ดิจิทัลเท่านั้น: เสียงวิสุทธิชนยุคสุดท้าย
คุณยังเป็นแม่ได้
การเป็นมารดาเป็นการเรียกพิเศษที่พระผู้เป็นเจ้าประทานแก่สตรีทุกคน
ภาพถ่ายโดย ชาร์ลอตต์ ลาร์คาบาล
ดิฉันชอบรับใช้ผู้คน นั่นเป็นสิ่งที่ดิฉันเรียนรู้จากคุณพ่อคุณแม่ โดยเฉพาะคุณแม่ของดิฉัน ท่านมักจะเป็นคนแรกที่ให้ความช่วยเหลือและเชื้อเชิญคนมารับอาหารหรือน้ำดื่ม
ท่านสอนดิฉันว่าการทำสิ่งดีๆ ให้ผู้อื่นจะสร้างความแตกต่างใหญ่หลวงในชีวิตคนมากมาย เมื่อคุณช่วยใครบางคน คุณสามารถช่วยให้พวกเขามีความสุข และเมื่อพวกเขามีความสุข พวกเขาจะต้องการมอบความสุขให้ผู้อื่น นั่นคือสิ่งที่ดิฉันจำใส่ใจเสมอ
คริสตัลเรียนมัธยมปลายและแองเจิลอายุหกขวบเมื่อคุณแม่ของพวกเธอดูแลพวกเธอไม่ได้อีก ดิฉันเสนอว่าจะรับพวกเธอมาเลี้ยง “ฉันสัญญาว่าจะไม่ทิ้งลูกของคุณ” ดิฉันบอก “ฉันจะดูแลพวกเขาอย่างดี”
หลายปีต่อมา คุณแม่วัยสาวอีกคนหนึ่งขอให้ดิฉันรับอัลลิสันทารกน้อยของเธอมาเลี้ยง คุณแม่คนนี้ประสบสถานการณ์ยากลำบากและรู้ว่าดิฉันสามารถให้ชีวิตที่ดีแก่ลูกน้อยของเธอได้ ดิฉันรับอัลลิสันมาเลี้ยง
ดิฉันพยายามสอนเรื่องสำคัญๆ ในชีวิตให้กับเด็กเหล่านี้ ดิฉันพาพวกเขาไปโบสถ์และพยายามช่วยให้พวกเขาใกล้ชิดพระผู้เป็นเจ้ามากขึ้น ดิฉันรู้ว่าเมื่อดิฉันเข้าใกล้พระองค์มากขึ้น ดิฉันสามารถทำได้มากขึ้น แม้ในสิ่งที่คิดว่าทำไม่ได้ ดิฉันต้องการให้คริสตัล แองเจิล กับอัลลิสันเป็นแบบนั้น
เด็กเหล่านี้ทนทุกข์ในชีวิต แต่ดิฉันเห็นพระกิตติคุณและพระวิญญาณเยียวยาใจพวกเขา ดิฉันเฝ้าดูแนวความคิดและพฤติกรรมของพวกเขาค่อยๆ เปลี่ยน เราสวดอ้อนวอนให้พ่อแม่ผู้ให้กำเนิดพวกเขาด้วยกัน เพราะไม่ว่าอะไรก็ตาม ดิฉันต้องการให้พวกเขาเคารพและรักพ่อแม่ของตน
ดิฉันรักคริสตัล แองเจิล และอัลลิสันราวกับพวกเขาเป็นลูกของดิฉันเอง บางครั้งมีคนถามว่าดิฉันจะเสียใจกับการตัดสินใจรับเลี้ยงพวกเขาหรือเปล่า จะเป็นอย่างไรถ้าคุณแม่ของอัลลิสันตัดสินใจรับอัลลิสันกลับไปเลี้ยง? ดิฉันจะเสียใจที่รักอัลลิสันและผูกพันกับเธอหรือเปล่า? แต่ดิฉันจะเสียใจทำไม? การช่วยเหลือผู้อื่นไม่มีอะไรต้องเสียใจ! แต่เป็นสิ่งที่ต้องขอบคุณ
ดิฉันขอบคุณคริสตัล แองเจิล และอัลลิสัน เพราะพวกเธอดิฉันจึงเรียนรู้วิธีเป็นมารดา เรียนรู้วิธีตื่นมาเปลี่ยนผ้าอ้อมกลางดึก วิธีสอนเด็กเล็กให้สวดอ้อนวอน และวิธีรักลึกซึ้งมากกว่าที่ดิฉันคิดว่าตนจะรักได้ นั่นคือสิ่งที่ดิฉันไม่คิดว่าจะได้เรียนรู้
บางทีการเรียกของดิฉันในโลกนี้อาจเป็นการดูแลเด็กที่ไม่มีแม่หรืออยู่ห่างพ่อแม่ก็เป็นได้
ดิฉันพยายามอ้าแขนและเงี่ยหูฟังคนที่ต้องการให้โอบกอดและรับฟัง เมื่อผู้สอนศาสนามา ดิฉันพยายามปฏิบัติเหมือนคุณแม่ของพวกเขาจะปฏิบัติต่อพวกเขา ถ้าเป็นวันเกิดของพวกเขา ดิฉันจะอบเค้กให้ ดิฉันถามพวกเขาว่าคุณพ่อคุณแม่ทำอาหารพิเศษให้หรือเปล่า แล้วดิฉันจะพยายามทำให้พวกเขา ดิฉันรู้ว่าคุณพ่อคุณแม่ของพวกเขาอยู่ไกล ด้วยเหตุนี้จึงเป็นสิ่งที่ดิฉันทำได้เพื่อให้กำลังใจพวกเขา
ดิฉันเคยรู้สึกเศร้าที่เป็นโสดและอยากมีลูกของตัวเอง แต่การเป็นมารดาเป็นการเรียกพิเศษที่พระผู้เป็นเจ้าประทานแก่สตรีทุกคน คุณอาจไม่มีลูกของตัวเอง แต่คุณยังเป็นแม่ได้