การเปิดเผยต่อเนื่อง
วิจารณญาณของมนุษย์และการคิดตามหลักเหตุผลจะไม่เพียงพอให้ได้คำตอบของคำถามสำคัญที่สุดในชีวิต เราต้องการการเปิดเผยจากพระผู้เป็นเจ้า
ข้าพเจ้าหวังว่าวันนี้พวกเราทุกคนจะรู้สึกถึงความรักและแสงสว่างจากพระผู้เป็นเจ้า วันนี้มีผู้คนมากมายฟังอยู่ ผู้ที่รู้สึกว่าต้องเร่งรับพรแห่งการเปิดเผยส่วนตัวจากพระบิดาบนสวรรค์ที่ทรงเปี่ยมด้วยความรักของเรา
สำหรับประธานคณะเผยแผ่ ท่านอาจสวดวิงวอนขอให้รู้วิธีให้กำลังใจผู้สอนศาสนาที่มีปัญหา สำหรับบิดาหรือมารดาในเขตที่บอบช้ำเพราะสงคราม ท่านจำเป็นต้องรู้ว่าจะย้ายครอบครัวไปอยู่ที่ปลอดภัยหรือจะอยู่ที่เดิม ประธานสเตคและอธิการหลายร้อยคนกำลังสวดอ้อนวอนวันนี้ขอให้รู้วิธีช่วยพระเจ้าช่วยเหลือแกะที่หลงทาง และศาสดาพยากรณ์จะต้องรู้ว่าพระเจ้าทรงประสงค์ให้พูดสิ่งใดต่อศาสนจักรและต่อโลกที่วุ่นวาย
เราทุกคนรู้ว่าวิจารณญาณของมนุษย์และการคิดตามหลักเหตุผลจะไม่เพียงพอให้ได้คำตอบของคำถามสำคัญที่สุดในชีวิต เราต้องการการเปิดเผยจากพระผู้เป็นเจ้า และเราไม่ต้องการเพียงการเปิดเผยเดียวในภาวะตึงเครียด แต่ต้องการต่อเนื่องไม่ขาดสาย เราไม่ต้องการแสงสว่างและการปลอบโยนเพียงแวบเดียว แต่เราต้องการพรต่อเนื่องของการสื่อสารกับพระผู้เป็นเจ้า
การดำรงอยู่ของศาสนจักรเกิดจากเด็กหนุ่มคนหนึ่งที่รู้สิ่งนั้นเป็นความจริง เด็กหนุ่มโจเซฟ สมิธรู้ว่าท่านไม่อาจรู้ด้วยตนเองว่าท่านควรเข้าร่วมศาสนจักรใด ท่านจึงถามพระผู้เป็นเจ้าตามที่หนังสือของยากอบบอกให้ทำ พระผู้เป็นเจ้าพระบิดาและพระบุตรที่รักของพระองค์ทรงปรากฏในป่าแห่งหนึ่ง พระองค์ทรงตอบคำถามที่โจเซฟไม่สามารถตอบได้
ท่านไม่เพียงได้รับเรียกจากพระผู้เป็นเจ้าให้สถาปนาศาสนจักรที่แท้จริงของพระเยซูคริสต์เท่านั้น แต่พร้อมกันนี้ได้ฟื้นฟูอำนาจเพื่อนำมาซึ่งพระวิญญาณบริสุทธิ์เพื่อการเปิดเผยจากพระผู้เป็นเจ้าจะเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ประธานบอยด์ เค. แพคเกอร์อธิบายเครื่องหมายเด่นชัดของศาสนจักรที่แท้จริงทำนองนี้ “การเปิดเผยดำเนินต่อเนื่องในศาสนจักร ศาสดาพยากรณ์ได้รับการเปิดเผยสำหรับศาสนจักร ประธานสำหรับสเตค คณะเผยแผ่ หรือโควรัมของเขา อธิการสำหรับวอร์ด บิดาสำหรับครอบครัว และแต่ละบุคคลสำหรับตนเอง”1
กระบวนการวิเศษสุดของการเปิดเผยเริ่มต้น สิ้นสุด และดำเนินต่อเนื่องเมื่อเราได้รับการเปิดเผยส่วนตัว เราจะใช้นีไฟ บุตรของลีไฮเป็นตัวอย่าง บิดาท่านฝันเห็นบางอย่าง คนอื่นในครอบครัวของนีไฟมองว่าความฝันของลีไฮเกิดจากความสับสนทางจิต ความฝันรวมถึงพระบัญชาจากพระผู้เป็นเจ้าให้บุตรของลีไฮเสี่ยงกลับไปเยรูซาเล็มเพื่อนำแผ่นจารึกซึ่งบันทึกพระวจนะของพระผู้เป็นเจ้ากลับมา ทั้งนี้เพื่อจะได้นำบันทึกไปด้วยขณะเดินทางไปแผ่นดินที่สัญญาไว้
เราอ้างคำประกาศอย่างกล้าหาญของนีไฟบ่อยครั้งเมื่อบิดาขอให้พวกเขากลับไปเยรูซาเล็ม ท่านรู้จักคำเหล่านี้ “ข้าพเจ้าจะไปและทำสิ่งที่พระเจ้าทรงบัญชา”2
เมื่อลีไฮได้ยินนีไฟพูดคำเหล่านั้น พระคัมภีร์กล่าวว่าเขา “ดีใจยิ่งนัก”3 เขาดีใจเพราะรู้ว่านีไฟได้รับการเปิดเผยยืนยันว่าความฝันของบิดาเขาเป็นการสื่อสารจากพระผู้เป็นเจ้าจริง นีไฟไม่ได้กล่าวว่า “ข้าพเจ้าจะไปและทำสิ่งที่บิดาบอกให้ทำ” แต่พูดว่า “ข้าพเจ้าจะไปและทำสิ่งที่พระเจ้าทรงบัญชา”
จากประสบการณ์ในครอบครัวท่าน ท่านรู้เช่นกันว่าเหตุใดลีไฮจึง “ดีใจยิ่งนัก” ปีติของเขามาจากการรู้ว่านีไฟได้รับการเปิดเผยยืนยัน
บิดามารดาจำนวนมากตั้งกฎครอบครัวไว้ว่าลูกวัยรุ่นต้องกลับบ้านกี่โมงตอนกลางคืน แต่ลองนึกถึงปีติเมื่อบิดามารดา เช่นคนหนึ่งทราบเมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมาว่า ลูกที่เพิ่งออกจากบ้านไม่เพียงกำหนดเคอร์ฟิวให้ตนเองเท่านั้นแต่รักษาวันสะบาโตตามที่ได้รับการสอนจากที่บ้านด้วย การเปิดเผยของบิดามารดามีผลยั่งยืนในการเปิดเผยส่วนตัวที่ดำเนินต่อเนื่องในบุตรธิดา
คุณแม่ข้าพเจ้าต้องเข้าใจหลักธรรมแห่งการเปิดเผยแน่นอน สมัยเป็นเยาวชน ข้าพเจ้าจะปิดประตูหลังเบามากเมื่อกลับบ้านดึก ข้าพเจ้าต้องผ่านห้องนอนคุณแม่ก่อนถึงห้องตนเอง ไม่ว่าจะย่องเบาเพียงใดแต่พอถึงประตูห้องคุณแม่ที่แง้มไว้ ข้าพเจ้าจะได้ยินท่านเรียกชื่อข้าพเจ้าเบามาก “ฮัล เข้ามาข้างในหน่อย”
ข้าพเจ้าจะเข้าไปนั่งบนขอบเตียงคุณแม่ ห้องจะมืด ถ้าท่านได้ฟัง ท่านคงคิดว่านั่นเป็นเพียงการพูดคุยฉันมิตรเกี่ยวกับชีวิต แต่ข้าพเจ้าจำสิ่งที่คุณแม่พูดได้อย่างชัดเจนจนถึงทุกวันนี้ มีพลังเหมือนที่ข้าพเจ้ารู้สึกตอนอ่านใบปิตุพรของข้าพเจ้า
ข้าพเจ้าไม่ทราบว่าคุณแม่ขออะไรในคำสวดอ้อนวอนขณะรอข้าพเจ้าคืนนั้น ข้าพเจ้าคิดว่าส่วนหนึ่งคงขอให้ข้าพเจ้าปลอดภัย แต่ข้าพเจ้ามั่นใจว่าคุณแม่สวดอ้อนวอนเช่นเดียวกับผู้ประสาทพรสวดอ้อนวอนก่อนให้พร เขาสวดอ้อนวอนขอให้คำพูดของเขาเป็นดังพระวจนะของพระผู้เป็นเจ้ามาถึงผู้รับ ไม่ใช่ของเขาเอง คำสวดอ้อนวอนขอพรนั้นของคุณแม่ได้รับตอบบนศีรษะข้าพเจ้า คุณแม่อยู่ในโลกวิญญาณมานานกว่า 40 ปีแล้ว ข้าพเจ้ามั่นใจว่าคุณแม่ดีใจยิ่งนักที่ข้าพเจ้าได้รับพร ตามที่ท่านขอ ให้ได้ยินพระบัญชาของพระผู้เป็นเจ้าจากคำแนะนำของท่าน ข้าพเจ้าพยายามไปและทำตามที่คุณแม่หวังไว้
ข้าพเจ้าได้เห็นปาฏิหาริย์แบบเดียวกันของการเปิดเผยต่อเนื่องในประธานสเตคและอธิการในศาสนจักร เช่นเดียวกับการเปิดเผยต่อผู้นำครอบครัว คุณค่าของการเปิดเผยขึ้นอยู่กับผู้ตามที่ได้รับการเปิดเผยยืนยัน
ข้าพเจ้าเห็นปาฏิหาริย์แห่งการเปิดเผยหลังจากเขื่อนเททันในไอดาโฮแตกในปี 1976 หลายท่านทราบเรื่องราวที่เกิดขึ้น แต่แบบอย่างเรื่องการเปิดเผยต่อเนื่องที่ผ่านมาทางประธานสเตคคนหนึ่งจะเป็นพรแก่เราทุกคนในวันข้างหน้า
ผู้คนหลายพันคนต้องอพยพเพราะบ้านถูกทำลาย งานบรรเทาทุกข์ตกอยู่กับประธานสเตคในท้องที่ ซึ่งเป็นชาวนา ข้าพเจ้าอยู่ในห้องเรียนที่วิทยาลัยริคส์สองสามวันหลังเกิดภัยพิบัติ ผู้นำคนหนึ่งจากหน่วยงานภัยพิบัติแห่งชาติมาถึง เขากับผู้ช่วยหัวหน้ามาถึงห้องใหญ่ที่ประธานสเตคประชุมกับอธิการ และแม้กับศาสนาจารย์บางคนของนิกายอื่นในท้องที่ ข้าพเจ้าอยู่ที่นั่นเพราะผู้รอดชีวิตหลายคนได้รับการดูแลและพักอยู่ในรั้ววิทยาลัยที่ข้าพเจ้าเป็นอธิการบดี
ขณะที่การประชุมเริ่ม ตัวแทนจากหน่วยงานภัยพิบัติแห่งชาติยืนขึ้นและเริ่มพูดด้วยเสียงก้องกังวานว่าต้องทำอะไร หลังจากเขาแจ้งภารกิจห้าหกอย่างที่เขาบอกว่าจำเป็น ประธานสเตคตอบเบาๆ ว่า “เราทำไปแล้วครับ”
ไม่กี่นาทีหลังจากนั้น ชายดังกล่าวจากหน่วยงานภัยพิบัติแห่งชาติพูดว่า “ผมคิดว่าผมจะนั่งดูสักครู่” จากนั้นเขากับผู้ช่วยก็นั่งฟังขณะอธิการและประธานโควรัมเอ็ลเดอร์รายงานว่าได้ทำอะไรไปบ้าง พวกเขาอธิบายว่าได้รับคำแนะนำอะไรจากผู้นำและทำตาม พวกเขาพูดด้วยว่าได้รับการดลใจให้ทำอะไรเมื่อพวกเขาทำตามคำแนะนำเพื่อค้นหาหลายครอบครัวและช่วยเหลือคนเหล่านั้น วันนั้นดึกแล้ว ทุกคนเหนื่อยเกินกว่าจะแสดงความรู้สึกใดนอกจากแสดงความรักต่อผู้คน
ประธานสเตคให้คำแนะนำสุดท้ายสองสามข้อกับอธิการ แล้วเขาประกาศเวลาสำหรับประชุมรายงานครั้งต่อไปในเช้าวันรุ่งขึ้น
เช้าวันรุ่งขึ้นหัวหน้าทีมภัยพิบัติแห่งชาติมาถึง 20 นาทีก่อนการประชุมรายงานและมอบหมายงานจะเริ่มตามเวลา ข้าพเจ้ายืนอยู่ใกล้ๆ และได้ยินเขาพูดกับประธานสเตคเบาๆ ว่า “ประธานครับ คุณอยากให้ผมกับสมาชิกในทีมทำอะไรครับ”
สิ่งที่ชายคนนั้นเห็นข้าพเจ้าเห็นมาแล้วในยามเกิดทุกขภัยและการทดสอบทั่วโลก ประธานแพคเกอร์พูดถูก การเปิดเผยต่อเนื่องมาถึงประธานสเตคเพื่อยกพวกเขาให้อยู่เหนือปัญญาและความสามารถของตน นอกจากนั้นพระเจ้ายังได้ทรงมอบพยานยืนยันแก่คนที่ประธานนำว่า คำสั่งของเขามาจากพระผู้เป็นเจ้าผ่านพระวิญญาณบริสุทธิ์ถึงมนุษย์ที่บกพร่อง
ข้าพเจ้าได้รับเรียกมากมายหลายครั้งในชีวิตให้ทำตามผู้นำที่ได้รับการดลใจ สมัยที่อายุยังน้อยมากข้าพเจ้าได้รับเรียกให้เป็นที่ปรึกษาประธานโควรัมเอ็ลเดอร์ ต่อมาได้เป็นที่ปรึกษาของประธานท้องถิ่นสองท่าน และของอธิการควบคุมของศาสนจักร สมาชิกโควรัมอัครสาวกสิบสอง และเป็นที่ปรึกษาของประธานศาสนจักรสองท่าน ข้าพเจ้าได้เห็นการเปิดเผยที่ประทานแก่ท่านเหล่านั้นและยืนยันกับผู้ติดตามพวกท่าน
การเปิดเผยส่วนตัวของการยอมรับเช่นนั้น ซึ่งเราทุกคนปรารถนา เกิดขึ้นไม่ง่าย ทั้งไม่เกิดขึ้นตามที่ขอ พระเจ้าประทานมาตรฐานนี้สำหรับการได้รับพยานเช่นนั้นจากพระผู้เป็นเจ้า ซึ่งเป็นแนวทางสำหรับทุกคนที่แสวงหาการเปิดเผยส่วนตัว เช่นเราทุกคน
“ให้อุทรของท่านเปี่ยมด้วยจิตกุศลต่อมนุษย์ทั้งปวงเช่นกัน, และต่อครอบครัวแห่งศรัทธา, และให้คุณธรรมประดับความนึกคิดของท่านไม่เสื่อมคลาย, เมื่อนั้นความมั่นใจของท่านจะแข็งแกร่งขึ้นในการประทับอยู่ของพระผู้เป็นเจ้า; และหลักคำสอนแห่งฐานะปุโรหิตจะกลั่นลงมาบนจิตวิญญาณท่านดังหยาดน้ำค้างจากฟ้าสวรรค์.
“พระวิญญาณบริสุทธิ์จะเป็นเพื่อนที่ยั่งยืนของท่าน”4
ข้าพเจ้าดึงคำแนะนำจากตรงนั้นมาให้เราทุกคน อย่าประเมินค่าความรู้สึกที่ท่านรักศาสดาพยากรณ์ของพระผู้เป็นเจ้าต่ำไป ไม่ว่าข้าพเจ้าไปที่ใดในศาสนจักร ไม่ว่าศาสดาพยากรณ์เป็นใครในเวลานั้น สมาชิกจะถามว่า “เมื่อท่านกลับไปสำนักงานใหญ่ศาสนจักร ท่านจะกรุณาบอกศาสดาพยากรณ์ได้ไหมว่าพวกเรารักท่านมาก”
สิ่งนี้ยิ่งกว่าการนับถือวีรบุรุษหรือความรู้สึกที่เรามีบางครั้งจากการชื่นชมวีรบุรุษ สิ่งนี้เป็นของประทานจากพระผู้เป็นเจ้า ด้วยเหตุนี้ท่านจะได้รับของประทานแห่งการเปิดเผยยืนยันง่ายขึ้นเมื่อบุคคลนั้นพูดในตำแหน่งศาสดาพยากรณ์ของพระเจ้า ความรักที่ท่านรู้สึกคือความรักที่พระเจ้าทรงมีต่อใครก็ตามที่เป็นกระบอกเสียงของพระองค์
การรู้สึกเช่นนั้นตลอดเวลาไม่ง่ายเลยเพราะพระเจ้ามักจะทรงขอให้ศาสดาพยากรณ์ของพระองค์ให้คำแนะนำที่ผู้คนยอมรับได้ยาก ศัตรูของจิตวิญญาณเราจะพยายามชักนำเราให้ขุ่นเคืองและสงสัยการเรียกศาสดาพยากรณ์จากพระผู้เป็นเจ้า
ข้าพเจ้าเคยเห็นพระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงสัมผัสใจที่อ่อนโยนให้ปกป้องสานุศิษย์ที่ถ่อมตนของพระเยซูคริสต์ด้วยการเปิดเผยยืนยัน
ศาสดาพยากรณ์ส่งข้าพเจ้าไปมอบอำนาจการผนึกอันศักดิ์สิทธิ์ให้ชายคนหนึ่งในเมืองเล็กๆ อันห่างไกล เฉพาะศาสดาพยากรณ์ของพระผู้เป็นเจ้าเท่านั้นที่มีกุญแจตัดสินใจว่าใครพึงได้รับอำนาจศักดิ์สิทธิ์ซึ่งพระเจ้าประทานแก่เปโตรอัครสาวกอาวุโส ข้าพเจ้าได้รับอำนาจการผนึกเดียวกัน แต่โดยการกำกับดูแลของประธานศาสนจักรเท่านั้นจึงจะมอบอำนาจดังกล่าวให้อีกคนหนึ่งได้
ดังนั้น ในห้องหนึ่งในโบสถ์ห่างจากซอลท์เลค ข้าพเจ้าวางมือบนศีรษะชายคนหนึ่งที่ศาสดาพยากรณ์เลือกให้รับอำนาจการผนึก มือเขาปรากฏริ้วรอยของการทำไร่ไถนามาชั่วชีวิตเพื่อความอยู่รอด ภรรยาตัวเล็กๆ นั่งใกล้เขา เธอมีริ้วรอยของการทำงานหนักมาหลายปีเคียงข้างสามีเช่นกัน
ข้าพเจ้าพูดคำที่ศาสดาพยากรณ์ให้มาว่า “ภายใต้การมอบอำนาจและความรับผิดชอบจาก” ตามด้วยชื่อศาสดาพยากรณ์ “ผู้ถือกุญแจทั้งหมดของฐานะปุโรหิตบนแผ่นดินโลกเวลานี้ ข้าพเจ้าประสาทอำนาจการผนึกให้” ข้าพเจ้าเอ่ยชื่อเขาตามด้วยชื่อพระวิหารที่เขาจะรับใช้เป็นผู้ผนึก
น้ำตาไหลอาบแก้มเขา ข้าพเจ้าเห็นภรรยาเขาร้องไห้เช่นกัน ข้าพเจ้ารอให้พวกเขาสงบจิตสงบใจ เธอลุกขึ้นยืน เดินมาหาข้าพเจ้า เงยหน้า และพูดอย่างนอบน้อมว่าเธอมีความสุขแต่เศร้าด้วย เธอบอกว่าเธอชอบไปพระวิหารกับสามี แต่ตอนนี้เธอรู้สึกว่าไม่ควรไปกับเขาเพราะพระผู้เป็นเจ้าทรงเลือกเขาด้วยความไว้วางใจอันศักดิ์สิทธิ์และน่ายินดี เธอกล่าวต่อจากนั้นว่าเธอรู้สึกไม่ดีพอที่จะไปพระวิหารเป็นเพื่อนเขาเพราะเธออ่านไม่ออกและเขียนไม่ได้
ข้าพเจ้ายืนยันว่าสามีเธอจะรู้สึกเป็นเกียรติที่เธออยู่ในพระวิหารกับเขาเพราะพลังทางวิญญาณอันยิ่งใหญ่ของเธอ ข้าพเจ้าบอกเธอด้วยคำศัพท์อันจำกัดที่ข้าพเจ้ามีในภาษาของเธอว่า พระผู้เป็นเจ้าทรงเปิดเผยเรื่องต่างๆ ต่อเธอนอกหนือการศึกษาทางโลกทั้งหมด
เธอรู้โดยของประทานแห่งพระวิญญาณว่าพระผู้เป็นเจ้าทรงวางใจสามีที่เธอรัก ผ่านทางศาสดาพยากรณ์ เธอรู้ด้วยตนเองว่าชายที่เธอไม่เคยเห็น ถือกุญแจในการให้อำนาจการผนึกและรู้ด้วยตนเองว่าชายคนนั้นคือศาสดาพยากรณ์ที่มีชีวิตของพระผู้เป็นเจ้า เธอรู้โดยไม่ต้องมีพยานคนใดบอกว่าศาสดาพยากรณ์ได้สวดอ้อนวอนเกี่ยวกับชื่อของสามีเธอ เธอรู้ด้วยตนเองว่าพระผู้เป็นเจ้าทรงเลือกแล้ว
เธอรู้เช่นกันว่าศาสนพิธีที่สามีเธอจะประกอบจะผูกผู้คนไว้ชั่วนิรันดร์ในอาณาจักรซีเลสเชียล เธอยืนยันต่อความคิดและใจเธอว่าสัญญาที่พระเจ้าทรงทำกับเปโตรยังดำเนินต่อเนื่องในศาสนจักร “สิ่งใดที่ท่านกล่าวห้ามในโลกสิ่งนั้นจะถูกกล่าวห้ามในสวรรค์”5 เธอรู้สิ่งนั้นด้วยตนเองโดยการเปิดเผยจากพระผู้เป็นเจ้า
ขอให้เรากลับไปที่จุดเริ่มต้น “การเปิดเผยดำเนินต่อเนื่องในศาสนจักร ศาสดาพยากรณ์ได้รับการเปิดเผยสำหรับศาสนจักร ประธานสำหรับสเตค คณะเผยแผ่ หรือโควรัมของเขา อธิการสำหรับวอร์ด บิดาสำหรับครอบครัว และแต่ละบุคคลสำหรับตนเอง”6
ข้าพเจ้ากล่าวคำพยานต่อท่านว่านี่เป็นความจริง พระบิดาบนสวรรค์ทรงได้ยินคำสวดอ้อนวอนของท่าน พระองค์ทรงรักท่าน พระองค์ทรงรู้จักชื่อท่าน พระเยซูคือพระคริสต์ พระบุตรของพระผู้เป็นเจ้า พระผู้ไถ่ของเรา พระองค์ทรงรักเราเกินกว่าเราจะเข้าใจได้
พระผู้เป็นเจ้าทรงเทการเปิดเผยผ่านพระวิญญาณบริสุทธิ์มาบนลูกๆ พระองค์ พระองค์ตรัสกับศาสดาพยากรณ์บนแผ่นดินโลก ปัจจุบันคือโธมัส เอส. มอนสัน ข้าพเจ้าเป็นพยานว่าท่านถือและใช้กุญแจทั้งหมดของฐานะปุโรหิตบนแผ่นดินโลก
ขณะฟังคำพูดของผู้ที่พระเจ้าทรงเรียกให้พูดแทนพระองค์ในการประชุมใหญ่ครั้งนี้ ข้าพเจ้าสวดอ้อนวอนขอให้ท่านได้รับการเปิดเผยยืนยันตามที่ต้องการเพื่อพบทางกลับบ้านไปอยู่กับพระองค์ในครอบครัวที่รับการผนึกชั่วนิรันดร์อีกครั้ง ในพระนามอันศักดิ์สิทธิ์ของพระเยซูคริสต์ เอเมน