เซมินารี
โมไซยาห์ 1: “หากไม่ใช่เพราะแผ่นจารึกเหล่านี้”

“โมไซยาห์ 1: ‘หากไม่ใช่เพราะแผ่นจารึกเหล่านี้,’” พระคัมภีร์มอรมอน คู่มือครู (2024)

“โมไซยาห์ 1,” พระคัมภีร์มอรมอน คู่มือครู

โมไซยาห์ 1

“หากไม่ใช่เพราะแผ่นจารึกเหล่านี้”

เยาวชนชายอ่านพระคัมภีร์

พระคัมภีร์อาจส่งผลต่อการรักษาศรัทธาในพระเยซูคริสต์ตลอดชีวิตท่านอย่างไร? กษัตริย์เบ็นจามินสอนบุตรถึงบทบาทสำคัญของพระคัมภีร์ที่มีต่อศรัทธาของพวกเขา บทเรียนนี้จะช่วยให้ท่านเพิ่มความปรารถนาในการศึกษาพระคัมภีร์

ส่งเสริมนิสัยด้านการศึกษาพระคัมภีร์ทุกวันนอกจากการช่วยให้นักเรียนเรียนรู้ที่จะรักและศึกษาพระคัมภีร์ประจำวันแล้วยังมีอีกสองสามวิธีที่มีอิทธิพลในการนำเรื่องดีๆ มาสู่ชีวิตของนักเรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพและคงอยู่ยาวนาน วิธีหนึ่งในการทำเช่นนี้คือ เชื้อเชิญให้นักเรียนตั้งเป้าหมายการอ่านและวางแผนการศึกษาส่วนตัวในแต่ละวัน

การเตรียมของนักเรียน: เชื้อเชิญให้นักเรียนศึกษาพระคัมภีร์ส่วนตัวและไตร่ตรองว่าการทำเช่นนี้จะส่งผลต่อพวกเขาอย่างไร โดยเฉพาะด้านความรู้สึกและการวางใจในพระเยซูคริสต์

กิจกรรมการเรียนรู้ที่เป็นไปได้

อะไรเป็นสิ่งสำคัญต่อศรัทธาในพระเยซูคริสต์?

ท่านอาจชูพระคัมภีร์มอรมอนและพระคัมภีร์เล่มอื่นๆ ขึ้น แล้วนำออกไปขณะถามคำถามต่อไปนี้:

  • ชีวิตของเราจะเป็นอย่างไรหากปราศจากพระคัมภีร์มอรมอนหรือพระคัมภีร์เล่มอื่น?

เพื่อช่วยให้นึกถึงคำถามนี้ ท่านอาจต้องการดูวีดิทัศน์ “Scriptures Legacy (มรดกพระคัมภีร์)” ที่ ChurchofJesusChrist.orgตั้งแต่รหัสเวลา 0:00 ถึง 5:36

22:29

เชื้อเชิญให้นักเรียนแบ่งปันความคิด ท่านอาจทวนคำถามจากวีดิทัศน์โดยกล่าวถึงผู้ที่สละชีวิตเพื่อพระคัมภีร์ว่า: “พวกเขาเหล่านั้นรู้อะไรเกี่ยวกับความสำคัญของพระคัมภีร์ที่เราต้องรู้เช่นกัน?”

ไตร่ตรองคำถามต่อไปนี้หรือตอบคำถามเหล่านี้ลงในสมุดบันทึกการศึกษา:

หากนักเรียนเขียนคำตอบลงในสมุดบันทึกการศึกษา การทำเช่นนี้อาจเป็นประโยชน์สำหรับพวกเขาที่จะกลับไปหาคำตอบได้ในภายหลังหรือในปีถัดไป

  • ท่านรู้สึกอย่างไรเกี่ยวกับพระคัมภีร์? เพราะเหตุใด?

  • หากท่านศึกษาพระคัมภีร์เป็นกิจวัตรในปัจจุบันต่อไปอีกหลายปี ท่านคิดว่าจะส่งผลต่อท่านอย่างไร?

  • หากท่านไม่ได้ศึกษาพระคัมภีร์เป็นกิจวัตรในปัจจุบัน มีอะไรบ้างที่ท่านจะต้องทำความเข้าใจหรือรู้สึกเพื่อเริ่มศึกษา?

ลองนึกถึงคำถามเหล่านี้ขณะศึกษาบทเรียนนี้ ท่านจะอ่านคำแนะนำของกษัตริย์เบ็นจามินถึงบุตรชายเกี่ยวกับพระคัมภีร์ แสวงหาการเรียนรู้ผ่านทางพระวิญญาณบริสุทธิ์ว่าพระคัมภีร์จะเป็นพรแก่ชีวิตท่านอย่างไร

คำแนะนำจากกษัตริย์เบ็นจามิน

โมไซยาห์ บิดาของกษัตริย์เบ็นจามินได้รับคำตักเตือนจากพระเจ้าว่าให้ผู้คนของพระองค์ออกจากบ้านเกิดของตน เมื่อพวกเขาเชื่อฟัง พวกเขาค้นพบชาวเมืองเซราเฮ็มลา (ดู ออมไน 1:12–19) คนทั้งสองกลุ่มนี้อยู่ด้วยกันกับโมไซยาห์ ผู้ได้รับแต่งตั้งให้เป็นกษัตริย์ และในที่สุดเบ็นจามินได้เป็นกษัตริย์ต่อจากบิดาของตน อาจเป็นประโยชน์ที่จะรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับกษัตริย์เบ็นจามินก่อนศึกษาสิ่งที่ท่านสอนบุตรชาย

อ่าน ถ้อยคำของมอรมอน 1:12–18 และ โมไซยาห์ 1:1 โดยมองหาความยากลำบากที่กษัตริย์เบ็นจามินเผชิญและสิ่งที่ท่านประทับใจกษัตริย์เบ็นจามิน

  • ท่านพบอะไรบ้าง?

    ให้นักเรียนแบ่งปันความคิดและแนวคิดต่างๆ

  • เหตุใดท่านถึงอยากฟังคำแนะนำจากษัตริย์เบ็นจามิน?

อ่าน โมไซยาห์ 1:2–7 โดยดูว่ากษัตริย์เบ็นจามินสอนบุตรชายของท่านเกี่ยวกับพระคัมภีร์อย่างไร อาจเป็นประโยชน์ที่จะรู้ว่า “ความลี้ลับของพระผู้เป็นเจ้าคือความจริงต่างๆ ทางวิญญาณซึ่งจะรู้ได้จากการเปิดเผยเท่านั้น” (คู่มือพระคัมภีร์, “ความลี้ลับของพระผู้เป็นเจ้า,” scriptures.ChurchofJesusChrist.org). หากท่านต้องการดูวีดิทัศน์ที่แสดงถึงถ้อยคำของกษัตริย์เบ็นจามิน ให้ดู “Scriptures Legacy (มรดกพระคัมภีร์)” ที่ ChurchofJesusChrist.orgตั้งแต่รหัสเวลา 5:40 ถึง 6:20

22:29

  • ท่านได้เรียนรู้อะไรเกี่ยวกับพระคัมภีร์จากษัตริย์เบ็นจามิน?

เขียนเรื่องที่นักเรียนต้องการแบ่งปันบนกระดาน หากพวกเขาไม่ได้แบ่งปันหลักธรรมดังต่อไปนี้ ท่านอาจเพิ่มลงไปด้วย

หลักธรรมบางประการที่เราเรียนรู้ได้จากกษัตริย์เบ็นจามินมีดังนี้:

  • ถ้าเราไม่ศึกษาพระคัมภีร์อย่างสม่ำเสมอและขยันหมั่นเพียร เราจะค่อยๆ สูญเสียศรัทธา

  • เราจะได้ประโยชน์จากการหมั่นค้นคว้าพระคัมภีร์

  • เหตุใดท่านจึงคิดว่าเราจะค่อยๆ สูญเสียศรัทธาถ้าเราไม่ได้ศึกษาพระคัมภีร์?

พระเจ้าทรงสัญญาว่าจะประทานพรให้เราในหลายด้านเมื่อเราอ่านพระคัมภีร์ ศึกษาข้อพระคัมภีร์ต่อไปนี้สองสามข้อ แล้วค้นหาพรบางประการ:

เชื้อเชิญให้นักเรียนแบ่งปันสิ่งที่พบ

  • พรใดที่ท่านปรารถนามากที่สุดในชีวิต?

  • พรเหล่านี้จะเพิ่มศรัทธาในพระเจ้าและพระกิตติคุณของพระองค์อย่างไร?

พระคัมภีร์และศรัทธาของเรา

เอ็ลเดอร์ดี. ทอดด์ คริสทอฟเฟอร์สัน แห่งโควรัมอัครสาวกสิบสองสอนว่า

เอ็ลเดอร์ดี. ทอดด์ คริสทอฟเฟอร์สัน

จุดประสงค์หลักของพระคัมภีร์ทุกเล่มคือเติมจิตวิญญาณของเราด้วยศรัทธาในพระผู้เป็นเจ้าพระบิดา และในพระบุตรของพระองค์ พระเยซูคริสต์—ศรัทธาว่าพระองค์ทรงดำรงอยู่จริง ศรัทธาในแผนของพระบิดาสำหรับความเป็นอมตะและชีวิตนิรันดร์ของเรา ศรัทธาในการชดใช้และการฟื้นคืนพระชนม์ของพระเยซูคริสต์ซึ่งทำให้แผนแห่งความสุขดำเนินไปได้ ศรัทธาในการนำพระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์มาใช้ดำเนินชีวิต และศรัทธาในการมารู้จัก “พระเจ้าเที่ยงแท้องค์เดียว และรู้จักพระเยซูคริสต์ที่ [พระองค์ทรง] ใช้มา” (ยอห์น 17:3) (ดี ทอดด์ คริสทอฟเฟอร์สัน, “พรจากพระคัมภีร์,” เลียโฮนา, พ.ค. 2010, 42)

คิดดูว่าท่านอาจช่วยให้นักเรียนเข้าใจหลักธรรมข้างต้นลึกซึ้งขึ้นได้อย่างไร ท่านอาจช่วยนักเรียนทำสิ่งนี้ได้โดยให้นักเรียนทำกิจกรรมต่อไปนี้อย่างน้อยหนึ่งอย่าง:

  1. เขียนข้อพระคัมภีร์อ้างอิงสองหรือสามข้อที่มีผลต่อท่านและประจักษ์พยานของท่านอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพระเยซูคริสต์หรือพระบิดาบนสวรรค์ พระคัมภีร์เหล่านี้ช่วยท่านอย่างไร? ชีวิตท่านอาจแตกต่างไปอย่างไรถ้าไม่เคยอ่านข้อพระคัมภีร์เหล่านั้น?

  2. ศึกษาพระคัมภีร์ของท่านเป็นเวลาห้านาที มองหาความจริงที่อาจช่วยให้ท่านยังคงซื่อสัตย์ต่อพระเจ้าและพระกิตติคุณของพระองค์ ให้ความสนใจกับความรู้สึกที่อาจช่วยได้เช่นกัน เขียนประสบการณ์ของท่าน

  3. ส่งข้อความหรือพูดคุยกับคนที่ท่านคิดว่ามีความซื่อสัตย์อย่างมากต่อพระเจ้าพระเยซูคริสต์ ถามบุคคลนั้นว่าพระคัมภีร์มีบทบาทอย่างไรในการช่วยให้เขายังคงซื่อสัตย์

  4. ดูวีดิทัศน์ต่อไปนี้หนึ่งเรื่องโดยมองหาตัวอย่างว่าการศึกษาพระคัมภีร์จะเป็นพรแก่ชีวิตและเพิ่มศรัทธาในพระบิดาบนสวรรค์และพระเยซูคริสต์ได้อย่างไร วีดิทัศน์ทั้งหมดมีที่ ChurchofJesusChrist.org.

เชื้อเชิญให้นักเรียนหลายๆ คนแบ่งปันความคิดหรือประสบการณ์ การรับฟังข้อคิดและประจักษ์พยานจากเพื่อนร่วมชั้นอาจเป็นประสบการณ์ที่ทรงพลัง ท่านอาจแบ่งปันความคิดและประจักษ์พยานของท่านเองด้วย

การศึกษาพระคัมภีร์ส่วนตัว

ไตร่ตรองการศึกษาพระคัมภีร์ของท่าน ศรัทธาในพระบิดาบนสวรรค์และพระเยซูคริสต์กำลังเติบโตขึ้นในทางใดขณะที่ท่านหมั่นศึกษาพระวจนะของพระเจ้า? มีอะไรที่ทำให้ท่านรู้สึกว่าพระเจ้าทรงมีพระประสงค์ให้ท่านทำเพื่อปรับปรุงการศึกษา? ท่านอาจเขียนเป้าหมายที่มีลงในสมุดบันทึกการศึกษา

อาจได้ผลที่จะถามว่ามีนักเรียนคนใดยินดีแบ่งปันเป้าหมายการศึกษาของพวกเขาหรือไม่