การเป็นบิดามารดาด้วยศรัทธาในโลกยุคปัจจุบันที่มีการเปลี่ยนแปลง
ผู้เขียนอาศัยอยู่ในออสเตรเลียตะวันตก ออสเตรเลีย
ท่านสามารถมีอิทธิพลอันทรงพลังต่อลูกของท่านได้ไม่ว่าสังคมจะสอนพวกเขาอย่างไร
วัยเด็กของฉันเป็นข้อพิสูจน์ถึงอิทธิพลอันทรงพลังที่ผู้ใหญ่ชาวคริสต์คนหนึ่งสามารถมีต่อชีวิตของเด็กได้ แม่ของฉันสิ้นชีวิตเมื่อฉันอายุ 4 ขวบ และยายของฉันช่วยดูแลฉันกับพี่น้อง ท่านเข้าโบสถ์ของกองทัพการไถ่บาป (Salvation Army) ท่านสอนให้เราสวดอ้อนวอน รักศัตรูของเรา และปฏิบัติต่อผู้อื่นอย่างมีเมตตา การนำทางของท่านในช่วงปีที่สำคัญเพียงไม่กี่ปีได้วางรากฐานให้ทางเลือกในอนาคตของฉัน
ปัจจุบันฉันใช้เวลามากกว่า 40 ปีในการเป็นแม่และอาชีพดูแลเด็ก ฉันเห็นคุณค่าและบรรทัดฐานของสังคมว่าตรงข้ามกับคำสอนของพระผู้ช่วยให้รอดมากขึ้น ความชั่วร้ายดูเหมือนจะมีอิทธิพลกับทุกสิ่งตั้งแต่หนังสือและดนตรีไปจนถึงภาษาในชีวิตประจำวัน แต่เราไม่จำเป็นต้องรู้สึกหนักใจ พระเจ้าจะทรงนำทางให้เรารู้วิธีสอน ปกป้อง และเสริมสร้างความเข้มแข็งให้ลูกๆ ของเราในสภาพแวดล้อมทางวัฒนธรรมในปัจจุบันนี้ ต่อไปนี้คือบทเรียนเฉพาะเจาะจงสามเรื่องที่ฉันเรียนรู้ซึ่งอาจช่วยครอบครัวของท่านได้ด้วย
1. มุ่งเน้นสัมพันธภาพ ไม่ใช่แค่กฎ
เมื่อโตขึ้นโดยไม่มี “ครอบครัวที่สมบูรณ์แบบ” เป็นแบบอย่าง ฉันจึงมักจะสงสัยตัวเองและความสามารถในการเลี้ยงลูก คำพูดจากเอ็ลเดอร์เจฟฟรีย์ อาร์. ฮอลแลนด์แห่งโควรัมอัครสาวกสิบสองทำให้ฉันรู้สึกสบายใจ “หากท่าน… รักพระผู้เป็นเจ้าและพยายามทุกวิถีทางที่จะดำเนินชีวิตตามพระกิตติคุณด้วยตนเอง… หากท่านพยายามเป็นบิดามารดาที่ดีที่สุดเท่าที่จะสามารถเป็นได้ ท่านก็ได้ทำทุกสิ่งที่มนุษย์สามารถทำได้และสิ่งทั้งหมดนี้ที่พระผู้เป็นเจ้าทรงคาดหวังให้ท่านทำ”1 การทำให้ดีที่สุดของเราจำเป็นต้องได้รับความช่วยเหลือจากพระผู้ช่วยให้รอด และหากมีช่วงเวลาในประวัติศาสตร์ที่พ่อแม่จำเป็นต้องพึ่งพาพระองค์ นั่นก็คือตอนนี้!
แทนที่จะกังวลเกี่ยวกับกฎระเบียบมากมายและว่าลูกๆ ของเราจะทำตามได้อย่างสมบูรณ์แบบหรือไม่ เราสามารถมุ่งเน้นที่การสร้างความสัมพันธ์กับพวกเขาและพระผู้ช่วยให้รอด ศาสดาพยากรณ์ที่เรารัก ประธานรัสเซลล์ เอ็ม. เนลสันกล่าวว่า “อย่าพยายามควบคุมลูกๆ แต่จงฟังพวกเขา ช่วยให้พวกเขาเรียนรู้พระกิตติคุณ สร้างแรงบันดาลใจ และนำพวกเขาไปสู่ชีวิตนิรันดร์ ท่านเป็นตัวแทนของพระผู้เป็นเจ้าในการดูแลลูกๆ ที่พระองค์ทรงฝากฝังไว้กับท่าน ให้อิทธิพลของพระองค์อยู่ในใจท่านเมื่อท่านสอนและชักชวน”2 จากประสบการณ์ของฉัน คำแนะนำนี้เป็นความจริง
2. สนุกไปด้วยกัน
วิธีหนึ่งที่เราสร้างความสัมพันธ์กับลูกๆ ของเราคือการทำกิจกรรมครอบครัว ซึ่งมักเป็นช่วงเวลาที่เรียบง่าย เช่น การเดินเล่นหรือรับประทานฟิชแอนด์ชิปที่ชายหาด ลูกๆ ของเรารู้ดีว่าเราชอบใช้เวลากับพวกเขามาก
เราพยายามฟังลูกๆ ของเราเพื่อให้พวกเขารู้สึกสบายใจที่จะพูดคุยกับเราเกี่ยวกับปัญหาของพวกเขา เมื่อเกิดเรื่องท้าทายในครอบครัวเราจะนั่งคุยกับลูกๆ เพื่อพูดคุยถึงความกังวลของเรา รับฟังคำตอบจากพวกเขา และพยายามตัดสินใจร่วมกัน
3. กำหนดแบบอย่างการดำเนินชีวิตตามพระกิตติคุณ
ฉันไม่ได้เป็นสมาชิกศาสนจักรตอนที่ลูกๆ ของฉันยังเป็นเด็ก ฉันต้องใช้เวลา 18 ปีในการตัดสินใจรับบัพติศมา แต่สามีของฉันเป็นสมาชิก เขาช่วยให้ลูกๆ ของเราสร้างความสัมพันธ์กับพระบิดาบนสวรรค์ผ่านการสวดอ้อนวอนกับครอบครัว การศึกษาพระคัมภีร์ และการสังสรรค์ในครอบครัว เราอยู่ห่างไกลจากคำว่าสมบูรณ์แบบ แต่สามีของฉันก็ยังทำต่อและอดทน
ฉันเชื่อว่าแบบอย่างการดำเนินชีวิตตามพระกิตติคุณของสามีฉันมีอิทธิพลต่อลูกๆ ของเรามากที่สุด ลูกๆ เห็นเขาอ่านพระคัมภีร์ สวดอ้อนวอน และเข้าโบสถ์ แม้จะทำคนเดียวก็ตาม สิ่งนี้มีผลมากกว่าสิ่งที่เราสอนกันอย่างจริงจังมาก
แม้ว่าท่านจะไม่มีสภาพแวดล้อมแบบครอบครัวที่สมบูรณ์แบบ แต่ท่านก็ยังสามารถให้การนำทางแก่ลูกๆ ของท่านได้ อย่าเสียกำลังใจ
เราสามารถเริ่มวันนี้
ในฐานะพ่อแม่ สุดท้ายพวกเราแต่ละคนจะต้องปล่อยให้ลูกของเราไป โดยเชื่อใจว่าพวกเขาจะตัดสินใจเองได้ หวังว่าในตอนนั้นเราจะรู้สึกมั่นใจกับคำพูดของศาสดาพยากรณ์โจเซฟ สมิธ: “ผมสอนหลักการที่ถูกต้องแก่พวกเขา และให้พวกเขาปกครองตนเอง”3 เราสามารถเริ่มต้นวันนี้เพื่อเป็นแหล่งคำแนะนำพระกิตติคุณแก่ลูกๆ ของเราไม่ว่าโลกรอบตัวเราจะสอนอะไรแก่พวกเขาบ้าง