2019
ท่านไม่ต้องรอคำตอบเสมอไป
กันยายน 2019


ดิจิทัลเท่านั้น

ท่านไม่ต้องรอคำตอบเสมอไป

บ่อยครั้งเราพยายามตัดสินใจโดยไม่ได้รับการยืนยันจากพระผู้เป็นเจ้า แต่เมื่อเราเดินหน้าด้วยศรัทธา พระองค์จะทรงช่วยให้เรารู้ว่าเราอยู่บนเส้นทางที่ถูกต้อง

ผู้เขียนอาศัยอยู่ในรัฐนิวเม็กซิโก สหรัฐอเมริกา

เมื่อกลับมาเรียนมหาวิทยาลัยหลังจากเป็นผู้สอนศาสนาดิฉันคิดว่าควรอยู่ห้องเดียวกับใครดี คุณพ่อแนะนำให้ติดต่อซิสเตอร์ผู้สอนศาสนาคนหนึ่งที่เพิ่งรับใช้ในวอร์ดบ้านของดิฉันและเพิ่งจบงานเผยแผ่ของเธอ ท่านอธิบายว่าฮอลลีกำลังจะย้ายมาเรียนที่เดียวกันกับดิฉันและเธออาจรู้จักคนที่นั่นไม่มาก

ถึงแม้ดิฉันจะรู้จักฮอลลีนิดหน่อยตั้งแต่เธออยู่ในวอร์ดของเรา แต่ดิฉันไม่กล้าชวนเธอมาอยู่ด้วย ดิฉันกลัวว่าเธอจะคิดว่าแปลกเพราะเราไม่รู้จักกันดี—และเพราะดิฉันไม่รู้ด้วยว่าเราจะเข้ากันได้ดีหรือไม่

แม้จะกลัวแต่ดิฉันรู้สึกว่าการทำตามคำแนะนำของคุณพ่อจะเป็นทางออกที่ดี ดิฉันสวดอ้อนวอนมาตลอดขอให้พบเพื่อนใหม่เมื่อเริ่มไปเรียนอีกครั้ง ดิฉันจึงรู้สึกว่าพระหัตถ์ของพระบิดาบนสวรรค์อาจจะอยู่ในคำแนะนำของคุณพ่อก็เป็นได้ ดิฉันตัดสินใจทำตาม ฮอลลียอมรับคำชวน และในช่วงปีที่เราอยู่ด้วยกัน เธอกลายเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดคนหนึ่งของดิฉัน ฮอลลีให้คำแนะนำและความรักในช่วงวิกฤตของชีวิตดิฉัน และดิฉันสามารถอยู่ที่นั่นได้เพราะเธอเช่นกัน

ชีวิตเราเต็มไปด้วยการตัดสินใจ ไล่เลียงกันไปตามความสำคัญ แต่บางครั้งการตัดสินใจเล็กๆ น้อยๆ ส่งผลอย่างใหญ่หลวงที่สุดต่ออนาคต แม้พระบิดาบนสวรรค์อาจไม่ทรงเปิดเผยต่อเราตั้งแต่แรกว่าการเลือกใดดีที่สุดในทุกสถานการณ์ แต่พระองค์ประทานสิทธิ์เสรีให้เราปฏิบัติตามหลักธรรมพระกิตติคุณและก้าวไปด้วยศรัทธา ดิฉันไม่คิดว่าการเลือกเพื่อนร่วมห้องจะส่งผลอันยั่งยืนต่อชีวิตดิฉัน แต่กลับเป็นเช่นนั้น หลังจากติดต่อฮอลลีดิฉันตระหนักทันทีว่าพระเจ้าทรงปล่อยให้ดิฉันตัดสินใจให้ดีด้วยตนเอง และดิฉันได้รับพรเพราะเหตุนี้ เพราะดิฉันก้าวเดินไปตามเส้นทางที่รู้สึกว่าถูกต้อง พระบิดาบนสวรรค์จึงทรงนำคนที่ดีมากเข้ามาในชีวิตดิฉันได้

ดิฉันสงสัยว่าอะไรจะเกิดขึ้นถ้าดิฉันตัดสินใจเรื่องเล็กๆ น้อยๆ อีกหลายเรื่องด้วยเจตคติเหมือนพระคริสต์มากขึ้น—ถ้าดิฉันวางแล็ปท็อปไว้ข้างๆ เมื่อหญิงสาวคนหนึ่งมานั่งกินอาหารกลางวันข้างๆ ดิฉันที่มหาวิทยาลัย หรือถ้าดิฉันแบ่งปันความเชื่อของดิฉันมากขึ้นเมื่อเพื่อนคนหนึ่งบอกว่าเธอยังตัดสินใจเรื่องศาสนาไม่ได้ ดิฉันอาจไม่รู้สึกถึงการกระตุ้นเตือนแรงกล้าทางวิญญาณในช่วงเวลาเหล่านั้น แต่ดิฉันรู้ว่านั่นเป็นสิ่งดีที่พึงทำ และดิฉันแน่ใจว่าพระผู้เป็นเจ้าจะทรงเปลี่ยนเป็นพรให้ทุกคนที่เกี่ยวข้อง เพราะดิฉันเลือกไม่ทำอะไร ดิฉันจึงไม่มีวันรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น

บ่อยครั้งเราไม่อยากตัดสินใจเมื่อเราไม่ได้รับการกระตุ้นเตือนหรือคำตอบเดี๋ยวนั้น ในช่วงเวลาเหล่านั้น แทนที่จะรอไฟเขียวจากพระผู้เป็นเจ้า เราสามารถใช้ของประทานแห่งสิทธิ์เสรีเลือกทำดีด้วยตัวเราเอง มอรมอนสอนว่า “ทุกสิ่งที่เชื้อเชิญให้ทำดี, และชักชวนให้เชื่อในพระคริสต์, ส่งมาโดยเดชานุภาพและของประทานของพระคริสต์; ดังนั้นท่านจะรู้ด้วยความรู้อันสมบูรณ์ว่านี่เป็นของพระผู้เป็นเจ้า” (โมโรไน 7:16)

ฉะนั้นคราวหน้าถ้าท่านต้องตัดสินใจ ให้คิดในใจว่า “นั่นดีหรือไม่” เพราะทุกอย่างที่ดีมาจากพระผู้เป็นเจ้า เฉกเช่นพระผู้ช่วยให้รอดไม่ทรงลังเลที่จะทำดี เราสามารถวางใจว่าตัวเราจะเลือกทำดีทุกวันได้ทั้งในเรื่องเล็กและเรื่องใหญ่ พระผู้เป็นเจ้าจะทรงเปลี่ยนการเลือกที่ดีเหล่านั้นเป็นสิ่งที่สำคัญยิ่ง