ผู้เชี่ยวชาญหลักคำสอน: โมไซยาห์ 2:17

“ในการรับใช้พระผู้เป็นเจ้า”

ในบทเรียน “โมไซยาห์ 2:1–18” ท่านได้เรียนรู้ว่า “เมื่อท่านอยู่ในการรับใช้เพื่อนมนุษย์ของท่าน ท่านก็อยู่ในการรับใช้พระผู้เป็นเจ้าของท่านนั่นเอง” (โมไซยาห์ 2:17) บทเรียนนี้จะช่วยท่านจดจำข้อผู้เชี่ยวชาญหลักคำสอนและวลีสำคัญในพระคัมภีร์จาก โมไซยาห์ 2:17, ซึ่งจะอธิบายหลักคำสอน และฝึกนำหลักธรรมของการได้มาซึ่งความรู้ทางวิญญาณไปใช้กับสถานการณ์สมมุติที่คล้ายจริง

การใช้สถานการณ์สมมติการพูดคุยถึงสถานการณ์สมมติหรือสถานการณ์ในชีวิตจริงจะช่วยให้นักเรียนเข้าใจวิธีนำความจริงของพระกิตติคุณไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้ดียิ่งขึ้น กระตุ้นให้นักเรียนนึกถึงสถานการณ์จากชีวิตของตนเอง และเชื้อเชิญให้พวกเขาประยุกต์ใช้หลักธรรมของการได้มาซึ่งความรู้ทางวิญญาณเพื่อค้นพบวิธีแก้ปัญหาที่เป็นไปได้สำหรับคำถามของพวกเขา

การเตรียมของนักเรียน: เชื้อเชิญให้นักเรียนมาที่ชั้นเรียน โดยนึกถึงช่วงเวลาที่พวกเขามีประสบการณ์การรับใช้ที่ท้าทายหรือมีโอกาสรับใช้แต่ไม่อยากรับใช้

กิจกรรมการเรียนรู้ที่อาจทำได้

บทเรียนข้อผู้เชี่ยวชาญหลักคำสอนนี้ออกแบบมาเพื่อสอนหลังจากบทเรียน “โมไซยาห์ 2:1–18”, ซึ่งเป็นบทเรียนในบริบทสำหรับข้อผู้เชี่ยวชาญหลักคำสอน โมไซยาห์ 2:17 ถ้าบทเรียนเรื่องข้อผู้เชี่ยวชาญหลักคำสอนนี้จำเป็นต้องย้ายไปสัปดาห์อื่น ขอให้แน่ใจว่าสอนบทเรียนในบริบทที่สอดคล้องระหว่างสัปดาห์นั้นด้วย

อธิบายและจดจำ

อ่าน โมไซยาห์ 2:17 และข้อผู้เชี่ยวชาญหลักคำสอนพันธสัญญาใหม่ มัทธิว 22:36–39, เพื่อมองหาความคล้ายคลึงกัน

หากต้องการความหลากหลาย ท่านอาจให้นักเรียนจับคู่และให้แต่ละคนอ่านข้อพระคัมภีร์ตอนใดตอนหนึ่ง จากนั้นเชื้อเชิญให้พวกเขาสนทนากันเกี่ยวกับคำถามต่อไปนี้

• ท่านเห็นความคล้ายคลึงกันอย่างไรระหว่าง มัทธิว 22:36–39 และ โมไซยาห์ 2:17?

• ท่านจะอธิบายหลักคำสอนของการรับใช้โดยใช้ข้อพระคัมภีร์เหล่านี้อย่างไร?

เพื่อช่วยให้นักเรียนจดจำวลีสำคัญในพระคัมภีร์นี้ได้ ท่านอาจแบ่งชั้นเรียนออกเป็นสองส่วน กำหนดส่วนแรกของวลีให้กับครึ่งหนึ่งของชั้นเรียน: “เมื่อท่านอยู่ในการรับใช้เพื่อนมนุษย์ของท่าน” กำหนดส่วนที่สองของวลีให้กับส่วนที่เหลือของชั้นเรียน: “ท่านก็อยู่ในการรับใช้พระผู้เป็นเจ้าของท่านนั่นเอง” ชี้ไปที่กลุ่มแรกและขอให้พวกเขาทวนวลีที่ได้รับมอบหมาย ทำเช่นเดียวกันกับกลุ่มที่สอง หลังจากทวนทั้งสองวลีแล้ว ให้กล่าว “โมไซยาห์ 2:17” ร่วมกันทั้งชั้น ท่านอาจทำกิจกรรมซ้ำได้แต่ให้นักเรียนครึ่งชั้นทั้งสองกลุ่มสลับวลีที่พวกเขาทวน เตือนนักเรียนให้มีความความคารวะเมื่อพูดถึงพระผู้เป็นเจ้า

ฝึกประยุกต์ใช้

โปรดจำไว้ว่าจุดประสงค์ของการทบทวนหลักธรรมของการได้มาซึ่งความรู้ทางวิญญาณคือการช่วยให้นักเรียนรู้จักหลักธรรมเหล่านั้นดีพอที่จะนำมาใช้อย่างเหมาะสมในการดำเนินชีวิต เมื่อพวกเขาเผชิญกับคำถามทางวิญญาณ ใช้แบบฝึกหัดทบทวนเหล่านี้เพื่อประเมินความรู้เกี่ยวกับหลักธรรมของนักเรียน ปรับเปลี่ยนหรือทำซ้ำได้ตามความเหมาะสม

แบ่งนักเรียนออกเป็นกลุ่มๆ ละสามคนและมอบหมายหลักธรรมต่อไปนี้หนึ่งข้อให้นักเรียนแต่ละคน เอกสารหลักผู้เชี่ยวชาญหลักคำสอน (2022): กระทำด้วยศรัทธา พินิจแนวคิดและคำถามด้วยมุมมองนิรันดร์ และแสวงหาความเข้าใจเพิ่มเติมผ่านแหล่งช่วยที่กำหนดไว้จากสวรรค์ เชื้อเชิญให้นักเรียนแต่ละคนระบุสองประโยคจากส่วนที่ได้รับมอบหมายที่พวกเขาคิดว่าเป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องเข้าใจ ขอให้นักเรียนแบ่งปันประโยคเหล่านี้กับกลุ่มของพวกเขารวมทั้งเหตุผลที่เลือก

กิจกรรมต่อไปนี้อาจทำคนเดียว เป็นคู่ หรือเป็นกลุ่มเล็กๆ หากนักเรียนเลือกเขียนสถานการณ์สมมติ ควรรวมถึงความท้าทายหรือความขัดแย้งที่อาจมองเห็นได้จากหลักธรรมของการได้มาซึ่งความรู้ทางวิญญาณ ให้นักเรียนแลกเปลี่ยนสถานการณ์สมมุติระหว่างกัน จากนั้นเชื้อเชิญให้พวกเขาทำงานตามหลักธรรมของการได้มาซึ่งความรู้ทางวิญญาณเพื่อตอบสนองต่อสถานการณ์สมมติที่ได้รับ ถ้าจำเป็น ให้นักเรียนตอบคำถามที่ระบุไว้ในแต่ละหมวด

โดยทั่วไปการรับใช้เป็นประสบการณ์ที่ดีสำหรับผู้ที่มีส่วนร่วมและผู้ที่ได้การรับใช้ อย่างไรก็ตาม ยังมีความท้าทายที่อาจเป็นส่วนหนึ่งของการรับใช้ ทบทวนโอกาสในการรับใช้ล่าสุดที่คุณได้รับ ความท้าทายบางอย่างที่มาพร้อมกับการรับใช้มีอะไรบ้าง? ผู้คนเลือกที่จะไม่รับใช้ด้วยเหตุผลอะไรบ้าง?

เขียนสถานการณ์สมมติของท่านเองเพื่ออธิบายความท้าทายในการรับใช้ นี่คือตัวอย่าง: ผู้นำศาสนจักรขอให้โซเฟียจัดงานวันเกิดให้กับเด็กหญิงที่แข็งขันน้อยในชั้นเรียนเยาวชนหญิงของเธอ ตอนที่เด็กหญิงคนนั้นมาถึงประตู เธอไม่ค่อยเป็นมิตรกับโซเฟีย โซเฟียรู้สึกเจ็บปวด เธอเดินจากไปด้วยความเสียใจจากการรับใช้ที่เธอทำ

กระทำด้วยศรัทธา

• เราจะกระทำด้วยศรัทธาที่จะรับใช้แม้จะมีความท้าทายได้อย่างไร?

• หลักคำสอนที่สอนไว้ใน โมไซยาห์ 2:17 จะช่วยบุคคลที่อยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ให้กระทำด้วยศรัทธาได้อย่างไร?

พินิจแนวคิดและคำถามด้วยมุมมองนิรันดร์

• มีการเปลี่ยนแปลงใดบ้างเมื่อท่านมองสถานการณ์สมมติด้วยมุมมองนิรันดร์?

• หลักคำสอนที่สอนไว้ใน โมไซยาห์ 2:17 จะช่วยให้บุคคลนี้มองเห็นสิ่งต่างๆ จากมุมมองนิรันดร์ได้อย่างไร?

• ท่านคิดว่าพระผู้ช่วยให้รอดจะทรงทำอย่างไรในสถานการณ์เช่นนี้?

แสวงหาความเข้าใจเพิ่มเติมผ่านแหล่งช่วยที่กำหนดไว้จากสวรรค์

เพื่อช่วยให้นักเรียนค้นพบข้อความ ท่านอาจให้ดูคำกล่าวจากหมวด “บทวิจารณ์และข้อมูลภูมิหลัง” ของบทเรียน “โมไซยาห์ 2:1–18”

ค้นหาพระคัมภีร์เพิ่มเติมหรือข้อความจากการประชุมใหญ่สามัญที่ท่านอาจแบ่งปันเพื่อช่วยให้บุคคลรับใช้ด้วยเจตคติที่เต็มใจ ในการทำเช่นนี้ ให้ค้นหา “การรับใช้” ในแอปคลังค้นคว้าพระกิตติคุณ จากนั้นดูที่พระคัมภีร์หรือคำปราศรัยในการประชุมใหญ่ที่ปรากฏขึ้น ท่านอาจค้นหา “การรับใช้” ในคู่มือพระคัมภีร์

เชื้อเชิญให้นักเรียนแบ่งปันสิ่งที่พบ ท่านอาจสรุปโดยการกระตุ้นให้นักเรียนมุ่งมั่นเอาชนะอุปสรรคที่ขัดขวางพวกเขาจากการรับใช้ เตือนนักเรียนเกี่ยวกับแผนการรับใช้ที่พวกเขาทำขณะศึกษา โมไซยาห์ 2:1–18 และโอกาสรอบตัวในแต่ละวันที่จะรับใช้ผู้อื่น

ทบทวนผู้เชี่ยวชาญหลักคำสอน

เขียนข้ออ้างอิงและวลีสำคัญจากพระคัมภีร์บนกระดานและเชื้อเชิญให้นักเรียนพูดทวนดังๆ ในชั้นเรียน ลบคำสองสามคำออกแล้วเชื้อเชิญให้นักเรียนทวนข้ออ้างอิงและวลีแบบประโยคเต็มอีกครั้ง ทำขั้นตอนนี้ซ้ำๆ จนกว่าทุกอย่างจะถูกลบออกและนักเรียนทวนข้ออ้างอิงและวลีทั้งหมดจากความจำได้

กิจกรรมเสริมการเรียนรู้

สถานการณ์สมมติทางเลือก

หากจำเป็น สถานการณ์สมมติต่อไปนี้อาจนำมาใช้สำหรับฝึกการประยุกต์ใช้:

เพื่อนบ้านที่อยู่ข้างบ้านของโอลิเวอร์เป็นชายสูงอายุที่อาศัยอยู่คนเดียว ครอบครัวของโอลิเวอร์พยายามช่วยเหลือชายผู้นั้น แต่โอลิเวอร์คิดว่าไม่สะดวกและเหน็ดเหนื่อยที่จะช่วยเพื่อนบ้านของเขา โอลิเวอร์ไม่ชอบช่วยเพราะรู้สึกว่าเขาต้องทำงานมากมายที่บ้านตนเองอยู่แล้ว

.

. .

.