เสียงวิสุทธิชนยุคสุดท้าย

คุณคือพ่อของผมหรือเปล่าครับ?

โดย เออร์มา เดอ แม็คเคนนา, มาร์กา มาร์กา ชิลี

“ไม่มีปีติใดยิ่งใหญ่ไปกว่าการรับใช้ผู้อื่นแล้วครับ” เนลสันบอกฉัน

ของขวัญคริสต์มาสที่ห่อไว้แล้ว

ภาพประกอบโดย อนาสตาเซีย ซูโวโรวา

หลายปีก่อน เนลสันลูกชายของฉันโทรหาฉันในวันคริสต์มาสอีฟ สัปดาห์ก่อนหน้านี้ ทนายความที่พูดภาษาสเปนไม่ได้ขอให้เขาทำหน้าที่เป็นล่ามให้ ลูกค้าของทนายความซึ่งเป็นชายสูงวัยที่พูดภาษาอังกฤษไม่ได้กำลังยื่นคำร้องขอสิทธิ์การดูแลหลานของเขา

หลังจากการพิจารณาคดีจบลง เนลสันอวยพรให้ลูกค้าคนนั้นมีความสุขในช่วงคริสต์มาส ชายคนนั้นตอบว่าคริสต์มาสปีนั้นจะเป็นช่วงเวลาที่น่าเศร้า เขากำลังประสบปัญหาทางการเงินที่จะใช้เลี้ยงดูครอบครัวของเขา อีกทั้งลูกสาววัย 29 ปีของเขาก็เพิ่งสิ้นชีวิต ทิ้งลูกเล็กๆ ไว้ 5 คน คนสุดท้องอายุเพียง 2 ขวบ คุณพ่อของเด็กเหล่านั้นอยู่ในคุก ดังนั้นลูกค้าและภรรยาของเขาจึงต้องเป็นผู้รับเลี้ยงหลานๆ

ด้วยสถานการณ์ของชายผู้นี้ ทั้งเนลสันและทนายความจึงตัดสินใจที่จะไม่เรียกเก็บเงินค่าทนายและค่าล่ามจากเขา จากนั้นเนลสันขอชื่อและอายุของเด็ก พร้อมด้วยที่อยู่ของชายคนนั้น

ในคืนนั้น เนลสันนอนไม่หลับขณะครุ่นคิดว่าจะช่วยครอบครัวนี้อย่างไร ขณะที่เขาคุกเข่าและสวดอ้อนวอนอย่างหนักเกี่ยวกับคนเหล่านั้น เขารู้สึกได้รับการดลใจให้เขียนจดหมาย โดยบอกเล่าสถานการณ์ของครอบครัว บอกชื่อและอายุของเด็กๆ และขอของขวัญบริจาค วันต่อมาเขาได้แจกจ่ายสำเนาจดหมายให้กับผู้พิพากษา ทนายความ และพนักงานคนอื่นๆ ในศาล

การตอบสนองนั้นดีเยี่ยมมากจนไม่นานท้ายรถและเบาะนั่งของเขาก็เต็มไปด้วยของขวัญ ส่วนผู้ที่ไม่มีเวลาซื้อของขวัญก็บริจาคเงินให้กับครอบครัวนั้น

“คุณแม่ครับ” เนลสันพูด “มีคนดีๆ มากมายอยู่ในโลกนี้ ถ้าคุณแม่ได้เห็นการตอบสนองของพวกเขา! ผมขอของขวัญเพียงชิ้นเดียวให้เด็กแต่ละคน แต่ก็มีคนบริจาคอีกเป็นจำนวนมาก”

เนลสันมาถึงบ้านของครอบครัวนั้นในวันคริสต์มาสอีฟ เด็กๆ ตื่นเต้นและมีความสุขเมื่อช่วยเขาขนของขวัญลงจากรถ คุณตาคุณยายของเด็กๆ ส่ายศีรษะด้วยความตะลึงงัน

เมื่อเนลสันนั่งพักสักครู่ก่อนเดินทางกลับ เด็กวัยสองขวบเดินเข้ามาหาเขาและปีนขึ้นไปนั่งบนตักของเขา จากนั้นก็สัมผัสใบหน้าของเนลสันด้วยความรัก เขาถามว่า “คุณคือพ่อของผมหรือเปล่าครับ?”

ด้วยเหตุนี้ เนลสันจึงร้องไห้และขอบคุณผู้ที่ช่วยทำให้คริสต์มาสของครอบครัวนี้สดใสขึ้น

“คุณแม่ครับ” เขากล่าว “ไม่มีปีติใดยิ่งใหญ่ไปกว่าการรับใช้ผู้อื่นแล้วครับ ผมรู้สึกขอบพระทัยที่ได้เป็นเครื่องมือในพระหัตถ์ของพระผู้เป็นเจ้าเพื่อเป็นพรแก่ครอบครัวที่ดีนี้”

ปีติของเนลสันสะท้อนถึงคำสอนของพระผู้ช่วยให้รอดที่ว่า “การให้เป็นเหตุให้มีความสุขยิ่งกว่าการรับ” (กิจการของอัครทูต 20:35)