สละชีวิตที่ดิฉันวางแผนไว้
จีนเนตต์ ค็อกซ์ รัฐเทกซัส สหรัฐอเมริกา
เมื่อดิฉันอายุราวหกหรือเจ็ดขวบ ดิฉันรู้ว่าดิฉันต้องการเป็นนักวิทยาศาสตร์ทางทะเล ดิฉันจดจ่อกับเป้าหมาย ทำงานหนัก และเข้าเรียนวิทยาลัยที่ดี ดิฉันเรียนสัตววิทยาหลายหลักสูตรและชอบ แต่เมื่อศึกษามากขึ้น ดิฉันกลับหลงใหลร่างกายมนุษย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในระดับเซลล์ ดิฉันตัดสินใจเป็นนักพยาธิวิทยา
ไม่นานก็พบสามีในอนาคต เราตัดสินใจแต่งงานกัน การมีครอบครัวเป็นแผนส่วนหนึ่งของดิฉันเสมอ แต่แม้จะทราบว่าดิฉันสามารถเป็นแพทย์ที่ดีและเป็นมารดาที่ดีได้ แต่ก็รู้สึกว่าดิฉันไม่สามารถดีได้ทั้งสองอย่างในเวลาเดียวกัน เพราะครอบครัวเป็นส่วนสำคัญยิ่งในแผนแห่งความรอดของพระเจ้า ดิฉันจึงตัดสินใจเป็นมารดาก่อน ดิฉันคิดคำนวณว่าทันทีที่ลูกๆ ไปโรงเรียน ดิฉันจะกลับไปเรียนต่อ
เมื่อลูกคนเล็กเข้าอนุบาล ดิฉันเริ่มขั้นตอนการสมัครเรียนโปรแกรมปริญญาเอกด้านโภชนาการศึกษาที่มหาวิทยาลัยแห่งเทกซัสในเมืองออสติน ก่อนยื่นใบสมัคร ดิฉันพบว่าดิฉันตั้งครรภ์ลูกคนที่เจ็ดอย่างไม่คาดฝัน ดิฉันอยู่ในช่วงอายุ 40 และเมื่อลูกคนนี้เข้าโรงเรียน ดิฉันจะอายุราว 50
“ช้าไปหน่อยที่จะเริ่มอาชีพใหม่ซึ่งต้องใช้เวลาศึกษามาก” ดิฉันคิด
ดิฉันเห็นความฝันด้านอาชีพของชีวิตดิฉันพังทลายทันที เมื่อดิฉันเริ่มสิ้นหวัง พระคัมภีร์ข้อหนึ่งเข้ามาในใจและความคิด “ไม่มีใครมีความรักยิ่งใหญ่กว่านี้ คือการสละชีวิตเพื่อมิตรสหายของตน” (ยอห์น 15:13) ดิฉันนึกเสมอว่าพระคัมภีร์ข้อนี้หมายถึงคนหนึ่งตายแทนอีกคนหนึ่ง แต่ตอนนี้มีความหมายยิ่งกว่านั้น
ดิฉันตระหนักว่าความรักยิ่งใหญ่ที่สุดที่ดิฉันจะแสดงออกได้คือการสละชีวิตที่ดิฉันวางแผนไว้ และสละเวลาตลอดจนพลังงานให้การเลี้ยงดูลูกๆ ดิฉันรู้สึกว่าสำหรับดิฉันแล้วนี่คือสิ่งที่พระเจ้าทรงประสงค์ให้ดิฉันทำ ใช่ ดิฉันอาจจะช่วยคนได้มากในฐานะแพทย์ แต่ดิฉันรู้เช่นกันว่าดิฉันจะมีผลใหญ่หลวงที่สุดชั่วนิรันดร์ในชีวิตของลูกๆ