เซมินารี
ฮีบรู 3–4


ฮีบรู 3–4

เข้าไปในสถานพักผ่อนของพระเจ้า

Jesus Christ portrayed seated near a river. Christ is holding a shepherd’s staff in His hand. There are trees growing along the banks of the river.

พระบิดาบนสวรรค์ของเราและพระเยซูคริสต์ทรงปรารถนาจะอวยพรเราด้วยพรอันอุดมที่สุดของพระองค์ ความไม่เชื่อและใจแข็งกระด้างกีดกันคนมากมายจากการได้รับพรเหล่านี้ เปาโลพยายามจะช่วยให้วิสุทธิชนกลับไปยังพันธสัญญาที่พวกเขาเคยทำไว้ ด้วยการกระตุ้นให้วิสุทธิชนละทิ้งเจตคติที่ไม่เชื่อ บทเรียนนี้มีเจตนาจะช่วยให้ท่านเอาชนะความไม่เชื่อ เพื่อที่ท่านจะสามารถได้รับพรที่สัญญาไว้ของพระผู้ช่วยให้รอด

รับฟังนักเรียนเพื่อเล็งเห็นความต้องการของพวกเขาให้ดียิ่งขึ้น เมื่อนักเรียนตอบคำถามหรือแบ่งปันประสบการณ์ในชั้นเรียน ให้ตั้งใจฟังสิ่งที่พวกเขากำลังพูด เมื่อท่านฟังนักเรียนและใส่ใจการกระตุ้นเตือนจากพระวิญญาณบริสุทธิ์ ท่านจะสามารถเล็งเห็นความต้องการของพวกเขา

การเตรียมของนักเรียน: เชื้อเชิญให้นักเรียนคิดว่าทำไมพวกเขาจึงเชื่อในพระเยซูคริสต์และวิธีที่พวกเขาได้รับพรจากการเชื่อในพระองค์

กิจกรรมการเรียนรู้ที่อาจทำได้

ความเชื่อของเราในพระเยซูคริสต์

เอ็ลเดอร์นีล แอล. แอนเดอร์เซ็นแห่งโควรัมอัครสาวกสิบสองอธิบายถึงปัญหาจากการเผชิญหน้ากับโลกในปัจจุบัน:

15:1
Official portrait of Elder Neil L. Andersen of the Quorum of the Twelve Apostles, 2010, August.

ในบางส่วนของโลกที่พระนามของพระองค์ประกาศมาแล้วหลายศตวรรษแต่ศรัทธาในพระเยซูคริสต์กำลังอ่อนลง วิสุทธิชนผู้องอาจในยุโรปเห็นความเชื่อลดลงในประเทศของตนมาตลอดหลายทศวรรษ น่าเศร้าที่ในสหรัฐแห่งนี้ศรัทธาก็กำลังถดถอยเช่นกัน การศึกษาล่าสุดเปิดเผยว่าใน 10 ปีที่ผ่านมามีคน 30 ล้านคนในสหรัฐก้าวออกจากความเชื่อในความเป็นพระผู้เป็นเจ้าของพระเยซูคริสต์ เมื่อดูทั่วโลก อีกการวิจัยหนึ่งคาดการณ์ว่าในหลายทศวรรษข้างหน้าจะมีคนทิ้งศาสนาคริสต์ไปมากกว่าสองเท่าของคนที่จะน้อมรับ

(นีล แอล. แอนเดอร์เซ็น, “เราพูดถึงพระคริสต์,” เลียโฮนา, พ.ย. 2020, 88)

  • อะไรคือผลลัพธ์ที่เป็นไปได้ว่าจะเกิดขึ้นตามมาในปัจจุบันและอนาคตของผู้คนที่ไม่เชื่อในพระเยซูคริสต์?

นี่อาจเป็นโอกาสที่จะเตือนนักเรียนถึงการเตรียมสำหรับชั้นเรียน

นึกถึงความเชื่อของท่านเองในพระเยซูคริสต์

  • ท่านรู้สึกว่าความเชื่อของท่านในพระเยซูคริสต์แข็งแกร่งเพียงใด?

  • การที่ท่านเลือกเชื่อในพระองค์เป็นพรแก่ชีวิตของท่านอย่างไร?

คำสอนของเปาโลเกี่ยวกับลูกหลานของอิสราเอล

ในจดหมายของเขาถึงชาวฮีบรู เปาโลตระหนักว่าเนื่องจากการข่มเหง ผู้เปลี่ยนใจเลื่อมใสบางคนคิดว่าจะหันไปจากความเชื่อของตนในพระเยซูคริสต์

อ่าน ฮีบรู 3:7–19 และมองหาเรื่องราวสมัยโบราณที่เปาโลอ้างอิงถึงเพื่อช่วยให้ชาวฮีบรูเข้าใจอันตรายของความไม่เชื่อ

เชื้อเชิญให้นักเรียนแบ่งปันสิ่งที่พบ ถ้าเป็นไปได้ ให้นักเรียนสรุปเรื่องราวของโมเสสและลูกหลานของอิสราเอลที่เปาโลอ้างอิงถึง ใช้ข้อมูลในย่อหน้าต่อไปนี้ตามความจำเป็น

“การกบฏ … ในถิ่นทุรกันดาร” ( ฮีบรู 3:8) หมายถึงยุคสมัยภายหลังจากถูกปลดปล่อยจากอียิปต์แล้ว ที่ชาวอิสราเอลได้ก่อกบฏต่อพระเจ้าให้ทรงพระพิโรธและถูกปฏิเสธพรที่พระองค์ทรงรอคอยที่จะประทานให้พวกเขา (ดู กันดารวิถี 14 ; เจคอบ 1:7–8 ; แอลมา 12:33–37)

  • พรใดที่ลูกหลานของอิสราเอลพลาดไป? เพราะเหตุใด?

สถานพักผ่อนของพระเจ้า

พระบิดาบนสวรรค์และพระเยซูคริสต์ทรงต้องการให้เราประสบกับการพักผ่อนของพระองค์ ศึกษาข้อพระคัมภีร์และคำพยากรณ์ต่อไปนี้เพื่อเรียนรู้ว่าสถานพักผ่อนของพระเจ้าคืออะไร อาจจะเป็นประโยชน์ถ้าค้นดูคำว่า “ พักผ่อน, สถานพักผ่อน ” ในคู่มือพระคัมภีร์ หากมี

อ่าน หลักคำสอนและพันธสัญญา 84:24 เพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับสถานพักผ่อนของพระเจ้า (และดูที่ แอลมา 13:6, 12–13, 28–29)

ประธานโจเซฟ เอฟ. สมิธ (1838–1918) สอนวิธีที่เราจะสามารถเข้าไปในสถานพักผ่อนของพระเจ้าขณะอยู่ในความเป็นมรรตัย:

Portrait of Joseph F. Smith

ศาสดาพยากรณ์โบราณพูดถึง “การเข้าสถานพักผ่อนของพระผู้เป็นเจ้า” [ดู แอลมา 12:34 ; หลักคำสอนและพันธสัญญา 84:23–24 ]; สิ่งนี้หมายถึงอะไร? ในความคิดของข้าพเจ้านั่นหมายถึงการเข้าไปสู่ความรู้และความรักของพระผู้เป็นเจ้า โดยมีศรัทธาในจุดประสงค์และในแผนของพระองค์ จนถึงระดับที่เรารู้ว่าเราถูกต้องและเราไม่แสวงหาสิ่งใดอีก เราจะไม่หันไปเหมาด้วยลมปากแห่งคำสั่งสอนทุกอย่าง หรือด้วยเล่ห์กลของมนุษย์ตามอุบายฉลาดอันเป็นการล่อลวง … บุคคลผู้ซึ่งบรรลุศรัทธาในพระผู้เป็นเจ้าถึงระดับนั้นแล้วจนความสงสัยและความกลัวทั้งหมดได้อันตรธานหายไปจากเขา เขาได้เข้าสู่ “สถานพักผ่อนของพระผู้เป็นเจ้า” แล้ว

(คำสอนของประธานศาสนาจักร: โจเซฟ เอฟ. สมิธ [1998] )

  • ท่านจะบรรยายสถานพักผ่อนของพระเจ้าว่าอย่างไร?

แอลมาแบ่งปันข่าวสารที่คล้ายกันกับเปาโลกับผู้คนในยุคสมัยของเขา ซึ่งบางคนก็ประสบปัญหาที่จะเชื่อเช่นกัน อ่าน แอลมา 12:34–37 , เพื่อหาข้อคิดเพิ่มเติม

หลักธรรมข้อหนึ่งที่ท่านอาจเรียนรู้คือ หากเรายังคงซื่อสัตย์ต่อพระผู้ช่วยให้รอดและอย่าทำให้ใจของเราแข็งกระด้าง เราจะเข้าไปอยู่ในสถานพักผ่อนของพระเจ้า

  • ท่านคิดว่าใจที่แข็งกระด้างและความไม่เชื่อจะขัดขวางเราจากการได้รับพรของพระเจ้าอย่างไร?

  • เพราะเหตุใดท่านจึงคิดว่าสถานพักผ่อนของพระเจ้าจึงเป็นพรที่ควรค่าแก่การแสวงหา?

เลือกที่จะเชื่อ

ให้แสดงข้อต่อไปนี้ ท่านอาจจัดกลุ่มนักเรียนให้เป็นคู่และมอบหมายให้พวกเขาแต่ละคนอ่านข้อต่างๆ จากหนึ่งบท จากนั้นนักเรียนจะสามารถรายงานสิ่งที่พวกเขาได้เรียนรู้ให้คู่ของตนทราบได้

อ่าน ฮีบรู 3:7–8, 12–15 ; 4:2–3, 6–7, 11 ขณะที่ท่านอ่าน ให้มองหาว่าเราจะทำอะไรได้บ้างเพื่อเข้าไปสถานพักผ่อนของพระเจ้า &#160

นี่อาจเป็นโอกาสให้นักเรียนอ่านข้อเพิ่มเติมจากพระคัมภีร์มอรมอนตามที่แนะนำในหมวด “กิจกรรมการเรียนรู้เพิ่มเติม”

  • ท่านประทับใจอะไรในข้อเหล่านี้?

ประธานรัสเซลล์ เอ็ม. เนลสันสอนวิธีที่เราสามารถเอาชนะความไม่เชื่อได้:

16:22
Official portrait of President Russell M. Nelson taken January 2018

เลือกเชื่อในพระเยซูคริสต์ หากท่านมีความสงสัยเกี่ยวกับพระผู้เป็นเจ้าพระบิดาและพระบุตรที่รักของพระองค์ หรือความสมเหตุสมผลของการฟื้นฟู หรือความจริงเกี่ยวกับการที่ทรงเรียกโจเซฟ สมิธเป็นศาสดาพยากรณ์ จง เลือก ที่จะเชื่อและรักษาศรัทธาต่อไป นำคำถามของท่านไปทูลพระเจ้าและถามแหล่งอื่นที่เชื่อถือได้ ศึกษาด้วยความปรารถนาจะ เชื่อ ไม่ใช่ด้วยความหวังว่าท่านจะพบรอยด่างพร้อยในชีวิตศาสดาพยากรณ์หรือความคลาดเคลื่อนในพระคัมภีร์ หยุดเพิ่มความสงสัยของท่านด้วยการผสมโรงกับผู้สงสัยรายอื่น จงยอมให้พระเจ้าทรงนำท่านในการเดินทางค้นพบทางวิญญาณ

(รัสเซลล์ เอ็ม. เนลสัน, “พระคริสต์ทรงฟื้น; ศรัทธาในพระองค์จะเคลื่อนภูเขา,” เลียโฮนา, พ.ค. 2021, 103)

จินตนาการว่าท่านมีเพื่อนคนหนึ่งที่ประสบปัญหาในการเชื่อในพระเยซูคริสต์ เขียนข้อความที่อ่อนโยนเพื่อให้กำลังใจเพื่อนคนนั้น อย่าลืมรวมข้อพระคัมภีร์อย่างน้อยหนึ่งข้อให้เพื่อนคนนั้นทำการศึกษา หากเหมาะสม ให้รวมประจักษ์พยานของท่านเกี่ยวกับพระเยซูคริสต์ด้วย การนึกถึงคำกล่าวของประธานเนลสันและคำถามต่อไปนี้อาจช่วยท่านได้ในขณะที่ท่านเขียนข้อความ

  • พวกเขาอาจประสบอะไรบ้างหากเลือกเชื่อในพระผู้ช่วยให้รอด?

  • พวกเขาอาจพลาดสิ่งใดไปหากเลือกที่จะไม่เชื่อ?

  • ท่านจะกระตุ้นให้พวกเขาทำอะไรเพื่อเชื่อในพระเยซูคริสต์?

เป็นพยานว่าขณะที่นักเรียนแสวงหาที่จะทำตามพระผู้ช่วยให้รอดและพยายามขจัดความไม่เชื่อจากชีวิตของตน พวกเขาจะประสบกับสถานพักผ่อนของพระองค์

บทวิจารณ์และข้อมูลภูมิหลัง

ฉันจะมีใจที่เชื่อมากขึ้นได้อย่างไร?

ประธานดีเทอร์ เอฟ. อุคท์ดอร์ฟแห่งฝ่ายประธานสูงสุดในขณะนั้นกล่าวว่า:

19:30
Official portrait of Elder Dieter F. Uchtdorf of the Quorum of the Twelve Apostles, 2006. Called as Second Counselor in the First Presidency, 3 February 2008. Made official portrait in 2008 replacing portrait taken in 2004.

ความเชื่อไม่ได้มาจากแหล่งอัศจรรย์ แต่ ความต้องการ ที่จะเชื่อ เป็น ก้าวแรกที่สำคัญ! พระผู้เป็นเจ้าไม่ทรงลำเอียง พระองค์ทรงเป็นพระบิดาของท่าน พระองค์ทรงประสงค์จะคุยกับท่าน อย่างไรก็ตามจำเป็นต้องมีความใฝ่รู้ทางวิทยาศาสตร์บ้างเล็กน้อย—จำเป็นต้องมีการทดลองพระคำของพระผู้เป็นเจ้า—และใช้ “อนุภาคหนึ่งของศรัทธา” [ แอลมา 32:27 ] ซึ่งเรียกร้องความนอบน้อมถ่อมตนเล็กน้อย เรียกร้องการเปิดใจและความคิด สิ่งนี้ต้องมี การแสวงหา ตามความหมายของคำนั้น และบางทีสิ่งที่ยากที่สุดคือสิ่งนี้เรียกร้องความอดทนและการรอคอยพระเจ้า

ถ้าเราไม่พยายามเชื่อ เราก็เหมือนกับคนที่ถอดปลั๊กไฟดวงใหญ่และจากนั้นก็โทษไฟดวงนั้นว่าไม่ให้แสงสว่าง

(ดีเทอร์ เอฟ. อุคท์ดอร์ฟ, “อย่าวิตก จงเชื่อเท่านั้น,” เลียโฮนา, พ.ย. 2015, 78)

ใครที่สามารถช่วยให้เราค้นพบสถานพักผ่อนของพระผู้ช่วยให้รอด?

เอ็ลเดอร์ดับเบิลยู. เครก ซวิคแห่งสาวกเจ็ดสิบกล่าวว่า:

Official Portrait of Elder W. Craig Zwick. Photographed March 2017.

พระบิดาบนสวรรค์ทรงรักบุตรธิดาแต่ละคนของพระองค์และอยากให้พวกเราทุกคนกลับมาหาพระองค์ พระองค์ประทานศาสดาพยากรณ์และผู้นำฐานะปุโรหิตที่มีสิทธิอำนาจฐานะปุโรหิตที่แท้จริงเพื่อช่วยให้เรายังคงอยู่บนทางคับแคบและแคบ เราจึงมีการนำทางจากผู้นำเหล่านี้เพื่อช่วยให้เราไปสู่สถานพักผ่อนของพระองค์

(ดับเบิลยู. เครก ซวิค, “Enter into the Rest of the Lord,” Ensign, Feb. 2012, 24)

กิจกรรมการเรียนรู้เพิ่มเติม

สถานพักผ่อนของพระเจ้าในพระคัมภีร์มอรมอน

ศาสดาพยากรณ์หลายคนในพระคัมภีร์มอรมอนสอนเรื่องการเข้าไปในสถานพักผ่อนของพระเจ้า นักเรียนอาจได้รับประโยชน์จากการอ่านข้อพระคัมภีร์ต่อไปนี้บางส่วนหรือทั้งหมดและอ้างโยงกับ ฮีบรู 4:3แอลมา 13:12, 16แอลมา 16:16–17แอลมา 60:13โมโรไน 7:3