เอ็ลเดอร์จอห์น ซี. พิงกรี จูเนียร์
สาวกเจ็ดสิบเจ้าหน้าที่ชั้นผู้ใหญ่
“ประจักษ์พยานของผมเพิ่มขึ้นทีละน้อยตลอดเวลาที่ผ่านมาโดยการได้รับคำตอบของคำสวดอ้อนวอน การรู้สึกถึงพระวิญญาณขณะอ่านพระคัมภีร์ การกลับใจและรับใช้พระเจ้า” เอ็ลเดอร์จอห์น ซี. พิงกรี จูเนียร์ผู้ได้รับการสนับสนุนเป็นสาวกเจ็ดสิบเจ้าหน้าที่ชั้นผู้ใหญ่วันที่ 1 เมษายน ปี 2017 กล่าว
เอ็ลเดอร์พิงกรีเกิดเมื่อปี 1966 ในซอลท์เลคซิตี้ ยูทาห์ สหรัฐอเมริกา เป็นบุตรของคาร์เม็นกับจอห์น ซี. พิงกรี ซีเนียร์ ท่านยกย่องการอุทิศตนของบิดามารดาในการช่วยหล่อหลอมชีวิตท่าน
“วันรุ่งขึ้นหลังจากผมเกิด คุณพ่อเขียนจดหมายให้ผม” เอ็ลเดอร์พิงกรีกล่าว “ท่านเก็บจดหมายนั้นไว้ และต่อมาเมื่อผมไปรับใช้งานเผยแผ่เต็มเวลา ท่านส่งจดหมายนั้นให้ผม จดหมายมีประจักษ์พยานของท่านหลายหน้าและบทเรียนที่ท่านต้องการให้ผมเรียนรู้ในช่วงชีวิตของผม ขณะอ่าน พระวิญญาณเป็นพยานต่อผมว่าสิ่งที่พ่อแม่สอนผมเกี่ยวกับพระกิตติคุณที่ได้รับการฟื้นฟูของพระเยซูคริสต์เป็นความจริง”
เอ็ลเดอร์พิงกรีรับใช้ในคณะเผยแผ่แมสซาชูเซตส์ บอสตันที่พูดภาษาสเปน
ท่านได้รับปริญญาสาขาภาษาอังกฤษและรัฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยแห่งยูทาห์และปริญญาโทบริหารธุรกิจจากคณะธุรกิจฮาวาร์ด ท่านแต่งงานกับแอนน์ พักสลีย์ในเดือนมีนาคมปี 1990 และมีบุตรห้าคน
งานอาชีพส่วนใหญ่ของท่านเน้นเรื่องการช่วยเหลือผู้อื่น ท่านเป็นประธานองค์กรช่วยเหลือเพื่อมนุษยธรรมด้านการแพทย์และรองประธานบริษัทที่ดำเนินงานด้านสุขภาพสองแห่ง
ท่านเป็นประธานคณะเผยแผ่เทกซัส ฮิวสตันตั้งแต่ปี 2011 ถึง 2014 และเคยรับใช้เป็นสาวกเจ็ดสิบภาค ประธานสเตค อธิการ ประธานโควรัมเอ็ลเดอร์ ครูสถาบันและเซมินารี
“พระเจ้าตรัสว่า ‘หากเจ้าปรารถนา, เจ้าจะเป็นวิถีทางแห่งการทำดีมากมายในคนรุ่นนี้’ (คพ. 11:8)” เอ็ลเดอร์พิงกรีกล่าว “สำหรับผม พระเจ้ากำลังตรัสว่า ‘เราสามารถใช้เจ้าทำประโยชน์บางอย่างในชีวิตผู้อื่น หากเจ้าจะยอมให้เราใช้’ หากเรามองหาโอกาส พระบิดาบนสวรรค์จะทรงใช้เราเป็นพรแก่ผู้อื่น”