“โดยปรีชาญาณของพระองค์ผู้ทรงรู้แจ้งในสรรพสิ่ง”
เมื่อผมเข้าศูนย์ฝึกอบรมผู้สอนศาสนาในฐานะผู้สอนศาสนาเต็มเวลา ผมพบว่ามีสิ่งให้เรียนรู้มากมาย ผมทำสุดความสามารถเพื่อศึกษา เสริมสร้างประจักษ์พยาน และสร้างบนรากฐานที่ผมมีอยู่แล้ว ผมจะสวดอ้อนวอน ทูลถามพระบิดาบนสวรรค์ แล้วค้นหาคำตอบ การปฏิบัติเช่นนี้เปลี่ยนชีวิตผม
วันหนึ่งขณะรับใช้เป็นผู้สอนศาสนาในเปรู เอ็ลเดอร์คนหนึ่งได้รับจดหมายแจ้งว่าคุณพ่อของเพื่อนสนิทของเขาสิ้นชีวิตอย่างไม่คาดฝัน เขาน้ำตาไหล “ทำไมพระบิดาบนสวรรค์ทรงปล่อยให้เรื่องเช่นนี้เกิดขึ้น” เขาร้องไห้
คำถามนี้เสียดแทงใจผม คืนนั้นผมคุกเข่าทูลถามคำถามเดียวกันกับพระบิดาในสวรรค์ จากนั้นขณะค้นคว้าในพระคัมภีร์มอรมอน ผมเหลือบไปเห็น 2 นีไฟ 2:24 ซึ่งกล่าวว่า “แต่ดูเถิด, สิ่งทั้งปวงกระทำไปโดยปรีชาญาณของพระองค์ผู้ทรงรู้แจ้งในสรรพสิ่ง”
ข้อความนั้นฝังอยู่ในใจผมและไม่หายไปไหน ผมเขียนการ์ดให้เอ็ลเดอร์คนนั้นและรวมพระคัมภีร์ข้อดังกล่าวไว้เป็นประจักษ์พยานส่วนหนึ่งของผมด้วย ผมรับรองกับเขาว่าทุกอย่างจะราบรื่นเพราะพระบิดาบนสวรรค์ทรงทำสิ่งต่างๆ โดยพระปรีชาญาณ เราสามารถวางใจพระองค์ได้เพราะพระองค์ทรงรักเราและทรงรู้แจ้งในสรรพสิ่ง
ราวหนึ่งปีครึ่งต่อมา ผมรับใช้ในเขตเทือกเขาของเปรูเมื่อผมได้รับโทรศัพท์ที่ไม่คาดฝันจากประธานคณะเผยแผ่ ท่านบอกว่าคุณพ่อของผมเกิดอาการเส้นโลหิตในสมองแตกและอยู่ในภาวะวิกฤติ ไม่นานหลังจากนั้นคุณพ่อก็สิ้นใจ ผมเสียใจมาก และรู้สึกทรมานกับคำถามนี้ “ผมจะผ่านพ้นเรื่องนี้ไปได้อย่างไร”
ผมสวดอ้อนวอนพระบิดาบนสวรรค์เพื่อขอคำตอบ ผมอยากรู้มากว่าทำไมต้องพรากคุณพ่อไปจากผมโดยที่ผมไม่มีโอกาสกล่าวลาท่านเลย ผมหันไปพึ่งพระคัมภีร์มอรมอน เปิด และอ่านข้อความเดียวกับที่ผมได้แบ่งปันกับเอ็ลเดอร์คนนั้นเมื่อหลายเดือนก่อน “แต่ดูเถิด, สิ่งทั้งปวงกระทำไปโดยปรีชาญาณของพระองค์ผู้ทรงรู้แจ้งในสรรพสิ่ง” ข้อความเหล่านั้นทำให้ผมรู้สึกสงบมากและให้ความอุ่นใจเมื่อผมรู้สึกอ้างว้าง
บิดาทางโลกของผมจากไปแล้ว แต่พระบิดาบนสวรรค์จะอยู่เพื่อผมที่นั่นเสมอ พระบิดาบนสวรรค์ทรงทำทุกสิ่งโดยพระปรีชาญาณของพระองค์ และเมื่อเราค้นหาและทำสุดความสามารถเพื่อเตรียมตนเอง เราจะพบคำตอบที่มีค่า