ถ้อยคำของมอรมอน

“ด้วยจุดประสงค์อันชอบด้วยเหตุผล”

ท่านเคยได้รับพรจากการที่ผู้อื่นเตรียมการล่วงหน้าหรือไม่? การเตรียมตัวมีผลต่อประสบการณ์ของท่านอย่างไร? มอรมอนค้นพบแผ่นจารึกเล็กของนีไฟหลังจากย่อส่วนหนึ่งจากบันทึกของนีไฟ จากการนำทางโดยพระวิญญาณของพระเจ้า มอรมอนรวมแผ่นจารึกเล็กไว้ “ด้วยจุดประสงค์อันชอบด้วยเหตุผล” ตามพระประสงค์ของพระเจ้า (ดู ถ้อยคำของมอรมอน 1:3–7) บทเรียนนี้จะช่วยให้ท่านมั่นใจได้ว่าพระเจ้าทรงรู้ทุกสิ่งและด้วยเหตุนี้งานของพระองค์จึงสำเร็จ

ถามคำถามที่เชื้อเชิญให้มีส่วนร่วมคำถามที่มีประสิทธิภาพจะช่วยให้นักเรียนมีส่วนร่วมในบทเรียนและสร้างปฏิสัมพันธ์ซึ่งกันและกันได้ คำถามยังกระตุ้นให้นักเรียนอัญเชิญพระวิญญาณบริสุทธิ์เข้ามาในประสบการณ์การเรียนรู้ของพวกเขาเมื่อใช้สิทธิ์เสรีและมีสัมฤทธิผลตามบทบาทในกระบวนการเรียนรู้ ถามคำถามที่เกี่ยวข้องทั้งด้านความนึกคิดและจิตใจ

การเตรียมของนักเรียน: นักเรียนอาจถามบิดาหรือมารดาหรือผู้นำศาสนจักรว่าพวกเขาได้รับคำแนะนำหรือพรโดยการตอบสนองต่อความประทับใจหรือการกระตุ้นเตือนทางวิญญาณอย่างไร

กิจกรรมการเรียนรู้ที่เป็นไปได้

ความเชื่อเกี่ยวกับพระผู้เป็นเจ้า

ท่านอาจให้นักเรียนตอบคำถามต่อไปนี้ลงในสมุดบันทึกการศึกษา หรือใช้แอปโพลระบบดิจิทัลแบบไม่ระบุตัวตนเพื่อรวบรวมคำตอบของนักเรียน

ใช้มาตรวัด 0–5 (0 = ฉันไม่เชื่อ 5 = ฉันมีความเชื่ออย่างแรงกล้า) โดยใช้เวลาสักครู่เพื่อประเมินระดับความเชื่อของท่านอย่างตรงไปตรงมาในแต่ละข้อความต่อไปนี้:

• ฉันเชื่อในพระผู้เป็นเจ้า

• ฉันเชื่อว่าพระองค์ทรงรู้ทุกสิ่งและมีเดชานุภาพเหนือทุกสิ่ง

• ฉันเชื่อว่าพระองค์ทรงเตรียมทางให้ฉันประสบความสำเร็จในชีวิต

• ฉันรู้สึกว่าฉันสามารถวางใจคำแนะนำและการกระตุ้นเตือนที่พระวิญญาณบริสุทธิ์ประทานให้ฉัน

อาจเป็นประโยชน์ที่จะไตร่ตรองว่าเหตุใดท่านจึงเชื่อสิ่งที่ท่านทำ

ขณะศึกษาวันนี้ ให้มองหาความจริงที่อาจทำให้ท่านเพิ่มหรือเชื่อมั่นในศรัทธาและวางใจในพระผู้เป็นเจ้า เดชานุภาพของพระองค์ และวิธีที่ทรงทำให้งานของพระองค์เกิดสัมฤทธิผล

ความย่อของแผ่นจารึกของมอรมอน

ท่านอาจแบ่งปันข้อมูลต่อไปนี้เป็นคำพูดของท่านเอง:

ลองคิดดูว่าการเป็นศาสดาพยากรณ์มอรมอนที่มีชีวิตอยู่หลังจากครอบครัวของลีไฮออกจากเยรูซาเล็มเกือบ 1,000 ปีจะเป็นอย่างไร เขาเป็นคนหนึ่งในบรรดาผู้ดูแลบันทึกชาวนีไฟคนสุดท้ายและทำงานเพื่อรวบรวมประวัติของชาวนีไฟหลายพันปีไว้ในแผ่นจารึกชุดเดียว ท่านจะตัดสินใจว่าเหตุการณ์ใดที่ควรระบุหรือข้ามไป?

เมื่องานย่อแผ่นจารึกของนีไฟมาถึงช่วงเวลาของกษัตริย์เบ็นจามิน มอรมอนได้ค้นพบสิ่งสำคัญ เขาแทรกคำอธิบายสั้นๆ เกี่ยวกับประสบการณ์ของตนในหนังสือที่ชื่อว่า “ถ้อยคำของมอรมอน”

อ่าน ถ้อยคำของมอรมอน 1:3–6 โดยมองหาว่ามอรมอนพบและทำอะไรบ้าง

อาจเป็นประโยชน์ที่จะรู้ว่าวลี “แผ่นจารึกเหล่านี้” (ถ้อยคำของมอรมอน 1:3–4) หมายถึงแผ่นจารึกเล็กที่นีไฟได้รับพระบัญชาให้ทำ (ดู 1 นีไฟ 9:2–4) แผ่นจารึกเล็กที่มอรมอนย่อความแล้วบอกเล่าช่วงเวลาเดียวกันกับแผ่นจารึกใหญ่ของนีไฟ แต่มุ่งเน้นเหตุการณ์ทางวิญญาณที่เกิดขึ้น หากท่านต้องการทำความเข้าใจเพิ่มเติมเกี่ยวกับบันทึกเหล่านี้ ให้อ่าน “คำอธิบายโดยสังเขปเกี่ยวกับพระคัมภีร์มอรมอน” ในช่วงต้นของพระคัมภีร์มอรมอน

ท่านอาจเชื้อเชิญให้นักเรียนอ่านข้อพระคัมภีร์ต่อไปนี้และสนทนาคำถามเป็นคู่

ทั้งมอรมอนและนีไฟได้รับการกระตุ้นเตือนที่เฉพาะเจาะจงจากพระเจ้าเกี่ยวกับแผ่นจารึกเล็กเหล่านั้น อ่าน 1 นีไฟ 9:5–6 และ ถ้อยคำของมอรมอน 1:7–8 โดยมองหาความคล้ายคลึงกันระหว่างสิ่งที่ศาสดาพยากรณ์ทั้งสองคนประสบ

• ถ้อยคำหรือวลีใดสะดุดใจท่าน?

• ข้อพระคัมภีร์เหล่านี้บอกอะไรเราเกี่ยวกับนีไฟและมอรมอน?

• ถ้อยคำของพวกเขาสอนอะไรเราเกี่ยวกับพระเจ้า?

ท่านอาจกระตุ้นให้นักเรียนบันทึกความจริงที่ระบุไว้บนกระดาน

ท่ามกลางความจริงอื่นๆ ท่านอาจบันทึกว่า พระเจ้าทรงรู้ทุกสิ่ง มีเดชานุภาพเหนือทุกสิ่ง และทรงเตรียมหนทางให้งานของพระองค์เกิดสัมฤทธิผล

คำถามต่อไปนี้มีเจตนาที่จะช่วยให้นักเรียนคิดเกี่ยวกับคุณลักษณะเหล่านี้ของพระเจ้า ซึ่งอาจมีความหมายสำหรับนักเรียนที่จะบันทึกความคิดของพวกเขาลงในสมุดบันทึกการศึกษา

• เหตุใดการรู้ว่าพระเจ้าทรงรู้ทุกสิ่งและมีเดชานุภาพเหนือทุกสิ่งจึงสำคัญต่อท่าน?

• ความรู้นี้อาจช่วยท่านในชีวิตอย่างไร?

• การเข้าใจความจริงเหล่านี้อาจมีอิทธิพลต่อความเต็มใจของท่านในการปฏิบัติตามการกระตุ้นเตือนของพระเจ้าอย่างไร?

ท่านอาจเชื้อเชิญให้นักเรียนอย่างน้อยหนึ่งคนแบ่งปันคำตอบของคำถามหนึ่งข้อก่อนหน้านี้ ท่านอาจต้องการแบ่งปันประสบการณ์ส่วนตัวด้วย

พระเจ้าทรงจัดเตรียมหนทาง

หลักฐานถึงความรู้ล่วงหน้าและเดชานุภาพของพระองค์เห็นได้จากพระบัญญัติของพระเจ้าที่ให้นีไฟจัดเตรียมแผ่นจารึกเล็กและการกระตุ้นเตือนให้มอรมอนรวมบันทึกเหล่านั้นในความย่อ

หลายร้อยปีต่อมา เมื่อโจเซฟ สมิธแปลแผ่นจารึกของพระคัมภีร์มอรมอน เขาเริ่มต้นจากความย่อของมอรมอนในแผ่นจารึกใหญ่ของนีไฟ มาร์ติน แฮร์ริส ผู้ช่วยในฐานะผู้จดคำแปลของโจเซฟ ขอร้องซ้ำแล้วซ้ำเล่าที่จะให้ภรรยาของเขาและสมาชิกครอบครัวคนอื่นๆ ดูหน้าที่แปลแล้ว ถึงแม้พระเจ้าทรงปฏิเสธคำขอของมาร์ติน แต่โจเซฟยังขออนุญาตจากพระเจ้า จนท้ายที่สุด แม้จะมีคำแนะนำและคำเตือนอย่างเข้มงวด แต่มาร์ตินก็ได้รับอนุญาตให้นำต้นฉบับ 116 หน้ากลับไปที่บ้านของเขาในพอลไมรา นิวยอร์ก เขาให้คำมั่นว่าจะคืนต้นฉบับแก่โจเซฟในฮาร์โมนีย์ เพนน์ซิลเวเนียในสองสัปดาห์

แทนที่จะฉายวีดิทัศน์ต่อไปนี้ ท่านอาจเชื้อเชิญให้นักเรียนที่เต็มใจมาเล่าเหตุการณ์เกี่ยวกับการสูญเสียต้นฉบับ 116 หน้าของพระคัมภีร์มอรมอน ประเด็นทางประวัติศาสตร์ด้านล่างอาจช่วยให้นักเรียนเข้าใจบริบทของเหตุการณ์เหล่านี้

ท่านอาจต้องการดูวีดิทัศน์ “The Work of God (งานของพระผู้เป็นเจ้า)” ตั้งแต่รหัสเวลา 6:52–11:30 โดยมองหาว่าพระเจ้าทรงจัดเตรียมหนทางไว้อย่างไรก่อนที่เหตุการณ์เหล่านี้จะเกิดขึ้น วีดิทัศน์มีอยู่ที่ ChurchofJesusChrist.org. หรืออ่านประเด็นต่อไปนี้ซึ่งอธิบายสิ่งที่โจเซฟและมาร์ตินประสบ (ดู วิสุทธิชน: เรื่องราวของศาสนจักรของพระเยซูคริสต์ในยุคสุดท้าย, เล่ม 1, มาตรฐานแห่งความจริง ค.ศ. 1815–1846 [2018], 51–53 ด้วย)

1. เอ็มมา ภรรยาของโจเซฟให้กำเนิดบุตรคนแรก ซึ่งเสียชีวิตหลังจากนั้นเพียงไม่กี่ชั่วโมง โจเซฟใช้เวลาสองสัปดาห์ในการดูแลเอ็มมา จากนั้นจึงเดินทางไปพอลไมราเมื่อมาร์ตินไม่ได้กลับมาที่ฮาร์โมนีย์

2. มาร์ตินสารภาพว่าเขาทำต้นฉบับพระคัมภีร์มอรมอนหาย โจเซฟได้รับการตีสอนจากพระเจ้าและไม่ได้รับอนุญาตให้แปลต่อ

3. หลังจากหมดช่วงเวลาที่โจเซฟกลับใจอย่างแท้จริงและได้รับการให้อภัยแล้ว พระเจ้าทรงอนุญาตให้โจเซฟแปลแผ่นจารึกต่อไป แต่ท่านได้รับคำสั่งไม่ให้แปลส่วนที่หายไปอีก

4. พระผู้เป็นเจ้าทรงเปิดเผยว่า คนชั่วร้ายที่อยู่ใต้อิทธิพลของซาตานได้ขโมยต้นฉบับไป พวกเขาตั้งใจจะเปลี่ยนคำพูดและทำให้ดูเหมือนว่าโจเซฟแค่แกล้งแปล จึงทำลายงานของพระเจ้า (ดู หลักคำสอนและพันธสัญญา 10:10–19, 29–33)

5. พระเจ้าทรงมีพระบัญชาให้โจเซฟแปลแผ่นจารึกของนีไฟไว้ในแผ่นจารึกเล็ก ซึ่งมอรมอนรวมไว้กับความย่อและและบอกเล่าเรื่องราวจากส่วนที่หายไปในช่วงเวลาและเหตุการณ์เดียวกันนั้นไว้มากมาย พระเจ้าทรงเป็นพยานว่า “ปรีชาญาณของเรายิ่งใหญ่กว่ากลโกงของมาร” (หลักคำสอนและพันธสัญญา 10:43)

สนทนาคำถามต่อไปนี้หรือคำถามอื่นๆ ที่ท่านคิดว่าจะช่วยให้นักเรียนประเมินวิธีที่พระเจ้าใช้ความรู้และเดชานุภาพของพระองค์เพื่อประทานพรแก่เราและทำให้งานของพระองค์เกิดสัมฤทธิผล

• ตัวอย่างนี้จากประวัติศาสนจักรแสดงให้เห็นถึงความรู้และเดชานุภาพของพระเจ้าในด้านใดบ้าง?

• เหตุการณ์นี้จะทำให้ท่านมั่นใจอย่างไรว่าพระเจ้าทรงเตรียมทางไว้ในชีวิตท่าน?

• การตอบสนองต่อการกระตุ้นเตือนทางวิญญาณช่วยให้ท่านหรือคนรู้จักทำงานของพระเจ้าได้สำเร็จเมื่อใด?

• ความจริงที่ท่านเรียนรู้ในวันนี้มีอิทธิพลต่อความสัมพันธ์ของท่านกับพระบิดาบนสวรรค์และพระเยซูคริสต์อย่างไร?

การทำตามการกระตุ้นเตือน

งานเขียนทั้งหมดที่ท่านศึกษาในพระคัมภีร์มอรมอนตั้งแต่ต้นในปีนี้ (1 นีไฟ–ออมไน) มีให้ท่านเพราะมอรมอนเชื่อว่าพระเจ้าทรงทราบทุกสิ่ง จึงทำตามความประทับใจทางวิญญาณที่ให้รวมแผ่นจารึกเล็กไว้ด้วย

ท่านอาจต้องการสร้างหมวด “แผ่นจารึกเล็ก” ในสมุดบันทึกการศึกษา เพื่อบันทึกประสบการณ์ที่ศักดิ์สิทธิ์ของท่านเช่นเดียวกับนีไฟ ท่านอาจไตร่ตรองและบันทึกว่ามีอะไรบ้างที่ท่านรู้และเชื่อเกี่ยวกับพระผู้เป็นเจ้า และพระองค์จะทรงช่วยท่านกระทำด้วยศรัทธาเพื่อให้งานของพระองค์เกิดสัมฤทธิผลอย่างไร

หากมีเวลา ท่านอาจเชื้อเชิญให้นักเรียนแบ่งปันข้อพระคัมภีร์ที่มีความหมายหรือเรื่องราวที่จดจำได้จาก 1 นีไฟ–ออมไน ท่านอาจต้องการแบ่งปันประจักษ์พยานเพื่อสรุปบทเรียน

บทวิจารณ์และข้อมูลภูมิหลัง

ฉันจะเพิ่มความปรารถนาที่จะตอบสนองต่อการกระตุ้นเตือนทางวิญญาณได้อย่างไร?

เอ็ลเดอร์โรนัลด์ เอ. ราสแบนด์ แห่งโควรัมอัครสาวกสิบสองสอนว่า:

เราต้องมั่นใจในการกระตุ้นเตือนครั้งแรก บางครั้งเราพยายามหาเหตุผล เราสงสัยว่าเรากำลังรู้สึกถึงความประทับใจทางวิญญาณหรือเป็นแค่ความคิดของตนเอง เมื่อเราเริ่มสงสัยความรู้สึกของเราอีกครั้ง หรือสองครั้ง—ซึ่งเราทุกคนเคย—เรากำลังเมินพระวิญญาณ เรากำลังสงสัยคำแนะนำจากสวรรค์ …

ถ้าเราเอาใจใส่การกระตุ้นเตือนที่เกิดขึ้นกับเรา เราจะเติบโตในวิญญาณแห่งการเปิดเผย ได้รับข้อคิดและการนำทางที่เกิดจากพระวิญญาณมากขึ้น พระเจ้าตรัสว่า “จงวางใจในพระวิญญาณองค์นั้นซึ่งนำให้ทำดี” [หลักคำสอนและพันธสัญญา 11:12] (โรนัลด์ เอ. ราสแบนด์, “ให้พระวิญญาณทรงนำ,” เลียโฮนา, พ.ค. 2017, 95–96)

กิจกรรมเสริมการเรียนรู้

แผ่นจารึกใหญ่และแผ่นจารึกเล็ก (1 นีไฟ 9)

ท่านอาจให้นักเรียนดูสมุดบันทึกสองเล่ม โดยเล่มหนึ่งมีจำนวนหน้ามากกว่าอีกเล่มหนึ่ง เชื้อเชิญให้พวกเขาเปรียบเทียบขนาดพื้นที่ที่ต้องใช้ในการเขียนรายละเอียดกิจกรรมทั้งวันกับที่ต้องใช้ในการบันทึกเฉพาะประสบการณ์พิเศษหรือศักดิ์สิทธิ์ ในทำนองเดียวกัน แผ่นจารึกใหญ่ของนีไฟให้บันทึกที่สมบูรณ์ยิ่งขึ้นเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ในชีวิตประจำวันของผู้คน เรื่องราวที่บันทึกไว้ในแผ่นจารึกเล็กของนีไฟได้รับการคัดเลือกอย่างพิถีพิถันมากขึ้น โดยมุ่งเน้นไปที่เรื่องทางวิญญาณและคำสอนของศาสดาพยากรณ์

เมื่อนักเรียนอ่าน ถ้อยคำของมอรมอน 1:3–6 ท่านอาจเชื้อเชิญให้นักเรียนอ่านพระบัญญัติของพระเจ้าที่ให้นีไฟทำแผ่นจารึกเล็กใน 1 นีไฟ 9:2–4 ถามนักเรียนว่าเหตุใดการแยกบันทึกเรื่องที่เกิดขึ้นทางวิญญาณในชีวิตของคนคนหนึ่งจึงมีคุณค่า กระตุ้นให้นักเรียนสร้าง “แผ่นจารึกเล็ก” และบันทึกประสบการณ์ที่ศักดิ์สิทธิ์ของตนเอง

ทางเลือกการเริ่มต้นเข้าสู่บทเรียน

ท่านอาจขอให้นักเรียนเขียนรายการพระบัญญัติหรือมาตรฐานของพระเจ้าที่เยาวชนบางคนอาจจะยังไม่เข้าใจถึงเหตุผล สนทนาว่าเหตุใดพระเจ้าอาจทรงขอให้เรารักษาพระบัญญัติที่เรายังไม่เข้าใจ