เซมินารี
ฮีลามัน 5:14–52: “เมฆแห่งความมืดจะเคลื่อนไป”


“ฮีลามัน 5:14–52: ‘เมฆแห่งความมืดจะเคลื่อนไป’” พระคัมภีร์มอรมอน คู่มือครู (2024)

“ฮีลามัน 5:14–52,” พระคัมภีร์มอรมอน คู่มือครู

ฮีลามัน 5:14–52

“เมฆแห่งความมืดจะเคลื่อนไป”

นีไฟกับลีไฮในเรือนจำที่ล้อมด้วยไฟ

เมื่อเราอยู่ในห้องอันมืดมิด เราสามารถเปิดไฟได้ แต่เราจะทำอะไรได้บ้างเมื่อเราตกอยู่ในความมืดทางวิญญาณ? เมื่อความมืดปกคลุมกลุ่มชาวเลมันที่ชั่วร้าย พวกเขาได้รับการสอนให้กลับใจและมีศรัทธาในพระเยซูคริสต์ บทเรียนนี้จะช่วยให้ท่านวางใจในพระเยซูคริสต์เพื่อขจัดความรู้สึกกลัวและความมืด แล้วแทนที่ด้วยความปีติยินดี สันติสุข และความสว่างของพระองค์

กระตุ้นให้นักเรียนไตร่ตรอง เมื่อนักเรียนมีเวลาคิดเกี่ยวกับชีวิตและสิ่งที่กำลังเรียนรู้อย่างลึกซึ้ง พระวิญญาณบริสุทธิ์จะเปิดเผยความจริงส่วนตัวที่เกี่ยวข้องกับพวกเขา เชื้อเชิญให้นักเรียนไตร่ตรองว่าการอัญเชิญแสงสว่างและเดชานุภาพแห่งพระเยซูคริสต์เข้ามาในชีวิตจะเป็นอย่างไร

การเตรียมของนักเรียน: เชื้อเชิญให้นักเรียนไตร่ตรองว่าพระเยซูคริสต์ทรงเป็นเหมือนแสงสว่างอย่างไร (ดู ยอห์น 8:12)

กิจกรรมการเรียนรู้ที่เป็นไปได้

ความมืดและแสงสว่าง

ช่วยให้นักเรียนเริ่มนึกถึงแสงสว่างและความมืด ท่านอาจใช้ไฟฉายหรือโทรศัพท์มือถือ เพื่อสาธิตว่าการนำแสงสว่างเข้ามาจะขจัดความมืดออกไปจากห้องได้อย่างไร ท่านอาจเขียนข้อสังเกตของนักเรียนบนกระดาน และพยายามผูกแนวคิดกับบทเรียนภายหลังเมื่อระบุหลักธรรมเกี่ยวกับพระเยซูคริสต์

นึกถึงช่วงเวลาที่ท่านอยู่ในที่มืดโดยมีแสงน้อยหรือไม่มีเลย ท่านจำสิ่งที่ท้าทายเกี่ยวกับการมองเห็นได้ไม่ดีหรือไม่?

  • นอกเหนือจากการอยู่ในห้องมืดแล้ว มีวิธีใดอีกบ้างที่เราอาจประสบกับความมืดในชีวิต? ท่านมีความรู้สึกอย่างไรกับความมืด?

นักเรียนควรเข้าใจว่าความมืดทั้งหมดไม่ได้เป็นผลมาจากทางเลือกที่ผิด แต่ความมืดนั้นสามารถลบออกได้ด้วยการใช้ศรัทธาในพระเยซูคริสต์ผ่านบทเรียนนี้

นึกถึงชีวิตของท่านและความมืดที่ท่านอาจต้องเผชิญ ขณะที่ท่านศึกษาในวันนี้ ให้มองหาสิ่งที่ท่านจะทำได้เพื่อเติมแสงสว่างที่ช่วยขจัดความมืดในชีวิตท่าน

การปฏิบัติศาสนกิจของนีไฟและลีไฮ

นีไฟและลีไฮบุตรชายของฮีลามันสั่งสอนพระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์ พวกเขาสอนชาวนีไฟหลายคนที่แตกแยกและเข้าร่วมกับชาวเลมัน ชาวนีไฟเหล่านี้กลับใจและพยายามซ่อมแซมความเสียหายที่พวกเขากระทำลงไป นีไฟและลีไฮสั่งสอนด้วยพลังอันยิ่งใหญ่และชาวเลมัน 8,000 คนเลือกกลับใจและรับบัพติศมา (ดู ฮีลามัน 4:4; 5:14–19)

อ่าน ฮีลามัน 5:20–22 โดยมองหาว่าความสำเร็จของพวกเขาถูกขัดจังหวะอย่างไร

เมื่อใดก็ตามที่เราเผชิญกับการคัดค้านหรือการทดลองประสบการณ์ เราอาจพิจารณาว่าสิ่งเหล่านี้เป็นช่วงที่มืดมนในชีวิตเรา เราอาจตั้งคำถามว่าเหตุใดพระผู้เป็นเจ้าจึงยอมให้สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม ถ้าเราให้ความสนใจอย่างใกล้ชิด เราจะสังเกตเห็นว่าพระผู้เป็นเจ้าทรงทำงานอยู่ในชีวิตเราและต้องการประทานพรเราอยู่เสมอ

เพื่อช่วยให้นักเรียนมีส่วนร่วมในการเรียนรู้อย่างแข็งขัน ท่านอาจแบ่งชั้นเรียนออกเป็นคู่เพื่ออ่านข้อต่อไปนี้ นักเรียนคนหนึ่งอาจหาหลักฐานว่ามีพระผู้เป็นเจ้าในชีวิตของนีไฟและลีไฮ (ดู ฮีลามัน 5:23–26) ส่วนอีกคนอาจอ่านเกี่ยวกับพระผู้เป็นเจ้าที่เอื้อมออกไปหาชาวเลมัน (ดู ฮีลามัน 5:28–33)

อ่าน ฮีลามัน 5:23–33 โดยมองหาสิ่งที่พระผู้เป็นเจ้าทรงทำและตรัสไว้ หากมี ฮีลามัน 5 เวอร์ชันเสียง ท่านอาจฟังและอ่านไปด้วย อย่าลืมหยุดเป็นช่วงๆ และย้อนกลับได้ตามที่จำเป็น

  • ท่านเรียนรู้อะไรเกี่ยวกับพระผู้เป็นเจ้าจากข้อเหล่านี้? สิ่งที่ท่านเรียนรู้ทำให้ท่านมีความรู้สึกอย่างไรต่อพระองค์?

    ท่านอาจขอให้นักเรียนเขียนสิ่งที่พบบนกระดาน พูดคุยกันถึงวิธีที่พระผู้เป็นเจ้าจะทรงช่วยและประทานพรแก่เรา

  • พระดำรัสเชื้อเชิญจากพระผู้เป็นเจ้าใน ข้อ 29 และ 32 ช่วยให้ท่านเห็นความรักที่พระองค์ทรงมีต่อทุกคนได้อย่างไร?

ท่านอาจขีดเส้นใต้คำใน ฮีลามัน 5:29, 32 ที่ระบุถึงพระดำรัสเชื้อเชิญจากพระผู้เป็นเจ้า

ผู้ที่อยู่ในเรือนจำถูกปกคลุมไปด้วยความมืด พวกเขาไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรและไม่อาจเคลื่อนไหวได้เนื่องจากความกลัว (ดู ฮีลามัน 5:34, 40)

อ่าน ฮีลามัน 5:35–41 เพื่อดูว่าชายที่ชื่อว่าอมินาแดบช่วยให้พวกเขาเข้าใจว่าจะขจัดความมืดได้อย่างไร

  • เราจะเรียนรู้ความจริงอะไรได้บ้างจากสิ่งที่อมินาแดบกล่าวไว้ใน ข้อ 41?

หนึ่งในหลักธรรมที่เราเรียนรู้ได้คือ พระเยซูคริสต์ทรงสามารถขจัดความมืดออกจากชีวิตเราเมื่อเราใช้ศรัทธาในพระองค์และกลับใจ

สิ่งที่อมินาแดบกล่าวไว้ใน ข้อ 41 ควรค่าแก่การพูดคุยในรายละเอียดมากขึ้น นักเรียนอาจได้รับประโยชน์จากการพูดคุยว่าเหตุใดอมินาแดบจึงพูดว่า “ท่านต้องกลับใจ” และเหตุใดท่านจึงแนะนำให้พวกเขาสวดอ้อนวอนต่อพระผู้เป็นเจ้าจนกว่าจะมีศรัทธาในพระเยซูคริสต์

ท่านอาจช่วยนักเรียนเปรียบเทียบการเปิดปิดไฟฉายกับการใช้ศรัทธาในพระเยซูคริสต์และการกลับใจ.

  • ท่านคิดว่าการมีศรัทธาในพระเยซูคริสต์และการกลับใจจะช่วยขจัดความมืดได้อย่างไร?

เอ็ลเดอร์โรเบิร์ต ดี. เฮลส์ (1932–2017) แห่งโควรัมอัครสาวกสิบสองแบ่งปันวิธีที่เราจะอัญเชิญแสงสว่างของพระเจ้าเข้ามาในชีวิตเราได้

15:30

แสงสว่าง [ของพระเยซูคริสต์] จะโอบล้อมป้องกันระหว่างท่านกับความมืดของปฏิปักษ์เมื่อท่านดำเนินชีวิตอย่างมีค่าควรต่อการได้รับแสงสว่างนั้น ท่านต้องการความสว่างนั้น เราต้องการความสว่างนั้น ให้ศึกษาพระคัมภีร์และ เพื่อความเข้มแข็งของเยาวชน [จุลสาร] อย่างถี่ถ้วนและฟังคำสอนของบิดามารดาตลอดจนผู้นำของท่าน จากนั้น โดยการเชื่อฟังคำแนะนำที่ชาญฉลาด จงเรียนรู้ที่จะได้รับแสงสว่างของพระกิตติคุณที่คุ้มครองท่านมาเป็นของท่านเอง

ท่านอาจสงสัยว่า “ข้าพเจ้าจะทำเช่นนั้นได้อย่างไร?” มีทางเดียวคือท่านต้องเรียนรู้ที่จะสร้างแสงสว่างในแต่ละวันโดยเชื่อในพระเยซูคริสต์และปฏิบัติตามพระบัญญัติของพระองค์ (โรเบิร์ต ดี. เฮลส์, “ออกไปจากความมืดเข้าไปสู่ความสว่างอันมหัศจรรย์ของพระองค์,” เลียโฮนา, ก.ค. 2002, 85)

  • ท่านรู้อะไรบ้างเกี่ยวกับพระเยซูคริสต์ที่ช่วยให้ท่านเข้าใจว่าพระองค์ทรงปกป้องเราจากความมืดหรือขจัดสิ่งนั้นออกไปจากชีวิตเราได้?

อาจเชื้อเชิญให้นักเรียนพิจารณาชื่อแสงสว่างของโลกของพระเยซูคริสต์และชื่อนี้อาจเพิ่มความเข้าใจให้พวกเขาได้อย่างไร (ดู Jesus Christ, Light of the World, Topical Guide; หลักคำสอนและพันธสัญญา 88:6–13)

จากนั้นให้เขียนวลีต่อไปนี้บนกระดาน

เขียนวลีต่อไปนี้เป็นหัวข้อในสมุดบันทึกของท่าน:

พรจากการใช้ศรัทธาในพระเยซูคริสต์และการกลับใจ

อ่าน ฮีลามัน 5:42–49 และทำรายการพรจากคนที่มีประสบการณ์กับการกลับใจและใช้ศรัทธาในพระเยซูคริสต์ ทำเครื่องหมายพรที่ท่านรู้สึกว่าผู้คนในปัจจุบันนี้ต้องการมากที่สุด

ท่านอาจขอให้นักเรียนแบ่งเป็นกลุ่มเล็กๆ และสนทนาถึงพรที่ระบุ หรืออาจทำงานร่วมกันตามการกระตุ้นเตือนแต่ละอย่างด้านล่าง

เลือกพรหนึ่งข้อที่ท่านรู้สึกว่ามีความสำคัญและใช้อธิบายสั้นๆ ว่าเหตุใดท่านจึงกระตุ้นให้ใครสักคนใช้ศรัทธาในพระเยซูคริสต์

เลือกพรหนึ่งข้อที่ท่านรู้สึกว่าได้รับเพราะการใช้ศรัทธาในพระเยซูคริสต์ อธิบายสั้นๆ ว่าเหตุใดสิ่งนี้จึงมีความหมายต่อท่าน

ไตร่ตรองสิ่งที่ท่านอาจทำเพื่อพึ่งพาพระเยซูคริสต์และรับพรของพระองค์จากสิ่งที่ท่านเรียนรู้และรู้สึกในวันนี้ ตั้งคำมั่นสัญญาและกำหนดหรือปรับเป้าหมายเพื่อช่วยให้ท่านรักษาคำมั่นสัญญานั้นไว้ได้

กระตุ้นให้นักเรียนกระทำด้วยศรัทธาตามสิ่งที่เรียนรู้ในวันนี้ เป็นพยานถึงพระปรีชาสามารถและความปรารถนาของพระเจ้าที่จะประทานพรแก่พวกเขาด้วยแสงสว่างของพระองค์