สาส์น จากอัครสาวก
จากคำปราศรัยเรื่อง “สาส์นถึงวิสุทธิชนในภาคซอลท์เลค ยูทาห์” ที่การประชุมใหญ่พหุสเตควันที่ 11 กันยายน ค.ศ. 2016
ข้าพเจ้าเปล่งเสียงเตือนท่านเรื่องความท้าทายบางอย่างที่เราเผชิญอยู่ในปัจจุบัน
อัครสาวกเปาโลติดต่อกับวิสุทธิชนสมัยก่อนผ่านจดหมายหรือสาส์นที่เขาส่งไปตามสาขาต่างๆ เพื่อถ่ายทอดความรัก คำแนะนำ และคำสอน เพราะข้าพเจ้าไม่สามารถพบกับทุกท่านเป็นส่วนตัวได้ ข้าพเจ้าจึงขอมอบสาส์นของข้าพเจ้าให้ท่านทางวาจาเพื่อแสดงความรัก ความสำนึกคุณ และคำสอนของข้าพเจ้า
เปาโลเขียนถึงวิสุทธิชนในโครินธ์ว่า “เปาโลผู้ซึ่งได้รับการทรงเรียกให้เป็นอัครทูตของพระเยซูคริสต์ตามพระทัยของพระเจ้า” (1 โครินธ์ 1:1)
ข้าพเจ้าได้รับเรียกเป็นอัครสาวกของพระเยซูคริสต์เช่นกัน และในฐานะพยานพิเศษของพระเจ้า ข้าพเจ้าเป็นพยานเช่นเดียวกับเปาโลเป็นพยานในจดหมายของเขาว่าพระเยซูคริสต์ทรงพลีพระองค์เพื่อเราและพระบิดาทรงทำให้พระองค์คืนพระชนม์ (ดู กาลาเทีย 1:1, 4) ข้าพเจ้าเป็นพยานเพิ่มเติมว่าพระเยซูคริสต์ทรงฟื้นฟูศาสนจักรของพระองค์ผ่านศาสดาพยากรณ์โจเซฟ สมิธในวันเวลาสุดท้ายและความสมบูรณ์ของพระกิตติคุณและพรเกี่ยวกับพันธสัญญานิรันดร์มีให้ทุกคนที่จะเชื่อและติดตามพระเจ้าพระเยซูคริสต์
ข้าพเจ้าใช้คำพูดของเปาโลทักทายท่านดังนี้ “เรียนคริสตจักรของพระเจ้า … ผู้ได้รับการทรงชำระให้บริสุทธิ์ในพระเยซูคริสต์ และได้รับการทรงเรียกให้เป็นธรรมิกชน … ขอพระคุณและสันติสุขจากพระเจ้าพระบิดาของเรา และจากพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าดำรงอยู่กับท่านทั้งหลาย” (1 โครินธ์ 1:2–3)
พี่น้องทั้งหลาย เพื่อให้ใจพระกิตติคุณของเราสมบูรณ์อยู่เสมอ เราต้องตรวจเป็นประจำ เมื่อข้าพเจ้าสวดอ้อนวอนขอความช่วยเหลือจากสวรรค์ ข้าพเจ้าได้รับคำแนะนำบางประการสำหรับท่านที่จะทำให้ท่านสมบูรณ์แข็งแรงทางวิญญาณอยู่เสมอ
เปาโลเตือนวิสุทธิชนในสมัยของเขาให้ระวังอันตรายทางวิญญาณที่พวกเขาพบเจอ เขาเขียนถึงชาวกาลาเทียว่า
“ข้าพเจ้ารู้สึกประหลาดใจที่พวกท่านด่วนละทิ้งพระองค์ผู้ซึ่งทรงเรียกท่านมาโดยพระคุณของพระคริสต์ และหันไปหาข่าวประเสริฐอื่นเสีย
“ซึ่งที่จริงไม่ใช่ข่าวประเสริฐ แต่มีบางคนทำให้พวกท่านยุ่งยาก และปรารถนาบิดเบือนข่าวประเสริฐของพระคริสต์
“แม้แต่เราเองหรือทูตจากฟ้าสวรรค์ ถ้าประกาศข่าวประเสริฐอื่นแก่พวกท่านซึ่งขัดกับข่าวประเสริฐที่เราได้ประกาศแก่พวกท่านไปแล้วนั้น ก็จะต้องถูกแช่งสาป” (กาลาเทีย 1:6–8)
ข้าพเจ้าเปล่งเสียงเช่นเดียวกับเปาโลว่ามีคนที่ “ทำให้พวกท่านยุ่งยากและปรารถนาบิดเบือนข่าวประเสริฐของพระคริสต์” ข้าพเจ้าคงละเลยหน้าที่ถ้าข้าพเจ้าไม่เปล่งเสียงเตือนท่านเรื่องความท้าทายที่เราเผชิญอยู่ในปัจจุบัน
พลังอำนาจสองอย่างในจักรวาล
พี่น้องทั้งหลาย อย่าลืมว่ามีพลังอำนาจสองอย่างในจักรวาล พลังอำนาจหนึ่งเชื้อเชิญให้เราเลือกความถูกต้องและประสบปีติกับความสุขนิรันดร์ และอีกพลังอำนาจหนึ่งเชื้อเชิญให้เราเลือกตรงกันข้าม อันนำมาซึ่งความเศร้าเสียใจ หลักคำสอนของเราสอนว่าชีวิตคือการทดสอบ—เวลาที่จะดูว่าเราจะยอมรับคำเชื้อเชิญใด
ข้าพเจ้าเตือนให้ท่านนึกถึงคำพยากรณ์ของพระเยซูเกี่ยวกับวันเวลาสุดท้ายซึ่งเราอยู่เวลานี้ “เพราะว่าจะมีพระคริสต์เทียมเท็จและผู้เผยพระวจนะเทียมเท็จหลายคนปรากฏขึ้น แสดงหมายสำคัญและการอัศจรรย์ที่ยิ่งใหญ่เพื่อล่อลวงแม้พวกที่พระเจ้าทรงเลือกถ้าเป็นได้” (มัทธิว 24:24) เราเสียใจเมื่อเราเห็น “พวกที่พระเจ้าทรงเลือก” บางคนถูกหลอก ตามที่พระเยซูทรงเตือน
เมื่อเร็วๆ นี้ข้าพเจ้าไปเที่ยวชมสวนป่าเซควายาที่ปลูกไว้เมื่อหลายปีก่อนบริเวณมหาวิทยาลัยบริคัมยังก์ เพื่อนคนหนึ่งของข้าพเจ้าอธิบายให้ฟังว่าต้นเซควายาเป็นไม้ใหญ่ที่สุดของโลกและสามารถโตในป่าได้สูงถึง 286 ฟุต (87 เมตร) ต้นไม้เหล่านี้มีชีวิตนานกว่า 3,000 ปี
มีต้นหนึ่งตายและต้องโค่น จึงเหลือแต่ตอเพื่อเตือนทุกคนที่เดินผ่านไปมาว่าต้นไม้สูงใหญ่ต้นหนึ่งเคยยืนต้นอยู่ที่นั่น รุกขกรของมหาวิทยาลัยต้องการรู้ว่าอะไรทำให้ต้นไม้ต้นนั้นตาย เพราะเซควายาต้นนั้นไม่ตายเพราะอายุมากแน่นอน หลังจากสำรวจ เขาพบว่ารากที่นำอาหารไปเลี้ยงลำต้นตายเพราะขาดน้ำ
เป็นไปได้อย่างไรเนื่องจากต้นไม้ต้นนั้นงอกงามที่นั่นมานานกว่าห้าทศวรรษแล้ว รุกขกรค้นพบว่าชั้นหินอุ้มน้ำที่หล่อเลี้ยงสวนป่าเปลี่ยนไปเพราะผลที่คาดไม่ถึงของการสร้างตึกใหม่ทางฝั่งตะวันออกของสวนป่า
สำหรับข้าพเจ้านี่เป็นแนวเทียบเหมาะกับสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อสมาชิกที่ซื่อสัตย์ของศาสนจักร—“พวกที่พระเจ้าทรงเลือก” คนที่ภายนอกดูเหมือนเข้มแข็งในศรัทธา—ตายทางวิญญาณ
เหมือนเซควายาที่ตายแล้ว สมาชิกศาสนจักรเหล่านี้เคยได้รับการบำรุงเลี้ยงทางวิญญาณจากบ่อน้ำดำรงชีวิตที่พระเยซูคริสต์ทรงมอบให้ แต่ด้วยเหตุผลใดเหตุผลหนึ่ง พวกเขาออกห่างจากแหล่งการบำรุงเลี้ยงทางวิญญาณ และเมื่อไม่มีการบำรุงเลี้ยงนั้น วิญญาณของพวกเขาจึงเฉาและตายทางวิญญาณในที่สุด
เราจะแน่ใจได้อย่างไรว่ารากที่ให้อาหารทางวิญญาณเชื่อมต่อกับบ่อน้ำดำรงชีวิตเสมอ
นิสัยที่จำเป็น
พระเจ้าทรงสรุปนิสัยส่วนตัวที่ทำให้เราหยั่งรากลงไปเชื่อมต่อกับพระองค์อยู่เสมอ นิสัยเช่นนั้นเมื่อทำด้วยความตั้งใจเด็ดเดี่ยว เจตนาแท้จริง ปราศจากความหน้าซื่อใจคดและการหลอกลวง จะทำให้เราเป็นสานุศิษย์ที่ไม่ไหวไปมาของพระเจ้าพระเยซูคริสต์
นิสัยที่จำเป็นเหล่านี้รวมถึงสิ่งที่ดูเหมือนถูกมองข้ามได้ง่ายในความเร่งรีบของชีวิตที่ยุ่งมากๆ ของเรา แม้เมื่อเราประกอบกิจการดีต่างๆ อย่างเช่นศึกษาหาความรู้ ทำงานหาเลี้ยงครอบครัว และทุ่มเทให้กับการบำเพ็ญประโยชน์ในชุมชนและการรับใช้ในศาสนจักร
นิสัยเหล่านี้รวมถึงการสวดอ้อนวอนอย่างจริงใจทุกวัน อดอาหารอย่างซื่อสัตย์ ศึกษาและไตร่ตรองพระคัมภีร์ตลอดจนถ้อยคำของศาสดาพยากรณ์ที่มีชีวิตเป็นประจำ ทำให้วันสะบาโตเป็นวันปีติยินดี รับส่วนศีลระลึกด้วยความอ่อนน้อมถ่อมตนและระลึกถึงพระผู้ช่วยให้รอดตลอดเวลา นมัสการในพระวิหารให้บ่อยที่สุด และสุดท้าย ยื่นมือช่วยเหลือคนยากจนและคนไร้ที่พึ่ง—ทั้งคนใกล้ชิดและคนทั่วโลก
เมื่อคนใดเลิกทำสิ่งเรียบง่ายแต่จำเป็นเหล่านี้ พวกเขาตัดตนเองออกจากบ่อน้ำดำรงชีวิตและยอมให้ซาตานกวนความคิดพวกเขาจนขุ่นด้วยน้ำเน่าที่สร้างความหลงผิด ทำให้เส้นเลือดของความซื่อสัตย์อุดตัน และทำให้วิญญาณเต็มไปด้วยสารอาหารแปลกปลอม บาปและความผิดทำให้ความนึกคิดมืดมัว—ชักนำคนมากมายให้ปฏิเสธการดลใจและการเปิดเผยที่ผ่านมา และเป็นเหตุให้ “ไม่เปลี่ยนใจเลื่อมใส” ความจริงของพระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์
สิ่งหนึ่งที่อยู่ในความคิดข้าพเจ้าเสมอคือการรู้ว่าบุคคลที่ไม่จดจ่อกับหลักคำสอนอันเรียบง่ายและพระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์สุดท้ายแล้วจะฟังผู้สอนปลอมกับคนที่ตั้งตนเป็นศาสดาพยากรณ์ และรับเอาปรัชญาทางโลก เสียงเผื่อเลือกเหล่านี้ได้แก่
-
แรงดึงดูดของความมั่งมีก่อเกิดความจองหอง
-
ความอยากที่มีอำนาจเหนือความจำเป็น ด้วยเหตุนี้จึงเพิ่มหนี้สินส่วนตัว
-
นันทนาการและความบันเทิงที่พาออกห่างจากความดีงามของพระกิตติคุณ
-
กิจกรรมที่ขัดขวางเราไม่ให้ถือปฏิบัติวันสะบาโตอย่างถูกต้อง
-
พ็อดคาสต์และเว็บไซต์อินเทอร์เน็ตที่ก่อให้เกิดคำถามและความสงสัยโดยไม่มีความซื่อสัตย์ทางปัญญามากพอจะนำเสนอทัศนะของพระเจ้าอย่างครบถ้วนตรงไปตรงมา
ช่วยให้ผู้อื่นพบคำตอบ
ขอให้ข้าพเจ้าแน่ใจว่าท่านเข้าใจประเด็นสำคัญนี้ ไม่มีอะไรผิดแน่นอนกับการซักถามหรือการสืบประวัติ หลักคำสอน และหลักปฏิบัติของเรา การฟื้นฟูเริ่มขึ้นเมื่อโจเซฟ สมิธหาคำตอบให้แก่คำถามที่จริงใจ
บิดามารดา ผู้นำองค์การช่วย ครูในศาสนจักร (รวมทั้งครูเซมินารีและสถาบัน) อธิการ และประธานสเตคทั้งหลาย: เมื่อมีคนมาหาท่านพร้อมคำถามหรือข้อกังวล โปรดอย่าทำประหนึ่งคำถามนั้นไม่สำคัญ อย่าบอกเขาไม่ให้กังวลกับคำถาม โปรดอย่าสงสัยการอุทิศตนของบุคคลนั้นต่อพระเจ้าหรืองานของพระองค์ แต่ช่วยให้พวกเขาพบคำตอบของคำถาม
ข้าพเจ้าห่วงใยเมื่อได้ยินคนที่จริงใจถามตรงๆ เกี่ยวกับประวัติ หลักคำสอน หรือหลักปฏิบัติของเรา แล้วเราปฏิบัติต่อพวกเขาประหนึ่งพวกเขาขาดศรัทธา นี่ไม่ใช่วิธีของพระเจ้า ดังที่เปโตรกล่าว “จงเตรียมพร้อมเสมอที่จะอธิบายกับทุกคนที่ขอทราบเหตุผลเกี่ยวกับความหวังของพวกท่าน” (1 เปโตร 3:15)
เราต้องตอบคำถามเหล่านั้นให้ดีขึ้น แม้เราจะไม่สามารถตอบคำถามได้ทุกข้อเกี่ยวกับจักรวาลหรือเกี่ยวกับประวัติ หลักคำสอน และหลักปฏิบัติของเรา แต่เราสามารถให้คำตอบกับคนที่จริงใจได้หลายข้อ เมื่อเราไม่ทราบคำตอบ เราสามารถค้นหาคำตอบด้วยกัน—การค้นหาด้วยกันอาจทำให้เราสนิทกันมากขึ้นและสนิทกับพระผู้เป็นเจ้ามากขึ้น แน่นอนว่าเราอาจไม่พบคำตอบที่น่าพอใจให้กับคำถามของเราเสมอไป ในเวลาเช่นนั้น พึงจดจำว่าศรัทธายังคงเป็นส่วนสำคัญของศาสนา บางครั้งเราสามารถเรียน ศึกษา และรู้ บางครั้งเราต้องเชื่อ วางใจ และหวัง
จงช่วยให้คนที่มีคำถามตระหนักว่าพระเจ้าไม่ทรงเรียกร้องให้วิสุทธิชนของพระองค์มีปริญญาขั้นสูงสาขาประวัติศาสตร์และหลักคำสอน ด้วยเหตุนี้เราจึงไม่ควรคาดหวังให้บิดามารดา ผู้นำ และครูมีคำตอบทั้งหมดให้แก่คำถามทุกข้อ แม้ในฝ่ายประธานสูงสุดและโควรัมอัครสาวกสิบสองก็ยังมีคนที่ภูมิหลังและการฝึกอบรมต่างกันมากซึ่งช่วยให้แบ่งปันประสบการณ์กันได้อย่างกว้างขวางระหว่างการสนทนาและการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น
เมื่อข้าพเจ้ามีคำถามที่ตอบไม่ได้ ข้าพเจ้ามักหันไปหาคนที่ช่วยตอบได้ ศาสนจักรมีนักวิชาการที่ผ่านการอบรมและคนที่อุทิศชีวิตให้การศึกษา ผู้รู้ประวัติของเราและพระคัมภีร์ ชายหญิงที่ละเอียดรอบคอบเหล่านี้ให้บริบทและภูมิหลังเพื่อเราจะเข้าใจหลักปฏิบัติอันศักดิ์สิทธิ์ในอดีตและปัจจุบันของเราดีขึ้น เพราะข้อมูลนี้ที่พวกเขาให้ ข้าพเจ้าจึงพร้อมแสวงหาการนำทางจากพระวิญญาณบริสุทธิ์มากขึ้น
ศาสนจักรทุ่มเทให้ความโปร่งใสและจัดพิมพ์แหล่งข้อมูลล้ำค่าต่างๆ เพื่อให้ข้อคิดใหม่ๆ และบริบทของเรื่องราวการฟื้นฟูมากขึ้นผ่านเว็บไซต์ Joseph Smith Papers และความเรียง Gospel Topics บน ChurchofJesusChrist.org นับเป็นโอกาสดีมากที่ได้ศึกษาประวัติและหลักคำสอนของศาสนจักรกับแหล่งข้อมูลมากมายและผู้เชี่ยวชาญหลายคนที่ให้ภูมิหลังอันเป็นประโยชน์และความเข้าใจในอดีตของเรา จงสวดอ้อนวอนเสมอและทำตามการกระตุ้นเตือนของพระวิญญาณบริสุทธิ์ผู้ทรงเปิดเผยความจริงทางวิญญาณ
ดำเนินชีวิตตามรายได้ของท่าน
ข้าพเจ้าเป็นห่วงที่สมาชิกบางคนดำเนินชีวิตเกินรายได้ขณะพวกเขาพยายามตามให้ทันเพื่อนบ้าน เราทำผิดพลาดร้ายแรงมากเมื่อเราเปรียบเทียบชีวิตเรากับชีวิตคนที่มีทรัพย์สมบัติมากมาย โดยลืมไปว่าพวกเราส่วนใหญ่รุ่งเรืองในแผ่นดินอยู่แล้ว โปรดพอใจและชื่นชมพรที่ท่านได้รับแล้วแทนที่จะตกเป็นทาสของการใช้หนี้ผู้บริโภคอย่างไม่ฉลาด อย่างดเว้นการจ่ายส่วนสิบเป็นอันขาด และถวายเงินบริจาคด้วยความเอื้อเฟื้อเพื่อช่วยคนยากไร้
มีความสุขกับการอยู่ด้วยกัน
บางท่านอาจทำกิจกรรมมากเกินไป รวมไปถึงกิจกรรมดีๆ ด้วย โปรดระวังอย่าจัดโปรแกรมให้บุตรธิดาของท่านมากเกินไป ปิดสื่อสังคมและสิ่งรบกวนภายนอกอื่นๆ เป็นครั้งคราวเพื่อนั่งคุยกันและมีความสุขกับการอยู่ด้วยกัน ดังที่ข้าพเจ้าสอนในการประชุมใหญ่สามัญเมื่อไม่นานมานี้ จงจัดสภาครอบครัวเป็นประจำ (ดู “สภาครอบครัว” เลียโฮนา พ.ค. 2016, 63–65)
จำไว้ว่าพระเจ้าทรงแนะนำให้เราหาเวลา “นิ่งเสีย และรู้เถิดว่าเราคือพระเจ้า” (สดุดี 46:10; ดู หลักคำสอนและพันธสัญญา 101:16 ด้วย)
เพื่อให้สมาชิกครอบครัวหมกมุ่นและออกห่างจากเรื่องสำคัญที่สุด บางคนจึงสร้างสรรค์สิ่งใหม่ตลอดเวลา—ตัวอย่างเช่น แอปพลิเคชันใหม่หรือเกมใหม่ที่เป็นเหตุให้เยาวชนก้มมองสมาร์ทโฟนแทนที่จะเงยหน้ามองงานสร้างที่สวยงามในโลกอันน่าพิศวงของพระผู้เป็นเจ้าหรือแม้แต่คนที่พวกเขาอาจจะอยากพบ ออกเดท และแต่งงาน และกับคนที่พวกเขาสามารถมีความสัมพันธ์ในโลกจริงๆ อันส่งผลให้ได้รับพรนิรันดร์
รักเพื่อนบ้านของท่าน
ข้าพเจ้าขอพูดสั้นๆ เกี่ยวกับมิตรสหาย เพื่อนบ้าน เพื่อนในโรงเรียนและที่ทำงานผู้ไม่ได้เป็นสมาชิกของศาสนจักร ถึงแม้เราจะทำงานมอบหมายและหน้าที่สำคัญจากพระเจ้าอย่างจริงจัง แต่ “ท่านทั้งหลายจงออกไปและนำชนทุกชาติมาเป็นสาวกของเรา จงบัพติศมาพวกเขาในพระนามของพระบิดา พระบุตร และพระวิญญาณบริสุทธิ์ และสอนพวกเขาให้ถือรักษาสิ่งสารพัดที่เราสั่งพวกท่านไว้” (มัทธิว 28:19) เราให้เกียรติและเคารพสิทธิ์เสรีในการคิดและเชื่อ—หรือไม่เชื่อ—ของทุกคนตามที่พวกเขาเลือก
ถ้าเพื่อนบ้าน เพื่อนร่วมงาน หรือเพื่อนร่วมชั้นไม่สนใจพระกิตติคุณ เราต้องยื่นมือแห่งมิตรภาพต่อไป ความรักที่เรามีต่อพวกเขาไม่ควรมีเงื่อนไข แต่ควรจริงใจและไม่มีเงื่อนไข
บุตรธิดาของเราเรียนรู้ได้ดีที่สุดจากแบบอย่างของบิดามารดาและผู้นำ ขอให้เราระวังเรื่องที่เราพูดเกี่ยวกับผู้อื่นและวิธีที่เราปฏิบัติต่อเพื่อนมนุษย์ พึงจดจำว่า เรามีสิทธิ์ไม่เห็นด้วย แต่เราต้องไม่ขัดแย้ง
พระเยซูทรงสอนว่า “จงรักเพื่อนบ้านเหมือนรักตนเอง” (มัทธิว 19:19) ถ้าเราเป็นสานุศิษย์ของพระองค์ เราต้องมีความสุภาพและความอ่อนโยนแบบชาวคริสต์กับทุกคนที่เราพบ รวมทั้งคนที่เลือกไม่เกี่ยวข้องกับศาสนจักร
ขอให้เราร่วมมือกับทุกคนที่มีเจตนาดีในอุดมการณ์ดีทุกอย่างและรวมพวกเขาไว้ในแวดวงมิตรสหายของเรา ขอให้เราต้อนรับพวกเขาอย่างแท้จริงในโบสถ์และกิจกรรมวอร์ด
สันติสุขและคำแนะนำของศาสดาพยากรณ์
สาส์นอัครสาวกของข้าพเจ้าถึงท่านสรุปตามที่ข้าพเจ้าเป็นพยานว่าถ้าท่านจะพิจารณาคำแนะนำของศาสดาพยากรณ์อย่างรอบคอบ ท่านจะพบว่ารากที่ให้อาหารทางวิญญาณแก่ท่านเชื่อมต่อกับ “[บ่อน้ำพุ] พลุ่งขึ้นถึงชีวิตนิรันดร์” (ยอห์น 4:14) ท่านจะไม่ตายทางวิญญาณเหมือนต้นเซควายาที่สวยงาม แต่ข้าพเจ้าเป็นพยานว่าท่านจะมีสันติสุข ปีติ และความสุขมากขึ้นในชีวิตโดยยอมรับพระเยซูคริสต์และผู้รับใช้ที่พระองค์ทรงเรียกและโดยทำตามแผนพระกิตติคุณของพระองค์ หากประชากรของประเทศต่างๆ ไม่หันใจกลับไปหาพระผู้เป็นเจ้า คำสอนและแผนของพระองค์ เราจะเผชิญกับผลที่เปิดเผยไว้ในพระคัมภีร์แน่นอน
พี่น้องที่รัก เรามีหน้าที่เตรียมศาสนจักรและตัวเราให้พร้อมรับวันเหล่านั้นที่จะมาแน่นอนถ้าคนในโลกยังคงเมินเฉยและไม่สนใจพระผู้เป็นเจ้าพระบิดาบนสวรรค์ของเราและพระบุตรที่รักของพระองค์พระเจ้าพระเยซูคริสต์ พระคัมภีร์ประกาศชัดเจนเกี่ยวกับผลของการละทิ้งพระผู้เป็นเจ้า
เรารักท่าน สิทธิพิเศษของข้าพเจ้าคืออัญเชิญพระบิดาบนสวรรค์ให้ทรงอวยพรท่าน ขอให้ท่านมีสันติสุข ขอให้ท่านมีปีติในใจ ขอให้ท่านกล้ากลับใจหากท่านต้องกลับใจ หากมีสิ่งใดในชีวิตท่านที่ไม่ดี ขอพระเจ้าทรงอวยพรให้ท่านกล้ากลับใจและเปลี่ยน เริ่มตั้งแต่วันนี้ ขอพระเจ้าประทานพลังให้ท่านหันใจไปหาพระองค์ รักพระองค์ และรับใช้พระองค์เพื่อท่านจะดำเนินต่อไปอย่างปลอดภัยผ่านความเป็นมรรตัย เตรียมรับวันนั้นเพื่อจะอยู่ในอ้อมพระพาหุของพระบิดาในสวรรค์และพระบุตรที่รักของพระองค์
ในฐานะพยานพิเศษของพระคริสต์ ข้าพเจ้าเป็นพยานต่อท่านว่าข้าพเจ้ารู้ว่าพระเยซูคือพระคริสต์ พระองค์ทรงเป็นพระบุตรของพระผู้เป็นเจ้า ข้าพเจ้ากล่าวว่าสิ่งเหล่านี้จริง และหวังว่าท่านจะรับสาส์นของข้าพเจ้าตามเจตนารมณ์ของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าเป็นพยานว่านี่คือศาสนจักรของพระเยซูคริสต์
ขอพระผู้เป็นเจ้าทรงอวยพรท่านพี่น้องที่รักขณะเราทำสุดความสามารถเพื่อเตรียมรับวันที่พระผู้ช่วยให้รอดและพระผู้ไถ่ของโลกจะเสด็จมาอีกครั้งในฐานะพระเจ้าและกษัตริย์ของเรา