บ้านแห่งระเบียบตามลำดับ
“ระเบียบตามลำดับ” เป็นวิธีที่เรียบง่าย เป็นธรรมชาติ และมีประสิทธิภาพสำหรับพระเจ้าในการสอนหลักธรรมสำคัญแก่เราในฐานะบุตรธิดาของพระองค์
ในชีวิตการทำงานและการรับใช้ในศาสนจักร ข้าพเจ้าทำเช่นนี้หลายพันครั้ง—แต่ไม่เคยมีชาย 15 คนนี้นั่งอยู่ด้านหลังมาก่อน ข้าพเจ้ารู้สึกถึงคำสวดอ้อนวอนของท่านและชาย 15 คนนี้
พี่น้องทั้งหลาย ข้าพเจ้าเป็นชาวพื้นเมืองราชอาณาจักรตองกาในแปซิฟิกใต้แต่ได้รับการเลี้ยงดูในอเมริกาเหนือ โรคระบาดทำให้ผู้สอนศาสนาหนุ่มสาวชาวตองกาหลายร้อยหรืออาจหลายพันคนที่รับใช้อยู่ทั่วโลกไม่สามารถกลับบ้านเกิดอันเป็นที่รักได้เนื่องจากชายแดนปิด เอ็ลเดอร์ชาวตองกาบางคนอยู่ในคณะเผยแผ่สามปีและซิสเตอร์บางคนเกินสองปี! พวกเขารอคอยอย่างอดทนด้วยศรัทธาซึ่งผู้คนของเรามีชื่อในเรื่องนั้น ในช่วงนี้ อย่าตื่นตกใจเกินไปหากพวกเขาบางคนที่รับใช้อยู่ในวอร์ดและสเตคของท่านดูคล้ายข้าพเจ้ามากขึ้นทุกที—แก่และมีผมหงอก เราสำนึกคุณต่อผู้สอนศาสนาทุกแห่งสำหรับการรับใช้ที่อุทิศตน แม้เมื่อต้องรับใช้นานขึ้นหรือสั้นลงเพราะโรคระบาด
วันอาทิตย์หนึ่งสมัยเป็นมัคนายก ข้าพเจ้าอยู่ในโถงทางเข้ากำลังถือถาดน้ำส่งผ่านศีลระลึกขณะสตรีคนหนึ่งเดินเข้ามาในอาคาร โดยหน้าที่ ข้าพเจ้าเข้าไปหาเธอและยื่นถาดน้ำให้ เธอพยักหน้า ยิ้ม และหยิบถ้วยน้ำ เธอมาสายไม่ทันรับขนมปัง ไม่นานหลังจากประสบการณ์นี้ เน็ด บริมลีย์ ผู้สอนประจำบ้านข้าพเจ้าสอนว่าพรและด้านต่างๆ ของพระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์ประทานให้เราเป็นระเบียบตามลำดับ
ต่อมาในสัปดาห์นั้น เน็ดและคู่มาที่บ้านเราพร้อมบทเรียนอันน่าจดจำ เน็ดย้ำเตือนเราว่ามีระเบียบในวิธีสร้างโลกของพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าใส่พระทัยยิ่งในการอธิบายให้โมเสสฟังเรื่องระเบียบที่พระองค์ทรงสร้างโลก อันดับแรก ทรงเริ่มแยกความสว่างจากความมืด แล้วแยกน้ำจากแผ่นดินแห้ง ทรงเพิ่มชีวิตพืชและสัตว์ก่อนจะเพิ่มงานสร้างสำคัญที่สุดของพระองค์เข้าไปในดาวเคราะห์ที่เพิ่งสร้างขึ้นมา ซึ่งก็คือมนุษยชาติ โดยเริ่มที่อาดัมกับเอวา
“พระเจ้าจึงทรงสร้างมนุษย์ขึ้นตามพระฉายาของพระองค์ ตามพระฉายาของพระเจ้านั้น พระองค์ทรงสร้างมนุษย์ขึ้นและทรงสร้างให้เป็นชายและหญิง …
“พระเจ้าทอดพระเนตรสิ่งทั้งปวงที่พระองค์ทรงสร้างไว้ ดูสิ ทรงเห็นว่าดียิ่งนัก” (ปฐมกาล 1:27, 31)
พระเจ้าพอพระทัย และทรงพักผ่อนในวันที่เจ็ด
ระเบียบตามลำดับที่ใช้สร้างโลกนี้ไม่เพียงทำให้เราพอเห็นแวบหนึ่งของสิ่งสำคัญที่สุดต่อพระผู้เป็นเจ้า แต่ยังทำให้เรารู้ว่าทรงสร้างโลกทำไมและเพื่อใคร
เน็ด บริมลีย์คั่นบทเรียนที่ได้รับการดลใจด้วยข้อความเรียบง่าย: “ไว พระนิเวศน์ของพระผู้เป็นเจ้าเป็นบ้านแห่งระเบียบ ทรงคาดหวังให้คุณดำเนินชีวิตอย่างมีระเบียบ ตามลำดับที่ถูกต้อง พระองค์ทรงต้องการให้คุณรับใช้งานเผยแผ่ก่อนแต่งงาน” ในประเด็นนี้ ปัจจุบันผู้นำศาสนจักรสอนว่า “พระเจ้าทรงคาดหวังให้เยาวชนชายที่สามารถทุกคนเตรียมรับใช้ … เยาวชนหญิง … ผู้ปรารถนาจะรับใช้ควรเตรียมเช่นกัน” (คู่มือทั่วไป: การรับใช้ในศาสนจักรของพระเยซูคริสต์แห่งวิสุทธิชนยุคสุดท้าย, 24.0, ChurchofJesusChrist.org) บราเดอร์บริมลีย์สอนต่อว่า: “พระผู้เป็นเจ้าทรงต้องการให้คุณแต่งงานก่อนมีลูก และทรงต้องการให้คุณพัฒนาพรสวรรค์ต่อไปเรื่อยๆ ขณะศึกษาหาความรู้” ถ้าคุณเลือกดำเนินชีวิตไม่เป็นไปตามลำดับ คุณจะพบว่าชีวิตยุ่งยากสับสนกว่าเดิม
บราเดอร์บริมลีย์สอนด้วยว่า โดยการพลีพระชนม์ชีพเพื่อการชดใช้ พระผู้ช่วยให้รอดทรงช่วยให้เรานำระเบียบกลับคืนมาสู่ชีวิต จากที่เคยสับสนวุ่นวายหรือไม่เป็นไปตามลำดับเพราะการเลือกที่ไม่ดีของเราเองหรือของผู้อื่น
ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ข้าพเจ้าก็หลงใหลใน “ระเบียบตามลำดับ” ข้าพเจ้าสร้างนิสัยการมองหาแบบแผนที่เป็นลำดับในชีวิตและในพระกิตติคุณ
เอ็ลเดอร์เดวิด เอ. เบดนาร์สอนหลักธรรมนี้ว่า: “เมื่อเราศึกษา เรียนรู้ และดำเนินชีวิตตามพระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์ ลำดับเหตุการณ์ต่างๆ มักจะสอนเราอยู่บ่อยครั้ง พิจารณาตัวอย่างเช่น บทเรียนเกี่ยวกับลำดับความสำคัญทางวิญญาณที่เราเรียนรู้จากลำดับเหตุการณ์สำคัญที่เกิดขึ้นเมื่อความสมบูรณ์แห่งพระกิตติคุณของพระผู้ช่วยให้รอดได้รับการฟื้นฟูในยุคสุดท้าย”
เอ็ลเดอร์เบดนาร์กล่าวถึงนิมิตแรกและการปรากฏครั้งแรกของโมโรไนต่อโจเซฟ สมิธขณะสอนเด็กหนุ่มศาสดาพยากรณ์เป็นอันดับแรก ธรรมชาติและพระลักษณะของพระผู้เป็นเจ้า ตามด้วยบทบาทของพระคัมภีร์มอรมอนและเอลียาห์ที่มีต่อการรวบรวมอิสราเอลทั้งสองด้านของม่านในสมัยการประทานสุดท้ายนี้
เอ็ลเดอร์เบดนาร์สรุปว่า: “ลำดับเหตุการณ์ที่สร้างแรงบันดาลใจนี้ให้ข้อมูลอันเป็นประโยชน์ในเรื่องทางวิญญาณที่เป็นลำดับความสำคัญสูงสุดต่อพระเจ้า” (“ใจของลูกหลานจะหันไป,” เลียโฮนา, พ.ย. 2011, 24)
ข้าพเจ้าตั้งข้อสังเกตหนึ่งว่า “ระเบียบตามลำดับ” เป็นวิธีที่เรียบง่าย เป็นธรรมชาติ และมีประสิทธิภาพสำหรับพระเจ้าในการสอนหลักธรรมสำคัญแก่เราในฐานะบุตรธิดาของพระองค์
เรามายังแผ่นดินโลกเพื่อเรียนรู้และรับประสบการณ์ซึ่งเกิดขึ้นไม่ได้ด้วยวิธีอื่น การเติบโตของเราไม่ซ้ำแบบกันและเป็นองค์ประกอบสำคัญยิ่งในแผนของพระบิดาบนสวรรค์ การเติบโตทางร่างกายและทางวิญญาณเริ่มขึ้นเป็นระยะ และค่อยๆ พัฒนาขณะเรารับประสบการณ์เป็นลำดับ
แอลมาเทศนาเรื่องศรัทธาอย่างทรงพลัง—โดยใช้อุปมาเรื่องเมล็ดพืชว่าถ้าได้รับการดูแลและบำรุงเลี้ยงอย่างถูกต้อง มันจะงอกจากต้นอ่อนเล็กๆ ไปเป็นต้นโตเต็มวัยที่มีผลรสเลิศ (ดู แอลมา 32:28–43) บทเรียนคือศรัทธาของท่านจะเพิ่มขึ้นขณะท่านให้พื้นที่และบำรุงเลี้ยงเมล็ด—หรือพระวจนะของพระผู้เป็นเจ้า—ในใจท่าน ศรัทธาของท่านจะเพิ่มพูนขึ้นขณะพระวจนะของพระผู้เป็นเจ้าเริ่ม “พองอยู่ในอกท่าน” (ข้อ 28) การที่เมล็ด “พอง, และงอก, และเริ่มเติบโต” (ข้อ 30) เป็นทั้งภาพและคำสอน ซึ่งก็เป็นไปตามลำดับเช่นกัน
พระเจ้าทรงสอนเราเป็นรายบุคคลตามความสามารถในการเรียนรู้และวิธีเรียนรู้ของเรา การเติบโตของเราขึ้นอยู่กับความเต็มใจ ความอยากรู้อยากเห็นตามธรรมชาติ ระดับศรัทธา และความเข้าใจของเราโดยทั้งสิ้น
นีไฟได้รับการสอนถึงสิ่งที่โจเซฟ สมิธจะต้องเรียนรู้ในเคิร์ทแลนด์ โอไฮโอในเวลาต่อมากว่า 2,300 ปี: “เพราะดูเถิด, พระเจ้าพระผู้เป็นเจ้าตรัสดังนี้: เราจะให้แก่ลูกหลานมนุษย์บรรทัดมาเติมบรรทัด, กฎเกณฑ์มาเติมกฎเกณฑ์, ที่นี่นิดและที่นั่นหน่อย; และคนที่ฟังกฎเกณฑ์ของเรา, และเงี่ยหูฟังคำแนะนำของเราย่อมเป็นสุข, เพราะพวกเขาจะเรียนรู้ปัญญา” (2 นีไฟ 28:30)
การที่เราเรียนรู้ “บรรทัดมาเติมบรรทัด, กฎเกณฑ์มาเติมกฎเกณฑ์, ที่นี่นิดและที่นั่นหน่อย” ก็เป็นไปตามลำดับเช่นกัน
ลองพิจารณาคำพูดต่อไปนี้ซึ่งเราได้ยินมากที่สุดในชีวิต: “สิ่งแรกต้องมาก่อน” หรือ “ให้นมก่อนค่อยให้อาหารแข็ง” อีกอันคือ “เราต้องเดินก่อนค่อยวิ่ง” สัจพจน์แต่ละข้อเหล่านี้บ่งบอกถึงสิ่งที่เป็นไปตามลำดับ
ปาฏิหาริย์เกิดขึ้นเป็นลำดับ ปาฏิหาริย์เกิดขึ้นเมื่อเราใช้ศรัทธาก่อน ศรัทธามาก่อนปาฏิหาริย์
เยาวชนชายได้รับแต่งตั้งสู่ตำแหน่งฐานะปุโรหิตแห่งอาโรนเป็นลำดับตามอายุของผู้รับการแต่งตั้ง: มัคนายก ผู้สอน แล้วก็ปุโรหิต
ศาสนพิธีแห่งความรอดและความสูงส่งก็มีลักษณะที่เป็นไปตามลำดับ เราต้องรับบัพติศมาก่อนรับของประทานแห่งพระวิญญาณบริสุทธิ์ ศาสนพิธีพระวิหารก็เป็นไปตามลำดับคล้ายๆ กัน แน่นอนว่า ดังที่เน็ด บริมลีย์เพื่อนข้าพเจ้าสอน ศีลระลึกเป็นไปตามลำดับ—เริ่มด้วยขนมปัง ตามด้วยน้ำ
“ระหว่างรับประทานอยู่นั้น พระเยซูทรงหยิบขนมปังขึ้นมา และเมื่อขอพระพรแล้ว ก็ทรงหักส่งให้บรรดาสาวกตรัสว่า จงรับไปกินเถิด นี่เป็นกายของเรา
“แล้วพระองค์ทรงหยิบถ้วย เมื่อขอบพระคุณแล้ว ก็ทรงส่งให้พวกเขาตรัสว่า จงรับไปดื่มทุกคนเถิด
“เพราะว่านี่เป็นโลหิตของเราอันเป็นโลหิตแห่งพันธสัญญาที่หลั่งออกเพื่อยกบาปโทษคนจำนวนมาก” (มัทธิว 26:26–28)
ในเยรูซาเล็มและในทวีปอเมริกา พระผู้ช่วยให้รอดทรงจัดตั้งศีลระลึกในระเบียบที่เหมือนกันทุกประการ
“ดูเถิด, บ้านของเราเป็นบ้านแห่งระเบียบ, พระเจ้า พระผู้เป็นเจ้าตรัส, และมิใช่บ้านแห่งความสับสน” (หลักคำสอนและพันธสัญญา 132:8)
การกลับใจเกิดขึ้นเป็นลำดับ เริ่มต้นที่ศรัทธาในพระเยซูคริสต์ แม้เพียงอนุภาคเดียว ศรัทธาต้องมีความอ่อนน้อมถ่อมตน ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญยิ่งของการมี “ใจที่ชอกช้ำและวิญญาณที่สำนึกผิด” (2 นีไฟ 2:7)
อันที่จริงหลักธรรมสี่ข้อแรกของพระกิตติคุณก็เป็นไปตามลำดับ “เราเชื่อว่าหลักธรรมและศาสนพิธีเบื้องต้นของพระกิตติคุณคือ: หนึ่ง, ศรัทธาในพระเจ้า พระเยซูคริสต์; สอง, การกลับใจ; สาม, บัพติศมาโดยลงไปในน้ำทั้งตัวเพื่อการปลดบาป; สี่, การวางมือเพื่อของประทานแห่งพระวิญญาณบริสุทธิ์” (หลักแห่งความเชื่อข้อ 4)
กษัตริย์เบ็นจามินสอนผู้คนของท่านถึงความจริงสำคัญข้อนี้: “และจงดูว่าทำสิ่งทั้งหมดนี้ด้วยปัญญาและระเบียบ; เพราะไม่จำเป็นที่คนจะวิ่งไปเร็วเกินกำลังของตน. และอนึ่ง, สมควรที่เขาจะขยันหมั่นเพียร, เพื่อโดยการนั้นเขาจะชนะรางวัล; ฉะนั้น, ทุกสิ่งต้องทำไปตามระเบียบ” (โมไซยาห์ 4:27)
ขอให้เราดำเนินชีวิตอย่างมีระเบียบและพยายามทำตามลำดับที่พระเจ้าทรงกำหนดไว้ให้เรา เราจะได้รับพรขณะมองหาและทำตามแบบแผนและลำดับ ซึ่งในนั้นพระเจ้าทรงสอนสิ่งที่สำคัญที่สุดต่อพระองค์ ในพระนามอันศักดิ์สิทธิ์ของพระเยซูคริสต์ เอเมน