โจเซฟ สมิธ—ประวัติ 1:1–14

โจเซฟ สมิธ—ประวัติ 1:1–14

“ทูลขอจากพระผู้เป็นเจ้า”

เด็กหนุ่มโจเซฟ สมิธศึกษาพระคัมภีร์

เมื่ออายุยังน้อย โจเซฟ สมิธปรารถนาจะติดตามพระเยซูคริสต์และหมายมั่นจะรู้ให้ได้ว่าศาสนจักรแห่งใดถูกต้องและควรเข้าร่วม แต่มีหลายนิกายสอนต่างกัน และเด็กหนุ่มโจเซฟแยกแยะความจริงได้ยาก บทเรียนนี้จะช่วยให้นักเรียนทำตามแบบอย่างของโจเซฟ สมิธในการพยายามเรียนรู้ความจริงจากพระผู้เป็นเจ้า

กิจกรรมการเรียนรู้ที่ทำได้

เวลาของความสับสน

ในบทเรียนนี้ นักเรียนจะศึกษา โจเซฟ สมิธ—ประวัติ 1:1–14 โดยมุ่งเน้นที่การกระทำของโจเซฟ สมิธขณะหมายมั่นจะรู้ให้ได้ว่าควรเข้าร่วมศาสนจักรใด ในบทเรียนต่อไปนี้ “โจเซฟ สมิธ—ประวัติ 1:15–20” นักเรียนจะได้ศึกษาประสบการณ์ของโจเซฟในป่าศักดิ์สิทธิ์ ท่านจะรวมบทเรียนทั้งสองบทนี้เข้าด้วยกันก็ได้ขึ้นอยู่กับเวลาที่มีในชั้นเรียน

เชื้อเชิญให้นักเรียนยกตัวอย่างเวลาที่พวกเขาได้รับข้อมูลขัดแย้งกัน ตัวอย่างเช่น พวกเขาอาจเคยเห็นรายงานและความคิดเห็นที่แตกต่างกันเกี่ยวกับหัวข้อบนโซเชียลมีเดียหรือในข่าว

• เหตุใดบางครั้งจึงยากจะจำแนกข้อมูลที่เชื่อถือได้?

• ความท้าทายเดียวกันเหล่านั้นจะทำให้บางคนหาความจริงเกี่ยวกับพระเยซูคริสต์และหลักคำสอนของพระองค์ได้ยากอย่างไร?

ขณะที่นักเรียนเรียนรู้เกี่ยวกับประสบการณ์ของโจเซฟ สมิธ ให้พวกเขาตรึกตรองว่าแบบอย่างของโจเซฟจะช่วยพวกเขาค้นหาความจริงได้อย่างไร

เมื่ออายุยังน้อย โจเซฟ สมิธเป็นห่วงสวัสดิภาพของจิตวิญญาณตน ภายในชุมชนและแม้แต่ภายในครอบครัวสมิธก็ยังมีความเห็นต่างกันว่าศาสนจักรใดมีความจริงที่จำเป็นต่อความรอด

ท่านอาจจะแบ่งข้อพระคัมภีร์ต่อไปนี้ให้นักเรียนเพื่อจะหาความท้าทายของโจเซฟในการค้นพบความจริงได้อย่างรวดเร็ว

อ่าน โจเซฟ สมิธ—ประวัติ 1:5–10 เพื่อดูว่าเหตุใดโจเซฟจึงค้นพบความจริงของพระผู้เป็นเจ้าในบรรดาศาสนาต่างๆ ได้ยาก

• ท่านเคยเห็นความสับสนคล้ายกันเกี่ยวกับศาสนาในโลกทุกวันนี้อย่างไร?

• ท่านคิดว่าเหตุใดการหมายมั่นจะรู้ความจริงจากพระผู้เป็นเจ้าจึงสำคัญกว่าการยอมรับในทุกสิ่งที่สอน?

เพื่อช่วยให้นักเรียนเชื่อมโยงแบบอย่างของโจเซฟกับชีวิตพวกเขา ท่านอาจจะลอกแผนภูมิต่อไปนี้ไว้บนกระดานและให้ชั้นเรียนเติมแผนภูมิตลอดบทเรียน

สร้างแผนภูมิต่อไปนี้ในสมุดบันทึกการศึกษา และเขียนในตารางสี่ช่องตามที่เห็นด้านล่าง:

คำถามที่โจเซฟถามพระผู้เป็นเจ้า	คำถามที่ฉันจะถามพระผู้เป็นเจ้า
สิ่งที่โจเซฟทำ	สิ่งที่ฉันจะทำ

ย้อนกลับไปดูที่ท่านอ่านใน โจเซฟ สมิธ—ประวัติ 1:8, 10 เขียนคำถามและการกระทำของโจเซฟลงในช่องที่เหมาะสม

นักเรียนอาจจะระบุจาก ข้อ 10 ว่าคำถามของโจเซฟคือ “จะให้ทำอย่างไรเล่า?” และ “จากกลุ่มทั้งหมดนี้ [ศาสนจักร] ใดเล่าถูก?” พวกเขาอาจจะสังเกตเห็นใน ข้อ 8 ว่าการกระทำของโจเซฟรวมถึงการใคร่ครวญและการเข้าร่วมประชุมของศาสนจักรต่างๆ

อาจเป็นประโยชน์ถ้าให้นักเรียนเปิดดู ย่อหน้า 3 ในหมวดการได้ความรู้ทางวิญญาณของ เอกสารหลักผู้เชี่ยวชาญหลักคำสอน (2023) ขณะที่ท่านสนทนาคำถามต่อไปนี้

• ท่านคิดว่าเหตุใดพระบิดาบนสวรรค์พอพระทัยที่โจเซฟทูลถามคำถามเหล่านี้?

การทำตามแบบอย่างของโจเซฟ สมิธ

ขณะที่เราหมายมั่นจะรู้ให้ได้ว่าความจริงคืออะไร อาจเป็นประโยชน์ถ้าทำตามคำเชิญนี้จากประธานรัสเซลล์ เอ็ม. เนลสัน:

ประธานรัสเซลล์ เอ็ม. เนลสัน

ศาสดาพยากรณ์โจเซฟ สมิธวางรูปแบบให้เราทำตามในการแก้ไขปัญหาของเรา …

ในทำนองเดียวกัน การแสวงหาของท่านจะเปิดอะไรให้ท่าน? ท่านขาดปัญญาเรื่องใด? ท่านรู้สึกว่าท่านต้องรู้หรือเข้าใจอะไรโดยด่วน? จงทำตามแบบอย่างของศาสดาพยากรณ์โจเซฟ (รัสเซลล์ เอ็ม. เนลสัน, “การเปิดเผยสำหรับศาสนจักร การเปิดเผยสำหรับชีวิตเรา,” เลียโฮนา, พ.ค. 2018, 95)

ความจริงอย่างหนึ่งที่เราเรียนรู้ได้จากประธานเนลสันคือ เราสามารถทำตามแบบอย่างของโจเซฟ สมิธเพื่อเรียนรู้ความจริงของพระผู้เป็นเจ้าด้วยตัวเราเอง ใคร่ครวญคำถามที่ประธานเนลสันถาม ท่านจะตอบคำถามเหล่านั้นด้วยตัวท่านเองอย่างไร? ไตร่ตรองคำถามบางข้อที่ท่านมี แล้วเขียนลงในตารางสี่ช่องของ “คำถามที่ฉันจะถามพระผู้เป็นเจ้า” ในสมุดบันทึกการศึกษาของท่าน

นักเรียนอาจเลือกคำถามที่มุ่งเน้นในบทเรียนเรื่อง “การได้ความรู้ทางวิญญาณ ตอน 1” หรือ “การได้ความรู้ทางวิญญาณ ตอน 2” อาจเป็นประโยชน์ถ้าย้ำเตือนพวกเขาเรื่องนี้

• คำถามข้อใดที่ท่านรู้สึกได้รับการดลใจให้จัดลำดับความสำคัญ ณ จุดนี้ในชีวิตท่าน? เพราะเหตุใด?

ขณะศึกษาโจเซฟ สมิธ—ประวัติต่อไปตลอดบทเรียน ให้เติมแผนภูมิในสมุดบันทึกการศึกษาต่อ มองหาวิธีที่ท่านจะทำตามแบบอย่างของโจเซฟเพื่อหาคำตอบให้กับคำถามของท่านเอง เขียนกระตุ้นเตือนให้ท่านลงมือทำในช่อง “สิ่งที่ฉันจะทำ”

หลังจากนักเรียนอ่านข้อต่อไปนี้แล้วให้พวกเขาเติมในช่อง “สิ่งที่โจเซฟทำ” บนกระดานต่อ

อ่าน โจเซฟ สมิธ—ประวัติ 1:11–14 เพื่อมองหาสิ่งที่โจเซฟทำเพิ่มเติมเพื่อเรียนรู้ความจริงของพระผู้เป็นเจ้า ท่านอาจจะเขียนสิ่งที่พบลงในช่อง “สิ่งที่โจเซฟทำ”

เพื่อดูคำถามเพิ่มเติมและสิ่งที่โจเซฟทำเพื่อหาคำตอบจากพระผู้เป็นเจ้า ท่านจะดูวีดิทัศน์เรื่อง “The Restoration” ที่ ChurchofJesusChrist.org, ตั้งแต่ช่วงเวลา 1:15 ถึง 15:34

ถ้าท่านเลือกดูวีดิทัศน์เรื่อง “The Restoration” ท่านจะหยุดทุกครั้งที่นักเรียนพบคำถามใหม่ที่โจเซฟมีหรือการกระทำที่โจเซฟทำ ขอให้นักเรียนเพิ่มลงไปในช่องบนกระดาน

นี่เป็นตัวอย่างการกระทำที่นักเรียนอาจจะสังเกตเห็นโจเซฟทำในวีดิทัศน์: ถามพ่อแม่ พูดคุยกับนักเทศน์ ใช้เวลาไตร่ตรองสิ่งที่ท่านเรียนรู้ อ่านหลายข้อจากไบเบิล และไม่ยอมแพ้เมื่อคำตอบมาช้า

• ถึงแม้โจเซฟไม่รู้ว่าจะเข้าร่วมกับศาสนจักรใด แต่ท่านรู้อะไรเกี่ยวกับพระผู้เป็นเจ้าบ้าง? (ดู “การได้ความรู้ทางวิญญาณ,” เอกสารหลักผู้เชี่ยวชาญหลักคำสอน (2023), ย่อหน้า 2–3)

• ท่านคิดว่าเหตุใดพระผู้เป็นเจ้าเต็มพระทัยช่วยให้เราค้นพบความจริง? (ดู โจเซฟ สมิธ—ประวัติ 1:11)

• การกระทำใดของโจเซฟที่ท่านเคยลองทำในชีวิต? ท่านต้องการลองทำอะไร?

นึกถึงคำเชิญของประธานเนลสันให้ “ทำตามแบบอย่างของศาสดาพยากรณ์โจเซฟ” แสวงหาความช่วยเหลือจากพระบิดาบนสวรรค์ขณะไตร่ตรองสิ่งที่ท่านทำได้เพื่อทำตามแบบอย่างของโจเซฟในการค้นหาความจริง

หากจำเป็น ท่านจะบอกวิธีที่นักเรียนสามารถทำตามแบบอย่างของโจเซฟ สมิธ เช่น:

• หาพระคัมภีร์ที่มีความหมายต่อท่าน วางแผนใคร่ครวญครั้งแล้วครั้งเล่า ท่านจะสร้างโปสเตอร์ แล้ววางไว้ในที่ที่ท่านจะมองเห็นข้อความตลอดวัน หรือท่านอาจจะพยายามท่องจำและท่องจากความทรงจำทุกวันเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์

• ตั้งใจสวดอ้อนวอนพระผู้เป็นเจ้าโดยออกเสียงในที่ส่วนตัว สร้างโครงร่างของสิ่งที่ท่านต้องการรวมไว้ในคำสวดอ้อนวอน

ในช่อง “สิ่งที่ฉันจะทำ” ในสมุดบันทึกการศึกษา ให้เขียนหนึ่งหรือสองวิธีที่ท่านจะทำตามแบบอย่างของโจเซฟ สมิธ ระบุรายละเอียดเฉพาะเจาะจงว่าท่านจะทำสิ่งเหล่านี้อย่างไรขณะแสวงหาคำตอบจากพระผู้เป็นเจ้า ท่านอาจต้องการบอกแผนของท่านกับเพื่อนหรือสมาชิกในครอบครัวที่ท่านไว้ใจ สิ่งสำคัญคือจำไว้ว่าแม้แต่แผนที่ดีที่สุดก็ยัต้องใช้เวลาทำให้เกิดผลสมปรารถนา กลับไปที่สมุดบันทึกการศึกษาและโจเซฟ สมิธ—ประวัติเป็นระยะๆ เพื่อประเมินว่าท่านทำได้ดีเพียงใด

ให้นักเรียนแบ่งปันประจักษ์พยานในเรื่องการกระทำที่ซื่อสัตย์อันจะนำไปสู่การเปิดเผยและคำตอบให้กับคำถามทางวิญญาณ เป็นพยานว่าเมื่อเราทำตามแบบอย่างของโจเซฟ สมิธ พระผู้เป็นเจ้าจะทรงช่วยให้เราเรียนรู้ความจริงด้วยตัวเราเอง

แหล่งข้อมูลเพิ่มเติม

การประชุมของศาสนจักรที่โจเซฟ สมิธเข้าร่วมเป็นอย่างไร?

ท่านสามารถเรียนรู้เพิ่มเติมโดยเข้าไปที่ “Awakenings and Revivals” และ “Christian Churches in Joseph Smith’s Day” ที่ ChurchofJesusChrist.org และใน “Church History Topics” ใน the Gospel Library

เหตุใดฉันต้องทูลถามพระผู้เป็นเจ้า?

เอ็ลเดอร์นีล แอล. แอนเดอร์เซ็นแห่งโควรัมอัครสาวกสิบสองสอนว่า:

เอ็ลเดอร์นีล แอล. แอนเดอร์เซ็น

คำถามทางวิญญาณสมควรได้รับคำตอบทางวิญญาณจากพระผู้เป็นเจ้า (นีล แอล. แอนเดอร์เซ็น, “โจเซฟ สมิธ,” เลียโฮนา, พ.ย. 2014, 28)

ฉันจะทำอะไรได้อีกบ้างเพื่อหาคำตอบให้กับคำถามของฉัน?

หลังจากเชื้อเชิญให้เราทำตามแบบอย่างของโจเซฟ สมิธแล้ว ประธานรัสเซลล์ เอ็ม. เนลสันกล่าวต่อไปว่า:

ประธานรัสเซลล์ เอ็ม. เนลสัน

หาที่เงียบๆ ที่ท่านจะไปเป็นประจำได้ นอบน้อมถ่อมตนต่อพระผู้เป็นเจ้า ระบายความในใจต่อพระบิดาบนสวรรค์ของท่าน หันไปขอคำตอบและการปลอบโยนจากพระองค์

สวดอ้อนวอนในพระนามของพระเยซูคริสต์เกี่ยวกับข้อกังวล ความกลัว ความอ่อนแอของท่าน—ใช่ ความปรารถนาของใจท่าน จากนั้นจงฟัง! เขียนความคิดที่เข้ามาในจิตใจท่าน บันทึกความรู้สึกและทำตามที่ท่านได้รับการกระตุ้นเตือนให้ทำ เมื่อท่านทำกระบวนการนี้ซ้ำวันแล้ววันเล่า เดือนแล้วเดือนเล่า ปีแล้วปีเล่า ท่านจะ “เติบโตไปสู่หลักธรรมแห่งการเปิดเผย” (รัสเซลล์ เอ็ม. เนลสัน, “การเปิดเผยสำหรับศาสนจักร การเปิดเผยสำหรับชีวิตเรา,” เลียโฮนา, พ.ค. 2018, 95)

โจเซฟ สมิธ—ประวัติ 1:14 อะไรคือคุณค่าของการสวดอ้อนวอนออกเสียง?

เอ็ลเดอร์เจฟฟรีย์ อาร์. ฮอลแลนด์แห่งโควรัมอัครสาวกสิบสองกล่าวว่า:

เอ็ลเดอร์เจฟฟรีย์ อาร์. ฮอลแลนด์

หนึ่งในบทเรียนสำคัญที่ข้าพเจ้าได้เรียนรู้เกี่ยวกับการสวดอ้อนวอนคือพลังที่มาจากการสวดอ้อนวอนออกเสียง สำหรับข้าพเจ้ามีบางอย่างเกี่ยวกับการพูดออกมา หนึ่งในวิธีที่มีความหมายมากที่สุดที่ข้าพเจ้าพบคือการเข้าถึงสวรรค์จริงๆ และฟังสุรเสียงของพระเจ้า

เราจำเป็นต้องจัดสรรเวลา—เวลาที่ดี เวลาที่มีความสำคัญสูงสุด—เวลาเราคุกเข่าได้ ) และสวดอ้อนวอนออกมา พูดออกมา ข้าพเจ้าเชื่อว่ากระบวนการนี้เป็นพื้นฐานของวิธีที่พระผู้เป็นเจ้าทรงสื่อสารกับเรา และวิธีที่พระองค์ทรงประสงค์ให้เราสื่อสารกับพระองค์ (เจฟฟรีย์ อาร์. ฮอลแลนด์, “ข้าพเจ้าฟังพระองค์อย่างไร,” ChurchofJesusChrist.org)

กิจกรรมเสริมการเรียนรู้

การค้นหาความจริง

เพื่อเริ่มชั้นเรียน ให้นักเรียนเขียนข้อความเกี่ยวกับตนเองที่เป็นจริงสองข้อความและเป็นเท็จหนึ่งข้อความ จากนั้นพวกเขาจะผลัดกันแบ่งปันข้อความเหล่านี้ในกลุ่มเล็กๆ หรือกับชั้นเรียน เพื่อนร่วมชั้นเรียนจะทายว่าข้อความใดเป็นจริงและข้อความใดเป็นเท็จ เมื่อนักเรียนทำเสร็จแล้ว ให้สนทนากันว่าเหตุใดการค้นพบความจริงจึงง่ายหรือไม่ก็ยาก อธิบายว่าในปี 1838 มีการเผยแพร่ข้อมูลเท็จจำนวนมากเกี่ยวกับโจเซฟ สมิธและศาสนจักรของพระเยซูคริสต์ เหตุการณ์นี้กระตุ้นให้โจเซฟเขียนความจริงเกี่ยวกับชีวิตท่านและการฟื้นฟูศาสนจักร ในที่สุดเรื่องนี้กลายเป็นส่วนหนึ่งของพระคัมภีร์ของเราและเวลานี้อยู่ในโจเซฟ สมิธ—ประวัติ

กระตุ้นให้นักเรียนทำเครื่องหมายวลี “ค้นหาความจริง” ใน โจเซฟ สมิธ—ประวัติ 1:1 เพื่อประยุกต์ใช้ให้มากขึ้น พวกเขาจะเขียนบางอย่าง เช่น “ฉันจะเป็นคนค้นหาความจริงได้อย่างไร?” ไว้ริมข้อพระคัมภีร์หรือในบันทึกที่ไฮไลต์ไว้ในคลังค้นคว้าพระกิตติคุณ ศึกษาโจเซฟ สมิธ—ประวัติเพื่อมองหาหลักธรรมที่จะช่วยให้นักเรียนเป็นคนค้นหาความจริง

การได้รับคำตอบมักต้องใช้เวลา

อาจเป็นประโยชน์ถ้าอธิบายให้นักเรียนฟังว่าโจเซฟ สมิธเริ่มถามคำถามเกี่ยวกับความรอดของท่านตั้งแต่อายุ 12 ปี (ดู “ทูลขอด้วยศรัทธา,” วิสุทธิชน, 1:9) ถามคำถามเช่น: “ท่านคิดว่าทำไมพระบิดาบนสวรรค์ทรงให้โจเซฟค้นหาคำตอบเป็นเวลานานก่อนจะปรากฏพระองค์ในป่าศักดิ์สิทธิ์? การรู้เรื่องนี้เกี่ยวกับโจเซฟจะช่วยเราขณะขวนขวายทำตามแบบอย่างของท่านและหาคำตอบได้อย่างไร?”

“ข้าพเจ้าครุ่นคิดถึงข้อความนี้ครั้งแล้วครั้งเล่า”

เอาเศษผ้าใส่ลงไปในชามที่มีน้ำเต็ม ขอให้นักเรียนคนหนึ่งบิดผ้าให้น้ำออก แล้วให้นักเรียนอีกคนหนึ่งบิดต่อโดยไม่ต้องเอาเศษผ้าใส่กลับลงไปในชาม ให้นักเรียนคนอื่นๆ บิดต่อหากพวกเขายินดี ใช้ โจเซฟ สมิธ—ประวัติ 1:12 อธิบายว่าเราจะได้มากขึ้นเรื่อยๆ จากพระคัมภีร์เมื่อเราใคร่ครวญและไตร่ตรอง “ครั้งแล้วครั้งเล่า” นักเรียนจะฝึกโดยอ่านถ้อยคำของยากอบใน โจเซฟ สมิธ—ประวัติ 1:11 หลายๆ รอบ โดยพยายามระบุสิ่งใหม่ที่พวกเขาอาจไม่เห็นในครั้งแรก หรือท่านอาจจะขอให้ระบุคำหรือวลีที่จะช่วยให้นิยามหรือคิดอย่างลึกซึ้ง พวกเขาอาจได้ประโยชน์จากการเรียนรู้ว่า “ประทานให้แก่คนทั้งปวงด้วยพระกรุณา และมิได้ทรงตำหนิ” หมายถึงพระผู้เป็นเจ้าทรงกรุณาประทานคำตอบให้กับคำถามของเราและมิทรงกริ้วเมื่อเราถาม พิจารณาวิธีอื่นที่ท่านอาจจะช่วยให้นักเรียนใคร่ครวญ ยากอบ 1:5 “ครั้งแล้วครั้งเล่า”