3 วิธีที่จะ อดทน และ มีความสุขกับชีวิต

โดย เอ็มมา ฮีเบิร์ตสัน

นิตยสารศาสนจักร

พระบิดาบนสวรรค์ทรงประสงค์ให้เราพบปีติในชีวิตที่เราได้รับมา

ครั้งสุดท้ายที่ท่านมีความสุขจริงๆ คือเมื่อใด?

คําถามนั้นตอบยากไหม?

ท่ามกลางช่วงเวลาที่ท้าทาย เราอาจทุกข์ใจกับการทดลองจนจำไม่ได้ว่าปีติรู้สึกอย่างไร ดังที่ซิสเตอร์เรย์นา ไอ. อะบูร์โต อดีตที่ปรึกษาที่สองในฝ่ายประธานสมาคมสงเคราะห์สามัญอธิบายไว้ว่า: “เมฆดำเหล่านี้อาจตั้งเค้าในชีวิตเรา … มันสามารถทำให้เรามืดบอดต่อแสงสว่างของพระผู้เป็นเจ้า และถึงกับทำให้เราสงสัยว่าแสงนั้นยังมีให้เราอีกหรือไม่”

สําหรับคนหนุ่มสาวหลายคนอย่างเรา บางครั้งชีวิตอาจรู้สึกเหมือนเป็นบางอย่างที่ต้องอดทน—บางอย่างที่ต้องผ่านอุปสรรคจนกระทั่งเราได้รับพรเหล่านั้นที่เราได้รับสัญญาไว้ในท้ายที่สุด

สิ่งที่เราลืมไปในบางครั้งคือชีวิตยังเป็นสิ่งที่เรา มีความสุข ได้เช่นกัน พรแห่งความสุขนิรันดร์เริ่มได้ตั้งแต่ บัดนี้

ต่อไปนี้เป็นวิธีที่เราจะจุดประกายแสงสว่างและปีติในชีวิตเราได้อีกครั้ง

จดจําความจริงที่เรียบง่าย

แทนที่จะฝึกดวงตาให้มองเห็นในความมืด เราสามารถค้นหาแสงสว่างที่พระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์นํามาสู่ชีวิตเรา

ประธานรัสเซลล์ เอ็ม. เนลสันยํ้าเตือนเราว่า “ปีติมาจากพระองค์และมาเพราะ [พระเยซูคริสต์] พระองค์ทรงเป็นที่มาของปีติทั้งปวง” เมื่อท่านกําลังประสบปัญหาในการหาแสงสว่างในชีวิต การหันไปหาพระเยซูคริสต์ควรเป็นก้าวแรกเสมอ

ท่านสามารถทูลขอให้พระบิดาบนสวรรค์ทรงช่วยให้ท่านจดจําความสําคัญของอัตลักษณ์อันศักดิ์สิทธิ์ของท่านได้เช่นกัน

เอ็ลเดอร์แกรีย์ บี. เซบินแห่งสาวกเจ็ดสิบสอนว่า “เป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งต่อความสุขของเราที่จะจดจำว่าเราเป็นบุตรธิดาของพระบิดาบนสวรรค์ผู้ทรงรักเรา” การทราบ อย่างแท้จริง ว่าพระผู้เป็นเจ้าทรงรู้จักท่านและทรงประสงค์ให้ท่านได้รับสิ่งที่ดีที่สุดจะทําให้ชีวิตท่านสว่างไสว

แม้ท่านจะต้องเผชิญความท้าทาย แต่การจดจําหลักธรรมพื้นฐานเหล่านี้ของพระกิตติคุณสามารถช่วยให้ท่านอัญเชิญแสงสว่างของพระผู้ช่วยให้รอดเข้ามาในชีวิตท่าน

ค้นหาสิ่งที่ทําให้ท่านมีความสุข

บางครั้งอาจเป็นเรื่องยากที่จะจำว่าความสุขของเรามักไม่เหมือนกับคนอื่นเสมอไป อันที่จริงในฐานะคนหนุ่มสาว การที่จะไม่เปรียบเทียบชีวิตเรากับคนรอบข้างนั้นเป็นเรื่องยาก แต่จําไว้ว่า ท่านควบคุมความสุขของ ตัวท่านเอง ได้

ถามตัวท่านเองว่า: อะไรทําให้ ท่าน มีความสุข?

อะไรทำให้ท่านยิ้ม?

ดังที่ประธานดีเทอร์ เอฟ. อุคท์ดอร์ฟแนะนำขณะเป็นที่ปรึกษาที่สองในฝ่ายประธานสูงสุดว่า “ลดความเร่งรีบและหาเวลาพิเศษสักเล็กน้อยทําความรู้จักตนเองให้ดีขึ้น” มองหาความสวยงามในสิ่งเล็กๆ น้อยๆ: ออกไปเดินเล่น เยี่ยมชมพระวิหาร ลงชื่อในโครงการรับใช้ หางานอดิเรกใหม่หรือกลับมาทำงานอดิเรกที่เคยทำ

เอ็ลเดอร์ริชาร์ด จี. สก็อตต์ (1928–2015) แห่งโควรัมอัครสาวกสิบสองเคยพูดถึงวิธีที่ความคิดสร้างสรรค์ทําให้ชีวิตเราสว่างไสวอย่างไร: “เลือกบางอย่าง เช่น ดนตรี การเต้นรํา ประติมากรรม หรือกวีนิพนธ์ การเป็นคนสร้างสรรค์จะช่วยให้ท่านมีความสุขกับชีวิต ก่อให้เกิดจิตวิญญาณแห่งความสำนึกคุณ ช่วยพัฒนาพรสวรรค์ที่แฝงเร้น เพิ่มความสามารถของท่านในการใช้เหตุผล ลงมือทํา และหาเป้าหมายในชีวิต ขจัดความโดดเดี่ยวและความเสียใจ ให้การฟื้นฟู จุดประกายความกระตือรือร้น และสีสันในชีวิต”

การหาสิ่งที่ทําให้ใจท่านเต็มไปด้วยความสุขจะช่วยจุดประกายแสงสว่างในชีวิตเมื่อท่านรู้สึกว่าไม่ไปไหน

จดจ่อกับสิ่งที่สําคัญที่สุด

ถ้าชีวิตเริ่มท่วมท้นเกินไปและท่านรู้สึกเหมือนต้องทุ่มเทพลังงานทั้งหมดเพื่อให้ผ่านพ้นไปได้ในแต่ละวัน จงใช้เวลาหยุดนิ่งสักครู่เพื่อจดจ่อกับสิ่งที่ สําคัญที่สุด

ในการทําเช่นนั้น ประธานอุคท์ดอร์ฟแนะนําให้เรา “ดําเนินชีวิตเรียบง่ายขึ้นอีกสักเล็กน้อย” เปลี่ยนสิ่งจดจ่อไปที่ความรักของพระบิดาบนสวรรค์และของประทานอันสวยงามแห่งการชดใช้ของพระคริสต์ ให้ความสําคัญกับความสัมพันธ์ของท่านกับครอบครัว มิตรสหาย และตัวท่านเอง

ต่อสู้กับแง่ลบด้วยแง่บวก ความมืดด้วยแสงสว่างของพระเยซูคริสต์และพระกิตติคุณของพระองค์

ดังที่ประธานเนลสันให้กําลังใจเรา: “ขอเราอย่าเพียง อดทน กับฤดูกาลปัจจุบันนี้เท่านั้น ขอให้เรา น้อมรับอนาคตด้วยศรัทธา!” ขณะอดทนต่อความยากลําบากในชีวิต จงเรียนรู้ที่จะชื่นชมความสวยงามของชีวิตเช่นกัน ความสุขนิรันดร์ที่พระกิตติคุณให้สัญญาไว้นั้นไม่ได้เริ่มต้นในอนาคต หากแต่เริ่มต้นตั้งแต่บัดนี้