ดิจิทัลเท่านั้น: การสนับสนุน จงตามเรามา
เรียนรู้จากวิสุทธิชนยุคต้น: ทิ้งความกังวลทางโลก
วิสุทธิชนยุคต้นบางคนเป็นแบบอย่างอันน่าทึ่งของหลักธรรมที่สอนไว้ใน หลักคำสอนและพันธสัญญา 37–40
เมื่อชายชื่อเจมส์ โคเวลสนใจศาสนจักรในปี 1831 พระเจ้ารับสั่งกับเจมส์ว่าเขา “เห็นโทมนัสใหญ่หลวงมาแล้ว” ในชีวิตเขา “เนื่องจากความจองหองและความกังวลทางโลก” (หลักคำสอนและพันธสัญญา 39:9) เจมส์ให้คำมั่นสัญญาว่าจะเปลี่ยนแปลงชีวิต แต่สุดท้ายแล้ว “ความกังวลทางโลก” เหล่านี้นำเขาออกจากศาสนจักรอีกครั้ง (ดู หลักคำสอนและพันธสัญญา 40:2)
เราจะแน่ใจได้อย่างไรว่าเราไม่ยอมให้ความกังวลทางโลกดึงเราออกจากพรของพระกิตติคุณและการชดใช้ของพระผู้ช่วยให้รอด? แบบอย่างของแมรีย์ “พอลลีย์” โวส (1780–1866) สตรีโสดจากแมสซาชูเซตส์ สหรัฐอเมริกาให้แนวคิดบางประการแก่เรา!
การบริจาคด้วยใจเอื้อเฟื้อ
พอลลีย์รับบัพติศมาในเมืองบอสตัน รัฐแมสซาชูเซตส์วันที่ 29 กรกฎาคม ค.ศ. 1832 เมื่อเธออายุ 52 ปี1 แม้ไม่เคยแต่งงาน แต่พอลลีย์ไม่ได้อยู่คนเดียว นอกจากมิตรภาพที่ได้รับจากสาขาของเธอในบอสตันแล้ว เธอยังมีรูธ โวสหลานสาววัย 26 ปีอยู่เป็นเพื่อนด้วย ทั้งสองทำงานเป็นช่างทำเบาะเก้าอี้ด้วยกันในบอสตัน2 และทั้งคู่พบความหมายและความสมหวังในพระกิตติคุณ
ในปี 1834 พอลลีย์ได้ยินเรื่องสภาพตกอับของวิสุทธิชนผู้ถูกกลุ่มคนร้ายใช้กำลังขับไล่ออกจากเทศมณฑลแจ็คสัน รัฐมิสซูรี สหรัฐอเมริกา โดยผ่านการเปิดเผยต่อโจเซฟ สมิธ พระเจ้าทรงขอให้สมาชิกศาสนจักรบริจาคเงินช่วยเหลือวิสุทธิชนที่กำลังลำบากไถ่ไซอัน (ดู หลักคำสอนและพันธสัญญา 103:22–23) พอลลีย์มีไม่มาก แต่เธอมีศรัทธาในสัญญาของพระเจ้าที่ว่าถ้าวิสุทธิชนจะคลายความทุกข์ยากของผู้อื่น พรยิ่งใหญ่จะตามมา (ดู หลักคำสอนและพันธสัญญา 38:35; 39:8–9) พอลลีย์ทำตามความเชื่อมั่นนั้นโดยส่งเงิน 150 ดอลลาร์ไปเคิร์ทแลนด์ รัฐโอไฮโอ สหรัฐอเมริกาในปี 1834 เพื่อช่วยจัดหาเสบียงเดินทางให้ค่ายอิสราเอล (ต่อมารู้กันในชื่อว่าค่ายไซอัน)3
หนึ่งร้อยห้าสิบดอลลาร์เป็นเงินเยอะมากสำหรับคนบางคน—โดยเฉพาะสำหรับพอลลีย์ที่ตอนนี้อายุ 54 ปีแล้ว คนงานหญิงที่ได้รับค่าจ้างสูงสุดในอุตสาหกรรมสิ่งทอของเมืองโลว์เอลล์ รัฐแมสซาชูเซตส์ทำเงินได้ประมาณ 3 ดอลลาร์ต่อสัปดาห์เท่านั้น ด้วยเหตุนี้ 150 ดอลลาร์จึงมีค่าเท่ากับค่าจ้างของพอลลีย์หนึ่งปี4
หนึ่งวันก่อนที่โจเซฟ สมิธได้รับเงินของพอลลีย์ ท่านบอกวิลฟอร์ด วูดรัฟฟ์และคนอื่นๆ ว่าศาสนจักรมีทุนทรัพย์ไม่พอเป็นค่าเดินทางของค่ายไซอัน แต่โจเซฟไม่กังวล “ผมจะมีเงินอีกไม่นาน” ท่านบอกคนกลุ่มนั้น และเช้าวันรุ่งขึ้นเงินบริจาคของพอลลีย์ก็มาถึง 150 ดอลลาร์ของเธอทำให้มีเงินซื้ออุปกรณ์และเสบียงสำหรับค่ายไซอัน5
เราสามารถให้ความสำคัญกับพระกิตติคุณเป็นอันดับแรกเช่นกัน
ความปรารถนาของพอลลีย์ที่จะทิ้งความกังวลทางโลกและให้พระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์มาก่อนเพิ่มขึ้นตลอดชีวิตเธอ เมื่อวิสุทธิชนกำลังสร้างพระวิหารเคิร์ทแลนด์ เธอกับรูธตัดสินใจว่า “สมควรและจำเป็นต้องให้อย่างใจกว้าง” เพื่อช่วยเรื่องการก่อสร้าง สตรีทั้งสองบริจาค “เต็มขีดกำลังทรัพย์ของพวกเธอ” จนโจเซฟ สมิธบอกพวกเธอในที่สุดว่า “พอแล้ว” “ความใจกว้างอย่างหาที่สุดมิได้” ของพวกเธอเผื่อแผ่ไปถึงผู้สอนศาสนาที่กำลังรับใช้ทางภาคตะวันออกของสหรัฐด้วย8
พอลลีย์กับรูธได้รับพรจากการบริจาคของพวกเธอ ความเอื้อเฟื้อของทั้งสองสร้างสายสัมพันธ์แนบแน่นที่คงอยู่ตลอดชีวิต เมื่อพอลลีย์อายุ 77 ปีเธอยังอยู่ในบอสตัน แต่เธอต้องการไปรวมกับวิสุทธิชนในเขตปกครองพิเศษยูทาห์ รูธจึงเดินทางไปบอสตันและเดินทางไปหุบเขาซอลท์เลคกับพอลลีย์ในปี 1857 “ป้าพอลลีย์” เป็นที่รักในหมู่วิสุทธิชนในยูทาห์จนเธอเสียชีวิตในปี 1866 เมื่อรูธเสียชีวิตในปี 1884 เธอถูกฝังไว้ข้างพอลลีย์7
ชีวิตพอลลีย์เป็นแบบอย่างที่ให้ข้อคิดลึกซึ้งว่าเราจะให้พระกิตติคุณอยู่เหนือสิ่งต่างๆ ของโลกได้อย่างไร เช่นเดียวกับพอลลีย์ เราทำได้:
-
หาวิธีเอื้อประโยชน์ต่ออุดมการณ์ของพระกิตติคุณหลายๆ วิธี ไม่ว่าสภาวการณ์ของเราเป็นเช่นไร
-
แบ่งปันความจริงให้กับผู้อื่น
-
ทำตามคำแนะนำของพระบิดาบนสวรรค์ที่ประทานผ่านศาสดาพยากรณ์และอัครสาวกของพระองค์
-
ใช้ทุนทรัพย์ของเราเพื่อช่วยสร้างอาณาจักรอย่างเอื้อเฟื้อ
-
ให้ความสำคัญกับการรับใช้ในพระวิหารหรือทำงานประวัติครอบครัวเป็นอันดับแรก
-
สนับสนุนครอบครัวและเพื่อนๆ ตลอดการเดินทางชีวิตของเรา
เมื่อเราทำสิ่งที่ทำได้เพื่อละทิ้งสิ่งต่างๆ ของโลกและให้ความสำคัญกับพระกิตติคุณเป็นอันดับแรก เราย่อมทำให้ประจักษ์พยานของเราเข้มแข็งขึ้นในเรื่องแผนแห่งความรอด ความรักของพระบิดาในสวรรค์ และการชดใช้ของพระผู้ช่วยให้รอด “เมื่อท่านเริ่มต้นและดำเนินต่อไปในกระบวนการตลอดชีวิตของการอุทิศถวายชีวิตท่านแด่พระเจ้า” ประธานรัสเซลล์ เอ็ม. เนลสันอธิบาย “การเปลี่ยนแปลงในทัศนคติ ความรู้สึก และความเข้มแข็งทางวิญญาณของท่านจะทำให้ท่านประหลาดใจ!”8 เช่นเดียวกับพอลลีย์ เราจะพบชีวิตที่ร่ำรวยและสมหวัง ไม่ว่าสภาวการณ์ของเราเป็นเช่นไร