“แอลมา 1:19–33: การค้นพบสันติสุขในพระคริสต์ด้วยการคงไว้ซึ่งความซื่อสัตย์ผ่านการข่มเหง,” พระคัมภีร์มอรมอน คู่มือครู (2024)
“แอลมา 1:19–33,” พระคัมภีร์มอรมอน คู่มือครู
แอลมา 1:19–33
การค้นพบสันติสุขในพระคริสต์ด้วยการคงไว้ซึ่งความซื่อสัตย์ผ่านการข่มเหง
เราเชื่อว่าทุกคนมีสิทธิ์ที่จะนมัสการพระผู้เป็นเจ้าตามมโนธรรมของตนเอง (ดู หลักแห่งความเชื่อ 1:11) แต่จะเกิดอะไรขึ้นถ้ามีคนมาข่มเหงท่านเพราะความเชื่อของท่าน? ท่านจะตอบสนองและหาความสงบสุขได้อย่างไร หากมีผู้อื่นวิพากษ์วิจารณ์ท่านเกี่ยวกับศรัทธาของท่าน? ในสมัยของแอลมา ผู้คน “เริ่มข่มเหงคนที่เป็นของศาสนจักรของพระผู้เป็นเจ้า” (ดู แอลมา 1:19) บทเรียนนี้จะช่วยให้ท่านตอบสนองอย่างซื่อสัตย์และรู้สึกสงบสุขแม้ต้องเผชิญกับการข่มเหงเพราะเป็นสมาชิกศาสนจักรของพระเยซูคริสต์แห่งวิสุทธิชนยุคสุดท้าย
กิจกรรมการเรียนรู้ที่ทำได้
ถูกข่มเหงเพราะความเชื่อ
เอ็ลเดอร์ เจฟฟรีย์ อาร์. ฮอลแลนด์แห่งโควรัมอัครสาวกสิบสองให้คำปรึกษาแก่เยาวชนของศาสนจักร ดูวีดิทัศน์ “ราคา—และพร—ของการเป็นสานุศิษย์” ตั้งแต่รหัสเวลา 0:25 ถึง 2:05 ที่ ChurchofJesusChrist.orgหรืออ่านข้อความด้านล่าง:
ด้วยความชื่นชมและต้องการให้กำลังใจแก่ทุกคนที่จะต้องมั่นคงแน่วแน่ในยุคสุดท้ายนี้ ข้าพเจ้ากล่าวแก่ทุกท่านโดยเฉพาะเยาวชนของศาสนจักรว่า หากท่านยังไม่ได้อยู่ในจุดนั้น วันหนึ่งท่านจะพบตนเองถูกเรียกร้องให้ปกป้องศรัทธาของท่าน หรือบางทีแม้กระทั่งอดทนรับการข่มเหงส่วนตัวบางอย่างเพียงเพราะว่าท่านเป็นสมาชิกศาสนจักรของพระเยซูคริสต์แห่งวิสุทธิชนยุคสุดท้าย ช่วงเวลาเช่นนั้นจะต้องใช้ทั้งความกล้าหาญและมารยาทในส่วนของท่าน
ตัวอย่างเช่น ซิสเตอร์ผู้สอนศาสนาคนหนึ่งเขียนถึงข้าพเจ้าเมื่อเร็วๆ นี้ว่า “ดิฉันกับคู่เห็นชายคนหนึ่งนั่งรับประทานอาหารกลางวันอยู่บนม้านั่งในจตุรัสกลางเมือง เมื่อเราเข้าไปใกล้ เขาเงยหน้ามองและเห็นป้ายชื่อผู้สอนศาสนาของเรา เขารีบลุกขึ้นและมองด้วยสายตาน่ากลัวพลางเงื้อมือจะตีดิฉัน ดิฉันหลบทัน แต่ไม่วายถูกเขาพ่นอาหารใส่จนเลอะเทอะและเริ่มสบถถ้อยคำเลวร้ายที่สุดใส่เรา เราเดินหนีโดยไม่พูดอะไร ดิฉันพยายามปัดอาหารออกจากหน้า แต่กลับเจอก้อนมันฝรั่งบดปาใส่ศีรษะด้านหลัง บางครั้งการเป็นผู้สอนศาสนาก็ยาก เพราะจังหวะนั้นดิฉันอยากเดินกลับไปคว้าผู้ชายตัวเล็กๆ คนนั้น แล้วพูดว่า ‘คุณมีปัญหาอะไร!’ แต่ดิฉันไม่ได้ทำ” (เจฟฟรีย์ อาร์. ฮอลแลนด์, “ราคา—และพร—ของการเป็นสานุศิษย์,” เลียโฮนา, พ.ค. 2014, 6)
-
ท่านจะตอบสนองอย่างไรถ้าท่านเป็นผู้สอนศาสนาที่ตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้?
-
เหตุใดจึงอาจเป็นเรื่องยากที่จะตอบสนองเหมือนพระคริสต์?
-
ท่านได้รับการปฏิบัติที่ไม่ดีหรือถูกข่มเหงเพราะความเชื่อของท่านตั้งแต่เมื่อใด?
-
ในอนาคตมีสถานการณ์ใดบ้างที่ท่านอาจถูกข่มเหงเพราะความเชื่อของท่าน?
ขณะศึกษาแบบอย่างจากสมาชิกศาสนจักรของพระคริสต์ในพระคัมภีร์มอรมอน ให้มองหาวิธีที่ท่านจะยังคงมีใจแน่วแน่และพบสันติสุขในพระเยซูคริสต์ระหว่างการข่มเหง
การข่มเหงในพระคัมภีร์มอรมอน
แอลมาพบความท้าทายมากมายในช่วงที่เป็นหัวหน้าผู้พิพากษา หลังจากนีฮอร์ถูกประหารชีวิตเพราะฆ่ากิเดียน ยังมีบางคนที่เชื่อในคำสอนของนีฮอร์ อ่าน แอลมา 1:19–24 โดยมองหาความท้าทายที่ชาวนีไฟต้องเผชิญ
-
ท่านเห็นว่าสิ่งที่ชาวนีไฟเผชิญกับประสบการณ์ของท่านมีความคล้ายคลึงกันอย่างไร?
-
สมาชิกศาสนจักรมีส่วนร่วมในความท้าทายเหล่านี้ด้วยการกระทำเช่นไร (ดู ข้อ 22)?
อ่าน แอลมา 1:25–28 โดยมองหาสิ่งที่สมาชิกศาสนจักรผู้ชอบธรรมทำไว้ เพื่อช่วยท่านจัดระเบียบสิ่งที่ท่านศึกษา ให้จดรายการที่ผู้คนทำไว้ ท่านอาจจดสิ่งนี้ลงในสมุดบันทึกการศึกษาหรือทำเครื่องหมายสิ่งที่พบในพระคัมภีร์ของท่าน
-
สมาชิกศาสนจักรตอบสนองต่อการข่มเหงด้วยวิธีที่แตกต่างกันอย่างไร?
เติมประโยคต่อไปนี้ให้สมบูรณ์ด้วยสิ่งที่ท่านเรียนรู้จากแบบอย่างของชาวนีไฟ
… สามารถช่วยให้เรารู้สึกถึงความสงบสุขของพระผู้ช่วยให้รอดอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าเราจะถูกข่มเหงเพราะเชื่อในพระองค์
-
ท่านคิดว่าการตอบสนองด้วยวิธีเหล่านี้จะช่วยให้บางคนรู้สึกถึงความสงบสุขของพระผู้ช่วยให้รอดได้อย่างไร?
-
ข้อพระคัมภีร์หรือรายการใดที่ท่านต้องการจดจำมากที่สุด ถ้าท่านเคยเผชิญกับการข่มเหงเพราะความเชื่อ? เพราะเหตุใด?
-
ประสบการณ์ใดในชีวิตท่านที่ทำให้ท่านรู้สึกต้องการความสงบสุขที่พระเยซูคริสต์ประทานให้?
เป็นมากกว่าความสงบสุข
นอกเหนือจากการประสบกับความสงบสุขแล้ว พระบิดาบนสวรรค์ยังประทานพรแก่ชาวนีไฟที่ซื่อสัตย์ในทางอื่น อ่าน แอลมา 1:29–32 โดยมองหาพรของพระบิดาบนสวรรค์ที่ประทานแก่ชาวนีไฟขณะพวกเขายังคงแน่วแน่ในช่วงเวลาที่ยากลำบาก
-
ท่านได้เห็นพรของพระบิดาบนสวรรค์ขณะที่ท่านหรือคนที่ท่านรู้จักยังคงซื่อสัตย์ระหว่างการข่มเหงอย่างไร?
เลือกการกระทำอย่างน้อยสองอย่างที่ชาวนีไฟผู้ซื่อสัตย์ทำเพื่อแสดงความรักและความสงสารต่อทุกคนแม้จะมีการข่มเหง (ดู แอลมา 1:25–30) อธิบายว่าคนบางคนสมัยนี้อาจทำแบบเดียวกันได้อย่างไร