2010–2019
บัดนี้ถึงเวลาลุกขึ้นและฉายส่อง!
เมษายน 2012


2:3

บัดนี้ถึงเวลาลุกขึ้นและฉายส่อง!

ในฐานะธิดาของพระผู้เป็นเจ้า ท่านเกิดมาเพื่อนำ

จากหน้าต่างในสำนักงานเยาวชนหญิง ดิฉันเห็นวิวพระวิหารซอลท์เลคงามจับตา ทุกวันดิฉันเห็นเทพโมโรไนยืนอยู่บนยอดพระวิหาร เป็นสัญลักษณ์บ่งบอกไม่เพียงศรัทธาของท่านเท่านั้นแต่ของเราด้วย ดิฉันรักโมโรไนเพราะในสังคมที่เสื่อมทรามมาก ท่านยังคงบริสุทธิ์และแน่วแน่ ท่านเป็นวีรบุรุษของดิฉัน ดิฉันรู้สึกว่าท่านยืนอยู่บนยอดพระวิหารเวลานี้ ร้องเรียกเราให้มีความกล้าหาญ จดจำว่าเราเป็นใครและทำตัวให้มีค่าควรเข้าพระวิหารศักดิ์สิทธิ์---ให้ “ลุกขึ้นและฉายส่องออกไป”1 ยืนอยู่เหนือเสียงวุ่นวายของโลก และดังอิสยาห์พยากรณ์ไว้ “มา … ภูเขาของพระเจ้า”2—---พระวิหารศักดิ์สิทธิ์

ผู้มารวมกันที่นี่วันนี้คือธิดาที่เลือกสรรของพระเจ้า ไม่มีกลุ่มอิทธิพลใดยืนหยัดเพื่อความจริงและความชอบธรรมในโลกมากกว่าเยาวชนหญิงและสตรีของศาสนจักรของพระเยซูคริสต์แห่งวิสุทธิชนยุคสุดท้าย ดิฉันเห็นความสง่างามของท่านและรู้ถึงอัตลักษณ์และจุดหมายอันสูงส่งของท่าน ท่านโดดเด่นในการดำรงอยู่ก่อนเกิด เชื้อสายของท่านมาพร้อมพันธสัญญาและสัญญาต่างๆ ท่านสืบทอดคุณลักษณะทางวิญญาณของเหล่าปิตุที่ซื่อสัตย์ อับราฮัม อิสอัค และยาโคบ ศาสดาพยากรณ์ของพระผู้เป็นเจ้าเคยกล่าวถึงท่านผู้มาชุมนุมกันที่นี่คืนนี้ว่าท่านเป็น “ความหวังอันเจิดจ้า”3 ของอนาคต ดิฉันเห็นด้วย! ในโลกที่ท้าทายมาก แสงสว่างของท่านเจิดจ้า นี่คือ “ยุคสมัยที่ไม่อาจลืมเลือน”4 นี่คือยุคสมัย ของท่าน และ บัดนี้ ถึงเวลาที่เยาวชนหญิงทุกแห่งหนจะ “ลุกขึ้นและฉายส่องออกไป, เพื่อแสงสว่างของเจ้าจะเป็นธงให้ประชาชาติ” 5

“ธง (มาตรฐาน) คือเกณฑ์วัดที่ใช้ตัดสินความถูกต้องหรือความสมบูรณ์แบบ”6 เราต้องเป็นมาตรฐานของความบริสุทธิ์ศักดิ์สิทธิ์ให้ชาวโลกเห็น! จุลสาร เพื่อความเข้มแข็งของเยาวชน ฉบับปรับปรุงใหม่ไม่เพียงบอกมาตรฐานให้ดำเนินตามเท่านั้น แต่สัญญาพรไว้ด้วยถ้าท่านทำตาม ถ้อยคำในจุลสารสำคัญเล่มนี้เป็นมาตรฐานสำหรับโลก และการดำเนินชีวิตตามมาตรฐานเหล่านี้จะทำให้ท่านรู้ว่าจะทำอะไรเพื่อเป็นเหมือนพระผู้ช่วยให้รอดมากขึ้นและมีความสุขในโลกที่มืดมนลงทุกที การดำเนินชีวิตตามมาตรฐานในจุลสารเล่มนี้จะช่วยให้ท่านมีคุณสมบัติรับความเป็นเพื่อนที่ยั่งยืนของพระวิญญาณบริสุทธิ์ และในโลกที่ท่านอยู่ ท่านต้องการความเป็นเพื่อนดังกล่าวเพื่อทำการตัดสินใจในเรื่องสำคัญซึ่งจะกำหนดอนาคต ความสำเร็จ และความสุขส่วนใหญ่ของท่าน การดำเนินชีวิตตามมาตรฐานเหล่านี้จะช่วยให้ทุกท่านมีคุณสมบัติเข้าไปในพระวิหารศักดิ์สิทธิ์ของพระเจ้าและรับพรและพลังที่รอท่านอยู่เมื่อท่านทำและรักษาพันธสัญญาศักดิ์สิทธิ์7

เมื่อเอมีบุตรสาวของเรายังเป็นเด็ก เธอชอบมองตามดิฉันทุกฝีก้าวขณะดิฉันเตรียมไปโบสถ์ หลังจากสังเกตกิจวัตรของดิฉัน เธอจะหวีผม แต่งตัว จากนั้นก็จะขอให้ดิฉันทา “ครีมหน้าใส” “ครีมหน้าใส” ที่เธอหมายถึงคือครีมเข้มข้นที่ดิฉันใช้ทากันรอยย่น ดิฉันทาที่แก้มและริมฝีปากให้เอมีตามที่เธอขอ จากนั้นเธอจะยิ้มและพูดว่า “ตอนนี้เราก็ไปได้แล้ว!” สิ่งที่เอมีไม่ทราบคือเธอ “หน้าใส” อยู่แล้ว ใบหน้าเธอส่องสว่างเพราะเธอบริสุทธิ์ ไร้เดียงสา และดี เธอมีพระวิญญาณอยู่กับเธอ และสิ่งนี้ฉายส่องออกมา

ดิฉันปรารถนาให้เยาวชนที่มาชุมนุมกันคืนนี้รู้และเข้าใจว่าความสวยงามของท่าน--- “ความผ่องใส” ของท่าน---ไม่ได้อยู่ที่เครื่องสำอาง ครีมเข้มข้น หรือเสื้อผ้าหรือทรงผมแบบล่าสุด แต่อยู่ที่ความบริสุทธิ์ส่วนตัว เมื่อท่านดำเนินชีวิตตามมาตรฐานและมีคุณสมบัติคู่ควรกับความเป็นเพื่อนที่ยั่งยืนของพระวิญญาณบริสุทธิ์ ท่านจะมีอิทธิพลแรงกล้าในโลก แบบอย่างแม้แสงสว่างในดวงตาท่านจะส่งผลให้ผู้อื่นเห็น “ความผ่องใส” ของท่านและพวกเขาจะอยากเป็นเหมือนท่าน ท่านได้แสงสว่างนี้มาจากไหน พระเจ้าคือความสว่าง “และพระวิญญาณทรงให้ความสว่างมนุษย์ทุกคนทั่วโลก, ผู้ที่สดับฟังสุรเสียงของพระวิญญาณ”8 แสงสวรรค์เข้ามาในดวงตาและสีหน้าของท่านเมื่อท่านใกล้ชิดพระบิดาบนสวรรค์และพระบุตรของพระองค์ พระเยซูคริสต์ นั่นคือวิธีที่เราจะมี “หน้าใส”! นอกจากนี้ เท่าที่ทุกท่านเห็น “ครีมหน้าใส” ไม่ได้ผลกับรอยย่นของดิฉันเลย!

คำร้องขอให้ “ลุกขึ้นและฉายส่องออกไป” เป็นคำร้องขอถึงทุกท่านให้นำชาวโลกในอุดมการณ์อันเกรียงไกร--- ยกมาตรฐาน --- และนำคนรุ่นนี้ในคุณธรรม ความบริสุทธิ์ และความมีค่าควรเข้าพระวิหาร ถ้าท่านปรารถนาจะสร้างความแตกต่างในโลก ท่านต้องต่างจากโลก ดิฉันกล่าวซ้ำถ้อยคำของประธานโจเซฟ เอฟ. สมิธผู้กล่าวแก่สตรีสมัยนี้ว่า “ไม่ใช่เป็นองค์การที่ถูกนำโดย [เยาวชนหญิง] ของโลก แต่เป็นองค์การที่ท่านจะนำ … [เยาวชนหญิง] ของโลก ในทุกเรื่องที่ … ทำให้ลูกหลานมนุษย์บริสุทธิ์”9 ถ้อยคำเหล่านี้เป็นจริงในทุกวันนี้ ในฐานะธิดาของพระผู้เป็นเจ้า ท่านเกิดมาเพื่อนำ

ในโลกที่เราอยู่ ความสามารถในการนำเรียกร้องการนำทางและความเป็นเพื่อนที่ยั่งยืนของพระวิญญาณบริสุทธิ์ผู้จะบอก “สิ่งทั้งปวงที่ท่านควรทำ”10 เมื่อท่านยอมรับและพึ่งพาการนำทางและการกระตุ้นเตือนของพระองค์ เนื่องจากพระวิญญาณบริสุทธิ์ไม่สถิตในวิหารที่ไม่สะอาด เราแต่ละคนจึงต้องสำรวจนิสัยและใจของเรา เราทุกคนต้องเปลี่ยนบางอย่าง --- กลับใจ ดังบิดาของกษัตริย์ลาโมไนกล่าวในพระคัมภีร์มอรมอนว่า “ข้าพระองค์จะทิ้งบาป ทั้งหมด ของข้าพระองค์เพื่อรู้จักพระองค์”11 เรา ท่านและดิฉัน ยินดีทำเช่นเดียวกันหรือไม่

เยาวชนกลุ่มหนึ่งในควีนครีก แอริโซนา ตั้งใจว่าจะ “ลุกขึ้นและฉายส่องออกไป” และนำเยาวชนในชุมชนดำเนินชีวิตตามมาตรฐานใน เพื่อความเข้มแข็งของเยาวชน พวกเขาแต่ละคนเขียนบางอย่างในบันทึกส่วนตัวที่พวกเขารู้สึกว่ากำลังดึงรั้งพวกเขาหรือบางอย่างที่พวกเขาต้องการเปลี่ยนแปลงในชีวิต และจากนั้นก็ขุดหลุมๆ หนึ่ง พวกเขามากันพร้อมหน้า ฉีกบันทึกหน้านั้นทิ้งลงไปในหลุมเฉกเช่นผู้คนของแอมันในพระคัมภีร์มอรมอนฝังอาวุธสงครามของพวกเขา12 ต่อจากนั้นก็ฝังกระดาษเหล่านั้น และวันนั้นพวกเขาให้คำมั่นสัญญาว่าจะเปลี่ยน พวกเขากลับใจ พวกเขาตั้งใจจะลุกขึ้น!

ท่านมีบางอย่างในชีวิตที่ต้องเปลี่ยนหรือไม่ ท่านทำเช่นนี้ได้ ท่านกลับใจได้เพราะเหตุการเสียสละเพื่อการชดใช้อันไม่มีขอบเขตของพระผู้ช่วยให้รอด พระองค์ทรงทำให้ท่านและดิฉันเปลี่ยนได้ บริสุทธิ์และสะอาดอีกครั้ง และเป็นเหมือนพระองค์ พระองค์ทรงสัญญาไว้ว่าเมื่อเราทำเช่นนั้นพระองค์จะไม่ทรงจดจำบาปและความผิดของเราอีก13

บางครั้งดูเหมือนการฉายส่องตลอดเวลาไม่อยู่ในวิสัยที่ทำได้ ท่านเผชิญกับการท้าทายมากมายซึ่งอาจบดบังแหล่งความสว่างทั้งมวล ซึ่งคือพระผู้ช่วยให้รอด บางครั้งหนทางยากลำบาก และบางครั้งเหมือนมีหมอกหนาบดบังความสว่าง กรณีเช่นนี้เกิดกับเยาวชนหญิงชื่อฟลอเรนซ์ แชดวิค ฟลอเรนซ์ค้นพบตั้งแต่อายุ 10 ขวบว่าเธอเป็นนักว่ายน้ำที่มีพรสวรรค์ เธอว่ายข้ามช่องแคบอังกฤษด้วยสถิติ 13 ชั่วโมง 20 นาที ฟลอเรนซ์ชอบความท้าทาย และต่อมาเธอพยายามว่ายระหว่างชายฝั่งแคลิฟอร์เนียร์กับเกาะกาตาลินา – ประมาณ 21 ไมล์ (34 กิโลเมตร) ในการว่ายครั้งนี้เธอเหนื่อยมากหลังจากว่ายไปได้ 15 ชั่วโมง หมอกหนาทำให้เธอมองไม่เห็นชายฝั่ง มารดาเธอนั่งเรือลำหนึ่งตีคู่ไปกับเธอ และฟลอเรนซ์บอกมารดาว่าเธอคิดว่าคงว่ายไม่ถึงฝั่ง มารดาเธอกับครูฝึกกระตุ้นเธอให้ว่ายต่อไป แต่ทั้งหมดที่เธอเห็นคือหมอก เธอเลิกว่าย แต่ทันทีที่ขึ้นเรือ เธอพบว่าเธอเหลืออีกเพียงหนึ่งไมล์ (1.6 ไมล์) ก็จะถึงฝั่งคาตาลินา ต่อมาเมื่อมีคนสัมภาษณ์และถามเธอว่าทำไมเธอเลิกว่ายกลางคัน เธอสารภาพว่าไม่ใช่เพราะน้ำเย็นและระยะทาง เธอกล่าวว่า “ดิฉันพ่ายแพ้เพราะหมอก”14

ต่อมาเธอลองว่ายอีกครั้ง และคราวนี้หมอกหนาเหมือนเดิม แต่เธอยังคงว่ายต่อไปจนถึงฝั่ง คราวนี้เมื่อถามว่าอะไรทำให้ต่างจากครั้งก่อน เธอตอบว่าเธอนึกภาพชายฝั่งไว้ในใจตลอดขณะผ่านหมอกหนาและตลอดระยะทางที่ว่าย15

สำหรับฟลอเรนซ์ แชดวิค ชายฝั่งคือเป้าหมาย สำหรับเราแต่ละคน พระวิหารคือเป้าหมาย เยาวชนหญิงทั้งหลาย จงจับตามอง อย่าละสายตาจากเป้าหมายของท่าน อย่าปล่อยให้หมอกหนาของมลพิษทางศีลธรรมและเสียงรบกวนของโลกทำให้ท่านไม่บรรลุเป้าหมาย ไม่ดำเนินชีวิตตามมาตรฐาน ไม่ได้รับความเป็นเพื่อนของพระวิญญาณบริสุทธิ์ และไม่มีค่าควรเข้าพระวิหารศักดิ์สิทธิ์ จงมีภาพพระวิหาร—พระนิเวศน์ศักดิ์สิทธิ์ของพระผู้ช่วยให้รอด—อยู่ในใจและความคิดท่านเสมอ

หลายสัปดาห์ก่อนดิฉันยืนอยู่ในห้องซีเลสเชียลของพระวิหารรีโน เนวาดา แสงที่ลอดเข้ามาในห้องนั้นเจิดจ้าและเจิดจ้ายิ่งขึ้นเพราะโคมระย้าแก้วเจียระไนสะท้อนแสงออกมาทุกด้านจนกลายเป็นแสงสีรุ้งกระจายทั่วห้อง ดิฉันตื่นเต้นขณะตระหนักว่าพระผู้ช่วยให้รอดทรงเป็น “แสงสว่างและชีวิตของโลก”16 แสงสว่าง ของพระองค์ นั่นเองที่เราต้องชูและสะท้อนออกมา เรา เป็นแก้วเจียระไนเล็กๆ ที่สะท้อนแสงของพระองค์ และเพื่อทำเช่นนั้น เราต้องสะอาดและไม่เปื้อนฝุ่นของโลก ขณะดิฉันยืนอยู่ในพระวิหารวันนั้น ดิฉันได้ยินคำร้องขอของโมโรไนอีกครั้งในใจดิฉันให้เรา --- เหล่าธิดาของไซอัน “ตื่น, และลุกขึ้นจากภัสมธุลี”17 “และไม่แตะต้องของชั่ว, หรือสิ่งไม่สะอาด”18 “ตื่น, และลุกขึ้น …  และสวมอาภรณ์งดงามของท่าน, โอ้ธิดาของไซอัน …  เพื่อพันธสัญญาของพระบิดานิรันดร์ซึ่งพระองค์ทรงกระทำไว้กับท่าน, โอ้เชื้อสายแห่งอิสราเอล, จะเกิดสัมฤทธิผล”19

พรพระวิหารที่สัญญาไว้ไม่เพียงขยายมาถึงท่านเท่านั้นแต่ถึงคนทุกยุคทุกสมัยด้วย เมื่อท่านมีพระวิหารเป็นเป้าหมาย อิทธิพลเพื่อความดีของท่านจะอยู่เหนือกาลเวลาและสถานที่ งานที่ท่านทำให้คนเหล่านั้นผู้ล่วงลับไปก่อนท่านจะเป็นสัมฤทธิผลของคำพยากรณ์!

การประชุมใหญ่สามัญที่ผ่านมาดิฉันตื่นเต้นขณะฟังเอ็ลเดอร์เดวิด เอ. เบดนาร์เชื้อเชิญทุกท่านให้ทุ่มเททำงานพระวิหารและประวัติครอบครัวของท่านสำหรับคนที่ล่วงลับโดยปราศจากพรของพระกิตติคุณที่ได้รับการฟื้นฟูของพระเยซูคริสต์20 ขณะเอ็ลเดอร์เบดนาร์กล่าวคำเชื้อเชิญนี้ถึงท่าน ใจดิฉันลิงโลดอยู่ภายใน ในหลักคำสอนและพันธสัญญาเราอ่านเกี่ยวกับ “วิญญาณเลิศเลออื่นๆ ผู้ที่ทรงเก็บไว้รอให้ออกมาในความสมบูรณ์แห่งเวลาเพื่อมีส่วนในการวางรากฐานของงานยุคสุดท้ายอันสำคัญยิ่ง, รวมทั้งการสร้างพระวิหารทั้งหลายและการประกอบศาสนพิธีในนั้นเพื่อการไถ่คนตาย”21 นี่เป็นยุคสมัยของท่านและงานของท่านเริ่มต้นแล้ว! บัดนี้ถึงเวลาแล้วที่จะมีค่าควรและได้ใบรับรองพระวิหาร เมื่อท่านทำงานนี้ท่านจะกลายเป็นผู้ช่วยให้รอดบนเขาไซอัน22

เอ็ลเดอร์รัสเซลล์ เอ็ม. เนลสันกล่าวถึงท่านว่า “อิทธิพลของเยาวชนหญิงของศาสนจักร เหมือนยักษ์ที่หลับใหล จะตื่น ลุกขึ้น และเป็นแรงใจให้ผู้อยู่อาศัยของแผ่นดินโลกประดุจกองทัพเกรียงไกรสนับสนุนความชอบธรรม” 23 เยาวชนหญิงทั้งหลาย จงลุกขึ้นและเข้าประจำที่ของท่านในงานอันรุ่งโรจน์ที่จะหล่อหลอมอนาคตของท่านและอนาคตของโลก บัดนี้ถึงเวลาแล้ว!

“สูงขึ้นไป ณ ยอดเขา ธงทิวพลิ้วปลิวไสว ประชาชาติต่างค้นหา ทั่วหล้าธงทิวปลิวไป!”24 เยาวชนหญิงทั้งหลาย ท่านคือธงนั้น! จงมีคุณธรรมและบริสุทธิ์ แสวงหาความเป็นเพื่อนของพระวิญญาณบริสุทธิ์ ฝังบาปและการล่วงละเมิดของท่าน จับตามองและอย่าให้หมอกแห่งมลพิษทางศีลธรรมบดบังเป้าหมายของท่าน จงมีค่าควรเข้าพระวิหารตั้งแต่บัดนี้ ทา “ครีมหน้าใส” ของท่าน! ดิฉันเป็นพยานสุดหัวใจว่าพระผู้เป็นเจ้าทรงพระชนม์และพระองค์จะทรงทำให้ชีวิตเราสว่างเมื่อเราใกล้ชิดพระบุตรผู้เป็นที่รักของพระองค์—พระผู้ช่วยให้รอดของเรา พระเยซูคริสต์ ดิฉันสวดอ้อนวอนเฉกเช่นโมโรไนขอให้เรา “ลุกขึ้นและฉายส่องออกไป, เพื่อแสงสว่าง [ของเรา] จะเป็นธงให้ประชาชาติ”!25 ในพระนามอันศักดิ์สิทธิ์ของพระเยซูคริสต์ เอเมน