ขอให้เรา แบ่งปัน ความรู้ของเราเรื่องพระผู้ช่วยให้รอด
จากคำปราศรัยการประชุมใหญ่ของสตรีมหาวิทยาลัยบริคัมยังก์เรื่อง “ความรู้เรื่องพระผู้ช่วยให้รอด” เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม ค.ศ. 2017
ข่าวสารของเราเป็นข่าวสารแห่งสันติสุข และท่านเป็นผู้ส่งสารที่สั่งสอนข่าวสารนั้น ท่านส่งสารนี้ได้โดยผ่านช่องทางใหม่ที่น่าตื่นเต้นของเทคโนโลยี
เราเป็นศาสนจักรของพระเยซูคริสต์ที่ได้รับการสถาปนาในยุคสุดท้าย เรามีหน้าที่ในยุคสุดท้ายแบบเดียวกับที่พระเจ้าทรงแนะนำเหล่าสาวกสมัยโบราณของพระองค์ให้ “ออกไปทั่วโลกประกาศข่าวประเสริฐแก่มนุษย์ทุกคน” (มาระโก 16:15)
นีไฟศาสดาพยากรณ์สมัยโบราณสรุปพันธกิจนี้ ข่าวสาร และวัตถุประสงค์ที่อยู่เบื้องหลังไว้อย่างกระชับว่า “เราพูดถึงพระคริสต์, เราชื่นชมยินดีในพระคริสต์, เราสั่งสอนเรื่องพระคริสต์, เราพยากรณ์ถึงพระคริสต์, และเราเขียนตามคำพยากรณ์ของเรา, เพื่อลูกหลานของเราจะรู้ว่าพวกเขาจะมองหาแหล่งใดเพื่อการปลดบาปของพวกเขา” (2 นีไฟ 25:26)
ในหนังสือของโมไซยาห์ เราอ่านว่ากษัตริย์เบ็นจามินศาสดาพยากรณ์โบราณสมัยพระคัมภีร์มอรมอนให้ผู้คนทั่วแผ่นดินมารวมกันที่พระวิหาร ให้สร้างหอสูง และสอนพวกเขา ขณะสอนพวกเขา ท่านพยากรณ์ต่อพวกเขาเกี่ยวกับสมัยของเราด้วยว่า “และยิ่งกว่านั้น, ข้าพเจ้ากล่าวแก่ท่าน, ว่าเวลาจะมาถึงเมื่อความรู้เรื่องพระผู้ช่วยให้รอดจะแผ่ไปทั่วทุกประชาชาติ, ตระกูล, ภาษา, และผู้คน” (โมไซยาห์ 3:20)
“ความรู้เรื่องพระผู้ช่วยให้รอด”
ของประทานล้ำค่าที่สุดอย่างหนึ่งที่พึงรักษาไว้ในครอบครัวเราและมอบให้ผู้อื่นคือ “ความรู้เรื่องพระผู้ช่วยให้รอด” หรือเรื่องพระเยซูคริสต์
ความเรืองปัญญาของมนุษยชาติและความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยีที่เกิดขึ้นเร็วมากมาพร้อมการเปิดสมัยการประทานความสมบูรณ์แห่งเวลา มาพร้อมกับยุคอุตสาหกรรมและเครื่องมือสื่อสารอันส่งผลให้คำพยากรณ์ของกษัตริย์เบ็นจามินเกิดสัมฤทธิผล
ในฐานะสมาชิกคนหนึ่งของโควรัมอัครสาวกสิบสองผู้ได้รับเรียกให้เป็นพยานพิเศษ “ถึงพระนามของพระคริสต์ในทั่วโลก” (คพ. 107:23) พร้อมด้วยงานมอบหมายจำเพาะเจาะจงทั้งในคณะกรรมการประชาสัมพันธ์และบริการสื่อสาร ข้าพเจ้าสามารถมุ่งเน้นสัมฤทธิผลแห่งคำพยากรณ์นี้—ที่ว่า “ความรู้เรื่องพระผู้ช่วยให้รอด” จะเผยแพร่ไปทั่วโลก—โดยใช้เทคโนโลยีล่าสุดที่มีให้เรา
“ทั่วทุกประชาชาติ ตระกูล ภาษา และผู้คน”
ความก้าวหน้าด้านการพิมพ์และนวัตกรรมด้านวิทยุโทรทัศน์ทำให้ข่าวสารแห่งการฟื้นฟูไปทั่วโลกได้ เราพบตัวอย่างมากมายของเรื่องนี้ บางเรื่องอยู่ในความทรงจำของเรา
ภายใน 10 ปีของนิมิตแรก และเดือนก่อนจัดตั้งศาสนจักร พระคัมภีร์มอรมอนจัดพิมพ์ออกมา 5,000 เล่ม และพิมพ์เกิน 175 ล้านเล่มนับจากนั้นเป็นต้นมา
ทุกเช้าวันอาทิตย์ ท่านจะได้ฟังหรือชมการถ่ายทอด บทเพลงและรจนาสาร ซึ่งถ่ายทอดไปแล้วกว่า 5,000 ครั้ง การถ่ายทอดครั้งแรกที่เกิดขึ้นเป็นการถ่ายทอดสดทางวิทยุในปี 1929 การถ่ายทอดการประชุมใหญ่สามัญครั้งแรกทางโทรทัศน์เกิดขึ้นในปี 1949
น่าสนใจตรงที่ในปี 1966 ประธานเดวิด โอ. แมคเคย์ (1873–1970) เริ่มพูดถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นว่า “การค้นพบที่แฝงไว้ด้วยพลังมหาศาลเช่นนั้น ไม่ว่าเป็นพรหรือเพื่อทำลายมนุษย์ ได้วางความรับผิดชอบมโหฬารที่สุดไว้ในมือมนุษย์ในการควบคุมสิ่งเหล่านั้น … ยุคนี้เต็มไปด้วยภยันตรายไร้ขีดจำกัด เช่นเดียวกับความเป็นไปได้นับไม่ถ้วน”1
ในปี 1974 ประธานสเป็นเซอร์ ดับเบิลยู. คิมบัลล์ (1895–1985) พูดถึงวิสัยทัศน์ของท่านเกี่ยวกับยุคที่จะมาถึงว่า “พระเจ้าประทานพรชาวโลกด้วยดาวเทียม … จำนวนมาก ดาวเทียมเหล่านั้นโคจรในท้องฟ้าโดยส่งสัญญาณถ่ายทอดกลับมาบนพื้นผิวโลกเกือบทุกภูมิภาค แน่นอนว่าดาวเทียมเหล่านี้เป็นเพียงแหล่งกำเนิดของสิ่งที่สะสมไว้เพื่อการถ่ายทอดทั่วโลกในอนาคต … ข้าพเจ้าเชื่อว่าพระเจ้ากังวลพระทัยอย่างยิ่งจึงได้นำนวัตกรรมซึ่งคนธรรมดาอย่างเราแทบนึกไม่ถึงมาใส่ไว้ในมือเรา”2
เนื่องด้วยความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยีในการสื่อสารและสื่อที่ส่วนใหญ่ตามหลังอินเทอร์เน็ตมาติดๆ จึงดูเหมือนว่าเราได้เห็นสัมฤทธิผลในคำพยากรณ์ของกษัตริย์เบ็นจามิน ประธานแมคเคย์ และประธานคิมบัลล์ในช่วงชีวิตของเรา
มีรูปแบบที่ชัดเจนของการนำเทคโนโลยีเหล่านี้มาใช้สร้างอาณาจักรของพระเจ้าบนแผ่นดินโลกเช่นกัน ข้าพเจ้าประสงค์จะแบ่งปันตัวอย่างของรูปแบบนี้กับท่าน
LDS.org และ Mormon.org
คริสต์ศักราช 1996 ศาสนจักรเริ่มใช้เว็บเป็นสื่อนำส่งข้อความและการสื่อสารอย่างเป็นทางการ นับแต่นั้นเป็นต้นมาจึงเริ่มแนะนำเว็บไซต์ของศาสนจักรประมาณ 260 เว็บ รวมทั้งไซต์ที่มีให้ใช้ในเกือบทุกประเทศที่มีสมาชิกของศาสนจักรในภาษาท้องถิ่นของพวกเขา
ข้าพเจ้าขอยกตัวอย่างสองเว็บไซต์ที่เราคุ้นเคย เว็บไซต์แรกคือ LDS.org เปิดให้ใช้ในปี 1996 ซึ่งปัจจุบันมีผู้เยี่ยมชมใหม่ๆ เข้ามาปีละ 24 ล้านกว่าคนและเฉลี่ยสัปดาห์ละ 1 ล้านกว่าคน สมาชิกจำนวนมากหาหลักสูตรการสอนและคำพูดการประชุมใหญ่สามัญที่ผ่านมาได้ที่นี่ เว็บไซต์ที่สองคือ Mormon.org เว็บไซต์ที่ออกแบบไว้แนะนำพระกิตติคุณกับเพื่อนบ้านและมิตรสหายที่ไม่ได้เป็นสมาชิกของศาสนจักร ไซต์ดังกล่าวมีผู้เยี่ยมชมปีละ 16 ล้านกว่าคน
แอปพลิเคชันมือถือ
แน่นอนว่าเทคโนโลยีมีวิวัฒนาการเร็วมาก เราจึงต้องมีแผนรับมือและพยายามตามให้ทัน พลังความสามารถในการควบคุมและเข้าถึงข้อมูลจำนวนมหาศาลในอุปกรณ์มือถือเกิดขึ้นพร้อมกับนวัตกรรมของสมาร์ทโฟน ข้อมูลนี้ส่วนใหญ่จัดระบบในรูปแบบแอปพลิเคชันมือถือหรือ “apps” แอปพลิเคชันแรกของศาสนจักรเปิดใช้ในปี 2007
มีตัวอย่างมากมายของการใช้ประโยชน์จากแอปพลิเคชันมือถือเพื่อเผยแพร่ “ความรู้เรื่องพระผู้ช่วยให้รอด” ข้าพเจ้าจะไม่พูดถึงเนื้อหาของหลายๆ แอปพลิเคชันที่อยู่ปลายนิ้วของท่าน แต่ต่อไปนี้เป็นตัวอย่างที่ท่านน่าจะคุ้นเคย
-
คลังค้นคว้าพระกิตติคุณ
-
Mormon Channel
-
LDS Tools
-
LDS Music
-
Family Tree
แอปพลิเคชันเหล่านี้มีผู้ใช้สัปดาห์ละหลายล้านคน
สื่อสังคม
สื่อสังคมตามนิยามคือเทคโนโลยีที่อาศัยคอมพิวเตอร์เป็นสื่อกลาง ที่ยอมให้แต่ละบุคคลและองค์กรเข้ามาดู สร้าง และแบ่งปันข้อมูล แนวคิด และรูปแบบการแสดงออกอื่นๆ ผ่านการสื่อสารและเครือข่ายเสมือนจริง
ศาสนจักรเริ่มใช้สื่อสังคมอย่างจริงจังราวต้นปี 2010 เพื่อทำให้การเผยแพร่ “ความรู้เรื่องพระผู้ช่วยให้รอด” บรรลุผลสำเร็จ นี่เป็นการสื่อสารดิจิทัลแบบเคลื่อนที่เร็วและทนทาน ความเร็วของการเปลี่ยนแปลงแทบไม่มีสิ่งใดเทียบได้
ลักษณะที่สังเกตได้อย่างหนึ่งของสื่อสังคมคือทันทีที่รู้สึกคุ้นเคยหรือถนัดแพลตฟอร์มหนึ่งแล้ว แพลตฟอร์มที่ใหม่กว่า ใหญ่กว่า หรือดีกว่าหรือใช้ประโยชน์ได้มากกว่าจะออกมา
ข้าพเจ้าจะอธิบายพอสังเขปเกี่ยวกับแพลตฟอร์มสื่อสังคมที่ศาสนจักรกำลังใช้เป็นช่องทางการสื่อสาร
1. เฟซบุ๊กมีผู้ใช้ทั่วโลกมากกว่า 2 พันล้านคน ผู้ใช้สร้างเครือข่ายสังคมเพื่อนออนไลน์ของตนบนนั้น
2. อินสตาแกรมเป็นไซต์สังคมที่เน้นรูปภาพและวีดิทัศน์
3. Pinterest เปรียบเหมือนกระดานข่าวเสมือนจริง ภาพในนั้นที่เรียกว่า “pins” ถูกปักไว้บนบอร์ด อาจเป็นข้อความที่สร้างแรงบันดาลใจหรือภาพถ่ายที่น่าสนใจ
4. ทวิตเตอร์เป็นเครือข่ายสังคมที่ทำให้ผู้ใช้สามารถส่งและอ่านข้อความสั้นๆ ไม่เกิน 280 ตัวอักษรเรียกว่า “tweets”
5. สแน็ปแช็ทเน้นภาพถ่ายและวีดิทัศน์สั้นๆ ซึ่งหายไปทันทีหรือไม่ก็ภายใน 24 ชั่วโมง
เรากำลังใช้ไซต์สื่อสังคมเหล่านี้อย่างมีประสิทธิภาพ
เฟซบุ๊ก
ท่านน่าจะจำข่าวสารการประชุมใหญ่ที่ละเอียดอ่อนเรื่องโรคซึมเศร้าซึ่งเอ็ลเดอร์เจฟฟรีย์ อาร์. ฮอลแลนด์แห่งโควรัมอัครสาวกสิบสองให้ไว้เมื่อสามสี่ปีก่อน3 ศาสนจักรได้จัดทำวีดิทัศน์จากคำพูดของท่านที่มีผู้ชมมากกว่าสองล้านคนทางเฟซบุ๊กอย่างเดียว มีหลายพันคนคลิกไลค์ แบ่งปัน และแสดงความคิดเห็นเชิงบวก4
อินสตาแกรม
ในเดือนสิงหาคม ปี 2016 ประธานดีเทอร์ เอฟ. อุคท์ดอร์ฟโพสต์วีดิทัศน์บนอินสตาแกรมกำลังสอนหลักธรรมพระกิตติคุณให้เอริคหลานชายของท่านใน—ท่านคงเดาออก—ห้องนักบินของเครื่องบิน!5 หลายพันคนชื่นชอบโพสต์อินสตาแกรมของประธานอุคท์ดอร์ฟ และแสดงความคิดเห็นเชิงบวกมากมาย
ในเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 2017 ในบัญชีอินสตาแกรมของศาสนจักรลงวีดิทัศน์ของเอ็ลเดอร์ดัลลิน เอช. โอ๊คส์และเอ็ลเดอร์เอ็ม. รัสเซลล์ บัลลาร์ดด้วยซึ่งตอบคำถามของหญิงสาวเกี่ยวกับการรับใช้เป็นผู้สอนศาสนาของสตรี โพสต์นี้มีผู้เข้าชมกว่า 112,000 คน
บน Pinterest เราสามารถหา pins ได้หลายร้อยจาก LDS.org และหาได้มากกว่านั้นจากสมาชิกแต่ละคนเพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้คนอื่นๆ ตัวอย่างเช่น
หลายคนแบ่งปันถ้อยคำของศาสดาพยากรณ์—ทั้งในอดีตและปัจจุบัน pin คำสอนของประธานโธมัส เอส. มอนสันอ่านได้ว่า “ทั้งหมดในชีวิตขึ้นอยู่กับเจตคติของเรา”6
ทวิตเตอร์
ทวีตที่เอ็ลเดอร์เดวิด เอ. เบดนาร์แห่งโควรัมอัครสาวกสิบสองแบ่งปันในเช้าอีสเตอร์ปี ที่แล้ว มียอดผู้ชม 210,000 ครั้ง เอ็ลเดอร์เบดนาร์แสดงให้เห็นว่าข่าวสารสั้นๆ และเรียบง่ายนี้ “พระองค์ไม่ได้อยู่ที่นี่ เพราะทรงเป็นขึ้นมาแล้ว” (มัทธิว 28:6) สามารถมีผลลึกซึ้งและยั่งยืน
สแน็ปแช็ท
สุดท้าย รูปภาพและถ้อยคำแบ่งปันข่าวสารจากฝ่ายประธานสูงสุดของประธานมอนสันปรากฎบนสแน็ปแช็ทเมื่อเร็วๆ นี้
ความเสี่ยงที่เกี่ยวข้อง
หลังจากชื่นชมคุณสมบัติอันดีทั้งหลายทั้งปวงของเทคโนโลยีใหม่ๆ เหล่านี้และยกตัวอย่างการใช้ที่เหมาะสมแล้ว ข้าพเจ้าคิดว่าน่าจะพูดถึงความเสี่ยงบางประการที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีเหล่านี้ด้วย
เราทุกคนควรตระหนักถึงเวลาที่สามารถสิ้นเปลืองไปกับสื่อสังคมหรือแอปพลิเคชันมือถือ การใช้สื่อสังคมเสี่ยงต่อการทำให้ปฏิสัมพันธ์ตรงหน้าลดลงเช่นกัน ซึ่งอาจจะหยุดยั้งการพัฒนาทักษะทางสังคมของคนหนุ่มสาวจำนวนมากของเรา
เราควรเน้นอันตรายเกี่ยวกับเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม การเสพสื่อลามกระบาดมากขึ้นในสังคม ซึ่งส่งผลลบและทำให้แม้กระทั่งสมาชิกศาสนจักรและครอบครัวตกเป็นเหยื่อ
สุดท้ายนี้ ข้าพเจ้าจะพูดถึงความเสี่ยงเกิดใหม่อีกสองประการ ซึ่งเครือข่ายของมันมีผลต่อทุกคน รวมถึงเยาวชนหญิงตลอดจนมารดาและภรรยายุคสหัสวรรษด้วย ข้าพเจ้าเรียกความเสี่ยงสองประการนี้ว่า “ความเป็นจริงที่ดูสมบูรณ์แบบ” และ “ผลงานที่ผิดคาด” ข้าพเจ้าคิดว่าวิธีอธิบายความเสี่ยงทั้งสองนี้ได้ดีที่สุดคือยกตัวอย่าง
กล่าวโดยทั่วไป รูปภาพที่โพสต์บนสื่อสังคมมักแสดงให้เห็นส่วนดีที่สุดของชีวิตและมักไม่อยู่ในความเป็นจริง บ่อยครั้งเต็มไปด้วยภาพสวยงามของการตกแต่งบ้าน จุดพักร้อนที่งดงาม และการเตรียมอาหารที่ละเอียดซับซ้อน แน่นอนว่าอันตรายคือคนจำนวนมากหมดกำลังใจเพราะดูเหมือนพวกเขาเทียบไม่ติดกับสภาพความเป็นจริงที่ดูสมบูรณ์แบบ
Pin เค้กวันเกิดรูป “แพนเค้ก” เป็นแรงบันดาลใจให้หลานสาวข้าพเจ้าโพสต์ภาพขณะเธอพยายามทำเแพนเค้ก แทนที่จะยอมให้สิ่งนี้สร้างแรงกดดันที่ไม่เหมาะสม เธอกลับตัดสินใจสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้อื่นโดยโพสต์ “Pinterest ความล้มเหลว” (ดูรูปแพนเค้ก) ของเธอ
หวังเป็นอย่างยิ่งว่าเราจะฝึกหาอารมณ์ขันมากขึ้นและหาความท้อใจน้อยลงเมื่อเจอภาพที่อาจแสดงความเป็นจริงที่ดูสมบูรณ์แบบและมักจะทำให้เกิดผลงานที่ผิดคาด
เห็นได้ชัดว่าทั้งหมดนี้ไม่เพียงเป็นเครื่องหมายของยุคสมัยเราเท่านั้นแต่เป็นเครื่องหมายในอดีตกาลด้วยโดยวัดจากถ้อยคำของเปาโล “แต่เมื่อพวกเขาเอาตัวเองเป็นเครื่องวัด … และเอาตัวเองเปรียบเทียบกันและกันแล้ว พวกเขาก็ปราศจากความเข้าใจ” (2 โครินธ์ 10:12)
เมื่อไม่นานมานี้เอ็ลเดอร์เจ. เดฟน์ คอร์นิชแห่งสาวกเจ็ดสิบให้คำแนะนำที่เหมาะกับยุคสมัยเช่นกัน “เราบีบคั้นตัวเราอย่างไม่จำเป็นโดยการเปรียบเทียบและการแข่งขัน เราตัดสินค่าของตัวเราอย่างผิดๆ จาก สิ่ง ที่เรามีหรือไม่มีและจาก ความคิดเห็นของผู้อื่น ถ้าเราต้องเปรียบเทียบ ขอให้เราเปรียบเทียบว่าเราเป็นอย่างในอดีตกับเราเป็นอย่างไรในปัจจุบัน—และเปรียบเทียบว่าเราต้องการเป็นอย่างไรในอนาคต”7
ข้าพเจ้าขอพูดถึงความลับอย่างหนึ่งของครอบครัวเรา ซึ่งพบในภาพครอบครัวภาพนี้ที่ถ่าย (อยู่หน้าถัดไป) เมื่อหลายปีก่อน ก่อนที่จะมีสื่อสังคม ถ้าถ่ายภาพนี้ในปัจจุบัน ภาพคงจะโพสต์ให้เห็นครอบครัวที่มีลูกชายน่ารักสี่คนสวมเสื้อผ้าสีเข้ากัน เรียบร้อย และกำลังมีความสุขกับโอกาสที่ครอบครัวได้ถ่ายภาพกันพร้อมหน้า ท่านต้องการทราบเรื่องจริงหรือไม่
ข้าพเจ้ายังจำโทรศัพท์จากภรรยาข้าพเจ้าได้ “แกรีย์ คุณอยู่ไหนคะ ตอนนี้เราอยู่ที่สตูดิโอกลางแจ้งของช่างภาพ เราทุกคนพร้อมถ่ายรูปแล้ว กว่าจะจับลูกชายสี่คนแต่งตัวให้เข้ากันและพร้อมถ่ายรูปนี่ไม่ง่ายเลย ใกล้ถึงหรือยังคะ”
ข้าพเจ้าลืมและยังไม่ได้ออกจากที่ทำงาน! ข้าพเจ้าสายไปครึ่งชั่วโมงและสถานการณ์ไม่ราบรื่นขณะข้าพเจ้าไม่อยู่ เรียกได้ว่าปั่นป่วนไปหมด
เกิดอะไรขึ้นหรือ ลูกชายคนโตของข้าพเจ้าวิ่งไปทั่วสนาม พบต้นแอปเปิ้ล เด็ดแอปเปิ้ลและเริ่มปาใส่น้องๆ เขาปาแอปเปิ้ลใส่หลังลูกชายคนที่สามของเรา ทำให้เขาล้ม และเขาเริ่มร้องไห้
ระหว่างนั้น ขณะเกิดเหตุการณ์นี้ ลูกชายคนที่สองของเรานั่งลงทำให้ชายกางเกงขายาวของเขาเลิกขึ้นเล็กน้อย ลูกชายคนอื่นๆ เห็นถุงเท้าของเขาเป็นถุงเท้านักกีฬาสีขาว ไม่ใช่ถุงเท้าไปโบสถ์ที่แม่ของเขาวางไว้ให้เขาสวม เธอจึงถามเขาว่า “ทำไมลูกไม่สวมถุงเท้าไปโบสถ์”
เขาตอบว่า “ก็ผมไม่ชอบนี่ครับ มันหยาบ”
ขณะที่เธอกำลังคุยกับเขา ลูกชายวัยสองขวบของเราวิ่งไปทั่วสนาม สะดุดบางอย่าง ล้ม และเลือดออกที่จมูก ตอนนี้มีเลือดหยดลงบนเสื้อคอเต่าสีขาวของเขา ทำให้เสื้อเปื้อน นั่นคือตอนที่ข้าพเจ้าไปถึงพอดี วิธีเดียวที่จะให้ภาพออกมาดีคือกลับคอเต่าไปไว้ด้านหลังเพื่อซ่อนคราบเลือดไว้
ผลปรากฏว่าขณะลูกชายคนโตวิ่งเล่นไปทั่วและปาแอปเปิ้ล เขาล้มและเข่าเป็นรอยเปื้อนหญ้ารอยใหญ่ ด้วยเหตุนี้ในรูปจึงเห็นเขาวางแขนทับรอยเปื้อนหญ้า
ส่วนลูกชายคนที่สามของเรา เราต้องรอ 20 นาทีกว่าตาของเขาจะหายแดงจากการร้องไห้
ตอนนี้คราบเลือดอยู่ด้านหลังเสื้อของลูกชายคนเล็กของเรา
ลูกชายคนที่สองของเราต้องเอามือบังถุงเท้ากีฬาสีขาวเพื่อให้ทุกอย่างลงตัว
ส่วนข้าพเจ้าแกรีย์มีปัญหากับภรรยาเพราะการมาสายของข้าพเจ้าเป็นเหตุให้เกิดเรื่องทั้งหมดนี้
ดังนั้นเมื่อท่านเห็นภาพครอบครัวที่สวยงามนี้ของเราและครวญครางว่า “ทำไมเราถ่ายรูปครอบครัวให้ดูดีแบบนี้ไม่ได้” ทุกท่านรู้ดีกว่านั้น!
สื่อสังคมและงานเผยแผ่ศาสนา
ตามที่ท่านมองเห็น เราต้องคำนึงถึงอันตรายและความเสี่ยง รวมถึงความเป็นจริงที่ดูสมบูรณ์แบบและผลงานที่ผิดคาด โลกมักจะไม่สดใสเท่าที่ปรากฏบนสื่อสังคม กระนั้นก็ตาม มีเรื่องดีๆ มากมายและจะผ่านมาทางแพลตฟอร์มการสื่อสารเหล่านี้
แผนกผู้สอนศาสนาให้คำแนะนำใหม่ในปี 2017 เกี่ยวกับวิธีใช้สื่อสังคมในงานเผยแผ่ศาสนา แหล่งข้อมูลดิจิทัลมากมายมีให้เราใช้ในวิธีที่มีประสิทธิภาพ เรียบง่าย ใช้ง่าย และเกิดประสิทธิผลสูงสุด
มีแอปพลิเคชันมากมายให้ใช้เทคโนโลยีอย่างเหมาะสมและสร้างแรงบันดาลใจ เราควรทำสุดความสามารถเพื่อสอนคนรุ่นใหม่ให้ใช้เทคโนโลยีอย่างชอบธรรมอีกทั้งเตือนและป้องกันการใช้ที่ไม่เหมาะไม่ควร และอันตรายที่เกี่ยวข้องเช่นกัน ทั้งนี้ควรช่วยให้เรามั่นใจว่าประโยชน์ของเทคโนโลยีจะมากกว่าความเสี่ยงที่เกี่ยวข้อง
“ผู้ส่งสารช่างงดงามเหลือเกิน”
ในช่วงที่ข้าพเจ้ากำลังไตร่ตรองและสวดอ้อนวอนอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับข่าวสารนี้ ข้าพเจ้าตื่นนอนตอนเช้าตรู่วันหนึ่งพลางนึกถึงเพลงและเนื้อร้องที่เรียบง่ายของเพลงนั้น “ผู้ส่งสารที่สั่งสอนพระกิตติคุณแห่งสันติแก่เราช่างงดงามเหลือเกิน”8
ข่าวสารของเราเป็นข่าวสารแห่งสันติ และท่านเป็นผู้ส่งสารที่งดงามผู้สั่งสอนข่าวสารนั้น ท่านทำเช่นนี้ได้ผ่านช่องทางใหม่ที่น่าตื่นเต้นเหล่านี้ของเทคโนโลยี เราอยู่ในโลกที่หาใดเปรียบได้ในความสมบูรณ์แห่งเวลาพร้อมด้วยความสามารถในการสั่งสอนพระกิตติคุณแห่งสันติที่ปลายนิ้วของเรา
เรามีถ้อยคำของศาสดาพยากรณ์สมัยโบราณ ซึ่งบอกลักษณะของยุคนี้ได้อย่างสมบูรณ์และให้การนำทางสำหรับสมัยของเราดังนี้ “และยิ่งกว่านั้น, ข้าพเจ้ากล่าวแก่ท่าน, ว่าเวลาจะมาถึงเมื่อความรู้เรื่องพระผู้ช่วยให้รอดจะแผ่ไปทั่วทุกประชาชาติ, ตระกูล, ภาษา, และผู้คน” (โมไซยาห์ 3:20)
เรามีถ้อยคำที่มาถึงเราผ่านการเปิดเผยยุคปัจจุบันด้วย โดยพูดถึงและให้แนวทางสำหรับยุคสมัยและสภาวการณ์ของเรา ข้าพเจ้าขออ้างอิงคำพูดของเอ็ลเดอร์เบดนาร์ “ข้าพเจ้าเชื่อว่าถึงเวลาแล้วที่เราเหล่าสานุศิษย์ของพระคริสต์จะใช้เครื่องมือที่ได้รับการดลใจเหล่านี้อย่างเหมาะสมและมีประสิทธิภาพมากขึ้นเพื่อเป็นพยานถึงพระผู้เป็นเจ้าพระบิดานิรันดร์ แผนแห่งความสุขของพระองค์สำหรับบุตรธิดาของพระองค์ และพระบุตรของพระองค์ พระเยซูคริสต์ ในฐานะพระผู้ช่วยให้รอดของโลก เพื่อประกาศความจริงของการฟื้นฟูพระกิตติคุณในยุคสุดท้าย และเพื่อทำงานของพระเจ้าให้สำเร็จลุล่วง”9
ข้าพเจ้าเชื้อเชิญให้ทุกท่านพิจารณาบทบาทของท่านอย่างจริงจังในการสั่งสอนพระกิตติคุณแห่งสันติในฐานะผู้ส่งสารที่งดงาม ขอให้เราแต่ละคนทำส่วนของเราเพื่อแบ่งปัน “ความรู้เรื่องพระผู้ช่วยให้รอด” กับทุกประชาชาติ ตระกูล ภาษา และผู้คน วิธีดีที่สุดที่เราทำสิ่งนี้ได้คือค่อยๆ ทำไปและทำในวิธีที่ได้ผลที่สุดสำหรับท่านและครอบครัวท่าน ขอให้แต่ละท่านกล้าสร้างบล็อก ปักหมุด กดไลค์ แบ่งปัน โพสต์ เป็นเพื่อน ทวีต สแน็ป และใช้แอปพลิเคชันต่างๆ ในวิธีที่จะยกย่อง ให้เกียรติ และเคารพพระประสงค์ของพระบิดาบนสวรรค์ผู้ทรงรักเราและนำความรู้เรื่องพระผู้ช่วยให้รอดไปให้ครอบครัวท่าน คนที่ท่านรัก และมิตรสหาย—รวมทั้งเพื่อนบนสื่อสังคมเช่นกัน