2021
เรื่องจิตวิญญาณข้าพเจ้า
พฤศจิกายน 2021


13:4

เรื่องจิตวิญญาณข้าพเจ้า

เราไตร่ตรองเรื่องอะไร? เรื่องอะไรที่สำคัญต่อเรา? เรื่องจิตวิญญาณของเราคืออะไร?

พี่น้องทั้งหลาย การมายืนในศูนย์การประชุมใหญ่ที่เรารักอีกครั้ง เตือนให้นึกถึงถ้อยคำของอัครสาวกเปโตร: “องค์พระผู้เป็นเจ้า ดีจริงๆ ที่เราอยู่กันที่นี่”1

วันนี้ความคิดข้าพเจ้ามุ่งไปที่ถ้อยคำของศาสดาพยากรณ์นีไฟผู้เก็บรักษาบันทึกของผู้คนหลังการตายของท่านบิดาลีไฮ นีไฟเขียนว่า “และบนแผ่นจารึกเหล่านี้ข้าพเจ้าเขียนเรื่องจิตวิญญาณข้าพเจ้า”2

ข้าพเจ้าเคยอ่านข้อนี้ผ่านๆ เพราะคิดว่าคำว่า things (เรื่อง) ไม่สละสลวยหรือเข้าถึงวิญญาณมากนัก ไม่หรูพอที่จะคู่กับคำว่า “จิตวิญญาณข้าพเจ้า” แต่ข้าพเจ้าได้เรียนรู้ว่าคำว่า things (เรื่อง, สิ่ง) มีใช้ในพระคัมภีร์ถึง 2,354 ครั้ง3 ต้วอย่างเช่น ในโมเสส: “เราคือปฐมและอวสาน, พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงฤทธานุภาพ; โดยพระองค์เดียวที่ถือกำเนิดของเรา เราสร้าง สิ่ง เหล่านี้”4 และคำของนีไฟ: “ดูเถิด, จิตวิญญาณข้าพเจ้าเบิกบานใน เรื่อง ของพระเจ้า; และใจข้าพเจ้าไตร่ตรองอยู่ตลอดเวลาถึง เรื่อง ที่ข้าพเจ้าเห็นและได้ยินมา.”5

คำพูดนีไฟทำให้เกิดคำถามว่า “เราไตร่ตรองเรื่องอะไร?” “เรื่องอะไรที่สำคัญต่อเรา?” “เรื่องจิตวิญญาณของเราคืออะไร?”

เรื่องจิตวิญญาณของเรามักจะชัดเจนและลึกซึ้งขึ้นจากการถามคำถาม

เอ็ลเดอร์ราสแบนด์ในการประชุมออนไลน์
การให้ข้อคิดทางวิญญาณสำหรับเยาวชน
การถ่ายทอดสำหรับคนหนุ่มสาว

ช่วงการแพร่ระบาด ข้าพเจ้าได้พบกับเยาวชนจากทั่วโลกในการให้ข้อคิดทางวิญญาณน้อยใหญ่หลายครั้งผ่านการถ่ายทอดและทางโซเชียลมีเดีย และเราสนทนาคำถามของพวกเขา

โจเซฟ สมิธวัยสิบสี่ปีมีคำถามลึกๆ ในจิตวิญญาณ และนำไปทูลถามพระเจ้า ประธานรัสเซลล์ เอ็ม. เนลสันย้ำว่า: “นำคำถามของท่านไปทูลพระเจ้าและถามแหล่งอื่นที่เชื่อถือได้ ศึกษาด้วยความปรารถนาจะ เชื่อ ไม่ใช่ด้วยความหวังว่าท่านจะพบรอยด่างพร้อยในชีวิตศาสดาพยากรณ์หรือความคลาดเคลื่อนในพระคัมภีร์ หยุดเพิ่มความสงสัยของท่านด้วยการผสมโรงกับผู้สงสัย … จงยอมให้พระเจ้าทรงนำท่านในการเดินทางค้นพบทางวิญญาณ”6

เยาวชนมักจะถามว่าข้าพเจ้าเชื่ออะไรและทำไมจึงเชื่อ

ขัาพเจ้านึกถึงเมื่อไปเยี่ยมบ้านเยาวชนหญิงคนหนึ่งทางออนไลน์ และถามว่าเป็นครั้งแรกที่มีอัครสาวกมาที่บ้านเธอใช่ไหม เธอรีบยิ้มและตอบว่า “ใช่ค่ะ” คำถามเธอดีมาก: “อะไรคือ เรื่อง สำคัญที่สุดที่หนูควรรู้?”

ข้าพเจ้าตอบด้วยเรื่องจิตวิญญาณข้าพเจ้า เรื่องที่เตรียมข้าพเจ้าให้ได้ยินการกระตุ้นเตือน ที่ยกสายตาข้าพเจ้าให้พ้นวิถีโลก ที่ให้จุดประสงค์แก่งานข้าพเจ้าในพระกิตติคุณและแก่ชีวิตข้าพเจ้า

ข้าพเจ้าขอแบ่งปันเรื่องจิตวิญญาณข้าพเจ้ากับท่านบางเรื่อง เรื่องเหล่านี้ใช้ได้กับทุกคนที่หมายมั่นจะเป็นสานุศิษย์ที่แท้จริงของพระเยซูคริสต์ สิบเรื่องน่าจะดี เพราะเป็นตัวเลขกลมๆ แต่วันนี้ข้าพเจ้าจะให้ท่านเจ็ดเรื่องและหวังว่าท่านจะคิดเรื่องที่แปด เก้า สิบให้ครบจากประสบการณ์ส่วนตัว

หนึ่ง รักพระผู้เป็นเจ้าพระบิดาและพระเยซูคริสต์ พระผู้ช่วยให้รอด

พระเยซูทรงประกาศพระบัญญัติสำคัญข้อแรก: “จงรักองค์‍พระ‍ผู้‍เป็น‍เจ้าของท่านด้วยสุดใจของท่าน ด้วยสุดจิตของท่าน และด้วยสุดความคิดของท่าน”7

ประธานเนลสันประกาศอุทิศตนต่อพระผู้เป็นเจ้า พระบิดานิรันดร์ และต่อพระบุตร พระเยซูคริสต์ เมื่อท่านได้รับเรียกให้นำศาสนจักรของพระเจ้า โดยกล่าวว่า “ข้าพเจ้ารู้จักพระองค์ รักพระองค์ และให้คำมั่นว่าจะรับใช้พระองค์—และท่าน—ด้วยลมหายใจที่เหลืออยู่ตลอดชีวิต”8

ดังนั้น หนึ่ง รักพระบิดาและพระบุตร

สอง “รักเพื่อนบ้านของท่าน”9

นั่นไม่ใช่แค่ความคิดที่ดี แต่เป็นพระบัญญัติสำคัญข้อสอง เพื่อนบ้านของท่านคือคู่สมรสและครอบครัว สมาชิกวอร์ด เพื่อนร่วมงาน เพื่อนร่วมห้อง ผู้นับถือคนละศาสนา ผู้ต้องการความช่วยเหลือ ที่จริงแล้วก็คือทุกคน แก่นแท้ของคำว่า “รักเพื่อนบ้านของท่าน” อยู่ในเพลงสวด “จงรักกันและกัน”10

ประธานเนลสันย้ำเตือนเราว่า “เมื่อเรารัก พระผู้เป็นเจ้า สุดใจของเรา พระองค์จะทรงหันใจเราไปหาความผาสุกของ ผู้อื่น11

สาม รักตนเอง

นี่เป็นเรื่องที่หลายคนต้องสู้หนัก ไม่น่าสงสัยหรือว่าการรักตัวเองดูจะเกิดขึ้นง่ายน้อยกว่าการรักผู้อื่น? กระนั้นพระเจ้ายังตรัสว่า “จงรักเพื่อนบ้านเหมือนรักตนเอง”12 พระองค์ทรงให้ค่าความเป็นพระเจ้าในตัวเรา และเราก็ต้องทำเช่นกัน เมื่อเราแบกภาระหนักของความผิดพลาด ความปวดร้าว ความรู้สึกไม่ดีพอ ความผิดหวัง ความโกรธ หรือบาป สวรรค์กำหนดว่าอำนาจการชดใช้ของพระผู้ช่วยให้รอดเป็นสิ่งหนึ่งที่ยกจิตวิญญาณ

สี่ รักษาพระบัญญัติ

พระเจ้าตรัสชัดเจนว่า: “หากเจ้ารักเรา, จงรักษาบัญญัติของเรา”13 ในแต่ละวันจงพากเพียรเป็นคนดีขึ้นและทำดีขึ้นอีกนิดและมุ่งหน้าในความชอบธรรม

ห้า มีค่าควรเข้าพระวิหารตลอดเวลา

ซึ่งข้าพเจ้าเรียกว่าได้รับการรับรองต่อพระเจ้า ไม่ว่าท่านจะไปพระวิหารได้หรือไม่ การมีค่าควรถือใบรับรองพระวิหารที่เป็นปัจจุบันจะทำให้ท่านจดจ่อแน่วแน่อยู่กับเรื่องสำคัญ นั่นคือเส้นทางพันธสัญญา

หก จงมีปีติและรื่นเริง

“จงรื่นเริงเถิด, และอย่ากลัว”14 พระเจ้าตรัส ทำไม? จะทำได้อย่างไรเมื่อมีแต่เรื่องท้าทายทุกด้าน? เพราะสัญญาจากพระเยซูคริสต์: “เราพระเจ้าอยู่กับเจ้า, และจะยืนเคียงข้างเจ้า”15

ประธานเนลสันพูดถึงพระกิตติคุณที่ได้รับการฟื้นฟูว่าเป็น “ข่าวสารแห่งปีติ!”16 และอธิบายว่า “ปีติที่เรารู้สึกแทบไม่เกี่ยวกับสภาพการณ์ในชีวิตแต่เกี่ยวข้องอย่างยิ่งกับสิ่งที่เราให้เป็นศูนย์กลางในชีวิต”17

เจ็ด ทำตามศาสดาพยากรณ์ที่ยังมีชีวิตของพระผู้เป็นเจ้า

แม้จะมาเป็นรายการที่เจ็ด แต่ข้าพเจ้าคิดว่าเรื่องนี้อยู่ลำดับสูงสุดในแง่ความสำคัญในยุคปัจจุบัน

เรามีศาสดาพยากรณ์ของพระผู้เป็นเจ้าบนแผ่นดินโลกเวลานี้! อย่าลดคุณค่าความหมายของสิ่งนี้ ให้นึกถึงเยาวชนหญิงคนที่พูดถึงตอนเริ่มต้น เธอต้องการรู้เรื่องสำคัญที่สุด “ทำตามศาสดาพยากรณ์ที่มีชีวิต” ข้าพเจ้าพูดวันนั้นและขอย้ำอีกครั้งวันนี้

เราพิเศษในฐานะศาสนจักรที่นำโดยศาสดาพยากรณ์ ผู้หยั่งรู้ และผู้เปิดเผยที่ได้รับเรียกจากพระผู้เป็นเจ้าสำหรับยุคนี้ ข้าพเจ้าสัญญาว่าเมื่อท่านฟังและทำตามคำแนะนำของบุคคลเหล่านั้น ท่านจะไม่มีวันหลงทาง ไม่มีวัน!

เราอยู่ในยุคที่เราถูก “ซัดไปซัดมาและพัดไปพัดมา”18 เมื่อพลังทางวิญญาณ ความดีงาม ความซื่อสัตย์สุจริต และความเคารพถูกโจมตี เราต้องเลือก เรามีเสียงของพระเจ้าผ่านทางศาสดาพยากรณ์ที่จะมาระงับความกลัวและยกระดับสายตาเรา เพราะเมื่อประธานเนลสันพูด ท่านพูดแทนพระเจ้า

เราได้รับพรที่มีพระคัมภีร์และคำสอนมาเตือนเรา “เพราะความคิดของเราไม่ใช่ความคิดของเจ้า และทางของพวกเจ้าก็ไม่ใช่ทางของเรา พระยาห์เวห์ตรัสดังนี้แหละ”19

ดังเรื่องของนาอามาน ผู้บัญชาการกองทัพคนสำคัญในซีเรีย แต่ก็ยังเป็นโรคเรื้อน มีคนบอกเขาว่าศาสดาพยากรณ์เอลีชาช่วยรักษาได้ เอลีชาส่งผู้ส่งสารไปบอกนาอามานให้ไปล้างตัวในแม่น้ำจอร์แดนเจ็ดครั้งแล้วจะหาย นาอามานไม่พอใจ แน่นอนว่ามีแม่น้ำที่ยิ่งใหญ่กว่าแม่น้ำจอร์แดน แล้วทำไมจึงส่งคนใช้มาในเมื่อเขาคาดหวังให้เอลีชาศาสดาพยากรณ์มารักษาด้วยตนเอง? นาอามานเดินหนี แต่สุดท้ายพวกข้าราชการก็โน้มน้าวว่า: “ถ้าผู้เผยพระวจนะจะสั่งให้ท่านทำสิ่งใหญ่อย่างหนึ่ง ท่านจะไม่ทำหรือ?”20 ในที่สุดนาอามานก็จุ่มตัวในแม่นํ้าจอร์แดนเจ็ดครั้งและหายดี

เรื่องนาอามานเตือนเราให้นึกถึงความเสี่ยงของการเลือกปฏิบัติตามคำแนะนำเพียงบางส่วนของศาสดาพยากรณ์ที่สอดคล้องกับความคิดของเรา ความคาดหวังของเรา หรือบรรทัดฐานปัจจุบัน ศาสดาพยากรณ์ยังคงชี้ทางให้เราไปรักษาที่แม่น้ำจอร์แดนของเราเอง

ถ้อยคำสำคัญที่สุดซึ่งเราสามารถได้ยิน ไตร่ตรอง และทำตามคือถ้อยคำที่เปิดเผยผ่านศาสดาพยากรณ์ที่มีชีวิตของเรา ข้าพเจ้าเป็นพยานว่าข้าพเจ้าเคยนั่งฟังคำแนะนำของประธานเนลสันเพื่อหารือเรื่องสำคัญของศาสนจักรและของโลก และได้เห็นการเปิดเผยหลั่งไหลมาผ่านท่าน ท่านรู้จักพระเจ้า รู้จักวิถีของพระองค์ และปรารถนาให้บุตรธิดาทุกคนของพระผู้เป็นเจ้าได้ยินพระองค์ พระเจ้าพระเยซูคริสต์

เราได้ยินจากศาสดาพยากรณ์ที่การประชุมใหญ่สามัญปีละสองครั้งมาเป็นเวลาหลายปี แต่ด้วยปัญหาซับซ้อนในยุคของเรา ประธานเนลสันกำลังพูดมากขึ้นในวงอภิปราย21 โซเชียลมีเดีย22 การให้ข้อคิดทางวิญญาณ23 และแม้แต่การแถลงข่าว24 ข้าพเจ้าเฝ้าสังเกตท่านขณะเตรียมและนำเสนอข่าวสารการเปิดเผยอันลึกซึ้งที่ส่งเสริมความสำนึกคุณมากขึ้น ส่งเสริมการยอมรับพี่น้องร่วมโลกทุกคนมากขึ้น และเพิ่มสันติ ความหวัง ปีติ สุขภาพ และการเยียวยาในชีวิตเราแต่ละคนมากขึ้น

ประธานเนลสันเป็นนักสื่อสารที่มีพรสวรรค์ แต่สำคัญกว่านั้นคือท่านเป็นศาสดาพยากรณ์ของพระผู้เป็นเจ้า ช่างน่าทึ่งเมื่อคิดถึงเรื่องนี้ แต่สำคัญมากที่จะตระหนักว่าทิศทางชัดเจนของท่านจะปกป้องเราทุกคนจากการหลอกลวง เล่ห์กล และวิถีโลกที่มีแรงผลักดันมากขึ้นในโลกยุคนี้25

หน้าที่ของศาสดาพยากรณ์เป็นเรื่องการเปิดเผยทั้งนั้น “การฟื้นฟูความสมบูรณ์แห่งพระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์: ถ้อยแถลงต่อโลกเนื่องในวาระครบรอบสองร้อยปี” ที่ให้ไว้ในการประชุมใหญ่สามัญเดือนเมษายน 2020 เน้นว่าพระเจ้าทรงกำกับดูแลงานนี้ ในถ้อยแถลงนี้ ฝ่ายประธานสูงสุดและโควรัมอัครสาวกสิบสองแถลงว่า: “เราขอประกาศด้วยความยินดีว่าการฟื้นฟูที่สัญญาไว้ก้าวไปข้างหน้าผ่านการเปิดเผยต่อเนื่อง แผ่นดินโลกจะไม่มีวันเหมือนเดิมอีกต่อไป เพราะพระผู้เป็นเจ้าจะ ‘ทรงรวบรวมทุกสิ่งให้อยู่ในพระคริสต์’ (เอเฟซัส 1:10)”26

“ทุกสิ่ง…ในพระคริสต์”27 และ “เรื่องจิตวิญญาณข้าพเจ้า”28 เป็นประเด็นหลักของศาสนจักรนี้ พระกิตติคุณนี้ และผู้คนเหล่านี้

ข้าพเจ้าปิดท้ายด้วยคำเชื้อเชิญให้ทุกท่านพิจารณา “เรื่องจิตวิญญาณข้าพเจ้า” ทั้งเจ็ดเรื่องที่แบ่งปันในวันนี้: รักพระผู้เป็นเจ้าพระบิดาและพระเยซูคริสต์พระผู้ช่วยให้รอดของเรา; รักเพื่อนบ้าน; รักตนเอง; รักษาพระบัญญัติ; มีค่าควรถือใบรับรองพระวิหารตลอดเวลา; มีปีติและรื่นเริง; และทำตามศาสดาพยากรณ์ที่มีชีวิตของพระผู้เป็นเจ้า ข้าพเจ้าขอให้ท่านระบุข้อแปด เก้า สิบของตนเอง พิจารณาวิธีที่จะแบ่งปัน “เรื่อง” ที่ท่านประทับใจกับผู้อื่นและส่งเสริมพวกเขาให้สวดอ้อนวอน ไตร่ตรอง และแสวงหาการนำทางของพระเจ้า

เรื่องจิตวิญญาณข้าพเจ้าล้ำค่าต่อข้าพเจ้า เรื่องของท่านก็ล้ำค่าต่อท่านเช่นกัน เรื่องเหล่านี้เสริมกำลังการรับใช้ของเราในศาสนจักรและในชีวิตทุกด้าน ผูกมัดเรากับพระเยซูคริสต์ เตือนเราให้นึกถึงพันธสัญญา และช่วยให้เรารู้สึกปลอดภัยในพระพาหุของพระเจ้า ข้าพเจ้าเป็นพยานว่าพระองค์ทรงปรารถนาให้จิตวิญญาณเรา “จะไม่หิวหรือกระหาย, แต่จะอิ่ม”29ด้วยความรักของพระองค์ ขณะเราพยายามเป็นสานุศิษย์ที่แท้จริง และเป็นหนึ่งเดียวกับพระองค์ดังที่ทรงเป็นหนึ่งเดียวกับพระบิดา ในพระนามของพระเยซูคริสต์ เอเมน