2010–2019
หนังสือ
ตุลาคม 2014


11:37

หนังสือ

งานพระวิหารและประวัติครอบครัวควรเป็นส่วนที่ทำเป็นประจำในการนมัสการส่วนตัวของเรา

สมัยเป็นลูกเสือวัย 12 ปีข้าพเจ้าได้รับของขวัญเสริมอุปกรณ์ลูกเสือที่อยากได้มาก สิ่งนั้นคือขวานด้ามเล็กที่มีปลอกหนังหุ้ม! ในการปีนเขาวันถัดมา เรามาถึงค่ายพักแรมมืดแล้ว เปียกและหนาวเพราะหิมะตกหนักระหว่างทาง ทั้งหมดที่ข้าพเจ้านึกออกคือก่อไฟกองโต ข้าพเจ้าไปตัดไม้ที่ตกตามพื้นด้วยขวานด้ามใหม่ ขณะตัดไม้ ข้าพเจ้าหงุดหงิดเพราะขวานตัดได้ไม่ดี ในความหงุดหงิดนั้น ข้าพเจ้าทำงานหนักมากขึ้น ข้าพเจ้ากลับไปค่ายพร้อมฟืนเพียงไม่กี่ชิ้นด้วยความผิดหวัง จากแสงไฟของคนอื่นข้าพเจ้ามองเห็นปัญหา ข้าพเจ้าไม่ได้ถอดปลอกขวานออก อย่างไรก็ตาม ข้าพเจ้าขอบอกว่าปลอกถูกตัดเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยไปแล้ว บทเรียนคือ ข้าพเจ้าเขวไปสนใจแต่เรื่องอื่น

ขณะทำงานไปสู่ความสูงส่ง เราต้องทำตามข้อกำหนดทั้งหมดและไม่ยอมให้การจดจ่อกับข้อกำหนดหนึ่งข้อหรือสองข้อหรือสิ่งที่ไม่เกี่ยวข้องมาทำให้เราเขว การแสวงหาอาณาจักรของพระผู้เป็นเจ้านำไปสู่ปีติและความสุข1 หากจำเป็น เราต้องยอม เปลี่ยน การแก้ไขเล็กๆ น้อยๆ บ่อยๆ เจ็บปวดและยุ่งเหยิงน้อยกว่าการแก้ไขครั้งใหญ่

ไม่นานมานี้ข้าพเจ้ากับซิสเตอร์แพคเกอร์เดินทางไปหลายประเทศ เราเตรียมหนังสือเดินทางและเอกสารอื่นๆ เราฉีดวัคซีน ตรวจสุขภาพ ได้วีซ่า และตราประทับ เมื่อเรามาถึง เจ้าหน้าที่ตรวจเอกสารของเรา และเมื่อเป็นไปตามข้อกำหนดทั้งหมด พวกเขาก็อนุญาตให้เราเข้าประเทศ

การมีคุณสมบัติสำหรับความสูงส่งเปรียบเสมือนการเข้าอีกประเทศหนึ่ง เราแต่ละคนต้องได้รับหนังสือเดินทางทางวิญญาณ เราไม่ วาง ข้อกำหนด แต่เราต้องบรรลุข้อกำหนดทั้งหมด แผนแห่งความรอดประกอบด้วยหลักคำสอน กฎ พระบัญญัติ และศาสนพิธีทุกอย่างที่ ทุกคน ต้องทำจึงจะได้รับความสูงส่ง2 จากนั้น “โดยผ่านการชดใช้ของพระ [เยซู] คริสต์, มนุษชาติทั้งมวลจะรอดได้”3 ศาสนจักรให้ความช่วยเหลือแต่ทำให้เราไม่ได้ การมีคุณสมบัติสำหรับความสูงส่งเป็นการแสวงหาตลอดชีวิต

พระคริสต์ทรงจัดตั้งศาสนจักรเพื่อช่วยเรา พระองค์ทรงเรียกชาย 15 คนเป็นศาสดาพยากรณ์ ผู้หยั่งรู้ และผู้เปิดเผยเพื่อนำศาสนจักรและสอนผู้คน ฝ่ายประธานสูงสุด4 และโควรัมอัครสาวกสิบสอง5 มีพลังและสิทธิอำนาจ6 เท่ากันโดยกำหนดให้อัครสาวกอาวุโสเป็นประธานศาสนจักร สาวกเจ็ดสิบได้รับเรียกให้ช่วย7 ผู้นำไม่วางข้อกำหนดของความสูงส่ง พระผู้เป็นเจ้าทรงทำ! ผู้นำเหล่านี้ได้รับเรียกให้สอน อรรถาธิบาย แนะนำ และ เตือน เพื่อให้เราอยู่บนวิถี8

ดังอธิบายไว้ในคู่มือคำแนะนำ “เพื่อให้บรรลุจุดประสงค์ในการช่วยบุคคลและครอบครัวให้คู่ควรแก่การรับความสูงส่ง ศาสนจักรจึงมุ่งเน้นหน้าที่รับผิดชอบที่พระผู้เป็นเจ้าทรงกำหนด อันได้แก่ การช่วยให้สมาชิกดำเนินชีวิตตามพระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์ การรวบรวมอิสราเอลโดยผ่านงานเผยแผ่ศาสนา การดูแลคนยากจนและคนขัดสน ตลอดจนเปิดโอกาสให้คนตายได้รับความรอดโดยการสร้างพระวิหารและประกอบศาสนพิธีแทนคนตาย”9 โดยผ่านการชดใช้ของพระเยซูคริสต์และการทำแต่ละอย่างข้างต้น เรากำลังเพิ่มตราประทับในหนังสือเดินทางทางวิญญาณของเรา

การประชุมใหญ่ครั้งนี้สอนเราเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงที่จะช่วยให้เราทุกคนพร้อมมากขึ้น

ครอบครัวเป็นศูนย์กลางของแผนแห่งความรอดและนี่อาจเป็นสาเหตุที่เรียกอีกอย่างว่า “แผนอันสำคัญยิ่งแห่งความสุข”10 ประธานบอยด์ เค. แพคเกอร์กล่าวไว้ว่า “จุดประสงค์หลักของทุกกิจกรรมในศาสนจักรคือให้ชายคนหนึ่งกับภรรยาและลูกๆ ของเขามีความสุขที่บ้าน”11

ประธานสเป็นเซอร์ ดับเบิลยู. คิมบัลล์กล่าวว่า “ความสำเร็จของเราแต่ละคนและของศาสนจักรส่วนใหญ่จะวัดจากการดูว่าเรามุ่งดำเนินชีวิตตามพระกิตติคุณในบ้านอย่างซื่อสัตย์เพียงใด”12 งานพระวิหารและประวัติครอบครัวเป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินชีวิตตามพระกิตติคุณที่บ้าน และควรเป็นกิจกรรมครอบครัวยิ่งกว่ากิจกรรมศาสนจักร

ฝ่ายประธานสูงสุดและโควรัมอัครสาวกสิบสองเน้นเรื่องงานพระวิหารและประวัติครอบครัวอีกครั้ง13 การขานรับเรื่องนี้จะเพิ่มปีติและความสุขของแต่ละท่านและครอบครัว

จากหลักคำสอนและพันธสัญญาเราอ่านว่า “วันสำคัญยิ่งของพระเจ้าอยู่แค่เอื้อม … ฉะนั้น, ให้เรา, ในฐานะศาสนจักรหนึ่งและผู้คนกลุ่มหนึ่ง, และในฐานะวิสุทธิชนยุคสุดท้าย, ถวายเครื่องถวายบูชาในความชอบธรรมแด่พระเจ้า; และให้เราถวายหนังสือเล่มหนึ่งที่มีบันทึกคนตายของเราในพระนิเวศน์อันศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์, … หนังสือที่มีบันทึกคนตายของเรา, … ซึ่งจะคู่ควรแก่การยอมรับทั้งปวง”14

เราจะเตรียม “หนังสือ” เล่มนี้โดยใช้บันทึกรายชื่อและศาสนพิธีในฐานข้อมูล FamilyTree ของศาสนจักร

ข้าพเจ้ากำลังตรวจสอบและเพิ่มบันทึกเข้ากับฐานข้อมูลนี้เพราะต้องการให้ชื่อของทุกคนที่ข้าพเจ้ารักอยู่ในหนังสือ ท่านล่ะครับ

หลักคำสอนและพันธสัญญาภาค 128 กล่าวว่า “เพราะเราโดยไม่มี [บรรพชนของเรา] พระองค์จะทรงทำให้ดีพร้อมไม่ได้; ทั้งพวกเขาโดยไม่มีเราพระองค์จะทรงทำให้ดีพร้อมไม่ได้”15

ประวัติครอบครัวเป็นมากกว่าการสืบลำดับเชื้อสาย กฎเกณฑ์ รายชื่อ วันที่ และสถานที่ เป็นมากกว่าการมุ่งหาอดีต ประวัติครอบครัวรวมปัจจุบันไว้ด้วยขณะที่เราสร้างประวัติของเราเอง รวมอนาคตด้วยขณะที่เราหล่อหลอมประวัติศาสตร์อนาคตผ่านลูกหลานของเรา ตัวอย่างเช่น การที่คุณแม่วัยสาวเล่าเรื่องครอบครัวและเอารูปครอบครัวให้ลูกๆ ดูคือการทำงานประวัติครอบครัว

เช่นเดียวกับการรับส่วนศีลระลึก เข้าร่วมการประชุม อ่านพระคัมภีร์ และสวดอ้อนวอนส่วนตัว ทำงานพระวิหารและประวัติครอบครัวควรเป็นส่วนที่ทำเป็นประจำในการนมัสการส่วนตัวของเรา การที่เยาวชนของเราและคนอื่นๆ ขานรับคำเชื้อเชิญของศาสดาพยากรณ์ได้สร้างแรงบันดาลใจและพิสูจน์ว่าสมาชิก ทุกคน ทุกวัย งานนี้

ตามที่เอ็ลเดอร์เควนทิน แอล. คุกอธิบาย “[เวลานี้] เรามีหลักคำสอน พระวิหาร และเทคโนโลยี”16 ปัจจุบันการทำงานง่ายขึ้นมาก และจำกัดเฉพาะสมาชิกที่เห็นความสำคัญของสิ่งนี้เท่านั้น งานนี้ยังต้องใช้เวลาและการเสียสละ แต่ ทุกคน ทำได้ และค่อนข้างสะดวกเมื่อเทียบกับไม่กี่ปีก่อน

เพื่อช่วยสมาชิก ศาสนจักรได้รวบรวมบันทึกและจัดเตรียมเครื่องมือให้สามารถทำงานได้มากในบ้านของเราหรือในอาคารวอร์ดและพระวิหาร อุปสรรคส่วนใหญ่หมดไป ไม่ว่า ท่านรับรู้อะไรในอดีต แต่ปัจจุบันต่างกัน!

อย่างไรก็ตาม มีอุปสรรคหนึ่งที่ศาสนจักรจัดการไม่ได้ นั่นคือความลังเลในการทำงาน ทั้งหมดที่เรียกร้องคือตัดสินใจและพยายามสักเล็กน้อย ไม่ต้องใช้เวลามาก ใช้เวลาเพียงเล็กน้อยสม่ำเสมอก็จะทำให้เกิดปีติจากงาน จงตัดสินใจลงมือทำ เรียนรู้ และขอให้คนอื่นช่วย พวกเขาจะช่วย! ชื่อที่ท่านพบและนำไปพระวิหารจะกลายเป็นบันทึกสำหรับ “หนังสือ”17

แม้สมาชิกมีส่วนร่วมเพิ่มขึ้นมาก แต่เราพบว่าสมาชิกที่หาและทำศาสนพิธีให้ครอบครัวของพวกเขาเป็นประจำค่อนข้างน้อย18ขอให้เราเปลี่ยนลำดับความสำคัญของเรา อย่าต้านการเปลี่ยนแปลง จงน้อมรับ! การเปลี่ยนแปลงเป็นส่วนหนึ่งของแผนอันสำคัญยิ่งแห่งความสุข

เราต้องทำงานนี้ ไม่ใช่เพื่อประโยชน์ของศาสนจักรแต่เพื่อคนตายของเราและตัวเราเอง เราและบรรพชนที่ล่วงลับต้องการตราประทับในหนังสือเดินทางทางวิญญาณของเรา

“การเชื่อม”19 ครอบครัวของเราข้ามรุ่นจะเกิดขึ้นได้ในพระวิหารผ่านศาสนพิธีผนึกเท่านั้น ขั้นตอนง่ายมาก เพียงหาหนึ่งชื่อและนำไปพระวิหาร เมื่อเวลาผ่านไปท่านจะสามารถช่วยคนอื่นๆ ทำงานนี้ด้วย

ทุกคน—ทุกคน—ทำงานนี้ได้แทบไม่มีข้อยกเว้น!

มีพรชัดเจนซึ่งมากับงานนี้ พ่อแม่และผู้นำหลายคนเป็นห่วงสภาพโลกปัจจุบันและผลกระทบต่อครอบครัวและเยาวชน

เอ็ลเดอร์เดวิด เอ. เบดนาร์สัญญาไว้ว่า “ข้าพเจ้าเชื้อเชิญให้เยาวชนของศาสนจักรเรียนรู้และมีประสบการณ์ในวิญญาณแห่งเอลียาห์ … ข้าพเจ้าสัญญาว่าท่านจะได้รับความคุ้มครองจากอิทธิพลที่รุนแรงขึ้นของปฏิปักษ์ เมื่อท่านรักและมีส่วนร่วมในงานศักดิ์สิทธิ์นี้ ท่านจะได้รับการปกป้องระหว่างที่ท่านอยู่ในวัยเยาว์และตลอดชีวิตของท่าน”20

พี่น้องทั้งหลาย ถึงเวลาต้องถอดปลอกขวานและไปทำงานแล้ว เราต้องไม่เสียสละความสูงส่งของเราหรือครอบครัวเราเพื่อสิ่งน่าสนใจที่สำคัญน้อยกว่า

นี่คืองานของพระผู้เป็นเจ้า ทำโดยสมาชิกและผู้ไม่ใช่สมาชิกเหมือนกัน ทั้งเด็ก ผู้ใหญ่ ทั้งชายและหญิง

ข้าพเจ้าขอจบด้วยเนื้อร้องข้อแรกของเพลงสวดภาษาอังกฤษบทเพลงที่ 324 โดยเปลี่ยนหนึ่งคำ:

จงลุกขึ้นเถิด โอ้ [วิสุทธิชน] ของพระเจ้า!

เลิกเฝ้าทำสิ่งหาจำเป็นไม่

มอบกำลังความคิดจิตวิญญาณใจ

รับใช้กษัตริย์เหนือกษัตริย์ทั้งปวง21

พระเยซูคริสต์ทรงเป็นพระมหากษัตริย์! ข้าพเจ้าเป็นพยานถึงพระองค์ ในพระนามของพระเยซูคริสต์ เอเมน