“วิธีสื่อสารการสนับสนุนถึงบุตรหรือธิดาผู้เป็นผู้สอนศาสนาของท่าน,” เลียโฮนา, ส.ค. 2024
สำหรับบิดามารดา
วิธี สื่อสารการสนับสนุน ถึงบุตรหรือธิดาผู้เป็นผู้สอนศาสนาของท่าน
หลักธรรมต่อไปนี้จากผู้นําศาสนจักรจะช่วยได้เมื่อท่านแสวงหาวิธีสนับสนุนผู้สอนศาสนาของท่าน
ภาพประกอบโดย อเล็กซ์ นาบาอุม
เมื่อบุตรธิดาของท่านเริ่มงานเผยแผ่ ไม่ว่าเพื่อการรับใช้หรืองานเผยแผ่ด้านการสอน อาจก่อให้เกิดความรู้สึกที่ผสมปนเปกันไป ท่านอาจรู้สึกตื่นเต้น เสียใจ ภาคภูมิ และวิตกกังวล—ทั้งหมดในคราวเดียว ผู้สอนศาสนาของท่านก็เช่นกันอาจรู้สึกท้อแท้หรือผิดหวังเป็นครั้งคราว ขณะรู้สึกปีติ รัก และมีความหวังเช่นกัน ในฐานะบิดามารดาและสมาชิกครอบครัว ท่านมีโอกาสพิเศษในการให้กำลังใจและเสริมสร้างความเข้มแข็งให้ผู้สอนศาสนาของท่านขณะท่านสื่อสารกับเขา การเข้าใจหลักธรรมบางประการเพื่อมีส่วนร่วมในการสื่อสารเช่นนี้ ไม่เพียงเป็นประโยชน์ต่อบิดามารดาของผู้สอนศาสนาเท่านั้น แต่กับญาติ มิตรสหาย และผู้นําด้วย
เตือนให้ผู้สอนศาสนานึกถึงจุดประสงค์ของตนเอง
เตือนผู้สอนศาสนาของท่านให้นึกถึงงานอันสำคัญยิ่งที่ได้รับเรียกให้ทำ ประธานรัสเซลล์ เอ็ม. เนลสันเน้นความสำคัญของงานศักดิ์สิทธิ์นี้ว่า:
“บุตรธิดาทุกคนของพระบิดาบนสวรรค์สมควรได้รับโอกาสในการ เลือก ติดตามพระเยซูคริสต์ ยอมรับและรับพระกิตติคุณของพระองค์พร้อมด้วยพรทั้งหมดของพระกิตติคุณ …
“… พระองค์ทรงส่งท่านมาแผ่นดินโลกในเวลานี้โดยเฉพาะ เวลาที่สำคัญที่สุดในประวัติศาสตร์ของโลก เพื่อช่วยรวบรวมอิสราเอล ไม่มีสิ่งใด ที่เกิดขึ้นบนแผ่นดินโลกเวลานี้ที่สำคัญไปกว่าเรื่องดังกล่าว”
เหล่าผู้สอนศาสนาเรียนรู้ว่าจุดประสงค์ของตนคือ: “เชื้อเชิญผู้คนให้มาหาพระคริสต์โดยช่วยเขาให้รับพระกิตติคุณที่ได้รับการฟื้นฟูโดยศรัทธาในพระเยซูคริสต์และการชดใช้ของพระองค์ การกลับใจ บัพติศมา รับของประทานแห่งพระวิญญาณบริสุทธิ์ และอดทนจนกว่าชีวิตจะหาไม่”
ช่วยให้บุตรหลานของท่านจดจำอัตลักษณ์อันศักดิ์สิทธิ์ของตนเอง พวกเขาเป็นบุตรธิดาของพระผู้เป็นเจ้าที่ถูกส่งมาที่นี่เวลานี้เพราะพระบิดาบนสวรรค์ทรงวางใจพวกเขาในงานของพระองค์ เน้นวิธีที่พวกเขาสามารถใช้ของประทานของตนเองเป็นพรแก่ชีวิตผู้อื่น ในฐานะสานุศิษย์ของพระเยซูคริสต์ พวกเขาสามารถทำสิ่งที่ตนอาจคิดว่าเกินความสามารถของตน
จดจ่ออยู่กับเรื่องทางวิญญาณ
แม้ท่านอาจต้องการทราบข่าวสารทุกด้านของงานเผยแผ่ แต่อย่าปล่อยให้เรื่องเล็กๆ นั้นมีพลังเหนือการสนทนา เอ็ลเดอร์ดีเทอร์ เอฟ. อุคท์ดอร์ฟแห่งโควรัมอัครสาวกสิบสองสอนว่า: “จงมุ่งเน้นที่มิติทางวิญญาณของการรับใช้บุตรธิดาของท่าน การโทรติดต่อกลับมาบ้านจากผู้สอนศาสนานั้นเป็นสิ่งที่งดงามมาก การสนทนาสามารถเปลี่ยนมิติจาก ‘ลูกทานอะไรเป็นอาหารเช้า?’ ให้เป็น … ‘ลูกกําลังสอนครอบครัวหรือบุคคลใดตอนนี้ และสอนบทเรียนอะไร? อะไรทำให้ลูกเข้มแข็งที่สุด?’ บางครั้งอันตรายก็คือเราจดจ่อกับเรื่องเล็กๆ น้อยๆ และเพิกเฉยต่อเรื่องทางวิญญาณ”
มุ่งเน้นทางวิญญาณโดยกระตุ้นเตือนผู้สอนศาสนาของท่านให้แบ่งปันประสบการณ์เกี่ยวกับบุคคลที่ตนกําลังรับใช้หรือสอน ท่านอาจสวดอ้อนวอนให้บุคคลเหล่านั้นในการสวดอ้อนวอนส่วนตัวหรือกับครอบครัว ให้ตั้งใจฟังขณะผู้สอนศาสนาแบ่งปันวิธีที่พระวิญญาณทรงสัมผัสใจเขาในสัปดาห์นั้น
แทนที่จะสนทนาเรื่องข่าวล่าสุดในรายการทีวีหรืองานกีฬา ให้แบ่งปันช่วงเวลาสำคัญจากชีวิตท่านที่พระเจ้าทรงนําทาง ปลอบโยน หรือแนะนําท่าน เมื่อท่านทำเช่นนั้น การสนทนาของท่านก็จะทำให้ท่านและผู้สอนศาสนามีชีวิตชีวาทางวิญญาณมากขึ้น
แบ่งปันในการเดินทางทางวิญญาณ
การสนทนาของท่านกับผู้สอนศาสนาจะได้รับพรเมื่อท่านพยายามมีส่วนร่วมในงานรวบรวมอิสราเอลเช่นกัน ประธานบอนนี่ เอช. คอร์ดอน อดีตประธานเยาวชนหญิงสามัญสอนว่า:
“ท่านอาจไม่สามารถเดินเคียงข้าง [ผู้สอนศาสนาของท่าน] แต่ท่านยังคงแบ่งปันการเดินทางทางวิญญาณได้ …
“ร่วมงานกับผู้สอนศาสนาของท่าน—ศึกษา รับใช้ และแบ่งปันพระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์! เมื่อท่านทำเช่นนั้น ท่านทั้งคู่จะเก็บเกี่ยวพรที่สัญญาไว้จากการรับใช้เป็นผู้สอนศาสนา”
นอกจากนี้ซิสเตอร์คอร์ดอนยังให้คำแนะนําสามประการ:
-
“เพิ่มการศึกษาพระคัมภีร์ของท่านเองและแบ่งปันข้อคิดของท่านในอีเมลถัดไป
-
“เข้าพระวิหารและร่วมงานอันรุ่งโรจน์ของพวกเขาในการนําครอบครัวมาหาพระคริสต์
-
“แสวงหาประสบการณ์การเผยแผ่ศาสนาของท่านเองเพื่อที่ท่านจะได้ค้นพบปีติของการแบ่งปันพระกิตติคุณ”
ไม่ว่าท่านจะเลือกร่วมเดินทางทางวิญญาณอย่างไร ปีติของท่านจะเพิ่มขึ้นเมื่อท่านทั้งคู่พยายามช่วยให้ผู้อื่นมาหาพระคริสต์
ในการสื่อสารทั้งหมดของท่านกับผู้สอนศาสนา พึงจดจําว่าต้องมองไปที่พระเจ้า พระองค์จะทรงดลใจท่านให้รู้ว่าผู้สอนศาสนาของท่านจําเป็นต้องได้ยินสิ่งใดและเมื่อใด ท่านและผู้สอนศาสนาจะได้รับพรเมื่อท่านเรียนรู้ เติบโต และรับใช้ด้วยกัน