ปัจฉิมวาทะ
ประจักษ์พยานและการเปลี่ยนใจเลื่อมใส
จากคำปราศรัยการประชุมใหญ่สามัญเดือนตุลาคม 2012
บทเรียนสำคัญเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประจักษ์พยานกับการเปลี่ยนใจเลื่อมใสประจักษ์ชัดในการทำงานเผยแผ่ศาสนาของพวกบุตรของโมไซยาห์
“มากเท่าที่พวกท่านนำมาเข้าถึงความรู้เรื่องความจริง, โดยผ่านการสั่งสอนของแอมันกับพี่น้องท่าน, ตามวิญญาณแห่งการเปิดเผยและการพยากรณ์, และเดชานุภาพของพระผู้เป็นเจ้าที่ทำปาฏิหาริย์ในคนเหล่านั้น—แท้จริงแล้ว, … ดังที่พระเจ้าทรงพระชนม์อยู่ฉันใด, ชาวเลมันมากเท่าที่เชื่อในคำสั่งสอนของพวกท่าน, และเปลี่ยนใจเลื่อมใสมาหาพระเจ้า, จะไม่เคยตกเลยฉันนั้น.
“เพราะพวกเขากลับกลายเป็นคนชอบธรรม; พวกเขาวางอาวุธแห่งการกบฏของตนแล้ว, คือพวกเขาไม่ต่อสู้พระผู้เป็นเจ้าอีกต่อไป …
“บัดนี้, คนเหล่านี้คือคนที่เปลี่ยนใจเลื่อมใสมาหาพระเจ้า” (แอลมา 23:6–8)
องค์ประกอบสำคัญสองประการที่อธิบายไว้ในข้อเหล่านี้คือ (1) ความรู้เรื่องความจริง ซึ่งอาจตีความได้ว่าเป็นประจักษ์พยาน และ (2) เปลี่ยนใจเลื่อมใสมาหาพระเจ้า ซึ่งข้าพเจ้าเข้าใจว่าเป็นการเปลี่ยนใจเลื่อมใสมาหาพระผู้ช่วยให้รอดและพระกิตติคุณของพระองค์ ด้วยเหตุนี้ การเชื่อมโยงอันทรงพลังของประจักษ์พยานกับการเปลี่ยนใจเลื่อมใสมาหาพระเจ้าจึงทำให้เกิดความมั่นคงแน่วแน่และให้การปกป้องทางวิญญาณ
ประจักษ์พยานคือความรู้เรื่องความจริงทางวิญญาณที่ได้จากอำนาจของพระวิญญาณบริสุทธิ์ การเปลี่ยนใจเลื่อมใสอย่างต่อเนื่องคือความภักดีแน่วแน่ต่อความจริงที่เปิดเผยต่อเราและเรารับไว้—ด้วยความเต็มใจและเหตุผลที่ชอบธรรม การรู้ว่าพระกิตติคุณเป็นความจริงเป็นส่วนสำคัญยิ่งของประจักษ์พยาน ความแน่วแน่ต่อพระกิตติคุณอยู่เสมอเป็นส่วนสำคัญยิ่งของการเปลี่ยนใจเลื่อมใส เราพึงทราบว่าพระกิตติคุณเป็นความจริงและแน่วแน่ต่อพระกิตติคุณนั้น
การวาง “อาวุธแห่งการกบฏ” ที่เรายึดมั่นเช่น ความเห็นแก่ตัว ความหยิ่งจองหอง และความไม่เชื่อฟังเรียกร้องมากกว่าการเชื่อฟังและรู้เพียงอย่างเดียว ความเชื่อมั่น ความอ่อนน้อมถ่อมตน การกลับใจ และความว่าง่ายเกิดขึ้นก่อนการทิ้งอาวุธแห่งการกบฏของเรา ท่านกับข้าพเจ้ายังคงครอบครองอาวุธแห่งการกบฏที่กีดกันเราจากการเปลี่ยนใจเลื่อมใสมาหาพระเจ้าอยู่หรือไม่ หากเป็นเช่นนั้น เราต้องกลับใจเดี๋ยวนี้
ข้าพเจ้าสัญญาว่าเมื่อเรามาสู่ความรู้เรื่องความจริงและเปลี่ยนใจเลื่อมใสมาหาพระเจ้า เราจะยังมั่นคงแน่วแน่และไม่มีวันตกเลย