2010–2019
การเดินทางอันยอดเยี่ยมของท่านกลับบ้าน
เมษายน 2013


2:3

การเดินทางอันยอดเยี่ยมของท่านกลับบ้าน

ขณะที่ท่านมีความสุขในการใช้แผนที่ซึ่งพระบิดาบนสวรรค์ผู้เปี่ยมด้วยความรักทรงเตรียมให้การเดินทางของท่าน แผนที่จะนำท่านไปยังสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ และท่านจะขึ้นไปสู่ศักยภาพแห่งสวรรค์ของท่าน

เรารู้สึกเป็นเกียรติที่ประธานโธมัส เอส. มอนสัน ศาสดาพยากรณ์ผู้เป็นที่รักของเราอยู่กับเราในค่ำคืนนี้ ประธานครับ เราสวดอ้อนวอนให้ท่านเสมอ

พี่น้องสตรีทั้งหลายของข้าพเจ้า ขอบคุณสำหรับบทเพลงและรจนาสาร ทุกอย่างเป็นแรงบันดาลใจและเหมาะสมมากสำหรับเทศกาลอีสเตอร์ ฤดูกาลอันศักดิ์สิทธิ์ที่เราเฉลิมฉลองในสัปดาห์นี้

ช่างเป็นเรื่องที่น่าปีติที่ได้อยู่กับท่าน พี่น้องสตรีที่เยาว์วัยและล้ำค่า พร้อมกับมารดาของท่านและผู้นำที่ยอดเยี่ยมของท่าน ท่านมีวิญญาณที่เบิกบานและรอยยิ้มที่ชวนยิ้มตอบ แน่นอนว่าพระเจ้าทรงเอาพระทัยใส่ท่านและทอดพระเนตรท่านจากสวรรค์ด้วยความรัก

ข้าพเจ้าเติบโตในซวิคเคา ในอดีตเยอรมันตะวันออก เมื่อข้าพเจ้าอายุประมาณ 11 ขวบ คุณพ่อถูกจับตามองเพราะเป็นผู้คัดค้านทางการเมือง และคุณพ่อคุณแม่รู้สึกว่าทางเลือกเดียวที่ปลอดภัยสำหรับครอบครัวเราคือหนีไปเยอรมันตะวันตก เราตัดสินใจว่าแผนที่ปลอดภัยที่สุดคือจะต้องออกเดินทางไปในเวลาที่ต่างกันและเดินทางหลายเส้นทางไปทางตะวันตก ทิ้งทรัพย์สมบัติของเราไว้เบื้องหลัง

เนื่องจากคุณพ่อมีความเสี่ยงมากที่สุด ท่านจึงเลือกเส้นทางที่เร็วที่สุด ผ่านทางเบอร์ลิน พี่ชายของข้าพเจ้าเดินทางไปทางเหนือ และแต่ละคนหาเส้นทางของตนเองที่จะไปทางตะวันตก พี่สาว—ซึ่งมีอายุเท่ากับพวกท่านหลายคนในที่นี้—พร้อมกับเฮลกา ฟาสส์แมนน์ ครูของเธอในเยาวชนหญิง และคนอื่นๆ ขึ้นรถไฟที่ผ่านเยอรมันตะวันตกช่วงสั้นๆ พวกเขาให้เงินพนักงานบนรถไฟเพื่อปลดล็อกประตูหนึ่งบานให้พวกเขา และหลังจากที่รถไฟข้ามชายแดนเยอรมันตะวันตก พวกเขากระโดดจากรถไฟที่กำลังแล่นไปสู่อิสรภาพ ข้าพเจ้าชื่นชมพี่สาวข้าพเจ้าสำหรับความกล้าหาญของเธอจริงๆ

ข้าพเจ้าเป็นลูกคนเล็ก คุณแม่ตัดสินใจว่าท่านกับข้าพเจ้าจะเดินข้ามแนวภูเขาที่กั้นระหว่างสองประเทศ ข้าพเจ้าจำได้ว่าท่านห่ออาหารเที่ยงราวกับว่าเรากำลังจะไปเดินป่าหรือไปปิกนิคบนภูเขา

เราขึ้นรถไฟไปให้ไกลเท่าที่เราทำได้และจากนั้นเดินเป็นเวลาหลายชั่วโมง เข้าไปใกล้ชายแดนเยอรมันตะวันตกมากขึ้น ชายแดนมีการควบคุมแน่นหนา แต่เรามีแผนที่และรู้ว่าเวลาและสถานที่ใดที่อาจจะข้ามได้อย่างปลอดภัย ข้าพเจ้ารู้สึกถึงความตื่นเต้นของคุณแม่ ท่านสังเกตบริเวณอย่างละเอียดเพื่อดูว่าเราถูกตามหรือไม่ แต่ละย่างก้าว ขาและเข่าของคุณแม่ดูเหมือนจะอ่อนแรงลง ข้าพเจ้าช่วยท่านหิ้วกระเป๋าที่หนักซึ่งเต็มไปด้วยอาหาร เอกสารสำคัญ และรูปถ่ายครอบครัวขณะที่เราไต่ขึ้นไปบนเนินเขาอันยาวไกลลูกสุดท้าย ป่านนี้ ท่านคิด เราคงผ่านชายแดนแล้ว ในที่สุดเมื่อท่านรู้สึกว่าปลอดภัย เรานั่งลงและเริ่มรับประทานอาหารปิกนิคกลางวันของเรา เป็นครั้งแรกในวันนั้นที่ข้าพเจ้ามั่นใจว่าท่านหายใจได้อย่างโล่งอก

ในเวลานั้นเองที่เราเห็นป้ายชายแดน ซึ่งอยู่ไกลจากเรามาก เราปิกนิคอยู่ผิดฝั่งของชายแดน เรายังอยู่ในเยอรมันตะวันออก!

ทหารตระเวนชายแดนจะปรากฏตัวได้ทุกขณะ!

คุณแม่ข้าพเจ้าเก็บอาหารเที่ยงอย่างลนลานและเรารีบข้ามเนินเขาไปเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ เวลานี้ เราไม่กล้าหยุดจนกว่าเราจะรู้อย่างแน่นอนว่าเราได้มาถึงอีกฝั่งหนึ่งของชายแดน

ถึงแม้ว่าสมาชิกแต่ละคนในครอบครัวเดินทางไปคนละเส้นทางและประสบกับความยากลำบากที่ต่างกันขณะเดินทาง ในที่สุดเราทุกคนมาถึงอย่างปลอดภัย เรามารวมกันเป็นครอบครัวอีกครั้งหนึ่ง ช่างเป็นวันที่น่ายินดี!

เรื่องราวการเดินทาง

สิ่งที่ข้าพเจ้าเพิ่งบอกท่านเป็นประสบการณ์ซึ่ง สำหรับข้าพเจ้าแล้ว เป็นการเดินทางอันล้ำค่ายิ่ง ในเวลานี้ข้าพเจ้าสามารถมองย้อนกลับไปในชีวิตตนเองและจำได้ถึง “การเดินทาง” แบบนั้นที่ข้าพเจ้ามีในอดีต ไม่ใช่ว่าการเดินทางทุกครั้งจะเกี่ยวข้องกับการข้ามเทือกเขาหรือชายแดนทางการเมือง การเดินทางบางอย่างส่วนใหญ่เกี่ยวกับการเอาชนะการทดสอบหรือการเติบโตทางวิญญาณ แต่ทั้งหมดนั้นคือการเดินทาง ข้าพเจ้าเชื่อว่าชีวิตทุกชีวิตประกอบขึ้นจาก “เรื่องราวการเดินทาง” ของแต่ละบุคคล

ข้าพเจ้าแน่ใจว่าท่านตระหนักถึงประเพณีทางวัฒนธรรมทุกแห่งเต็มไปด้วยเรื่องราวการเดินทาง ตัวอย่างเช่น ท่านอาจคุ้นเคยกับการเดินทางของโดโรธีกับโตโต้ สุนัขของเธอ ใน พ่อมดแห่งออซ โดโรธีกับโตโต้ถูกทอร์นาโดพัดไปและนำไปสู่ดินแดนแห่งออซ ที่นั่นโดโรธีเห็นถนนอิฐสีเหลืองอันโดดเด่นที่เริ่มต้นเส้นทางการเดินทางซึ่งในที่สุดแล้วนำเธอกลับบ้าน

จากนั้นมีอีเบเนเซอร์ สครูจของชาร์ลส์ ดิคเคนส์ ผู้ที่การเดินทางพาเขาไม่ใช่จากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่งแต่จากเวลาหนึ่งไปสู่เวลาหนึ่ง เป็นการเดินทางภายในใจเขาเอง ซึ่งช่วยให้เขาเข้าใจว่าเหตุใดเขากลับกลายเป็นคนอย่างที่เขาเป็นและให้เขามองเห็นว่าเกิดอะไรขึ้นกับเขาถ้าเขายังคงเดินต่อไปบนเส้นทางของความเห็นแก่ตัวและความอกตัญญู1

วรรณกรรมดีเด่นหนึ่งในสี่ของวรรณกรรมจีนคือ การเดินทางสู่ตะวันตก เขียนขึ้นในศตวรรษที่ 16 โดยบอกเรื่องราวการผจญภัยไว้อย่างงดงามและเป็นการจาริกแสวงบุญของพระที่ได้รับความช่วยเหลือจากตัวละครที่เป็นมิตรสี่ตัวละครเพื่อเดินทางไปสู่ความรู้แจ้งทางวิญญาณ

แน่นอนว่ามีบิลโบ แบกกินส์ ฮอบบิทน้อยผู้ไม่อวดตัวซึ่งต้องการที่จะอยู่บ้านและรับประทานซุปของเขา แต่หลังจากเสียงเคาะประตู เขาตามเสียงเรียกจากที่ซึ่งเขาไม่เคยไปและก้าวออกไปสู่โลกพร้อมกับพ่อมดและกลุ่มคนแคระเพื่อทำพันธกิจที่อันตรายแต่สำคัญยิ่ง2

เรื่องราวที่เป็นสากล

เราชอบเรื่องราวของการเดินทางเหล่านี้เพราะเราสามารถเห็นตนเองเป็นนักเดินทางมิใช่หรือ ความสำเร็จและความล้มเหลวของพวกเขาจะช่วยให้เราค้นพบทางของเราเองไปตลอดชีวิต วีดิทัศน์ที่เราชมเมื่อครู่นี้เล่าเรื่องราวการเดินทางที่สวยงามเช่นกัน บางทีเรื่องราวเหล่านี้เตือนเราถึงการเดินทางที่เราทุกคนควรที่จะคุ้นเคย—เรื่องราวการเดินทางที่เราแต่ละคนมีส่วนสำคัญ

เรื่องราวนี้เริ่มต้นนานมาแล้ว นานก่อนที่โลกจะเริ่มหมุนอยู่ในวงโคจรของมัน นานก่อนที่ดวงอาทิตย์จะเริ่มเอื้อมแขนเพลิงไปสู่อวกาศอันหนาวเหน็บ นานก่อนที่สิ่งมีชีวิตใหญ่น้อยครอบครองโลกเรา ในตอนต้นของเรื่องราวนี้ท่านอาศัยอยู่ในสถานที่สวยงามอันแสนไกลโพ้น

เราไม่รู้รายละเอียดมากนักเกี่ยวกับชีวิตในการดำรงอยู่ก่อนเกิด แต่เรารู้อยู่บ้าง พระบิดาบนสวรรค์ของเราทรงเปิดเผยแก่เราว่าพระองค์คือใคร เราคือใคร และเราสามารถเป็นอะไรได้

สมัยที่อยู่ในสถานะแรกนั้น ท่านรู้อย่างแน่นอนว่าพระผู้เป็นเจ้าทรงดำรงอยู่เพราะท่านเห็นและได้ยินสุรเสียงของพระองค์ ท่านรู้จักพระเยซูคริสต์ ผู้ที่จะเป็นพระเมษโปดกของพระผู้เป็นเจ้า ตอนนั้นท่านมีศรัทธาในพระองค์และท่านรู้ว่าจุดหมายปลายทางของท่านไม่ใช่การอยู่ในความปลอดภัยของบ้านก่อนเกิด ยิ่งท่านรักการดำรงอยู่นิรันดร์นั้นมากเพียงใด ท่านก็รู้ว่าท่านต้องการและจำเป็นต้องเริ่มการเดินทาง ท่านจะออกจากพระพาหุของพระบิดา ผ่านม่านลบความทรงจำ รับร่างกายมรรตัย เรียนรู้และประสบกับสิ่งต่างๆ โดยหวังว่าจะช่วยให้ท่านเติบโตเพื่อเป็นเหมือนพระบิดาในสวรรค์มากขึ้นและกลับไปสู่ที่ประทับของพระองค์

ในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์นั้น ห้อมล้อมไปด้วยผู้ที่ท่านรู้จักและรัก มีคำถามเกิดขึ้นในใจว่า “ฉันจะกลับไปยังบ้านบนสวรรค์ได้อย่างปลอดภัยไหม”

มีหลายสิ่งที่ท่านควบคุมไม่ได้ ชีวิตมรรตัยคงจะยากในบางครั้ง เต็มไปด้วยทางโค้งที่ไม่คาดคิดบนเส้นทางซึ่งได้แก่ ความเจ็บป่วย ความเศร้าโศก อุบัติเหตุ ความขัดแย้ง

โดยปราศจากความทรงจำของการดำรงอยู่ก่อนหน้านี้ของท่าน—โดยจำไม่ได้ว่าท่านเคยเดินกับพระบิดาในสวรรค์ของท่าน—ท่านจะยังคงจดจำสุรเสียงของพระองค์ท่ามกลางเสียงและสิ่งล่อใจทั้งปวงของชีวิตมรรตัยไหม

การเดินทางภายหน้าดูเหมือนจะอีกยาวไกลและไม่แน่นอน—เต็มไปด้วยความเสี่ยง

การเดินทางจะไม่ง่าย แต่ท่านทราบว่ามันคุ้มค่ากับความพยายามทั้งหมดของท่าน

ที่นั่นท่านยืนอยู่ที่การเริ่มต้นของนิรันดร ตั้งตาคอยด้วยความตื่นเต้นและความหวังเกินกว่าจะพรรณนาได้—และข้าพเจ้าจินตนาการว่า มีความกังวลและกลัวอยู่บ้าง

ในที่สุด ท่านก็รู้ว่าพระผู้เป็นเจ้าจะทรงเที่ยงธรรม—คุณความดีของพระองค์จะมีชัย ท่านได้มีส่วนร่วมในสภาสวรรค์อันยิ่งใหญ่และรู้ว่าพระผู้ช่วยให้รอดและพระผู้ไถ่ พระเยซูคริสต์ จะทรงเตรียมทางให้ท่านเพื่อจะสะอาดจากบาปและช่วยชีวิตท่านจากความตายทางร่างกาย ท่านมีศรัทธาว่าในที่สุด ท่านจะชื่นชมยินดีและเปล่งเสียงร่วมกับคณะนักร้องประสานเสียงจากสวรรค์ร้องสรรเสริญพระนามอันศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์

ท่านจึงสูดลมหายใจเต็มปอด …

และก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นใจ …

และท่านอยู่ที่นี่!

ท่านแต่ละคนเริ่มการเดินทางอันยอดเยี่ยมของตนเองกลับไปสู่บ้านบนสวรรค์ของท่าน

แผนที่ของท่าน

ในเมื่อเวลานี้ท่านอยู่ที่นี่บนแผ่นดินโลก จะเป็นการฉลาดที่ท่านจะถามตนเองว่าการเดินทางของท่านเป็นอย่างไร ท่านอยู่บนเส้นทางที่ถูกต้องไหม ท่านกำลังจะเป็นคนที่ท่านมุ่งหมายจะเป็นและต้องการเป็นไหม ท่านกำลังทำการเลือกที่จะช่วยให้ท่านกลับไปหาพระบิดาในสวรรค์ไหม

พระองค์ไม่ได้ทรงส่งให้ท่านมาในการเดินทางนี้เพื่อให้ร่อนเร่อย่างไร้จุดหมายด้วยตนเอง พระองค์ทรงประสงค์ให้ท่านกลับบ้านไปหาพระองค์ พระองค์ประทานบิดามารดาผู้รักท่านและผู้นำศาสนจักรที่ซื่อสัตย์ พร้อมแผนที่ให้ท่านซึ่งอธิบายลักษณะภูมิประเทศและบอกถึงอันตราย แผนที่แสดงให้ท่านเห็นว่าสันติสุขและความสุขจะพบได้ที่ใดและจะช่วยให้ท่านวางแผนเส้นทางกลับบ้าน

ทีนี้ ท่านจะพบแผนที่นี้ได้จากที่ใด

  • ในพระคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์

  • ในถ้อยคำของศาสดาพยากรณ์และอัครสาวก

  • และผ่านการเปิดเผยส่วนตัวจากพระวิญญาณบริสุทธิ์

แผนที่นี้คือพระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์ ข่าวประเสริฐ และเป็นวิถีแห่งปีติยินดีของสานุศิษย์ของพระคริสต์ เป็นพระบัญญัติและแบบอย่างที่ประทานแก่เราจากพระผู้วิงวอนและพระผู้ให้คำปรึกษาของเรา ผู้ทรงรู้ทางเพราะพระองค์ทรง เป็น ทางนั้น3

แน่นอน เพียงแต่มีแผนที่ก็ไม่ได้ช่วยอะไรท่านเลยเว้นแต่ท่านจะศึกษาแผนที่—เว้นแต่ท่านใช้แผนที่นำทางชีวิต ข้าพเจ้าเชื้อเชิญท่านให้ความสำคัญสูงสุดแก่การศึกษาและประยุกต์ใช้พระวจนะของพระผู้เป็นเจ้า เปิดใจของท่านให้พระวิญญาณบริสุทธิ์เพื่อพระองค์จะทรงนำท่านตลอดการเดินทางชีวิตของท่าน

แผนที่ของท่านเต็มไปด้วยกำลังใจและข่าวสารที่ดีจากพระบิดาบนสวรรค์ของท่านและพระบุตรของพระองค์ พระเยซูคริสต์ วันนี้ข้าพเจ้าอยากจะแบ่งปันกับท่านถึงข่าวสารสามข้อที่จะช่วยให้ท่านประสบความสำเร็จในการเดินทางกลับบ้านบนสวรรค์ของท่าน

ข่าวสารแรก “อย่ากลัวเลย, เพราะเราพระเจ้าอยู่กับเจ้า”4

ท่านไม่ได้อยู่ตามลำพังบนการเดินทางนี้ พระบิดาบนสวรรค์ทรงรู้จักท่าน ถึงแม้ว่าไม่มีใครฟังท่าน พระองค์ทรงฟังท่าน เมื่อท่านชื่นชมยินดีในความชอบธรรม พระองค์ทรงชื่นชมยินดีกับท่าน เมื่อท่านถูกรุมเร้าด้วยการทดสอบ พระองค์ทรงเศร้าโศกกับท่าน

ความสนพระทัยของพระบิดาบนสวรรค์ในตัวท่านไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่าท่านรวย สวยงาม หรือฉลาดเพียงไร พระองค์ทอดพระเนตรท่านไม่เหมือนกับที่โลกมองท่าน พระองค์ทอดพระเนตรเห็นว่าท่านแท้จริงแล้วเป็นอย่างไร พระองค์ทอดพระเนตรจิตใจ5 และทรงรักท่าน6 เพราะท่านคือลูกของพระองค์

พี่น้องสตรีที่รักทั้งหลาย จงตั้งใจแสวงหาพระองค์ และท่านจะพบพระองค์7

ข้าพเจ้าสัญญากับท่านว่า ท่านไม่ได้อยู่ตามลำพัง

ตอนนี้ขอให้ท่านใช้เวลาสักครู่และมองไปที่ผู้คนรอบข้างท่าน บางคนอาจเป็นผู้นำ เพื่อน หรือสมาชิกครอบครัวของท่าน คนอื่นๆ อาจเป็นคนที่ท่านไม่เคยพบมาก่อน กระนั้น ทุกคนที่ท่านเห็นรอบๆ ตัว—ในการประชุมนี้หรือที่อื่นๆ ในวันนี้หรือในเวลาอื่น—มีความกล้าหาญในโลกก่อนเกิด คนไม่อวดตัวและดูปกติที่นั่งอยู่ข้างท่านอาจเป็นบุคคลอันยิ่งใหญ่ที่ท่านรักและชื่นชมในการดำรงอยู่แห่งวิญญาณ ท่านอาจเคยเป็นแบบอย่างที่ยอดเยี่ยมด้วยตัวของท่านเอง

สิ่งหนึ่งที่ท่านสามารถมั่นใจได้คือ ทุกคนที่ท่านเห็น—ไม่ว่าจะมีเชื้อชาติ ศาสนา ความเชื่อทางการเมือง รูปร่างหรือการแต่งกายเป็นอย่างไร—คือครอบครัว เยาวชนหญิงที่ท่านมองอยู่มีพระบิดาบนสวรรค์องค์เดียวกับท่าน เธอออกจากที่ประทับอันเป็นที่รักของพระองค์อย่างที่ท่านทำ โดยมีความกระตือรือร้นที่จะมาบนแผ่นดินโลกนี้และดำเนินชีวิตเพื่อวันหนึ่งเธอสามารถกลับไปหาพระองค์

อย่างไรก็ตาม เธออาจรู้สึกโดดเดี่ยว เหมือนที่ท่านรู้สึกในบางครั้ง บางครั้งเธออาจลืมจุดประสงค์ของการเดินทาง โปรดเตือนเธอ ผ่านทางคำพูดและการกระทำ ว่าเธอไม่ได้อยู่ตามลำพัง เราอยู่ที่นี่เพื่อช่วยกัน

ชีวิตอาจยากลำบาก และอาจทำให้ใจแข็งกระด้างจนถึงจุดที่บางคนอาจเข้าถึงไม่ได้ บางคนอาจเต็มไปด้วยความโกรธ คนอื่นอาจเยาะเย้ยถากถางผู้ที่เชื่อในพระผู้เป็นเจ้าที่ทรงเปี่ยมด้วยความรัก แต่ให้นึกถึงสิ่งนี้: ถึงแม้พวกเขาจะจำไม่ได้ ครั้งหนึ่งพวกเขาก็โหยหาที่จะกลับไปหาพระบิดาในสวรรค์ของพวกเขาด้วย

นี่ไม่ใช่ความรับผิดชอบของท่านที่จะเปลี่ยนใจเลื่อมใสใคร นั่นคืองานของพระวิญญาณบริสุทธิ์ หน้าที่ของท่านคือแบ่งปันความเชื่อของท่านและต้องไม่กลัว เป็นมิตรกับทุกคน แต่อย่าลดมาตรฐานของท่าน แน่วแน่ต่อความเชื่อมั่นและศรัทธาของท่าน จงยืนหยัดเพราะท่านคือธิดาของพระผู้เป็นเจ้า และพระองค์ทรงยืนอยู่กับท่าน

ข่าวสารที่สอง “รักกันและกันเหมือนอย่างที่เรารักท่าน”8

ท่านเคยสงสัยไหมว่าเราทุกคนพูดภาษาอะไรเมื่อเราอยู่ในที่ประทับของพระผู้เป็นเจ้า ข้าพเจ้าสงสัยยิ่งว่าจะเป็นภาษาเยอรมัน แต่ข้าพเจ้าคิดว่าไม่มีใครรู้อย่างแน่นอนว่าใช่หรือไม่ แต่ข้าพเจ้ารู้ว่าในชีวิตก่อนเกิดเราเรียนรู้โดยตรงจากพระบิดาของวิญญาณเรา ภาษาสากลภาษาหนึ่ง—ภาษาซึ่งมีอำนาจเหนือกว่าขอบเขตทางอารมณ์ ร่างกาย และวิญญาณ

ภาษานั้นคือความรักอันบริสุทธิ์ของพระเยซูคริสต์

เป็นภาษาที่มีพลังมากที่สุดในโลก

ความรักของพระคริสต์ไม่ใช่ความรักที่เสแสร้ง ไม่ใช่ความรักที่เขียนไว้บนการ์ด ไม่ใช่ความรักประเภทที่เยินยอในเพลงยอดนิยมและภาพยนตร์

ความรักนี้ทำให้มีการเปลี่ยนแปลงอุปนิสัยอย่างแท้จริง สามารถแทรกซึมความเกลียดชังและละลายความอิจฉา สามารถเยียวยาความขุ่นเคืองและดับไฟแห่งความขมขื่น สามารถทำให้เกิดปาฏิหาริย์

เราได้รับ “บทเรียนแรกๆ”9 ในภาษาแห่งความรักในฐานะวิญญาณในที่ประทับของพระผู้เป็นเจ้า และที่นี่บนแผ่นดินโลกเรามีโอกาสฝึกฝนภาษานั้นเพื่อให้เชี่ยวชาญ ท่านจะรู้ได้ว่าถ้าท่านกำลังเรียนรู้ภาษาแห่งความรักโดยประเมินว่าสิ่งใดจูงใจความคิดและการกระทำของท่าน

เมื่อความคิดแรกเน้นไปว่าสิ่งนี้จะมีประโยชน์แก่ท่านอย่างไร แรงจูงใจของท่านอาจเป็นความเห็นแก่ตัวและผิวเผิน นี่ไม่ใช่ภาษาที่ท่านอยากเรียนรู้

แต่เมื่อความคิดและพฤติกรรมหลักของท่านเน้นไปที่การรับใช้พระผู้เป็นเจ้าและผู้อื่น—เมื่อท่านปรารถนาอย่างแท้จริงที่จะเป็นพรและยกผู้ที่อยู่รอบข้างท่านขึ้น—เมื่อนั้นอำนาจแห่งความรักอันบริสุทธิ์ของพระคริสต์จะทำงานในจิตใจและชีวิตท่าน นี่คือภาษาที่ท่านอยากเรียนรู้

เมื่อท่านเชี่ยวชาญในภาษานี้และใช้ในปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น พวกเขาจะจำบางสิ่งในตัวท่านที่อาจจะปลุกความรู้สึกที่ซ่อนไว้เป็นเวลานานในพวกเธอเพื่อค้นหาเส้นทางที่ถูกต้องบนการเดินทางกลับไปสู่บ้านบนสวรรค์ของพวกเธอ อย่างไรก็ตาม ภาษาแห่งความรักเป็นภาษาดั้งเดิมที่แท้จริงของพวกเธอ

อิทธิพลอันลึกซึ้งและที่ปฏิบัติตามนี้เป็นภาษาที่เข้าไปถึงจิตวิญญาณ เป็นภาษาแห่งความเข้าใจ ภาษาแห่งการรับใช้ ภาษาแห่งการยกระดับจิตใจ การชื่นชมยินดี และการปลอบโยน

เรียนรู้ที่จะใช้ภาษาสากลแห่งความรักของพระคริสต์

ข่าวสารที่สาม “จงรื่นเริงเถิด”10

บางครั้งเราขาดความอดทนกับจุดที่เราอยู่ในการเดินทาง ใช่หรือไม่ ถ้าท่านอายุ 12 ปี ท่านอาจต้องการมีอายุ 14 ปี เมื่ออายุ 14 ปีท่านอาจต้องการมีอายุ 18 ปี และเมื่ออายุ 18 ปี บางครั้งท่านอาจต้องการมีอายุ 12 ปีอีกครั้งและสามารถเริ่มต้นทั้งหมดอีก

จะมีสิ่งให้บ่นอยู่เสมอ—สิ่งที่ดูเหมือนว่าจะไม่ถูกต้อง ท่านสามารถใช้วันเวลาของท่านที่จะรู้สึกเศร้า เหงา เข้าใจผิด หรือไม่เป็นที่ต้องการ แต่นั้นไม่ใช่การเดินทางที่ท่านคาดหวังไว้ และนั่นไม่ใช่การเดินทางที่พระบิดาบนสวรรค์ทรงส่งให้ท่านมารับ จงจำไว้ว่าท่านคือธิดาที่แท้จริงของพระผู้เป็นเจ้า

ขอให้นึกถึงสิ่งนี้ในใจ ข้าพเจ้าเชื้อเชิญให้ท่านเดินอย่างมั่นใจและมีความสุข ใช่ ถนนเป็นทางขรุขระและทางเบี่ยงและบางครั้งก็มีอันตรายบางประการ แต่อย่าใส่ใจในสิ่งเหล่านั้น มองไปที่ความสุขที่พระบิดาในสวรรค์ของท่านทรงเตรียมให้ท่านในทุกย่างก้าวของการเดินทาง ความสุขคือจุดหมายปลายทาง แต่เป็นเส้นทางด้วยเช่นกัน “สันติสุขในโลกนี้และชีวิตนิรันดร์ในโลกที่จะมาถึง” คือสิ่งที่พระองค์ทรงสัญญา11 นั่นคือสาเหตุที่พระองค์ทรงบัญชาให้เรา “จงรื่นเริงเถิด”

ขณะที่ท่านมีความสุขในการใช้แผนที่ซึ่งพระบิดาบนสวรรค์ผู้เปี่ยมด้วยความรักทรงเตรียมให้การเดินทางของท่าน แผนที่จะนำท่านไปยังสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ และท่านจะขึ้นไปสู่ศักยภาพแห่งสวรรค์ของท่าน ท่านจะเติบโตเป็นธิดาของพระผู้เป็นเจ้าในแบบที่ท่านหวังว่าท่านจะเป็น

พี่น้องสตรี เยาวชนหญิงที่รักของศาสนจักร เพื่อนผู้เยาว์วัย ในฐานะอัครสาวกของพระเจ้า ข้าพเจ้าฝากพรกับท่านเพื่อท่านจะพบเส้นทางของท่านบนการเดินทางกลับบ้านนี้และเพื่อท่านจะเป็นแรงบันดาลใจให้เพื่อนร่วมทางของท่าน ข้าพเจ้าสัญญาและสวดอ้อนวอนว่าขณะที่ท่านให้เกียรติและดำเนินชีวิตอย่างแน่วแน่ต่อพันธสัญญา หลักธรรม และคุณค่าของพระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์ ณ จุดหมายปลายทางแห่งการเดินทางของท่าน พระบิดาบนสวรรค์จะทรงอยู่ที่นั่น พระองค์จะทรงโอบกอดท่าน และท่านจะรู้ว่าในทันทีว่าท่านได้เดินทางกลับบ้านอย่างปลอดภัย ในพระนามของพระเยซูคริสต์ เอเมน