บทที่ 172: ทักษะการศึกษาพระคัมภีร์

เครื่องมือศึกษาพระคัมภีร์

การใช้สิ่งช่วยศึกษา

บทเรียนนี้จะช่วยให้ท่านปรับปรุงการศึกษาพระคัมภีร์ส่วนตัวและเสริมสร้างความสัมพันธ์ของท่านกับพระบิดาบนสวรรค์และพระเยซูคริสต์ผ่านเครื่องมือศึกษาพระคัมภีร์

การเตรียมของนักเรียน: เชื้อเชิญให้นักเรียนเตรียมพร้อมแบ่งปันเครื่องมือที่มีอยู่ในโลกปัจจุบันเพื่อช่วยเรา แต่ไม่มีเมื่อ 50 ปีก่อน ขอให้พวกเขาเตรียมอธิบายว่าเครื่องมือเหล่านี้สร้างความแตกต่างอย่างไรในชีวิตเรา

กิจกรรมการเรียนรู้ที่อาจทำได้

เครื่องมือ

ท่านอาจให้ดูภาพต่อไปนี้ (หรือภาพอื่นๆ ที่คล้ายกัน) และเชื้อเชิญให้นักเรียนตอบคำถามต่อไปนี้

• เครื่องมือเหล่านี้มีอิทธิพลต่อความสามารถในการเดินทางและการทำงานของเราอย่างไร?

• มีเครื่องมืออะไรอีกบ้างที่ได้รับการพัฒนาซึ่งเพิ่มความสามารถของเราในการทำสิ่งต่างๆ ได้ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา?

• ชีวิตจะต่างจากนี้อย่างไรหากเราไม่ตระหนักถึงเครื่องมือเหล่านี้หรือวิธีนำไปใช้?

มีเครื่องมือที่ช่วยให้เราศึกษาพระคัมภีร์และทำให้เราเข้าใกล้พระบิดาบนสวรรค์กับพระเยซูคริสต์มากขึ้นได้เช่นเดียวกับการเดินทางและการทำงาน

บราเดอร์แทด อาร์. คอลลิสเตอร์ อดีตประธานโรงเรียนวันอาทิตย์สามัญแบ่งปันดังนี้:

คนรุ่นปัจจุบันกำลังค้นพบความจริง ข้อคิด และการยืนยันเพิ่มเติมที่บรรพบุรุษหลายคนไม่รู้จัก ไม่ใช่เพราะคนรุ่นปัจจุบันจำเป็นต้องชอบธรรมมากขึ้นหรือเพราะมีสติปัญญามากขึ้น แต่เพราะมีเครื่องมือที่ดีกว่า เกษตรกรที่มีความรู้มากที่สุดกับม้าและคันไถไม่สามารถเทียบได้อย่างเท่าเทียมกับเกษตรกรที่มีความเชี่ยวชาญในการใช้รถแทรกเตอร์ที่มีเทคโนโลยีสูง นักคณิตศาสตร์ที่มีไม้บรรทัดคำนวณไม่ได้เป็นคู่แข่งของเพื่อนร่วมงานที่มีคอมพิวเตอร์ความเร็วสูง กาลิเลโอที่มีกล้องส่องทางไกลจะไม่มีวันค้นพบจักรวาลเหมือนกาลิเลโอที่มีกล้องโทรทรรศน์ที่ทันสมัยที่สุด พระเจ้าทรงคาดหวังให้เรามีความรอบรู้ในพระกิตติคุณมากกว่าที่พระองค์ทรงทำกับคนรุ่นก่อนๆ เพราะเรามีมากกว่าที่มีอยู่ (Tad R. Callister, The Infinite Atonement [2000], 21)

ไตร่ตรองคำถามต่อไปนี้:

• ท่านตระหนักถึงเครื่องมือศึกษาพระคัมภีร์ที่จะช่วยท่านหาคำตอบสำหรับคำถามของท่านและทำให้ท่านเข้าใกล้พระบิดาบนสวรรค์กับพระเยซูคริสต์มากเพียงใด?

• ท่านรู้สึกว่าท่านใช้เครื่องมือนั้นได้ดีเพียงใด?

ขณะท่านศึกษาบทเรียนนี้ พยายามทำความเข้าใจเครื่องมือศึกษาพระคัมภีร์ให้ดีขึ้นและวิธีที่เครื่องมือเหล่านี้จะช่วยท่านได้

นิยาม: การใช้เครื่องมือศึกษาพระคัมภีร์

ทำสิ่งต่อไปนี้เพื่อช่วยให้นักเรียนเข้าใจอย่างชัดเจนว่าเครื่องมือศึกษาพระคัมภีร์คืออะไร

เชื้อเชิญให้นักเรียนออกมาเขียนเครื่องมือศึกษาพระคัมภีร์ที่พวกเขารู้ว่าพระเจ้าทรงจัดเตรียมไว้ให้เพื่อช่วยเราตอบคำถามและเข้าใกล้พระองค์มากขึ้น ท่านอาจเพิ่มเครื่องมือต่อไปนี้ซึ่งนักเรียนไม่ได้กล่าวถึง

เชิงอรรถ

.

คู่มือพระคัมภีร์

.

แผนที่

ภาพถ่ายทางประวัติศาสตร์ของศาสนจักร

ชี้ไปที่เครื่องมือต่างๆ บนกระดาน แล้วถามนักเรียนว่าสิ่งเหล่านั้นคืออะไรและจะหาได้จากที่ใด หากนักเรียนไม่คุ้นเคยกับเครื่องมือเหล่านั้น ท่านอาจใช้คำอธิบายต่อไปนี้และให้นักเรียนเห็นว่าจะหาสิ่งเหล่านั้นได้จากที่ใด

เชิงอรรถ—เชิงอรรถอ้างอิงจากตัวอักษรพิมพ์เล็กในข้อพระคัมภีร์ โดยจะนำท่านไปยังด้านล่างของหน้าซึ่งท่านจะพบข้ออ้างอิงพระคัมภีร์เพิ่มเติมหรือหัวข้อที่เกี่ยวข้องกับข้อนั้น การแตะเชิงอรรถในแอปคลังค้นคว้าพระกิตติคุณจะแสดงข้อมูลเดียวกัน

. .

คู่มือพระคัมภีร์—แหล่งข้อมูลนี้มีคำจำกัดความสั้นๆ และเรียบง่ายของคำศัพท์ในพระคัมภีร์พร้อมกับข้ออ้างอิงพระคัมภีร์สองสามข้อที่เกี่ยวข้องกับแต่ละคำ ซึ่งหาอ่านได้ในตอนท้ายของพระคัมภีร์มอรมอนหรือในแอปคลังค้นคว้าพระกิตติคุณ โดยไปที่ “สิ่งช่วยศึกษา” ในหมวด “พระคัมภีร์”

. .

แผนที่และภาพถ่ายทางประวัติศาสตร์ของศาสนจักร—แหล่งข้อมูลเหล่านี้หาอ่านได้ในตอนท้ายของบทรวมสามเล่มหรือในแอปคลังค้นคว้าพระกิตติคุณ โดยไปที่ “สิ่งช่วยศึกษา” ในหมวด “พระคัมภีร์”

ต้นแบบ

เพื่อจำลองการใช้เครื่องมือศึกษาพระคัมภีร์ในชั้นเรียน ให้ทำกิจกรรมต่อไปนี้:

นึกถึงสิ่งที่ท่านรู้และต้องการรู้เกี่ยวกับการให้อภัย

อ่าน หลักคำสอนและพันธสัญญา 64:9–11 โดยมองหาความจริงเกี่ยวกับการให้อภัย

• ท่านเรียนรู้อะไรบ้าง? ข้อพระคัมภีร์เหล่านี้ช่วยให้ท่านเข้าใจอะไรเกี่ยวกับพระบิดาบนสวรรค์และพระเยซูคริสต์ได้ดีขึ้น?

  ทีนี้เชื้อเชิญให้นักเรียนแบ่งปันเครื่องมือที่อาจนำไปใช้เพื่อเข้าใจให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น ขณะที่นักเรียนแบ่งปันเครื่องมือ ให้ถามวิธีใช้และเชื้อเชิญให้นักเรียนทุกคนทำตามคำแนะนำนั้น ตัวอย่างเช่น พวกเขาอาจค้นหาพระคัมภีร์ที่พบในเชิงอรรถของข้อเหล่านี้ และอาจให้พวกเขาค้นหา “พระเยซูคริสต์” หรือ “ไถ่ (การ), ไถ่ (ได้รับการ)” ในคู่มือพระคัมภีร์

  เชื้อเชิญนักเรียนมาแบ่งปันสิ่งที่เรียนรู้และเหตุผลที่สิ่งนั้นมีความหมายต่อพวกเขา

• เครื่องมือศึกษาพระคัมภีร์เหล่านี้ช่วยในการศึกษาของท่านอย่างไร?

ฝึกปฏิบัติ

เชื้อเชิญให้นักเรียนออกมาเขียนหัวข้อพระกิตติคุณหรือคำถามที่พวกเขาหรือคนอื่นๆ ต้องการรู้มากขึ้นหรือได้ตอบแล้วบนกระดาน หรืออาจใช้เครื่องมือสำรวจความคิดเห็นแบบไม่ระบุตัวตนเพื่อให้ได้คำตอบ

หากนักเรียนประสบปัญหาในการคิดหาแนวคิด ท่านอาจเขียนหัวข้อต่อไปนี้ไว้บนกระดาน เชื้อเชิญให้นักเรียนเลือกหัวข้อใดหัวข้อหนึ่งต่อไปนี้ (หรือหัวข้ออื่นที่เลือก) ที่พวกเขามีคำถามหรือรู้สึกว่าการศึกษาหัวข้อนั้นทำให้พวกเขาเข้าใกล้พระเยซูคริสต์มากขึ้น:

• การให้อภัย

• รับการเปิดเผย

• พระบิดาบนสวรรค์

• เหตุผลที่เราต้องมีพระเยซูคริสต์

• การดำรงอยู่ก่อนเกิด

• โลกวิญญาณ

• การพิพากษาครั้งสุดท้าย

• การแต่งงานและครอบครัว

• การเสด็จมาครั้งที่สองของพระเยซูคริสต์

หรืออาจให้นักเรียนแสดงบทบาทสมมติเกี่ยวกับหนึ่งในหัวข้อข้างต้นซึ่งเพื่อนต้องการรู้เพิ่มเติม

ใช้เวลาสักครู่เพื่อศึกษาหัวข้อหรือคำถามนี้ด้วยเครื่องมือศึกษาพระคัมภีร์ มองหาความจริงที่มีความหมายต่อท่าน ตอบคำถามท่าน หรือนำท่านเข้าใกล้พระบิดาบนสวรรค์และพระเยซูคริสต์มากขึ้น

หลังจากให้เวลาพอสมควรแล้ว ท่านอาจเชื้อเชิญให้นักเรียนแบ่งปันเป็นคู่หรือเป็นกลุ่มเล็กเกี่ยวกับสิ่งที่เรียนรู้และวิธี จากนั้นเชื้อเชิญให้นักเรียนตอบคำถามต่อไปนี้เพื่อสรุปชั้นเรียน:

• การใช้เครื่องมือเหล่านี้ในการศึกษาพระคัมภีร์ส่วนตัวอย่างสม่ำเสมอมีอิทธิพลต่อความรู้และความสัมพันธ์ของท่านกับพระบิดาบนสวรรค์และพระเยซูคริสต์อย่างไร?

แหล่งข้อมูลเพิ่มเติม

การศึกษาพระคัมภีร์อย่างลึกซึ้งเป็นพรแก่ชีวิตฉันอย่างไร?

ประธานบอยด์ เค. แพคเกอร์ (1924–2015) แห่งโควรัมอัครสาวกสิบสองสอนว่า:

พระคัมภีร์มีกุญแจสู่การคุ้มครองทางวิญญาณ ประกอบด้วยหลักคำสอน กฎ และศาสนพิธีที่จะนำลูกแต่ละคนของพระผู้เป็นเจ้าไปสู่ประจักษ์พยานของพระเยซูคริสต์ว่าเป็นพระผู้ช่วยให้รอดและพระผู้ไถ่

โดยที่มีเวลาเตรียมมาหลายปี มีการทำงานเป็นจำนวนมากเพื่อผลิตพระคัมภีร์ในทุกภาษาให้มีเชิงอรรถและข้อพระคัมภีร์เชื่อมโยง เราพยายามทำให้ทุกคนที่ปรารถนาจะเรียนรู้มีพระคัมภีร์ พระคัมภีร์สอนเราว่าให้ไปที่ไหนและทำอะไร ให้ความหวังและความรู้

หลายปีก่อน เอ็ลเดอร์เอส. ดิลเวิร์ธ ยังก์แห่งสาวกเจ็ดสิบสอนบทเรียนหนึ่งแก่ข้าพเจ้าเรื่องการอ่านพระคัมภีร์ สเตคหนึ่งกำลังมีปัญหาเรื่องความตึงเครียดและความยากลำบากในบรรดาสมาชิก และจำต้องให้คำแนะนำพวกเขา

ข้าพเจ้าถามประธานยังก์ “ผมควรพูดอะไร”

เขาตอบอย่างเรียบง่าย “บอกให้พวกเขาอ่านพระคัมภีร์”

ข้าพเจ้าถาม “พระคัมภีร์ข้อไหน”

เขาตอบ “นั่นไม่สำคัญ ตัวอย่างเช่น บอกให้พวกเขาเปิดอ่านพระคัมภีร์มอรมอนและเริ่มอ่าน ไม่นานความรู้สึกแห่งสันติสุขและการดลใจจะเข้ามา และทางออกจะเกิดขึ้นเอง” (บอยด์ เค. แพคเกอร์, “กุญแจสู่การคุ้มครองทางวิญญาณ” เลียโฮนา, พ.ย. 2013, 26–27)

ประธานแพคเกอร์สอนโดยกล่าวถึงเชิงอรรถและเครื่องมืออื่นๆ ในพระคัมภีร์ดังนี้:

เมื่อเวลาผ่านไป พระคัมภีร์เหล่านี้จะสร้างชาวคริสต์ที่ซื่อสัตย์ต่อเนื่องกันไปจากรุ่นสู่รุ่น คนเหล่านี้รู้จักพระเจ้าพระเยซูคริสต์และมีแนวโน้มจะเชื่อฟังพระประสงค์ของพระองค์ …

… การเปิดเผยจะมีให้พวกเขาอย่างที่ไม่เคยมีให้ใครมาก่อนในประวัติศาสตร์ของโลก … พวกเขาจะพัฒนาความรอบรู้ในพระกิตติคุณเกินกว่าบรรพบุรุษของพวกเขาจะทำได้ พวกเขาจะมีประจักษ์พยานว่าพระเยซูคือพระคริสต์และมีความสามารถในการประกาศพระองค์และแก้ต่างให้พระองค์ …

ข้ออ้างอิงเหล่านี้จากพระคัมภีร์ชุดรวมสี่เล่มนับเป็นการรวบรวมข้อมูลพระคัมภีร์ที่ครอบคลุมที่สุดเกี่ยวกับพระพันธกิจและคำสอนของพระเจ้าพระเยซูคริสต์เท่าที่เคยรวบรวมมาแล้วในประวัติศาสตร์โลก (Boyd K. Packer, “Scriptures,” in Conference Report, Oct. 1982, 75–76; หรือ Ensign, Nov. 1982, 53)

ในพระคัมภีร์ฉบับวิสุทธิชนยุคสุดท้ายมีเครื่องมืออะไรบ้าง?

กิจกรรมเสริมการเรียนรู้

ฝึกเพิ่มเติมด้วยเครื่องมือศึกษา

ให้นักเรียนจับคู่กัน โดยให้คนหนึ่งศึกษาหมวด “เชิงอรรถ” หลังจากให้เวลาพอสมควร เชื้อเชิญให้ทั้งสองคนสอนกันเองว่าพวกเขาเรียนรู้อะไรและถามคำถามที่พวกเขาจะค้นคว้าได้โดยใช้เครื่องมือเหล่านี้ จากนั้นพวกเขาจะช่วยหาคำตอบให้กันได้

­ ทบทวนกิจกรรมต่างๆ และหาประเภทที่มุ่งเน้นไปที่หลักคำสอนและพันธสัญญา หรือช่วยให้นักเรียนศึกษาพระคัมภีร์ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ตัวอย่างหนึ่งของวิธีใช้สื่อการเรียนการสอนนี้คือ ให้แบ่งนักเรียนออกเป็นกลุ่มๆ ละห้าคน มอบหมายหัวข้อในบทเรียนต่อไปนี้ให้หนึ่งคนในแต่ละกลุ่ม: “เชิงอรรถ” และ “ลำดับเหตุการณ์ แผนที่ และภาพถ่ายทางประวัติศาสตร์ของศาสนจักร” พวกเขาอาจศึกษาเนื้อหาในส่วนของตนและเตรียมสอนกลุ่มเกี่ยวกับเครื่องมือที่ได้รับมอบหมาย