรมพร้อมกันได้อีกต่อไป?

พี่น้องสตรีคนหนึ่งแบ่งปันว่าเมื่อก่อนเธอกับสามีมักจะไปเล่นเกมประจำสัปดาห์ยามค่ำคืนกับเพื่อนๆ ในวอร์ดของเธอ หลังจากการหย่าร้าง เธอเสียใจเมื่อไม่มีการเชิญให้เข้าร่วมเล่นเกมยามค่ำคืนอีกต่อไปเพราะมีเพียงคู่สามีภรรยาเท่านั้นที่เข้าร่วมได้ พี่น้องสตรีอีกคนหนึ่งแบ่งปันว่าสมาชิกวอร์ดหลายคนนึกเอาเองว่าตอนนี้เธอเป็นแม่ตัวคนเดียว เธอจึงไม่มีเวลามาร่วมกิจกรรมกับเพื่อนๆ เหมือนที่เธอเคยทำ ดังนั้นพวกเขาจึงไม่เชิญเธอร่วมกิจกรรมเพื่อที่เธอจะได้ไม่รู้สึกเสียใจที่มาไม่ได้ อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ทำให้เธอรู้สึกโดดเดี่ยวและเดียวดายมากขึ้น พี่น้องสตรีคนนี้แบ่งปันว่าเธอคงจะรู้สึกดีถ้าได้รับเชิญต่อไป (ถึงแม้เธอจะเข้าร่วมไม่ได้) เพื่อให้รู้ว่าคนอื่น ต้องการ ให้เธอเข้าร่วมด้วย

ทุกสถานการณ์ล้วนแตกต่างกัน แต่ “เราทุกคนต้องการสัมผัสมือที่อบอุ่นของมิตรภาพและได้ยินการประกาศที่หนักแน่นถึงศรัทธา”6

คำถามพึงพิจารณา:

  • ฉันสามารถปรับเปลี่ยนกิจกรรมใดได้บ้างเพื่อช่วยให้สมาชิกที่เป็นโสดรู้สึกสบายใจในการเข้าร่วมเช่นเดียวกับที่คู่แต่งงานรู้สึก?

  • วอร์ดของเราสามารถเปิดโอกาสเพิ่มเติมในการรวมกิจกรรมที่เหมาะสมกับความต้องการของสมาชิกที่หย่าร้างได้อย่างไร?

  • กิจกรรมใดที่อาจช่วยให้เพื่อนของฉันรับใช้หรือมีส่วนร่วมได้โดยเฉพาะเมื่อจำเป็นต้องฟื้นฟูความมั่นใจของเขาหลังจากความสัมพันธ์ที่ยากลำบาก?

ผู้คนนั่งล้อมวงกัน

“สังเกตก่อน แล้วรับใช้”7

บรรดาผู้ที่มีปัญหาเรื่องการหย่าร้างกำลังปรับตัวกับการเปลี่ยนแปลงด้านการเงิน ตารางเวลา อารมณ์ กิจกรรมรายวันและรายปี การจัดการกับการดำเนินชีวิต และอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งเป็นความจริงสำหรับผู้ใหญ่เช่นเดียวกับลูกๆ ของพวกเขาที่อาจต้องแบกรับความรับผิดชอบมากขึ้นในบ้านด้วย

สภาวอร์ดหรือสภาสาขาสามารถพิจารณาหาวิธีสนับสนุนสมาชิกแต่ละคนในครอบครัวรวมทั้งเด็กๆ เราแต่ละคนมีโอกาสมากมายที่จะได้เห็นความต้องการและทำตามการเปิดเผยส่วนตัวร่วมกับการสวดอ้อนวอนเพื่อช่วยให้พวกเขาเติมเต็มความต้องการเหล่านั้น

พี่น้องสตรีคนหนึ่งได้รับพรเมื่อเพื่อนบ้านคนหนึ่งตระหนักว่าอดีตสามีของเธอเคยทำความสะอาดสวนในฤดูใบไม้ร่วงของทุกปีรวมทั้งทำความสะอาดหัวฉีดน้ำก่อนฤดูหนาว เธอจึงอาสาทำให้พี่น้องสตรีคนนั้นหรือให้เธอดูวิธีทำ พ่อตัวคนเดียวคนหนึ่งได้รับพรเมื่อเพื่อนบ้านให้แนวคิดเรื่องพี่เลี้ยงเด็กที่ไว้ใจได้ในพื้นที่ใหม่ของเขา

ต่อไปนี้คือวิธีอื่นๆ ที่สมาชิกวอร์ดสามารถช่วยครอบครัวได้

  • ผู้นำวอร์ด เยาวชน และปฐมวัยเป็นแบบอย่างอิทธิพลของบิดาหรือมารดาตามความเหมาะสมในชีวิตของเด็ก

  • บริจาคของขวัญคริสต์มาส เช่นเดียวกับการบริจาคเงินเพื่อช่วยทำงานเผยแผ่

  • ส่งอาหารที่เหลือจากการประชุมใหญ่เยาวชนหรือกิจกรรมให้ครอบครัว

  • สมาชิกวอร์ดเข้าร่วมกิจกรรมกีฬาของเด็ก

  • สภาครูสนทนาเรื่องการคำนึงถึงเด็กจากครอบครัวที่หย่าร้าง โดยเฉพาะในบทเรียนเรื่องครอบครัว หรือเมื่อเด็กเข้าร่วมกิจกรรมวอร์ดเฉพาะสัปดาห์เว้นสัปดาห์เมื่อพวกเขาอยู่กับบิดาหรือมารดา

  • คู่สามีภรรยาที่อายุมากกว่าดูแลครอบครัวที่มีพ่อหรือแม่ตัวคนเดียว

อีกทั้งจดจำว่าบุคคลและครอบครัวล้วนต้องใช้เวลาในการปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ใหม่ของพวกเขา จงมีน้ำใจที่จะให้พวกเขาได้เยียวยาและก้าวหน้าต่อไปตามตารางเวลาของพระผู้เป็นเจ้าและของพวกเขา ไม่ใช่ตามเวลาของเรา

คำถามพึงพิจารณา:

  • ฉันจะเสริมสร้างมิตรภาพอย่างต่อเนื่องได้อย่างไรเพื่อที่ผู้ผ่านการหย่าร้างจะรู้สึกสบายใจเมื่อได้รับความช่วยเหลือหากต้องการ แม้ไม่ใช่ตอนนี้ก็ตาม?

  • “ครั้งแรก” เรื่องใดที่อาจเป็นเรื่องยากเป็นพิเศษสำหรับครอบครัว เช่น การที่เด็กไม่ได้อยู่กับบิดาหรือมารดาในวันหยุดเป็นครั้งแรก? ฉันจะสร้างมิตรภาพมากขึ้นระหว่างช่วงเวลาเหล่านั้นได้อย่างไร?

  • ครอบครัวต้องการแหล่งช่วยใดที่ฉันสามารถช่วยเหลือได้ หรือฉันจะสานต่อความสัมพันธ์กับผู้อื่นด้วยทักษะในการช่วยเหลือได้อย่างไร?

เมื่อเราพยายามทำความเข้าใจและปฏิบัติต่อผู้ที่หย่าร้างรวมถึงครอบครัวของพวกเขาให้ดียิ่งขึ้นร่วมกับการสวดอ้อนวอน เราจะรู้สึก และ แบ่งปันความรักส่วนหนึ่งของพระผู้เป็นเจ้าที่มีต่อบุตรธิดาของพระองค์ทุกคน