ฉบับก่อนหน้า
แหล่งข้อมูล


แหล่งข้อมูล

การศึกษาเพื่อการพึ่งพาตนเอง

เลือกบทบาทและแสดงตามบทบาทต่อไปนี้

วิทยากรกระบวนการ: ยินดีต้อนรับทุกคน เราขอทราบชื่อของคุณและข้อมูลเล็กน้อยเกี่ยวกับตัวคุณ

คมสัน: ผมชื่อคมสันครับ ผมเพิ่งกลับจากงานเผยแผ่ ผมกำลังมองหาภรรยา และผมกำลังทำงานรับจ้างทั่วไปครับ

ขวัญ: ดิฉันชื่อขวัญ ดิฉันแต่งงานแล้วและมีลูกชายเล็กๆ สองคน ดิฉันช่วยสามีดิฉันขายของที่แผงขายผลไม้ค่ะ

เมขลา: ดิฉันชื่อเมขลาค่ะ ดิฉันเป็นแม่ตัวคนเดียวมีลูกสาวอายุหกขวบ ดิฉันเป็นพนักงานทำความสะอาดโรงแรม ทำงานเต็มเวลาค่ะ

รังสรรค์: ผมรังสรรค์ครับ ผมแต่งงานแล้วและมีลูกห้าคน ปัจจุบันผมรับใช้เป็นอธิการ แต่ผมหางานดีๆ ลำบากมากครับ

วิทยากรกระบวนการ: โอเค ดีครับ พวกคุณมาที่นี่ทำไมครับ

คมสัน: ผมอยากเรียนต่อครับ คู่ผู้สอนศาสนาของผมทุกคนกลับบ้านไปเรียนต่อที่มหาวิทยาลัย ผมอยากทำอย่างนั้นบ้างครับ

รังสรรค์: จริงๆ แล้วผมหวังว่าจะได้รับเงินกู้ยืมกองทุนต่อเนื่องเพื่อการศึกษา—นี่ไม่ใช่เรื่องนั้นหรือครับ

ขวัญ: ศาสดาพยากรณ์บอกว่าให้ศึกษาหาความรู้ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ดิฉันจึงบอกสามีว่าดิฉันต้องทำสิ่งนี้ค่ะ

เมขลา: ดิฉันแค่ต้องการมีงานที่ดีขึ้นเพื่อจะพึ่งพาตนเองได้มากขึ้น ดิฉันไม่ได้มีทักษะหลายอย่างค่ะ

วิทยากรกระบวนการ: โอเค ฟังดูเหมือนเรามีเหตุผลหลายประการที่เราอยู่ที่นี่ เราจะทำงานด้วยกันได้ดี เมขลา สิ่งที่คุณพูดสำคัญมากค่ะ ช่วยเล่าให้เราฟังมากกว่านี้นะคะ

เมขลา: ดิฉันทำงานหลายชั่วโมงจริงๆ และไม่ได้อยู่กับลูกสาวเลย และดิฉันรู้ว่าดิฉันจะหางานที่ดีกว่าไม่ได้ถ้าไม่ได้รับการอบรม ดังนั้น ดิฉันจึงต้องการศึกษาบางอย่างเพื่อเพิ่มทักษะ อธิการของดิฉันบอกให้มาที่นี่

วิทยากรกระบวนการ: คุณพูดถูกแล้ว เมขลา อันที่จริง นั่นคือสาเหตุที่เราทั้งหมดอยู่ที่นี่ นี่ไม่ใช่แค่เรื่องการศึกษา ประหลาดใจไหมครับ กลุ่มนี้จะช่วยเราวางแผนเพื่อรับการอบรมหรือการศึกษา แต่จุดประสงค์คือเพื่อได้รับทักษะ ได้งานที่ดีกว่า และเพิ่มรายได้ของเรา บางทีสิ่งสำคัญที่สุด สำหรับ 12 สัปดาห์นี้คือ เราจะเรียนรู้หลักธรรม ทักษะ และนิสัยที่จะช่วยให้เราพึ่งพาตนเองได้จริงๆ ดังนั้นนี่จึงเป็นมากกว่าการไปเรียน

รังสรรค์: แล้วเรื่องเงินกู้ยืม กตศ. ล่ะครับ

วิทยากรกระบวนการ: ถ้าคุณรู้ว่าคุณต้องการเงินกู้ยืมจริงๆ ก็มีเงินกู้ยืมนั้นแน่นอน และเราจะเรียนรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับวิธีที่จะได้รับเงินกู้ยืม แต่จะเป็นอย่างไรถ้าคุณได้รับการอบรมโดยไม่ต้องใช้เงินกู้ยืม คุณก็ไม่ต้องมีหนี้นั้น

ขวัญ: แล้วจะช่วยให้เราเข้ามหาวิทยาลัยได้ไหม

วิทยากรกระบวนการ:ใช่ ถ้านั่นเป็นสถานที่ซึ่งคุณจะได้รับทักษะที่คุณต้องการเพื่อให้ได้งานดี แต่บางครั้งปริญญามหาวิทยาลัยไม่ได้นำไปสู่งานในภาวะเศรษฐกิจของเรา

รังสรรค์: จริงครับ ผมรู้จักหมอที่ขับแท็กซี่

คมสัน: ผมแค่อยากเริ่มทำอะไรสักอย่าง ผมขายของข้างทางก่อนรับใช้งานเผยแผ่ ผมไม่มีทักษะด้านการทำงานเลย

ขวัญ เราเลยมาที่นี่เพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับงานหรือการศึกษาใช่ไหมคะ

วิทยากรกระบวนการ: ทั้งสองอย่างเลยครับ เราต้องการพึ่งพาตนเอง ใช่ไหมครับ เราจะเรียนรู้หลักธรรมสำคัญของการพึ่งพาตนเอง เราจะเริ่มโดยตัดสินใจว่างานประเภทใดจะให้เรามีรายได้ที่นำไปสู่การพึ่งพาตนเอง

และจากนั้น เราจะตัดสินใจว่าการศึกษาหรือการอบรมอะไรที่จะช่วยให้เรามีคุณสมบัติเหมาะสมกับงานนั้น จากนั้นเราจะมาคิดว่าเราจะจ่ายค่าเล่าเรียนอย่างไรและจะประสบความสำเร็จในการเรียนได้อย่างไร เราจะช่วยกันไปถึงเป้าหมายนั้น

รังสรรค์: เข้าใจแล้วครับ ก่อนนั้น ผมแค่คิดเรื่องเรียน แต่ไม่ได้คิดจริงๆ ว่าทำไมต้องเรียน

คมสัน: ฟังดูเหมือนว่านี่จะทำให้ผมรู้ว่าจะไปทางไหน ไม่สงสัยเลยว่าประธานโควรัมส่งผมมาที่นี่ทำไม

เมขลา: แต่นี่จะได้ผลเหรอคะ ดิฉันค่อนข้างจะหมดหวัง ก่อนหน้านี้ดิฉันเคยลองมาหลายวิธี เพื่อให้ได้รับการศึกษา

วิทยากรกระบวนการ: เราจะต้องทำมากขึ้นและช่วยกัน แต่ผมเชื่อว่าได้ผล ผมเชื่อสุดหัวใจว่าพระเจ้าทรงต้องการให้เราพึ่งพาตนเองและประสบความสำเร็จ พระองค์ทรงต้องการให้เราเรียนรู้และเติบโต พระองค์ทรงมีอำนาจที่จะช่วยเรา การชดใช้มีอยู่จริง ทั้งทางวิญญาณและทางโลก และกลุ่มการพึ่งพาตนเองเคยช่วยมาแล้วหลายๆ คนเหมือนเรา คุณคิดว่าอย่างไรครับ เราจะทำได้ไหม เราควรจะลองไหม นี่เป็นเรื่องราวของคนๆ หนึ่ง:

อีเมลด้า: การเป็นนักเรียนที่เรียนเก่งไม่ได้เป็นเพราะตัวดิฉันเอง ดิฉันได้มาเพราะศาสนจักร ดิฉันรู้ว่าการเข้าร่วมกับศาสนจักรของพระเยซูคริสต์แห่งวิสุทธิชนยุคสุดท้ายจะนำดิฉันไปสู่ดินแดนทางวิญญาณที่ยิ่งใหญ่ขึ้น แต่ไม่เคยฝันว่าจะเปิดประตูทางวิชาการ

การเรียนรู้พระกิตติคุณปลุกดิฉันให้ตื่นจริงๆ นี่ทำให้ดิฉันรู้ว่าดิฉันต้องกำหนดจุดหมายของตนเอง ไม่ว่าสภาวการณ์ปัจจุบันของเราจะเป็นอย่างไรและไม่ว่าเราจะรู้สึกอย่างไร ดิฉันไม่สงสัยเลยว่าพระบิดาบนสวรรค์ทรงมีแผนที่ดีให้เรา

กลับไปหน้า 4

การเรียนรู้ จงไปและทำ”

ผลัดกันอ่านย่อหน้าต่อไปนี้

ในชั้นเรียนแบบเดิม เรามักจะทำตามรูปแบบนี้: (1) เราเดินเข้าไปในห้องและนั่งลง โดยปกติเราไม่ต้องเตรียมตัวมากนักในส่วนของเรา (2) ครูพูด (3) เราพยายามฟังและเรียนรู้ (4) บางครั้งเราตอบคำถาม และจากนั้น (5) เรากลับบ้าน

ในกลุ่มการพึ่งพาตนเองของเรา เราจะทำตามรูปแบบที่แตกต่าง

ภาพ
act diagram

พื้นฐาน

รายงาน

เรียนรู้

ไตร่ตรอง

ให้คำมั่นสัญญา

ทำ ทุกวันด้วยความรับผิดชอบ

ระหว่างสัปดาห์ เราจะทำ เราจะทำสิ่งที่เราให้คำมั่นสัญญาว่าจะทำในการประชุมกลุ่มก่อนหน้านั้น เราจะถามคำถาม ทดสอบแนวคิด และเรียนรู้จริงๆ

จากนั้น ก่อนการประชุมกลุ่ม เราจะทบทวนสมุดแบบฝึกหัดและคำมั่นสัญญาทั้งหมดของเรา เราเตรียมตัวมาก่อนและมาตรงเวลา

ระหว่างช่วงแรกของการประชุมกลุ่มทุกครั้งเราจะใช้เวลามุ่งเน้นหลักธรรมหรือนิสัย พื้นฐาน เราจะให้คำมั่นสัญญาที่จะสอนครอบครัวเราและคนอื่นๆ เช่นกัน

ต่อไป เราจะ รายงาน คำมั่นสัญญาของเรา เรียนรู้จากกัน และหาวิธีพัฒนา

จากนั้น เราจะหันไป เรียนรู้ ที่นี่ เราจะสำรวจแนวคิดและเครื่องมือที่เราต้องการเพื่อ “ไปและทำ” ระหว่างสัปดาห์ เราสนทนากัน ดูวีดิทัศน์ เรียนรู้ และฝึกปฏิบัติ

หลังจากส่วนเรียนรู้ เราจะหยุดและ ไตร่ตรอง ตรงนี้จะเป็นเวลาสำหรับการดลใจและคำตอบ

ท้ายที่สุด เรา ให้คำมั่นสัญญา แก่่กัน เราทบทวนสิ่งที่เราจะไปและทำระหว่างสัปดาห์เพื่อพัฒนาชีวิตของเรา

สิ่งนั้นจะนำเรากลับไปที่ การกระทำ ส่วนสำคัญที่สุดของรูปแบบการเรียนรู้นี้เกิดขึ้นระหว่างการประชุม เพื่อช่วยเรา เราจะเลือก “คู่ร่วมปฏิบัติ” สำหรับสัปดาห์นั้น และทุกวันเราควรติดต่อบุคคลคนนั้นเพื่อรายงานอย่างรวดเร็วถึงสิ่งที่เราทำและสิ่งที่เราเรียนรู้ เราสามารถใช้การส่งข้อความหรือทางเลือกการสื่อสารอื่นๆ นอกจากนี้ ครอบครัวของเราจะเป็นแหล่งช่วยสำคัญที่สุดของเรา

กลับไปหน้า 5

รายการ กตศ. ที่เลือก

เลือกบทบาทและแสดงตามบทบาทต่อไปนี้

วิทยากรกระบวนการ: เอาละครับทุกคน รายการ กตศ. ที่เลือกจะแสดงให้เห็นงานในท้องที่ โปรแกรมการศึกษา และสถานศึกษาที่ดีที่สุดในเขตของเรา หากคุณต้องการเงินกู้ยืม กตศ. คุณจะต้องเลือกจากรายการนี้

ขวัญ: ทำไมคะ

วิทยากรกระบวนการ: เป็นคำถามที่ดีครับ รายการนี้จะแสดงให้เห็นงานที่ดีที่สุดในเขตของเรา งานเหล่านี้เป็น “งานที่เลือก” และงานนี้เป็นที่ต้องการมาก มีงานแบบนี้มากขึ้นและมีคนมากขึ้นที่ได้รับการว่าจ้าง

รังสรรค์: ดูมีประโยชน์จริงๆ ครับ ใครทำรายการนี้ครับ

วิทยากรกระบวนการ: ผู้จัดการหน่วยบริการการพึ่งพาตนเองในท้องที่ของเรา และอาสาสมัครบางคนทำการค้นคว้าตลาดจ้างงานของเรา ดูที่แนวโน้มของงาน และไปคุยกับนายจ้างหลายคนในท้องที่จริง พวกเขาหาสถานศึกษาและโปรแกรมในท้องที่เพื่อช่วยให้คนได้รับทักษะที่จำเป็นสำหรับงานที่เลือก

เมขลา: ดูเหมือนว่าพวกเขาจะทำรายการโปรแกรมและค่าใช้จ่ายไว้ยาวเหยียดเลยนะคะ

คมสัน: ว้าว น่าสนใจที่สถานศึกษาบางแห่งต้องใช้เวลาเรียนมากกว่าสองปีและบางแห่งเรียนแค่ 10 เดือนเท่านั้นในโปรแกรมเดียวกัน

ขวัญ: และค่าใช้จ่ายก็ต่างกันมาก ดิฉันสงสัยว่าทำไม

วิทยากรกระบวนการ: เราจะเรียนรู้มากขึ้นเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายและมูลค่าในสัปดาห์ต่อๆ ไป แต่สิ่งที่คุณเห็นเป็นเรื่องสำคัญ ไม่ใช่สถานศึกษาทุกแห่งจะมีมูลค่าเหมือนกัน

เมขลา: นั่นสำคัญค่ะ ดิฉันอยากไปเรียนในสถานศึกษาที่จะช่วยให้ดิฉันได้งานดี แต่หลักสูตรสั้นๆ ที่มีค่าใช้จ่ายน้อยสำคัญด้วย

วิทยากรกระบวนการ: จริงครับ สถานศึกษาและโปรแกรมที่เลือกจะให้ทักษะสำหรับงานที่เลือกโดยใช้เวลาและค่าใช้จ่ายที่สมเหตุสมผล สถานศึกษาพวกนี้ควรมีอัตราการบรรจุเข้าทำงานสูงด้วย นี่เป็นเครื่องมือที่มีค่าสำหรับเรา

รังสรรค์: นี่จะช่วยไหมครับแม้ว่าผมไม่ต้องการเงินกู้ยืม กตศ.

คมสัน: ใช่ครับ ถึงอย่างไรผมก็จะเริ่มกับรายการนี้

วิทยากรกระบวนการ: เป็นความคิดที่ดีครับ และถ้าคุณไม่เลือกงาน โปรแกรม หรือสถานศึกษาในรายการ คุณควรหาคำตอบสำหรับคำถามเหล่านี้ด้วยตัวคุณเอง: งานอะไรเป็นที่ต้องการมาก โปรแกรมและสถานศึกษาอะไรดีที่สุดสำหรับงานเหล่านี้ คุณคิดว่าอย่างไรครับ

กลับไปหน้า 6

แผนการทำงานของฉันในสามนาที

เลือกบทบาทและแสดงตามบทบาทต่อไปนี้

เมขลา: โอเค นี่เป็นแผนการทำงานของดิฉันในสามนาที ส่วนแรกเป็นรายการตัวเลือกงานของดิฉัน ดิฉันไม่แน่ใจเท่าไรนักเกี่ยวกับสิ่งเหล่านี้แต่ดิฉันกำลังเรียนรู้มากมายและรู้สึกมีความหวังมากขึ้น รายการที่มีคือผู้ช่วยผู้บริหาร ครู และการจัดการโรงแรม ในส่วนถัดไป…

รังสรรค์: ส่วนถัดไปของแผนการทำงานคือคนที่ผมคุยด้วย สำหรับตัวเลือกนักแปล ผมคุยกับคนที่สำนักงานแปลและประธานสเตคของผม เขาทำงานต่างประเทศบ่อยๆ สำหรับผู้อำนวยการการศึกษา ผมหาได้แค่สองคนที่โรงเรียนเอกชนที่จะให้เวลาคุยกับผม และสำหรับตัวเลือกธุรกิจเบเกอรี่ ผมคุยกับเจ้าของร้านเบเกอรี่สี่คน รวมถึงป้าอร ป้าของผม เพราะผมมีพื้นฐานทางธุรกิจมาก่อน นี่มีความเป็นไปได้จริงๆ

มีคำถามหรือคำติชมสำหรับผมไหมครับ?

เมขลา: จากทางเลือกเหล่านี้งานอะไรที่จะทำให้คุณรับใช้การเรียกศาสนจักรได้ดีขึ้น ดิฉันทราบว่านั่นสำคัญต่อคุณมาก

ขวัญ: และคุณต้องใช้อุปกรณ์มากแค่ไหนในการเริ่มต้นธุรกิจเบเกอรี่

รังสรรค์: เป็นคำถามที่ดีครับ ผมคิดว่าผมจะมีเวลามากขึ้น แต่เรื่องค่าใช้จ่าย…

คมสัน: ว้าว นี่เป็นกิจกรรมที่ยอดเยี่ยมจริงๆ ว่าไหมครับ เหมือนอยู่ในคณะเผยแผ่อีกครั้ง ผู้จัดการร้านเชื่อมโลหะคนหนึ่งบอกผมว่าเขารับการอบรมได้อย่างไร ที่ไหน และมีค่าใช้จ่ายเท่าไร และเขาบอกว่าผมควรเข้าไปเป็นช่างฝึกหัด อีกร้านเสนอตำแหน่งให้ผมเป็นช่างฝึกหัดตอนนั้นเลย แต่ไม่ได้รับค่าจ้าง ผมเลยไม่รู้ว่าจะเลือกอย่างไร และโรงเรียนตำรวจก็ดีมากเช่นเดียวกัน ผมต้องไปเรียนหนึ่งปีและจากนั้นไปฝึกงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกหนึ่งปี ก็เลยมีค่าใช้จ่ายมากขึ้น แต่เงินเดือนจะเป็นสี่เท่าของที่ผมเคยหาได้ ผมต้องเลือก…

ขวัญ: และสุดท้ายแล้ว ดิฉันต้องเลือก ดิฉันเหลือแค่สองอย่างตอนนี้ แต่เรากำลังช่วยกันคิดในครอบครัวและนั่นเป็นเรื่องที่ดี ดิฉันจะมุ่งไปที่ผู้เชี่ยวชาญด้านซอฟท์แวร์หรือนักเทคนิคการแพทย์ ทั้งสองอย่างจ่ายค่าจ้างเท่ากันแต่ผู้เชี่ยวชาญด้านซอฟท์แวร์น่าจะดีกว่าสำหรับครอบครัวดิฉัน ดิฉันจะยังคงช่วยสามีดิฉันได้ และใช้เวลาเรียนน้อยกว่าตั้งสามเดือน…

คมสัน: โอเค หมดเวลาแล้ว เรากำลังก้าวหน้าขึ้น

กลับไปหน้า 10

ปฏิบัติการและคำมั่นสัญญา

เลือกบทบาทและแสดงตามบทบาทต่อไปนี้

สมาชิกกลุ่มคนที่ 1: เราเชื่อในการทำและรักษาคำมั่นสัญญา ในกลุ่มการพึ่งพาตนเองของเรา ทุกสิ่งที่เราทำมาจากการให้คำมั่นสัญญาและการรายงาน

สมาชิกกลุ่มคนที่ 2: ในช่วงท้ายการประชุมกลุ่ม เราทบทวนการกระทำของเราในสัปดาห์นั้นและเซ็นชื่อเพื่อแสดงคำมั่นสัญญาของเรา เราเลือก “คู่ร่วมปฏิบัติ” หนึ่งคนเช่นกัน คู่ร่วมปฏิบัติเซ็นชื่อในสมุดแบบฝึกหัดของเราเพื่อแสดงว่าจะสนับสนุน และทุกวันระหว่างการประชุม เราติดต่อคู่ร่วมปฏิบัติของเราเพื่อรายงานการกระทำของเราและขอความช่วยเหลือเมื่อเราต้องการ

สมาชิกกลุ่มคนที่ 3: ระหว่างการประชุม เราทำเครื่องหมายความก้าวหน้าของเราในสมุดแบบฝึกหัดและใช้เครื่องมือที่ให้ไว้ เช่นใบงานหรือแบบฟอร์มอื่นๆ และถ้าเราต้องการความช่วยเหลือเพิ่มเติม เราสามารถโทรหาครอบครัวของเรา เพื่อนของเรา หรือวิทยากรกระบวนการ

สมาชิกกลุ่มคนที่ 4: ในช่วงเริ่มต้นการประชุมครั้งต่อไปของเรา เรากลับไปและรายงานคำมั่นสัญญาของเรา นี่ควรเป็นประสบการณ์ที่มีพลังและสบายใจสำหรับทุกคน เมื่อสมาชิกกลุ่มแต่ละคนรายงาน ให้นึกถึงวิธีที่เขาได้รับความช่วยเหลือโดยการให้คำมั่นสัญญาและรายงานความก้าวหน้า

สมาชิกกลุ่มคนที่ 1: ครั้งแรกที่ฉันรายงานคำมั่นสัญญาของฉัน ฉันคิดว่า “แปลกดี” ทำไมสมาชิกกลุ่มของฉันจึงใส่ใจสิ่งที่ฉันทำ แต่จากนั้นฉันพบว่าเขาใส่ใจจริงๆ และนั่นช่วยฉัน

สมาชิกกลุ่มคนที่ 2: ฉันตระหนักว่าฉันไม่ต้องการทำให้กลุ่มของฉันผิดหวัง ฉันจึงทำงานหนักเพื่อรักษาคำมั่นสัญญาของฉัน ฉันไม่แน่ใจว่าฉันจะก้าวหน้าต่อไปตามปกติโดยวิธีอื่น การรายงานในแต่ละการประชุมช่วยฉันจัดลำดับความสำคัญของฉัน

สมาชิกกลุ่มคนที่ 3: เมื่อฉันนึกถึงหนทางที่จะนำฉันไปสู่การพึ่งพาตนเอง ฉันกลัวเพราะว่านั่นช่างเป็นเรื่องใหญ่ แต่การประชุมกลุ่มช่วยฉันแจกแจงเป็นขั้นตอนเล็กๆ และฉันรายงานแต่ละขั้นตอนของฉันต่อกลุ่ม ฉันจึงก้าวหน้าขึ้นจริงๆ ฉันคิดว่าความสำเร็จนี้เป็นผลมาจากการสร้างนิสัยใหม่

กลับไปหน้า 17

แผนการทำงานของฉัน: งานอะไรที่จะช่วยให้ฉันพึ่งพาตนเองได้

เขียนงานสามประเภทที่ท่านจะพิจารณา

มีใครบ้างที่ทราบเกี่ยวกับงานประเภทนี้

เขียนรายชื่อ 3–5 คนที่ท่านจะพูดคุยด้วยเกี่ยวกับงานแต่ละอย่าง

ฉันจะถามอะไรคนเหล่านี้

ฉันจะคาดหวังรายได้เดือนละเท่าไรเมื่อฉันเริ่มต้น ฉันจะคาดหวังรายได้เดือนละเท่าไรหลังจากทำงานไปหนึ่งปี

ฉันจะมีคุณสมบัติเหมาะสมกับงานแต่ละประเภทได้อย่างไร

มีสถานศึกษาในท้องที่หรือไม่

มีความต้องการเพิ่มขึ้นในงานประเภทนี้หรือไม่

มีค่าใช้จ่ายอะไรบ้างเมื่อเริ่มงาน

มีคำถามอื่นๆ หรือไม่

งานใดที่ดูเหมือนจะมีรายได้ดีที่สุดและตรงกับจุดแข็งและทักษะของเรา

ฉันเรียนรู้อะไรเกี่ยวกับทางเลือกเหล่านี้ งานอะไรที่ดูเหมือนจะดีที่สุดสำหรับฉัน

พิมพ์