“กิจกรรมประเมินผลการเรียนรู้ของท่านสําหรับบทเรียนการเตรียมตัวในชีวิต” หลักคําสอนและพันธสัญญา คู่มือครูเซมินารี (2025)
“กิจกรรมประเมินผลการเรียนรู้ของท่าน” หลักคําสอนและพันธสัญญา คู่มือครูเซมินารี
ภาคผนวก
กิจกรรมประเมินผลการเรียนรู้ของท่านสําหรับบทเรียนการเตรียมตัวในชีวิต
หลังจากท่านสอนหนึ่งในหมวดหมู่ของบทเรียนการเตรียมตัวในชีวิตเสร็จแล้ว ท่านอาจช่วยให้นักเรียนใคร่ครวญการเรียนรู้และการเติบโตของพวกเขาโดยรวมกิจกรรมการประเมินผลจากหมวดหมู่นั้นไว้ในบทเรียนประเมินผลการเรียนรู้ของท่านที่กําลังจะมีขึ้น ท่านสามารถปรับเปลี่ยนกิจกรรมเหล่านี้ให้ตรงกับความต้องการของนักเรียนมากขึ้น
คําสอนของผู้นําศาสนจักร
ประยุกต์ใช้คําสอนของผู้นําศาสนจักรในชีวิตท่าน
นักเรียนมีโอกาสมากมายในตลอดหลักสูตรที่จะศึกษาและประยุกต์ใช้คําสอนจากผู้นําศาสนจักร สําหรับกิจกรรมนี้ ท่านอาจต้องการเตือนนักเรียนถึงคําปราศรัยบางเรื่องที่ศึกษาในชั้นเรียน หากเป็นไปได้ เชื้อเชิญให้พวกเขาเลือกคําปราศรัยหนึ่งเรื่องที่พวกเขาศึกษาและทบทวนกับบันทึกที่พวกเขาอาจจดไว้ กระตุ้นให้นักเรียนใคร่ครวญว่าคําสอนจากคําปราศรัยช่วยให้พวกเขามุ่งมั่นที่จะเป็นสานุศิษย์ของพระเยซูคริสต์อย่างไร
ท่านอาจแบ่งนักเรียนเป็นคู่สําหรับแบบฝึกหัดต่อไปนี้ พวกเขาอาจผลัดกันสัมภาษณ์กัน หลังจากนั้นท่านอาจเชิญนักเรียนหนึ่งคู่หรือมากกว่านั้นมาดําเนินการสัมภาษณ์หน้าชั้นเรียน
จินตนาการว่าท่านกําลังได้รับการสัมภาษณ์สําหรับบทความที่จะตีพิมพ์ในนิตยสาร เพื่อความเข้มแข็งของเยาวชน เกี่ยวกับการศึกษาคําสอนจากผู้นําศาสนจักร ผู้สัมภาษณ์จะถามคําถามต่อไปนี้กับท่าน:
-
ท่านเรียนรู้อะไรเกี่ยวกับการศึกษาคําสอนจากผู้นําศาสนจักร?
-
จากคําปราศรัยและบทความที่ท่านศึกษาในเซมินารี บทความใดสําคัญต่อท่านมากที่สุดและเพราะเหตุใด?
-
เมื่อเร็วๆ นี้ท่านได้ประยุกต์ใช้คําสอนใดของผู้นําศาสนจักรในชีวิตท่าน?
เพื่อความเข้มแข็งของเยาวชน: การเลือก
ได้รับความเข้มแข็งจากพระเจ้าเพื่อทําการเลือกด้วยการดลใจ
กิจกรรมนี้จะช่วยนักเรียนประเมินสิ่งที่พวกเขาเรียนรู้ในบทเรียนที่เกี่ยวข้องกับหมวดหมู่ “เพื่อความเข้มแข็งของเยาวชน: การเลือก” การทบทวนเนื้อหาบางส่วนจากบทเรียนเหล่านี้กับนักเรียนอาจเป็นประโยชน์
วิธีหนึ่งที่จะช่วยให้นักเรียนประเมินสิ่งที่พวกเขาเรียนรู้และรู้สึกในบทเรียนเหล่านี้คือเชื้อเชิญให้พวกเขาเขียนจดหมายถึงตนเอง ท่านอาจใช้หรือปรับเปลี่ยนข้อความกระตุ้นต่อไปนี้
ลองนึกภาพว่าหนึ่งปีต่อจากนี้ชีวิตท่านจะเป็นอย่างไร นึกถึงสิ่งที่ท่านหวังว่าจะบรรลุในเวลานั้นและความท้าทายที่ท่านคาดหวัง เขียนจดหมายให้กําลังใจตัวท่านเองในอนาคต คําถามบางข้อต่อไปนี้อาจช่วยได้
-
ท่านได้เรียนรู้และรู้สึกอย่างไรเกี่ยวกับการได้รับความเข้มแข็งจากพระเจ้าเพื่อทําการเลือกด้วยการดลใจ?
-
มีเป้าหมายใดที่ตั้งไว้ที่ต้องการทําต่อไปหรือไม่?
-
ท่านเรียนรู้อะไรเกี่ยวกับวิธีที่พระเจ้าทรงช่วยให้ท่านเลือกด้วยการดลใจได้อย่างมีประสิทธิภาพ?
การสร้างการพึ่งพาตนเอง
การสร้างการพึ่งพาตนเองในวิธีของพระเจ้า
เชื้อเชิญนักเรียนคนหนึ่งวาดรูปวัยรุ่นคนหนึ่งบนกระดาน เชื้อเชิญให้ชั้นเรียนตั้งชื่อวัยรุ่นคนนี้และสร้างรายละเอียดบางอย่างเกี่ยวกับบุคลิกภาพและสถานการณ์ในครอบครัวของพวกเขา
จากนั้นขอให้นักเรียนนึกถึงสถานการณ์จริงที่วัยรุ่นคนนั้นกําลังเผชิญความท้าทายในชีวิต
เชื้อเชิญให้นักเรียนแบ่งกลุ่มเล็กๆ และสนทนาคําตอบของคําถามต่อไปนี้:
-
การพึ่งพาพระผู้ช่วยให้รอดและคําสอนของพระองค์จะช่วยให้วัยรุ่นคนนี้รับมือกับความท้าทายได้อย่างไร?
-
วัยรุ่นคนนี้ทําอะไรได้บ้างเพื่อสร้างการพึ่งพาตนเองในสถานการณ์ของพวกเขา?
ท่านอาจเชื้อเชิญให้นักเรียนแบ่งปันความจริงเกี่ยวกับการพึ่งพาตนเองที่พวกเขาเรียนรู้จากพระคัมภีร์ด้วย
ข้อความบางข้อที่นักเรียนอาจเคยศึกษาในบทเรียน “สร้างการพึ่งพาตนเองในวิธีของพระเจ้า” ได้แก่:
ให้ดูคําถามต่อไปนี้ เชื้อเชิญให้นักเรียนไตร่ตรองและบันทึกความคิดลงในสมุดบันทึกการศึกษา
-
ท่านได้เรียนรู้ทักษะและเจตคติใดบ้างที่สามารถช่วยให้ท่านพึ่งพาตนเองได้มากขึ้นในด้านต่างๆ ของชีวิต (เช่น การศึกษา สุขภาพ การจ้างงาน หรือความเข้มแข็งทางวิญญาณ)?
-
ท่านกําลังพึ่งพาตนเองมากขึ้นในด้านใด?
-
ท่านจะอัญเชิญพระผู้เป็นเจ้าให้ช่วยท่านสร้างการพึ่งพาตนเองต่อไปอย่างไร?
สุขภาพกายและอารมณ์
ประยุกต์ใช้หลักธรรมและทักษะเพื่อให้มีสุขภาพร่างกายและอารมณ์ดีขึ้น
ท่านอาจวาดรถไฟเหาะแบบง่ายๆ หรือทางเดินที่มีเนินเขาและหุบเขา
-
เหตุใดบางคนจึงเปรียบเทียบชีวิตพวกเขากับรถไฟเหาะหรือเส้นทางที่มีเนินเขาและหุบเขา?
-
เราอาจรู้สึก “ขึ้นๆ” และ “ลงๆ” อะไรบ้างในชีวิตเรา?
เตือนนักเรียนว่าในระหว่างหลักสูตรนี้ พวกเขาศึกษาบทเรียนต่างๆ ที่สามารถช่วยให้พวกเขาหันไปหาพระเจ้าเพื่อจะมีความยืดหยุ่นทางอารมณ์มากขึ้นในทุกช่วงเวลาของชีวิต
ท่านอาจเชื้อเชิญให้นักเรียนเขียนหลักธรรมหรือทักษะบางอย่างที่พวกเขาเรียนรู้เพื่อจะมีความยืดหยุ่นทางอารมณ์มากขึ้น หากอยู่ในวิสัยที่ทําได้ พวกเขาสามารถเอ่ยถึงพระคัมภีร์หรือข้อความจากผู้นําศาสนจักรที่สอนหลักธรรมและทักษะเหล่านี้ คําตอบของนักเรียนอาจรวมถึงวิธีปรับปรุงรูปแบบการคิดและรับมือกับความเครียด ความวิตกกังวล ความเศร้า ภาวะซึมเศร้า และการยึดติดความสมบูรณ์แบบ พวกเขาสามารถพูดคุยเกี่ยวกับการปรับปรุงสุขภาพร่างกายของพวกเขาได้เช่นกัน
เชื้อเชิญให้นักเรียนเขียนคําตอบของคําถามต่อไปนี้ลงในสมุดบันทึกการศึกษา:
-
ท่านเรียนรู้อะไรที่มีความหมายหรือเป็นประโยชน์ต่อท่าน?
-
ท่านเคยใช้ทักษะใดบ้างในการหันไปหาพระเจ้าเพื่อให้มีความยืดหยุ่นทางอารมณ์มากขึ้น?
-
ท่านประสบความสําเร็จและได้รับพรอะไรบ้างจากพระเจ้า? ท่านยังคงเผชิญความท้าทายอะไรบ้าง?
-
ท่านคิดว่าพระเจ้าอาจทรงต้องการให้ท่านทําอะไรเพื่อ “ดูที่ [พระองค์] ในความนึกคิดทุกอย่าง” ต่อไป (หลักคําสอนและพันธสัญญา 6:36) ที่จะมีความยืดหยุ่นทางอารมณ์มากขึ้น?
เชื้อเชิญนักเรียนแบ่งปันคําตอบและประสบการณ์ของตน หากไม่ได้เป็นเรื่องส่วนตัวมากเกินไป มองหาวิธีชื่นชมความพยายามของนักเรียนและเป็นพยานว่าพระเจ้าจะทรงช่วยและอวยพรพวกเขาในจังหวะเวลาและวิธีของพระองค์เอง เตือนนักเรียนว่าถ้าพวกเขากําลังประสบความท้าทายร้ายแรงเกี่ยวกับความเครียด ความวิตกกังวล ภาวะซึมเศร้า หรือปัญหาสุขภาพจิตหรืออารมณ์อื่นๆ พวกเขาควรพูดคุยกับผู้ใหญ่หรือผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิตที่ไว้ใจได้ การหันไปขอความช่วยเหลือจากผู้อื่นเมื่อเรากําลังประสบปัญหาไม่ใช่เครื่องหมายของความอ่อนแอหรือการขาดศรัทธา
การเตรียมพร้อมสําหรับการศึกษาและงานอาชีพในอนาคต
เข้าใจความสําคัญของการศึกษาทางโลกและทางวิญญาณตลอดชีวิต
แบ่งปันสถานการณ์สมมติต่อไปนี้หรือสถานการณ์ที่คล้ายคลึงกันเพื่อเปิดโอกาสให้นักเรียนอธิบายสิ่งที่พวกเขาเรียนรู้เกี่ยวกับความสําคัญของการศึกษา
ขณะเดินกลับจากโรงเรียน นาโอมีเพื่อนของท่านบอกว่าเธอไม่ชอบโรงเรียน เธอรู้สึกว่ามันยากเกินไปและมักจะรู้สึกไร้จุดหมาย เธอไม่อยากตั้งใจเรียนหรือเรียนต่อเมื่อจบมัธยมปลาย
เปิดโอกาสให้นักเรียนตอบข้อกังวลนี้ วิธีหนึ่งที่ท่านอาจทําได้คือให้คําแนะนําต่อไปนี้ นักเรียนสามารถทําตามคําแนะนําต่อไปนี้ด้วยตนเองหรือเป็นกลุ่มเล็กๆ ก็ได้
สร้างคําตอบให้นาโอมีที่สามารถช่วยให้เธอเข้าใจความสําคัญของการศึกษา ท่านอาจรวมสิ่งต่อไปนี้บางส่วนหรือทั้งหมดไว้ในคําตอบของท่าน:
-
พระคัมภีร์หรือข้อความจากผู้นําศาสนจักร
-
คําอธิบายว่าเหตุใดพระบิดาบนสวรรค์ทรงต้องการให้บุตรธิดาของพระองค์แสวงหาการศึกษาทั้งทางโลกและทางวิญญาณอยู่เสมอ
-
ประสบการณ์ส่วนตัวหรือประจักษ์พยาน
หลังจากนักเรียนสร้างคําตอบเสร็จแล้ว ให้โอกาสพวกเขาแบ่งปันกับผู้อื่น
สร้างแผนสําหรับการศึกษาและงานอาชีพในอนาคต
นักเรียนมีโอกาสวางแผนเกี่ยวกับการศึกษาในอนาคตตลอดจนโอกาสการจ้างงานในอนาคตและบทบาทอื่น ๆ ที่พวกเขาจะมีในช่วงวัยผู้ใหญ่ เชื้อเชิญให้พวกเขาทบทวนแผนที่ตนได้ทําไว้
ท่านอาจให้โอกาสพวกเขาทําการปรับเปลี่ยนใดๆ ก็ตามที่รู้สึกว่าจําเป็น พวกเขาอาจพิจารณาด้วยว่าแผนเหล่านี้มีอิทธิพลต่อการเลือกปัจจุบันของพวกเขาอย่างไร จากนั้น เชื้อเชิญให้พวกเขาสนทนาเกี่ยวกับคําถามต่อไปนี้กับคู่
-
ท่านมีแผนอะไรสําหรับอนาคตของท่าน?
-
ท่านมีแผนอะไรบ้างในการเตรียมตัวสําหรับโอกาสในการทํางานในอนาคตหรือความรับผิดชอบอื่นๆ ที่ท่านจะมีเมื่อเป็นผู้ใหญ่?
-
ท่านจะให้พระเจ้ามีส่วนในแผนของท่านอย่างไร?
ความสําเร็จในสถานศึกษา
ใช้ทักษะเพื่อประสบความสําเร็จในการเรียน
เพื่อช่วยให้นักเรียนจดจําความจริงและทักษะบางอย่างที่เรียนรู้มาซึ่งจะช่วยให้พวกเขาประสบความสําเร็จมากขึ้นในโรงเรียน ท่านอาจวาดรูปคนแทนนักเรียนคนหนึ่ง อธิบายว่านักเรียนคนนี้มีปัญหากับการเรียน
-
ความจริงและทักษะใดบ้างที่ท่านศึกษาที่อาจช่วยคนที่มีปัญหาเรื่องการเรียน?
หากจําเป็น ท่านอาจเชื้อเชิญให้นักเรียนแบ่งปันสิ่งที่พวกเขาจําได้เกี่ยวกับการมีส่วนร่วมของพระเจ้าในการศึกษา มีความซื่อสัตย์สุจริตในการศึกษา การเตรียมสอบและโครงการที่ท้าทาย และมองความท้าทายด้วยกรอบความคิดแบบเติบโต ทบทวนแนวคิดและข้อพระคัมภีร์จากบทเรียนเหล่านั้นเท่าที่จําเป็น ตัวอย่างเช่น ท่านอาจเชื้อเชิญให้นักเรียนแบ่งปันสิ่งที่พวกเขาจําได้เกี่ยวกับวิธีที่ศาสดาพยากรณ์โจเซฟ สมิธให้พระเจ้าทรงมีส่วนร่วมในการเรียนรู้ของท่าน (ดู โจเซฟ สมิธ—ประวัติ 1:10–18) หรือวิธีที่นีไฟมองความท้าทายของท่านด้วยกรอบความคิดแบบเติบโต (ดู 1 นีไฟ 16:18–23, 30–32)
จากนั้นเชื้อเชิญให้นักเรียนใคร่ครวญว่าพวกเขาประยุกต์ใช้แนวคิดเหล่านี้กับชีวิตอย่างไร ท่านอาจแสดงคําถามต่อไปนี้ และเชื้อเชิญให้นักเรียนบันทึกคําตอบลงในสมุดบันทึกการศึกษา
-
ท่านได้ประยุกต์ใช้ความจริงหรือทักษะอะไรบ้างกับชีวิตท่านเพื่อช่วยให้ท่านประสบความสําเร็จมากขึ้นในโรงเรียน?
-
สิ่งเหล่านี้สร้างความแตกต่างอย่างไร?
-
ท่านสังเกตเห็นความสัมพันธ์ของท่านกับพระเจ้าหรือการเข้าถึงความช่วยเหลือจากพระองค์เปลี่ยนไปอย่างไรเมื่อท่านทําสิ่งเหล่านี้?
หลังจากนักเรียนมีเวลาเขียนคําตอบมากพอแล้ว ให้เชื้อเชิญอาสาสมัครสองสามคนแบ่งปันความคิดและประสบการณ์ของพวกเขากับชั้นเรียน กระตุ้นให้พวกเขาตั้งใจฟังเพื่อนร่วมชั้นและลองทักษะบางอย่างที่เพื่อนร่วมชั้นประสบความสําเร็จ
การเตรียมตัวเป็นผู้สอนศาสนา
รู้สึกปรารถนามากขึ้นที่จะแบ่งปันพระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์กับผู้อื่น
ในบทเรียน “รัก แบ่งปัน และเชื้อเชิญ” ท่านอาจให้ดูภาพสัตว์พรางตัว ท่านอาจแสดงภาพอีกครั้งและยํ้าเตือนนักเรียนถึงข้อความต่อไปนี้ที่ใช้ในบทเรียนนั้น
เอ็ลเดอร์เควนทิน แอล. คุกแห่งโควรัมอัครสาวกสิบสองสอนว่า:
ส่วนจำเป็นของงานสอนศาสนาคือสมาชิกแต่ละคนต้องเป็นแบบอย่างดุจไฟประภาคารไม่ว่าเราจะอยู่ที่ใด เราจะพรางตัวไม่ได้ (เควนทิน แอล. คุก, “รวบรวมกลับบ้านอย่างปลอดภัย,” เลียโฮนา, พ.ค. 2023, 23)
-
คนที่เป็นแบบอย่างดุจไฟประภาคารในฐานะผู้สอนศาสนาของพระเยซูคริสต์น่าจะเป็นอย่างไร? การพรางตัวเป็นผู้สอนศาสนาของพระองค์มีลักษณะอย่างไร?
นักเรียนอาจบันทึกว่าพวกเขารู้สึกอย่างไรเกี่ยวกับการแบ่งปันพระกิตติคุณในบทเรียนที่ 199 “แบ่งปันพระกิตติคุณด้วยความรักเหมือนพระคริสต์” ท่านอาจเชื้อเชิญให้พวกเขากลับมาดูสิ่งที่เขียน หรือท่านอาจเชื้อเชิญให้พวกเขาบันทึกความคิดและความรู้สึกในปัจจุบันเกี่ยวกับการแบ่งปันพระกิตติคุณ ขณะที่พวกเขาไตร่ตรองและเขียน ท่านอาจเสนอแนะให้พวกเขาศึกษาข้อพระคัมภีร์ต่อไปนี้อย่างน้อยหนึ่งข้อจากบทเรียนที่ 201 “การเลือกรับใช้งานเผยแผ่” เพื่อระลึกถึงสัญญาบางประการของพระเจ้ากับคนที่แบ่งปันพระกิตติคุณ
หลังจากให้เวลาพอสมควรแล้ว ให้เชื้อเชิญอาสาสมัครบางคนแบ่งปันสิ่งที่พวกเขาบันทึกและสิ่งที่มีอิทธิพลต่อความปรารถนาที่จะรับใช้เป็นผู้สอนศาสนาของพระเจ้า
การเตรียมตัวไปพระวิหาร
รู้สึกปรารถนามากขึ้นที่จะทําพันธสัญญากับพระผู้เป็นเจ้าในพระวิหาร
ท่านอาจใช้กิจกรรมต่อไปนี้อย่างน้อยหนึ่งกิจกรรมเพื่อช่วยให้นักเรียนประเมินความปรารถนาที่จะทําพันธสัญญากับพระผู้เป็นเจ้าในพระวิหาร นักเรียนอาจเขียนในสมุดบันทึกการศึกษาหรือสนทนาเป็นกลุ่มเล็กๆ
-
ให้ดูภาพพระวิหารและแบ่งปันว่าพระวิหารเตือนท่านให้นึกถึงพระเยซูคริสต์อย่างไร หากต้องการ ท่านสามารถหาภาพใน คลังภาพ ที่ temples.ChurchofJesusChrist.org แบ่งปันความคิดและความรู้สึกของท่านเกี่ยวกับการทําและรักษาพันธสัญญากับพระบิดาบนสวรรค์ในพระวิหารของพระองค์
-
ในบทเรียนการเตรียมเข้าพระวิหารบทหนึ่ง ท่านเรียนรู้เกี่ยวกับความสําคัญของการนมัสการในพระวิหารตลอดชีวิตท่าน ท่านอาจเขียนจดหมายถึงตนเองในอนาคตเกี่ยวกับความสําคัญของการนมัสการพระเจ้าในพระวิหารของพระองค์ มีสิ่งใดที่ท่านได้เรียนรู้หรือรู้สึกเมื่อเร็วๆ นี้ที่ส่งผลต่อความปรารถนาของท่านในการทําและรักษาพันธสัญญากับพระบิดาบนสวรรค์ในพระวิหารหรือไม่? หากมี ให้เขียนเพิ่มในจดหมายหรือเขียนข้อความใหม่ถึงตัวท่านเอง
-
ใคร่ครวญสิ่งที่ท่านเรียนรู้เกี่ยวกับการทําพันธสัญญากับพระเจ้าในพระวิหาร รวมถึงกฎแห่งการอุทิศถวาย ตอบคําถามต่อไปนี้:
-
ท่านทําอะไรเพื่อดําเนินชีวิตตามหลักธรรมของกฎแห่งการอุทิศถวายของพระเจ้าได้ดีขึ้น?
-
สิ่งนี้ช่วยให้ท่านเตรียมทําพันธสัญญากับพระเจ้าในพระวิหารว่าจะดําเนินชีวิตตามกฎนี้อย่างไร?