ประเมินผลการเรียนรู้ของท่าน 1

1 นีไฟ 1–15

บทเรียนนี้มีเจตนาจะช่วยให้ท่านประเมินเป้าหมายที่ตั้งไว้ รวมถึงประสบการณ์การเติบโตที่ได้รับระหว่างศึกษาพระคัมภีร์มอรมอน

ช่วยนักเรียนประเมินการเรียนรู้ของตนเปิดโอกาสให้นักเรียนประเมินการเรียนรู้ของตน วิธีหนึ่งคือเชื้อเชิญให้นักเรียนแบ่งปันว่าพวกเขาเติบโตหรือพัฒนาขึ้นจากการศึกษาและศรัทธาอย่างไร

การเตรียมของนักเรียน: เชื้อเชิญให้นักเรียนแบ่งปันในชั้นเรียนเกี่ยวกับสิ่งที่เรียนรู้จากพระคัมภีร์มอรมอน ซึ่งช่วยให้รู้สึกใกล้ชิดกับพระเยซูคริสต์มากขึ้น

กิจกรรมการเรียนรู้ที่เป็นไปได้

บทเรียนนี้มีจุดประสงค์เพื่อช่วยให้นักเรียนประเมินเป้าหมายที่ตั้งไว้ ประเมินความสามารถในการอธิบายคำสอนในพระคัมภีร์มอรมอน หรือเจตคติ ความปรารถนา และความสามารถในการดำเนินชีวิตตามพระกิตติคุณว่าเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร การศึกษา 1 นีไฟ 1–15 ในชั้นเรียนอาจเน้นถึงถึงความจริงนอกเหนือจากที่มีอยู่ในกิจกรรมต่อไปนี้ หากเป็นเช่นนั้น อาจปรับกิจกรรมให้มีความจริงเหล่านั้นด้วย

ศึกษาพระคัมภีร์มอรมอนเป็นประจำวัน

ส่วนนี้มีเพื่อช่วยให้นักเรียนประเมินว่าเป้าหมายการศึกษาพระคัมภีร์ส่วนตัวมีความคืบหน้าอย่างไร และรู้สึกถึงคุณค่าและความสำคัญของการศึกษาพระคัมภีร์มอรมอน

• มีอะไรบ้างที่ท่านทำทุกวันหรือทุกคืน?

นักเรียนอาจตอบคำถาม เช่น แปรงฟัน รับประทานอาหาร นอนหลับ และอื่นๆ

• จะเกิดอะไรขึ้นหากท่านไม่ได้ทำกิจกรรมเหล่านี้เลยทั้งวันหรือนานกว่านั้น?

• เหตุใดการศึกษาพระคัมภีร์ประจำวันจึงเป็นสิ่งที่เราควรมุ่งมั่นที่จะทำ?

แสดงการประเมินตนเองต่อไปนี้ นักเรียนจะนึกถึงคำตอบเป็นส่วนตัวหรือบันทึกคำตอบลงในสมุดบันทึกการศึกษา

เลือกข้อใดข้อหนึ่งต่อไปนี้เพื่ออธิบายว่าการศึกษาพระคัมภีร์มอรมอนในชีวิตประจำวันเป็นอย่างไร:

1. การศึกษาของฉันเป็นสิ่งที่มีความหมายและเป็นไปอย่างต่อเนื่อง

2. การศึกษาของฉันเป็นสิ่งที่ดีเมื่อมีการศึกษาเกิดขึ้น แต่ก็ไม่ได้เกิดขึ้นเป็นประจำ

3. การศึกษาของฉันเป็นไปอย่างต่อเนื่อง แต่ไม่ได้รับประโยชน์มากนัก

4. ฉันกำลังพยายามทำความเข้าใจกับสิ่งที่อ่านและไม่ค่อยศึกษาด้วยตนเอง

5. ฉันยังไม่ได้ทำอะไรที่เป็นไปตามเป้าหมายการศึกษาพระคัมภีร์เลย

6. อื่นๆ: อธิบายคำตอบของท่าน

การมีอุปสรรคมาขัดขวางเป้าหมายรายวันเช่นนี้เป็นเรื่องธรรมชาติ สิ่งสำคัญคือให้พยายามต่อไป

ให้นักเรียนเขียนอุปสรรคบนกระดาน แล้วเชื้อเชิญให้ทุกคนในชั้นมาพูดคุยถึงวิธีตอบสนองหรือรับมือกับอุปสรรคเหล่านี้

• มีสิ่งใดที่เป็นไปด้วยดีในการศึกษาพระคัมภีร์มอรมอนของท่าน? ท่านอยากทำอะไรให้ดีขึ้นหรือแตกต่างจากเดิมบ้าง?

ท่านอาจเลือกกิจกรรมต่อไปนี้อย่างน้อยหนึ่งรายการ เพื่อช่วยให้นักเรียนรู้สึกถึงคุณค่าและความเป็นจริงของพระคัมภีร์มอรมอน

ความคิดและความรู้สึกส่วนตัวเกี่ยวกับพระคัมภีร์มอรมอน

กิจกรรมที่ 1: การประชุมแสดงประจักษ์พยาน

ถ้าท่านแสดงประจักษ์พยานในการประชุมศีลระลึกเกี่ยวกับพระคัมภีร์มอรมอน ท่านจะพูดอะไรเพื่อถ่ายทอดความรู้สึกของตนเอง?

กิจกรรมที่ 2: เหตุผลที่ท่านควรศึกษา

ลองนึกภาพว่าท่านกำลังศึกษาพระคัมภีร์มอรมอน แล้วมีน้องๆ เดินเข้ามาถามว่า “กำลังอ่านอะไรอยู่หรือ?” ท่านตอบว่า “พระคัมภีร์มอรมอน” น้องๆ ถามว่า “อ่านไปทำไม?” เขียนอธิบายถึงสิ่งที่ท่านอาจพูดกับน้องๆ สักสองสามประโยค เพื่อช่วยให้เขาเข้าใจว่าทำไมท่านจึงเลือกศึกษาพระคัมภีร์มอรมอน

กิจกรรมที่ 3: โพสต์ลงโซเชียลมีเดีย

มีเพื่อนคนหนึ่งเขียนโพสต์ลงบนโซเชียลมีเดียว่า: “ฉันเพิ่งเริ่มอ่านพระคัมภีร์มอรมอนและชอบมากเลย! หากท่านเคยอ่านพระคัมภีร์มอรมอนมาก่อน ลองมาแบ่งปันข้อโปรดพร้อมคำอธิบายสั้นๆ ถึงเหตุผลที่ชอบได้ไหม?”

นี่อาจเป็นโอกาสดีที่จะเชื้อเชิญให้นักเรียนมาแบ่งปันความคิดเห็นจากการเตรียมตัวของนักเรียน ท่านอาจแบ่งปันประจักษ์พยานว่าพระคัมภีร์มอรมอนช่วยให้ท่านรู้สึกใกล้ชิดกับพระเยซูคริสต์ในภาคเรียนนี้อย่างไร

ความฝันของลีไฮ

ส่วนนี้มีเพื่อช่วยให้นักเรียนอธิบายเนื้อหาและความหมายที่อยู่ในความฝันของลีไฮ และพิจารณาว่าพวกเขาเห็นตนเองอยู่ตรงจุดไหนในความฝันนั้น

วิธีหนึ่งที่ท่านอาจช่วยให้นักเรียนทบทวนเนื้อหานี้คือ เชื้อเชิญให้ดูภาพประกอบและคำถามต่อไปนี้ทีละคน จากนั้นแบ่งนักเรียนออกเป็นคู่ๆ และเชื้อเชิญให้ผลัดกันอธิบายรายละเอียดและความหมายที่อยู่ในความฝันของลีไฮให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ใน 30 วินาที

การแสดงคำถามหลังจากรูปภาพอาจเป็นประโยชน์

• ท่านจำอะไรเกี่ยวกับเนื้อหาหรือสัญลักษณ์ในความฝันได้บ้าง?

• ท่านคิดว่าสัญลักษณ์ใดต่อไปนี้โดดเด่นที่สุด? เพราะเหตุใด?

• ความฝันของลีไฮคล้ายกับโลกของเราในปัจจุบันอย่างไร?

พิจารณาว่าเนื้อหาต่างๆ ในความฝันของลีไฮอาจช่วยบุคคลในสถานการณ์ต่อไปนี้อย่างไร:

• ชายหนุ่มขลุกอยู่แต่กับกลุ่มคนที่เลือกละเมิดพระคำแห่งปัญญาและกดดันให้เขาทำเช่นเดียวกัน

• หญิงสาวคิดว่าเธอจะจริงจังกับการศึกษาพระคัมภีร์ให้มากขึ้นเมื่อชีวิตเครียดน้อยลง

• ชายหนุ่มเริ่มรู้สึกอับอายกับการเป็นสมาชิกในศาสนจักรของพระเยซูคริสต์แห่งวิสุทธิชนยุคสุดท้าย เมื่อได้ยินคนอื่นเยาะเย้ยผู้คนที่เคร่งศาสนา

• ท่านใช้ความฝันของลีไฮในการตอบสนองแต่ละสถานการณ์ได้อย่างไร?

• ท่านเห็นคำสอนหรือความจริงอะไรจากความฝันของลีไฮที่รู้สึกว่าอาจช่วยให้ท่านเข้าใกล้ความรักของพระผู้เป็นเจ้าได้มากขึ้นในชีวิต?

ท่านสามารถรักษาพระบัญญัติ

ส่วนนี้มีเพื่อช่วยให้นักเรียนเห็นว่าพวกเขาทำได้ดีแค่ไหนในแผน (จาก 1 นีไฟ 3) ที่จะทำตามพระบัญญัติของพระเจ้าอย่างเต็มที่มากขึ้น

ระหว่างบทเรียนใน 1 นีไฟ 3 ท่านอาจมีเป้าหมายที่จะเชื่อฟังพระบัญญัติที่ยากจะรักษา ทบทวนความคืบหน้าของท่านต่อเป้าหมายนี้ และบันทึกความคิดลงในสมุดบันทึกการศึกษาส่วนตัว พิจารณาคำถามต่อไปนี้ขณะที่คิดและเขียน:

• ความพยายามของท่านที่จะเชื่อฟังพระบัญญัติข้อนี้เป็นอย่างไร?

• ท่านประสบความสำเร็จหรืออุปสรรคเรื่องใดบ้าง?

• ท่านจะปรับเปลี่ยนแผนของท่านอย่างไร?

• ท่านได้รับพรอย่างไรจากความพยายามนี้?

• พระเจ้าทรงเตรียมทางเพื่อให้ท่านเชื่อฟังอย่างไร?

หากท่านยังไม่ได้นึกถึงพระบัญญัติซึ่งอาจยากที่จะรักษา ตอนนี้ขอให้ลองนึกถึงพระบัญญัติสักข้อ ตัดสินใจว่าการกระทำใดที่ท่านจะทำเพื่อรักษาพระบัญญัติข้อนั้นได้อย่างเต็มที่มากขึ้น

ท่านอาจให้โอกาสนักเรียนแบ่งปันคำตอบของคำถามเหล่านี้ หรือสิ่งที่พวกเขาเรียนรู้ในชั้นเรียน (หากไม่เป็นเรื่องส่วนตัวเกินไป) ท่านอาจแบ่งปันประจักษ์พยานว่าพระผู้เป็นเจ้าจะประทานพรให้เราอย่างไรเพื่อทำให้พระบัญญัติของพระองค์เกิดสัมฤทธิผล ขณะที่เราพยายามวางใจและเชื่อฟังพระองค์อย่างสุดกำลัง

ประธานเฮนรีย์ บี. อายริงก์แห่งฝ่ายประธานสูงสุดสอนว่า การวางใจในพระเจ้าของนีไฟเป็นกำลังใจให้เราได้ เมื่อเราพบว่าเป็นเรื่องยากที่จะเชื่อฟังพระบัญญัติของพระเจ้า:

นีไฟในวัยหนุ่มที่อยู่ในพระคัมภีร์มอรมอนกระตุ้นให้เราปรารถนาจะสร้างความวางใจในพระเจ้าเพื่อเชื่อฟังพระบัญญัติของพระองค์ แม้เป็นเรื่องยากที่เราจะทำตาม นีไฟเผชิญอันตรายและอาจถึงแก่ชีวิตเมื่อเขากล่าวถ้อยคำแห่งความวางใจที่เรารู้สึกและต้องรู้สึกในใจเสมอว่า: “ข้าพเจ้าจะไปและทำสิ่งที่พระเจ้าทรงบัญชา เพราะข้าพเจ้ารู้ว่าพระเจ้าไม่ทรงให้บัญญัติแก่ลูกหลานมนุษย์ นอกจากพระองค์จะทรงเตรียมทางไว้ให้พวกเขาเพื่อพวกเขาจะทำสำเร็จในสิ่งซึ่งพระองค์ทรงบัญชาพวกเขา” [1 นีไฟ 3:7] (เฮนรีย์ บี. อายริงก์ “จงเชื่อในพระผู้เป็นเจ้า เดินหน้าต่อแล้วลงมือเลย” เลียโฮนา พ.ย. 2010, 71)