ความทุกข์ของเราจะกลับกลายเป็นความชื่นชมยินดี
ข้าพเจ้าขอเชื้อเชิญทุกท่านที่รู้สึกระทมทุกข์ ทุกท่านที่สงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นหลังจากเราตาย จงวางศรัทธาของท่านในพระคริสต์
หลายปีก่อนขณะเข้าร่วมการประชุมในซอลท์เลคซิตี้ รัสเซลล์ เอ็ม. เนลสันศาสดาพยากรณ์ที่รักของเราทักทายข้าพเจ้า ท่านถามอย่างอบอุ่นเป็นกันเองตามแบบฉบับของท่านว่า “มาร์ก คุณแม่คุณเป็นอย่างไรบ้าง?”
ข้าพเจ้าตอบว่าข้าพเจ้าอยู่กับคุณแม่ต้นสัปดาห์นั้นที่บ้านคุณแม่ในนิวซีแลนด์ คุณแม่อายุมากแล้วแต่เปี่ยมด้วยศรัทธาและเป็นแรงบันดาลใจให้ทุกคนที่รู้จัก
แล้วท่านก็บอกว่า “ฝากความรักของผมให้คุณแม่ด้วย … และบอกเธอว่าผมหวังจะได้พบเธออีก”
ข้าพเจ้าค่อนข้างประหลาดใจและถามว่า “ท่านมีแผนจะเดินทางไปนิวซีแลนด์เร็วๆ นี้หรือครับ?”
ท่านตอบด้วยความจริงใจว่า “ไม่หรอกครับ ผมจะพบเธอในชีวิตหน้า”
ไม่มีอะไรเล่นๆ ในคำตอบของท่าน เป็นการพูดข้อเท็จจริงออกมาอย่างเป็นธรรมชาติที่สุด ในช่วงเวลาส่วนตัวที่ไม่ได้ตั้งหลักนั้น ข้าพเจ้าได้ยินและรู้สึกถึงประจักษ์พยานอันบริสุทธิ์จากศาสดาพยากรณ์ที่มีชีวิตว่า ชีวิตดำเนินต่อไปหลังความตาย
สุดสัปดาห์การประชุมใหญ่นี้ ท่านจะได้ยินอัครสาวกและศาสดาพยากรณ์ที่มีชีวิตเป็นพยานถึงการฟื้นคืนพระชนม์ของพระเยซูคริสต์ “หลักธรรมพื้นฐานของศาสนาเราคือประจักษ์พยานของเหล่าอัครสาวกและศาสดาพยากรณ์เกี่ยวกับพระเยซูคริสต์ว่าพระองค์สิ้นพระชนม์ ทรงถูกฝัง ทรงคืนพระชนม์อีกครั้งในวันที่สาม … เรื่องอื่นทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับศาสนาเราล้วนเป็นเพียงส่วนประกอบของ [ความจริงนี้]”1 ข้าพเจ้าสัญญาว่าเมื่อท่านฟังด้วยเจตนาแท้จริง พระวิญญาณจะทรงยืนยันความจริงของประจักษ์พยานเหล่านี้ในความนึกคิดและในใจท่าน2
อัครสาวกสมัยโบราณของพระเยซูเปลี่ยนไปตลอดกาลหลังจากพระองค์ทรงปรากฏต่อพวกเขาหลังสิ้นพระชนม์ สิบคนในนั้นเห็นด้วยตาตนเองว่าพระองค์ฟื้นคืนพระชนม์แล้ว โธมัสซึ่งไม่ได้อยู่แต่แรกประกาศว่า “ถ้าข้าไม่เห็น … ข้าจะไม่เชื่อเลย”3 ต่อมาพระเยซูทรงตักเตือนโธมัสว่า “อย่าสงสัยเลย แต่จงเชื่อ”4 จากนั้นพระเจ้าทรงสอนบทบาทสำคัญของศรัทธาว่า: “คนที่ ไม่ เห็นเราแต่เชื่อก็เป็นสุข”5
พระเจ้าผู้ฟื้นคืนพระชนม์ทรงมอบหน้าที่ให้อัครสาวกเป็นพยานถึงพระองค์ เช่นเดียวกับอัครสาวกที่มีชีวิตอยู่ในปัจจุบัน ท่านเหล่านั้นทิ้งอาชีพการงานไว้เบื้องหลังและใช้ชีวิตที่เหลือประกาศอย่างองอาจว่าพระผู้เป็นเจ้าทรงยกพระเยซูองค์นี้ให้ฟื้นขึ้นมา ประจักษ์พยานอันทรงพลังของเหล่าอัครสาวกทำให้หลายพันคนยอมรับคำเชื้อเชิญให้รับบัพติศมา6
ข่าวสารอันน่ายินดีของเช้าอีสเตอร์เป็นศูนย์กลางของศาสนาคริสต์ทุกนิกาย พระเยซูคริสต์ทรงลุกขึ้นจากบรรดาคนตาย เพราะเหตุนี้เราจึงจะมีชีวิตอีกครั้งหลังความตายด้วย ความรู้นี้ให้ความหมายและจุดประสงค์แก่ชีวิตเรา ถ้าเราเดินหน้าด้วยศรัทธา เราจะเปลี่ยนไปตลอดกาลเช่นเดียวกับอัครสาวกสมัยก่อน เราจะสามารถอดทนต่อความยากลำบากด้วยศรัทธาในพระเยซูคริสต์เฉกเช่นท่านเหล่านั้น ศรัทธานี้ให้ความหวังแก่เราเช่นกันในช่วงเวลาที่ “ความทุกข์ [ของเรา] จะกลับกลายเป็นความชื่นชมยินดี”7
ศรัทธาของข้าพเจ้าเองก็มีจุดเริ่มต้นหลังจากมีทุกข์
คุณพ่อคุณแม่ข้าพเจ้าเป็นเจ้าของฟาร์มแกะในนิวซีแลนด์8 พวกท่านมีความสุขกับชีวิต สมัยเป็นคู่แต่งงานวัยหนุ่มสาว พวกท่านมีลูกสาวตัวน้อยสามคน คนเล็กสุดชื่อแอนน์ วันหนึ่งขณะครอบครัวใช้วันหยุดด้วยกันที่ทะเลสาบ แอนน์วัย 17 เดือนเดินเตาะแตะออกไป หลังจากหากันอยู่หลายนาที ร่างไร้ชีวิตของเธอถูกพบอยู่ในน้ำ
ฝันร้ายครั้งนี้ทำให้เกิดความทุกข์จนบรรยายไม่ได้ หลายปีต่อมาคุณพ่อเขียนว่าเสียงหัวเราะบางส่วนหายไปจากชีวิตพวกเขาตลอดกาล ทั้งยังเป็นเหตุให้โหยหาคำตอบให้แก่คำถามสำคัญที่สุดของชีวิตว่า: แอนน์ที่รักของเราจะเป็นอย่างไร? เราจะได้พบเธออีกหรือไม่? ครอบครัวเราจะมีความสุขอีกครั้งได้อย่างไร?
หลายปีหลังจากเหตุการณ์น่าสลดใจครั้งนี้ ผู้สอนศาสนาหนุ่มสองคนจากศาสนจักรของพระเยซูคริสต์แห่งวิสุทธิชนยุคสุดท้ายมาที่ฟาร์มของเรา พวกเขาเริ่มสอนความจริงที่พบในพระคัมภีร์มอรมอนและพระคัมภีร์ไบเบิล ความจริงเหล่านี้รวมถึงการรับรองว่าตอนนี้แอนน์อยู่ในโลกวิญญาณ เพราะการฟื้นคืนพระชนม์ของพระเยซูคริสต์ เธอจะฟื้นคืนชีวิตด้วย พวกเขาสอนว่าศาสนจักรของพระเยซูคริสต์ได้รับการฟื้นฟูบนแผ่นดินโลกอีกครั้งพร้อมด้วยศาสดาพยากรณ์และอัครสาวกสิบสองที่มีชีวิต พวกเขาสอนหลักคำสอนที่วิเศษยอดเยี่ยมว่าครอบครัวสามารถผูกมัดไว้ด้วยกันตลอดกาลด้วยสิทธิอำนาจฐานะปุโรหิตเดียวกันกับที่พระเยซูคริสต์ประทานแก่เปโตรหัวหน้าอัครสาวกของพระองค์9
คุณแม่รับรู้ถึงความจริงทันทีและได้รับพยานจากพระวิญญาณ แต่คุณพ่อต่อสู้ระหว่างความสงสัยกับการกระตุ้นเตือนทางวิญญาณจนปีต่อมา ท่านลังเลที่จะเปลี่ยนวิถีชีวิตด้วย เช้าวันหนึ่งหลังจากนอนไม่หลับทั้งคืน ขณะเดินวนไปมา ท่านหันมาหาคุณแม่และพูดว่า “ผมจะรับบัพติศมาวันนี้ ไม่อย่างนั้นก็ไม่รับเลย”
คุณแม่บอกผู้สอนศาสนาว่าเกิดอะไรขึ้น และพวกเขารับรู้ทันทีว่าศรัทธาริบหรี่ของคุณพ่อจะจุดติดหรือไม่ก็ดับไปเลยในตอนนี้
เช้าวันนั้นครอบครัวเราเดินทางไปยังชายหาดที่ใกล้ที่สุด เด็กๆ อย่างเราไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น เรานั่งปิกนิกกันบนเนินทรายขณะเอ็ลเดอร์บอยด์ กรีนและเอ็ลเดอร์แกรีย์ เชฟฟีลด์พาคุณพ่อคุณแม่ลงไปในทะเลและให้บัพติศมาท่าน เพื่อแสดงศรัทธาเพิ่มเติม คุณพ่อให้คำมั่นกับพระเจ้าเป็นการส่วนตัวว่าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ท่านจะซื่อตรงตลอดชีวิตต่อสัญญาที่ท่านทำ
หนึ่งปีต่อมาพระวิหารได้รับการอุทิศในแฮมิลตัน นิวซีแลนด์ ไม่นานหลังจากนั้นครอบครัวเรากับคนที่เป็นตัวแทนของแอนน์คุกเข่ารอบแท่นบูชาในพระนิเวศศักดิ์สิทธิ์ของพระเจ้าแห่งนั้น ที่นั่น เรารวมกันเป็นครอบครัวนิรันดร์ในศาสนพิธีศักดิ์สิทธิ์และเรียบง่ายโดยสิทธิอำนาจฐานะปุโรหิต สิ่งนี้ทำให้เรามีสันติและชื่นชมยินดีอย่างยิ่ง
หลายปีต่อมาคุณพ่อบอกข้าพเจ้าว่าถ้าไม่ใช่เพราะความตายอันน่าเศร้าของแอนน์ ท่านคงไม่มีวันนอบน้อมพอจะยอมรับพระกิตติคุณที่ได้รับการฟื้นฟู แต่พระวิญญาณของพระเจ้าค่อยๆ หยอดความหวังว่าสิ่งที่ผู้สอนศาสนาสอนเป็นความจริง ศรัทธาของคุณพ่อคุณแม่เติบโตเรื่อยๆ จนไฟประจักษ์พยานลุกไหม้และชี้นำการตัดสินใจทุกเรื่องในชีวิตพวกท่านแบบไม่อวดตัวอย่างเงียบๆ
ข้าพเจ้าจะขอบคุณตลอดไปสำหรับแบบอย่างของคุณพ่อคุณแม่ต่อคนรุ่นต่อๆ ไป เราไม่มีทางวัดจำนวนชีวิตที่เปลี่ยนไปตลอดกาลเพราะการกระทำแห่งศรัทธาของพวกท่านในการรับมือกับความทุกข์แสนสาหัส
ข้าพเจ้าขอเชื้อเชิญทุกท่านที่รู้สึกระทมทุกข์ ทุกท่านที่ต่อสู้กับความสงสัย ทุกท่านที่สงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นหลังจากเราตาย จงวางศรัทธาของท่านในพระคริสต์ ข้าพเจ้าสัญญาว่าถ้าท่าน ปรารถนา จะเชื่อ แล้ว กระทำ ด้วยศรัทธาและ ทำตาม เสียงกระซิบของพระวิญญาณ ท่านจะพบความชื่นชมยินดีในชีวิตนี้และในโลกที่จะมาถึง
ข้าพเจ้าตั้งตารอวันที่จะได้พบแอนน์พี่สาวข้าพเจ้า ตั้งตารอที่จะได้อยู่กับคุณพ่อผู้สิ้นชีวิตเมื่อ 30 กว่าปีที่แล้วอีกครั้งด้วยความชื่นชมยินดี ข้าพเจ้าเป็นพยานถึงความชื่นชมยินดีในการดำเนินชีวิตด้วยศรัทธา การ เชื่อโดยไม่ได้เห็น แต่รู้โดยอำนาจของพระวิญญาณบริสุทธิ์ว่าพระเยซูคริสต์ทรงพระชนม์ ข้าพเจ้าเลือกติดตามพระเยซูคริสต์และพระกิตติคุณที่ได้รับการฟื้นฟูด้วยสุดใจและสุดจิตวิญญาณ สิ่งนี้เป็นพรแก่ชีวิตทุกด้านของข้าพเจ้า ข้าพเจ้ารู้ว่าพระเยซูคือพระคริสต์ พระบุตรของพระผู้เป็นเจ้า พระผู้ช่วยให้รอดและพระผู้ไถ่ของเรา ในพระนามของพระเยซูคริสต์ เอเมน