ศาสนจักรที่แท้จริง: “เพื่อทำให้วิสุทธิชนดีพร้อม”
โดย เอ็ลเดอร์ เจ. เดฟน์ คอร์นิช
สาวกเจ็ดสิบเจ้าหน้าที่ชั้นผู้ใหญ่
เอ็ลเดอร์คอร์นิชรับใช้เป็นผู้ช่วยผู้อำนวยการบริหารแผนกประวัติศาสนจักรในช่วงเวลาที่เตรียมบทความนี้
ตอนนี้ท่านมีโอกาสอ่านหลายบทแรกของเล่ม 1 จากประวัติศาสนจักรเชิงบรรยายสี่เล่มชุดใหม่ชื่อว่า วิสุทธิชน: เรื่องราวของศาสนจักรของพระเยซูคริสต์ในยุคสุดท้าย นับเป็นเรื่องดีมากที่ได้เห็นประวัติศาสนจักรของพระเยซูคริสต์แห่งวิสุทธิชนยุคสุดท้ายสร้างศรัทธาและทำให้เราเกิดความหวังอีกครั้ง ประวัติเหล่านี้บอกเล่าไว้ในบริบทตามที่ผู้ดำเนินชีวิตในศาสนจักรประสบ เรารู้สึกเป็นเกียรติที่ได้นำประวัติศาสตร์ดังกล่าวออกมาในวิธีที่คนทั่วโลกและทั่วศาสนจักรสามารถเข้าใจได้และเห็นคุณค่า
ความประทับใจที่คนหนึ่งได้รับจากการอ่านประวัติของศาสนจักรส่วนใหญ่ขึ้นอยู่กับสิ่งที่คนนั้นคาดหวังจะพบในประวัติศาสตร์ดังกล่าว เราอ่านพระดำรัสของพระเจ้าว่า ศาสนจักรเป็น “ศาสนจักรที่แท้จริงและดำรงอยู่แห่งเดียวตลอดทั้งพื้นพิภพ” (คพ. 1:30) ด้วยเหตุนี้จึงอาจมีเหตุผลสมควรให้คาดหวังว่าประวัติศาสตร์ของศาสนจักรที่แท้จริงคงพูดถึงผู้นำที่ไม่เคยทำผิดพลาดผู้ดำเนินการตามการเปิดเผยอย่างต่อเนื่องจนก้าวหน้ากลายเป็นองค์กรที่ดีพร้อมและยอมรับกันอย่างกว้างขวาง แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่พระคัมภีร์พูดถึงหรือประวัติศาสตร์ของเราแสดงให้เห็น เพราะการทำให้ศาสนจักรเป็นองค์กรที่ดีพร้อมไม่ใช่จุดประสงค์เบื้องต้นของพระเจ้า
จุดประสงค์ของศาสนจักรคืออะไร
ไม่มีข้อใดในพระคัมภีร์ของเรา หลักคำสอนของเรา หรือคำสอนของอัครสาวกและศาสดาพยากรณ์ยุคสุดท้ายสอนว่าจุดประสงค์ของพระเจ้าคือทำให้ศาสนจักรดีพร้อมหรือช่วยศาสนจักรให้รอด แต่จุดประสงค์ของศาสนจักรคือ “เพื่อทำให้วิสุทธิชนดีพร้อม … จนกว่าเราทุกคนจะบรรลุถึงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันในความเชื่อ … บรรลุถึงความเป็นผู้ใหญ่คือโตเต็มถึงขนาดความบริบูรณ์ของพระคริสต์” (เอเฟซัส 4:12–13) จุดประสงค์เบื้องต้นของพระเจ้าคือทำให้วิสุทธิชนของพระองค์ดีพร้อม ศาสนจักรมีหน้าที่สนับสนุนวัตถุประสงค์ดังกล่าว
ด้วยเหตุนี้ เราจึงจะตื่นเต้นกับสิ่งที่เราพบในประวัติศาสตร์ของเราถ้าเราคาดหวังให้ประวัติศาสตร์แสดงให้เห็นว่ากระบวนการฟื้นฟูไม่เพียงสถาปนาศาสนจักรที่แท้จริงของพระเจ้าบนแผ่นดินโลกเท่านั้นแต่จัดเตรียมประสบการณ์ให้ผู้นำและสมาชิกได้เติบโตสู่ความดีพร้อมขณะพวกเขาเรียนรู้จากชัยชนะและความผิดพลาดของตนด้วย ประสบการณ์ของพวกเขาสามารถเพิ่มพูนศรัทธาของเราในพระผู้เป็นเจ้าและพระคริสต์ ช่วยให้เรามองเห็นว่าการมีส่วนร่วมในกระบวนการเดียวกันนี้ที่พระเจ้าทรงกำกับดูแลสามารถเปลี่ยนเราและเป็นพรแก่เราได้ กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ ประวัติของศาสนจักรให้ความหวังแก่เราว่าสุดท้ายแล้วเราสามารถ “ดีพร้อมใน [พระคริสต์]” ได้ด้วย (โมโรไน 10:32)
หมายความว่าอย่างไรที่ว่านี่คือศาสนจักรที่แท้จริง
ถ้าผู้นำและสมาชิกในอดีตสามารถสถาปนาศาสนจักรของพระคริสต์ได้ทั้งที่บางครั้งความพยายามของพวกเขาไม่สมบูรณ์แบบ และถ้าบางครั้งพวกเขาทำผิดพลาดแล้วละก็ การพูดว่านี่คือศาสนจักรที่แท้จริงจะหมายความว่าอย่างไร หมายความว่าเรามีความเชื่อมั่นเต็มที่ในความถูกต้องของอำนาจฐานะปุโรหิตที่ได้รับการฟื้นฟู ศาสนพิธีแห่งความรอด หลักคำสอนที่ได้รับการเปิดเผย พระคัมภีร์ และโควรัมที่เป็นหนึ่งเดียวกันของอัครสาวกสิบสองและฝ่ายประธานสูงสุด หมายความว่าเรารู้ว่าพระผู้ช่วยให้รอดทรงกำกับดูแลศาสนจักรด้วยพระองค์เอง พระวิญญาณบริสุทธิ์จะทรงเป็นพยานต่อทุกคนที่แสวงหาความจริงของเรื่องเหล่านี้ด้วยใจจริง หมายความว่าโดยการพยายามรักษาพันธสัญญาที่เกี่ยวข้องกับศาสนพิธี และกลับใจอยู่เสมอ แม้แต่คนไม่ดีพร้อมทว่าจริงใจเช่นท่านและข้าพเจ้าก็จะได้อยู่ในรัศมีภาพซีเลสเชียลกับพระผู้เป็นเจ้า พระคริสต์ และครอบครัวเราตลอดกาลผ่านการชดใช้ของพระเยซูคริสต์
เรารู้สึกเป็นเกียรติที่ได้นำเสนอประวัติศาสตร์เชิงบรรยายของศาสนจักรของพระเยซูคริสต์แห่งวิสุทธิชนยุคสุดท้าย เรากระตุ้นให้ท่านอ่านตอนที่เหลือต่อไปเมื่อออกหนังสือชุดนี้แต่ละเล่ม บันทึกและข้อเท็จจริงที่อยู่ในนั้นถูกต้องเที่ยงตรง เราเชื่อมั่นว่าการอ่านประวัติศาสตร์นี้อย่างจริงใจจะเพิ่มพูนศรัทธาของเราในความรักของพระบิดาบนสวรรค์และในพลังการชดใช้ของพระคริสต์ จะเสริมสร้างพยานของเราในเรื่องการกำกับดูแลจากสวรรค์ของศาสดาพยากรณ์โจเซฟ สมิธและการฟื้นฟู และจะให้ความหวังแก่เราว่าเราจะได้รับพรทุกประการที่พระองค์ทรงสัญญาไว้กับผู้ซื่อสัตย์