การสอนพระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์ (ตอน 2)

คำนำ

พระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์ได้แก่ หลักคำสอน หลักธรรม กฎ พันธสัญญา และศาสนพิธีนิรันดร์ที่มนุษย์จำเป็นต้องได้รับเพื่อกลับเข้าไปในที่ประทับของพระผู้เป็นเจ้าและรับความสูงส่งในอาณาจักรซีเลสเชียล หลักธรรมและศาสนพิธีเบื้องต้นของพระกิตติคุณคือศรัทธาในพระเจ้า พระเยซูคริสต์ การกลับใจ บัพติศมาโดยลงไปในน้ำทั้งตัว และของประทานแห่งพระวิญญาณบริสุทธิ์ ผู้สอนศาสนามีหน้าที่สำคัญของการเชื้อเชิญให้ผู้อื่นรับบัพติศมาและรับของประทานแห่งพระวิญญาณบริสุทธิ์ นอกจากนี้ เมื่อบุตรธิดาของพระผู้เป็นเจ้าเป็นสมาชิกศาสนจักร พวกเขาต้องอดทนจนกว่าชีวิตจะหาไม่โดยยอมรับหลักธรรมและศาสนพิธีอื่นๆ และยังคงซื่อตรงต่อพระบัญญัติของพระผู้เป็นเจ้า ผู้มุ่งหวังจะเป็นผู้สอนศาสนาควรมีความเข้าใจชัดเจนในหลักคำสอนเหล่านี้และพร้อมจะอธิบายอย่างเรียบง่ายและเป็นพยานด้วยพลัง

การเตรียมล่วงหน้า

ศึกษา มัทธิว 3:13–17; ยอห์น 3:3–6; 2 นีไฟ 31:17–20; และ หลักคำสอนและพันธสัญญา 20:37
ศึกษา สั่งสอนกิตติคุณของเรา หน้า 63–66
เตรียมให้ดูภาพพระเยซูทรงรับบัพติศมา
เตรียมฉายวีดิทัศน์เรื่อง “การเชื้อเชิญให้รับบัพติศมา: เจอร์มัน” (2:43) ดิสตริกท์ 2 มีอยู่ที่ LDS.org

ข้อเสนอแนะสำหรับการสอน

บัพติศมา พันธสัญญาครั้งแรกของเรา

เพื่อเตรียมนักเรียนให้พร้อมค้นพบหลักธรรมเกี่ยวกับบัพติศมา ให้ดูภาพยอห์นกำลังถวายบัพติศมาพระเยซู และเชื้อเชิญให้นักเรียนสรุปสิ่งที่พวกเขารู้เกี่ยวกับบัพติศมาของพระเยซูคริสต์

ยอห์นถวายบัพติศมาพระเยซู

ท่านอาจจะเลือกทบทวนเรื่องการบัพติศมาของพระผู้ช่วยให้รอดโดยให้นักเรียนคนหนึ่งอ่านออกเสียง มัทธิว 3:13-17 จากนั้นให้นักเรียนหันไปหาคนนั่งข้างๆ และตอบคำถามนี้

เรื่องการบัพติศมาของพระเยซูสอนความจริงสำคัญๆ อะไรบ้าง

เขียนคำต่อไปนี้ไว้บนกระดาน

ศาสนพิธี พันธสัญญา

ขอให้นักเรียนครึ่งชั้นศึกษาสี่ย่อหน้าแรกในหัวข้อ “บัพติศมา พันธสัญญาแรกของเรา” ในหน้า 63 ของ สั่งสอนกิตติคุณของเรา โดยมองหาวิธีอธิบายคำว่า ศาสนพิธี ให้อีกครึ่งชั้นศึกษาหัวข้อเดียวกันโดยมองหาวิธีอธิบายคำว่า พันธสัญญา

เมื่อนักเรียนมีเวลาศึกษามากพอแล้ว ขอให้อาสาสมัครนิยามคำว่า ศาสนพิธี และ พันธสัญญา จากนั้นให้ถามว่า

คำว่า ศาสนพิธี และ พันธสัญญา เกี่ยวข้องกับบัพติศมาอย่างไร (ช่วยให้นักเรียนค้นพบความจริงนี้: โดยผ่านศาสนพิธีแห่งบัพติศมา เราทำพันธสัญญาศักดิ์สิทธิ์กับพระผู้เป็นเจ้า)

ดึงความสนใจของนักเรียนมาที่ย่อหน้าสี่ของหัวข้อ “บัพติศมา พันธสัญญาครั้งแรกของเรา” แล้วถามว่า

เมื่อเราได้รับศาสนพิธีแห่งบัพติศมา เราทำพันธสัญญาว่าจะทำอะไร (เมื่อเรารับบัพติศมา เราทำพันธสัญญาศักดิ์สิทธิ์ว่าจะรับพระนามของพระเยซูคริสต์ไว้กับตัวเรา ระลึกถึงพระองค์ตลอดเวลา และรักษาพระบัญญัติของพระองค์ ถ้าท่านรู้สึกว่านักเรียนต้องการคำแนะนำเพิ่มเติมเกี่ยวกับแนวคิดนี้ ท่านอาจใช้เวลาสองสามนาทีสำรวจ หลักคำสอนและพันธสัญญา 20:37กับพวกเขา)

ท่านสามารถช่วยให้นักเรียนเข้าใจพันธสัญญาบัพติศมาของพวกเขาได้ดีขึ้นโดยให้ดูข้อความอ้างอิงต่อไปนี้ของเอ็ลเดอร์โรเบิร์ต ดี. เฮลส์แห่งโควรัมอัครสาวกสิบสองและขอให้นักเรียนคนหนึ่งอ่านออกเสียง

“ที่บัพติศมาเราทำพันธสัญญากับพระบิดาบนสวรรค์ของเราว่าเราเต็มใจเข้าในอาณาจักรของพระองค์และรักษาพระบัญญัติของพระองค์นับจากเวลานั้นเป็นต้นไป ทั้งที่เรายังอยู่ในโลก เราได้รับการเตือนจากพระคัมภีร์มอรมอนว่าบัพติศมาของเราคือพันธสัญญาว่าจะ ‘ยืนเป็นพยานเกี่ยวกับพระผู้เป็นเจ้า [และอาณาจักรของพระองค์] ทุกเวลาและในทุกสิ่ง, และในทุกแห่ง ที่ท่านอยู่, แม้จนถึงความตาย, เพื่อท่านจะได้รับการไถ่จากพระผู้เป็นเจ้า, และนับอยู่กับบรรดาคนของการฟื้นคืนชีวิตครั้งแรก, เพื่อท่านจะมีชีวิตนิรันดร์’ [โมไซยาห์ 18:9; เน้นตัวเอน]

“เมื่อเราเข้าใจพันธสัญญาบัพติศมาและของประทานแห่งพระวิญญาณบริสุทธิ์ สิ่งนี้จะเปลี่ยนชีวิตเราและทำให้ความจงรักภักดีทั้งหมดของเราอยู่ที่อาณาจักรของพระผู้เป็นเจ้า เมื่อการล่อลวงเข้ามาในทางของเรา หากเราจะฟัง พระวิญญาณบริสุทธิ์จะทรงเตือนเราว่าเราได้สัญญาว่าจะระลึกถึงพระผู้ช่วยให้รอดและเชื่อฟังพระบัญญัติของพระผู้เป็นเจ้า” (“พันธสัญญาแห่งบัพติศมา: อยู่ในอาณาจักรและเป็นของอาณาจักร,” เลียโฮนา, ม.ค. 2001, 7)

ท่านคิดว่า “ทำให้ความจงรักภักดีทั้งหมดของเราอยู่ที่อาณาจักรของพระผู้เป็นเจ้า” หมายความว่าอย่างไร
บัพติศมาจะเปลี่ยนชีวิตบุคคลนั้นในด้านใดบ้าง

เชื้อเชิญให้นักเรียนอ่านย่อหน้าที่เหลือเกี่ยวกับบัพติศมาใน หน้า 64 ของ สั่งสอนกิตติคุณของเรา ขอให้พวกเขาหาและทำเครื่องหมายหลักคำสอนเรื่องบัพติศมาในแง่อื่นๆ อีกที่สำคัญจนต้องแบ่งปันกับผู้สนใจ ให้เวลาพวกเขาทำกิจกรรมนี้สักครู่ แล้วขอให้นักเรียนสองสามคนแบ่งปันสิ่งที่พบ ขณะที่นักเรียนตอบ ท่านอาจจะถามคำถามตามมาดังนี้

เหตุใดจึงสำคัญที่ผู้สนใจต้องเข้าใจหลักคำสอนเหล่านี้
อะไรคือความสัมพันธ์ระหว่างพันธสัญญาแห่งบัพติศมากับหลักธรรมเรื่องศรัทธาในพระเยซูคริสต์และการกลับใจ ซึ่งเราสนทนาในชั้นเรียนครั้งที่แล้ว
เหตุใดการลงไปในน้ำทั้งตัวจึงเป็นส่วนสำคัญของศาสนพิธีแห่งบัพติศมา (นั่นเป็นสัญลักษณ์ของการสิ้นพระชนม์ การฝัง และการฟื้นคืนพระชนม์ของพระเยซูคริสต์ อีกทั้งเป็นสัญลักษณ์ของการสิ้นสุดชีวิตเก่าและการเกิดใหม่ในฐานะสานุศิษย์ของพระคริสต์ [ดู โรม 6:3-6]

อธิบายว่าสำคัญที่ผู้สนใจจะเตรียมรับบัพติศมาอย่างถูกต้องเหมาะสม ขอให้นักเรียนคนหนึ่งอ่านออกเสียง หลักคำสอนและพันธสัญญา 20:37 จากนั้นให้นักเรียนหันไปหาสมาชิกชั้นเรียนอีกคนและสนทนาดังนี้

ข้อนี้จะช่วยให้ท่านทราบอย่างไรว่าผู้สนใจพร้อมรับบัพติศมาเมื่อใด (หากนักเรียนตอบคำถามข้อนี้ได้ยาก ให้พวกเขาดูกรอบ “ก่อนบัพติศมา” หน้า 64 ของ สั่งสอนกิตติคุณของเรา)
ท่านคิดว่า “ออกมาด้วยใจที่ชอกช้ำและวิญญาณที่สำนึกผิด” หมายความว่าอย่างไร
บุคคลแสดงให้ประจักษ์ได้อย่างไรว่าพวกเขา “ได้รับส่วนหนึ่งของพระวิญญาณของพระคริสต์” จริงๆ

กิจกรรมการเขียน การเขียนสามารถเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการช่วยให้นักเรียนใคร่ครวญและไตร่ตรองหลักคำสอนตลอดจนหลักธรรมที่สอนในชั้นเรียน งานมอบหมายให้เขียนควรอธิบายชัดเจน และให้เวลานักเรียนมากพอจะเขียนให้เสร็จ เมื่อทำกิจกรรมเสร็จแล้ว อาจให้เวลานักเรียนสองสามคนบอกคำตอบของตนกับนักเรียนที่เหลือ

ให้เวลานักเรียนเขียนในสมุดบันทึกการศึกษาของพวกเขาสักครู่เกี่ยวกับด้านต่างๆ ที่การรักษาพันธสัญญาบัพติศมาได้นำพรมาสู่ชีวิตพวกเขา หลังจากให้เวลาพอสมควรแล้ว ขอให้นักเรียนสองสามคนแบ่งปันสิ่งที่พวกเขาเขียนกับนักเรียนที่เหลือ

ฉายวีดิทัศน์เรื่อง “การเชื้อเชิญให้รับบัพติศมา: เจอร์มัน” (2:43) ขณะที่นักเรียนดูวีดิทัศน์ ขอให้พวกเขาดูว่าผู้สอนศาสนาสอนเจอร์มันอย่างไรเกี่ยวกับความสำคัญของบัพติศมา

ผู้สอนศาสนาพูดอะไรเพื่อช่วยให้เจอร์มันเข้าใจความสำคัญของบัพติศมา
มีหลักฐานอะไรยืนยันว่าเจอร์มันสัมผัสพระวิญญาณบริสุทธิ์และมีความปรารถนาจะรับบัพติศมา

แบ่งชั้นเรียนออกเป็นคู่ และเชื้อเชิญให้แต่ละคู่ใช้เนื้อหาใน หน้า 63-64 ของ สั่งสอนกิตติคุณของเรา และพระคัมภีร์หนึ่งหรือสองข้อจากกรอบ ศึกษาพระคัมภีร์ ในหน้า 65 เพื่อเตรียมบทเรียนสี่ถึงห้านาทีที่เน้นเรื่องการแนะนำผู้สนใจเรื่องบัพติศมา นักเรียนอาจจะใช้เนื้อหาในหน้า 8 ของจุลสารผู้สอนศาสนา พระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์ด้วยก็ได้

หลังจากให้เวลานักเรียนเตรียมพอสมครแล้ว ให้จัดชั้นเรียนเป็นกลุ่มเล็กๆ กลุ่มละสี่คน แต่ละกลุ่มมีสองคู่ ขอให้คู่หนึ่งในแต่ละกลุ่มสอนอีกคู่หนึ่งเรื่องบัพติศมานานสี่ถึงห้านาที กระตุ้นนักเรียนที่แสดงเป็นผู้สอนศาสนาให้เปิดข้อพระคัมภีร์ที่เลือกไว้และอ่านออกเสียงอันเป็นส่วนหนึ่งของการสอน เมื่อนักเรียนสอนเสร็จแล้ว ให้กลุ่มเล็กสนทนากันดังนี้ พวกเขาทำอะไรได้ดี บทเรียนช่วยให้คนที่รับการสอนเข้าใจความสำคัญของบัพติศมาอย่างไร ครูจะเปลี่ยนอะไรได้บ้างเพื่อทำให้การสอนของพวกเขามีประสิทธิภาพมากขึ้น

จากนั้นให้สลับบทบาทและให้คู่ที่รับการสอนเป็นคนสอนอีกคู่ ต้องแน่ใจว่ามีเวลาให้คู่ที่สองรับคำติชมด้วย ระหว่างกิจกรรมนี้ ให้เดินไปรอบๆ ห้องเพื่อสังเกตการสอนของนักเรียน กล่าวชม และให้ข้อเสนอแนะว่าพวกเขาจะปรับปรุงอย่างไร

เมื่อนักเรียนมีโอกาสสอนครบทุกคนแล้ว ให้ใช้เวลาสองสามนาทีสนทนาประสบการณ์ด้วยกันในชั้น เพื่อช่วยนักเรียนประยุกต์ใช้สิ่งที่พวกเขาเรียนรู้ ให้ถามคำถามดังนี้

ท่านเรียนรู้เรื่องใดบ้างจากการสอนหลักคำสอนนี้
เหตุใดจึงสำคัญที่ท่านต้องเตรียมให้พร้อมเสียแต่ตอนนี้เพื่อสอนหลักธรรม ความจริง และหลักคำสอนเหล่านี้แก่ผู้อื่น
ท่านจะทำสิ่งใดได้บ้างตอนนี้เพื่อพร้อมสอนพระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์ในงานเผยแผ่ของท่านมากขึ้น

ของประทานแห่งพระวิญญาณบริสุทธิ์

เพื่อให้นักเรียนพร้อมเรียนบทเรียนส่วนนี้ ถามพวกเขาว่าต้องประกอบศาสนพิธีอะไรหลังจากบุคคลนั้นรับบัพติศมาได้ไม่นาน ( การยืนยันซึ่งจะทำให้เขาเป็นสมาชิกศาสนจักรและได้รับของประทานแห่งพระวิญญาณบริสุทธิ์) ขอให้นักเรียนใช้เวลาสามสิบวินาทีไตร่ตรองว่าเหตุใดผู้คนจึงได้รับการยืนยันหลังจากรับบัพติศมาได้ไม่นาน ก่อนนักเรียนตอบ ให้อ่านข้อความอ้างอิงต่อไปนี้ของศาสดาพยากรณ์โจเซฟ สมิธ

“ท่านให้บัพติศมาถุงทรายยังดีกว่าให้บัพติศมามนุษย์หากไม่ได้ทำเพื่อการปลดบาปและการรับพระวิญญาณบริสุทธิ์ บัพติศมาด้วยน้ำเป็นบัพติศมาเพียงครึ่งเดียว และไม่เกิดประโยชน์อันใดหากปราศจากอีกครึ่งที่เหลือ ซึ่งก็คือการบัพติศมาของพระวิญญาณบริสุทธิ์” (คำสอนของประธานศาสนาจักร: โจเซฟ สมิธ [2007], 95)

ถามว่า

เหตุใดจึงถือว่าบัพติศมาเป็น “บัพติศมาเพียงครึ่งเดียว” ถ้าไม่ได้ทำเพื่อการปลดบาปและการได้รับพระวิญญาณบริสุทธิ์ (หลังจากหลายคนตอบแล้ว ท่านอาจจะขอให้นักเรียนฟังคำตอบของคำถามนี้เพิ่มขณะดำเนินบทเรียนต่อไป)

อธิบายให้นักเรียนฟังว่าผู้นำชาวยิวชื่อนิโคเดมัสแอบมาทูลถามเยซูแห่งนาซาเร็ธตอนกลางคืน ให้นักเรียนคนหนึ่งอ่านออกเสียง ยอห์น 3:3และถามว่า

พระดำรัสของพระผู้ช่วยให้รอดใน ยอห์น 3:3 บอกนัยอะไรเกี่ยวกับสิ่งที่ต้องทำเพื่อเข้าแผ่นดินของพระเจ้า

อ่าน ยอห์น 3:4-5 ให้ชั้นเรียนฟังและถามว่า

นิโคเดมัสทูลถามอะไรที่บ่งบอกว่าเขาไม่เข้าใจคำสอนของพระผู้ช่วยให้รอดในข้อ 3
พระเยซูทรงตอบคำถามของนิโคเดมัสว่าอย่างไร (พระองค์ทรงสอนหลักคำสอนพระกิตติคุณขั้นพื้นฐานแก่นิโคเดมัสว่า เราต้องเกิดจากน้ำ และ จากพระวิญญาณจึงจะเข้าแผ่นดินของพระเจ้าได้ พระองค์ทรงสอนว่าการ “เกิดใหม่” หมายถึงการเกิดอีกครั้งทางวิญญาณ ไม่ใช่ทางร่างกาย)

เขียนบนกระดานดังนี้

เกิดใหม่

เกิดจากน้ำ

เกิดจากพระวิญญาณ

จากนั้นให้ถามว่า

การ “เกิดจากน้ำ” หมายความว่าอย่างไร (หมายถึงการรับบัพติศมาโดยลงไปในน้ำทั้งตัว)
การ “เกิดจากพระวิญญาณ” หมายความว่าอย่างไร (หมายถึงการรับของประทานแห่งพระวิญญาณบริสุทธิ์ ถ้านักเรียนตอบคำถามนี้ไม่ได้ ให้พวกเขาดูใน ยอห์น 3:5 เชิงอรรถ a [ฉบับภาษาอังกฤษ])
ท่านคิดว่าเหตุใดจึงใช้คำว่า “เกิด” เพื่ออธิบายสิ่งที่จำเป็นต้องเกิดกับเราทางวิญญาณ การเกิดทางกายด้านใดเทียบได้กับการเกิดอีกครั้งทางวิญญาณ (หากจำเป็น ท่านอาจจะอ่าน โมเสส 6:58-59 เพื่อช่วยตอบคำถามนี้)

ขอให้นักเรียนหลายๆ คนผลัดกันอ่านออกเสียงย่อหน้าในหัวข้อ “ของประทานแห่งพระวิญญาณบริสุทธิ์” ในหน้า 65 ของ สั่งสอนกิตติคุณของเรา ให้นักเรียนที่เหลือดูตามโดยมองหาพรที่มากับของประทานแห่งพระวิญญาณบริสุทธิ์

ถามนักเรียนว่า

พรที่มากับของประทานแห่งพระวิญญาณบริสุทธิ์มีอะไรบ้าง (หลักคำสอนประการหนึ่งที่นักเรียนควรค้นพบคือ: ของประทานแห่งพระวิญญาณบริสุทธิ์สามารถนำผลการชำระให้บริสุทธิ์และสะอาดมาให้คนที่ได้รับ)

เพื่อช่วยให้นักเรียนเข้าใจหลักคำสอนนี้ดีขึ้น ขอให้พวกเขาศึกษาพระคัมภีร์หนึ่งหรือสองข้อใต้หัวข้อ “พรและอิทธิพลของพระวิญญาณบริสุทธิ์” ในกรอบศึกษาพระคัมภีร์หน้า 66 ของ สั่งสอนกิตติคุณของเรา ขณะที่พวกเขาศึกษา เชื้อเชิญให้พวกเขาใช้ปากกาเน้นข้อความซึ่งระบุพรบางประการที่มาจากการได้รับของประทานแห่งพระวิญญาณบริสุทธิ์ในพระคัมภีร์ของพวกเขา จากนั้นให้ถามว่า

เหตุใดจึงสำคัญที่บุคคลต้องได้รับพระวิญญาณบริสุทธิ์หลังจากรับบัพติศมา

ถามคำถามต่อไปนี้แต่ให้เวลานักเรียนไตร่ตรองคำตอบของพวกเขาในใจสักครู่ก่อนตอบ เมื่อพวกเขามีเวลาไตร่ตรองพอสมควรแล้ว ให้เชิญนักเรียนหลายๆ คนตอบและแบ่งปันประสบการณ์กับชั้นเรียน

เราได้รับพรอะไรบ้างผ่านของประทานแห่งพระวิญญาณบริสุทธิ์

แบ่งชั้นเรียนออกเป็นคู่ ขอให้นักเรียนใช้ข้อมูลจาก สั่งสอนกิตติคุณของเรา (หรือหัวข้อ “เพราะเหตุใดฉันจึงต้องรับพระวิญญาณบริสุทธิ์” ในหน้า 8-10 ของจุลสารผู้สอนศาสนา พระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์) และเตรียมบทเรียนสี่ถึงห้านาทีเกี่ยวกับของประทานแห่งพระวิญญาณบริสุทธิ์ เตือนให้พวกเขารวมพระคัมภีร์หนึ่งหรือสองข้อจากกรอบ ศึกษาพระคัมภีร์ ที่อยู่บนสุดของหน้า 66 ของ สั่งสอนกิตติคุณของเราไว้ในบทเรียนด้วย

หลังจากให้เวลาเตรียมพอสมควรแล้ว ให้จัดนักเรียนเป็นกลุ่มเล็กๆ กลุ่มละสี่คน แต่ละกลุ่มมีสองคู่ ให้นักเรียนคู่หนึ่งสอนอีกคู่หนึ่ง ขณะที่นักเรียนสอน ให้เดินไปรอบๆ ห้องเพื่อสังเกต กล่าวชม และให้ข้อเสนอแนะว่าจะปรับปรุงได้อย่างไร เมื่อนักเรียนสอนเสร็จแล้ว ให้กลุ่มเล็กสนทนากันดังนี้ คนสอนทำอะไรได้ดี คนสอนจะทำอะไรต่างจากเดิมได้บ้างเพื่อทำให้การสอนของพวกเขามีประสิทธิภาพมากขึ้น บทเรียนนี้ช่วยคนที่รับการสอนให้เข้าใจของประทานแห่งพระวิญญาณบริสุทธิ์อย่างไร

จากนั้นให้คู่ในแต่ละกลุ่มสลับบทบาท โดยให้คู่ที่รับการสอนได้สอนอีกคู่ ต้องแน่ใจว่ามีเวลาให้คู่ที่สองรับคำติชมด้วย

เมื่อนักเรียนแต่ละคู่มีโอกาสสอนแล้ว ให้ใช้เวลาสองสามนาทีประเมินประสบการณ์โดยถามคำถามดังนี้

ท่านเรียนรู้เรื่องใดบ้างจากการสอนหลักคำสอนนี้
จากประสบการณ์นี้ ท่านจะทำสิ่งใดได้บ้างเพื่อปรับปรุงการสอนของท่านเมื่อเป็นผู้สอนศาสนา

อดทนจนกว่าชีวิตจะหาไม่

วาดรูปประตูที่มีทางเดินอยู่ด้านหลังไว้บนกระดาน

ขอให้นักเรียนคนหนึ่งอ่านออกเสียง 2 นีไฟ 31:17 จากนั้นให้ถามนักเรียนว่า

นีไฟบอกว่าอะไรคือประตูที่นำไปสู่ชีวิตนิรันดร์ของเรา

ขอให้นักเรียนอีกคนหนึ่งอ่านออกเสียง 2 นีไฟ 31:18-20 ขณะชั้นเรียนดูตามโดยมองหาสิ่งที่เราต้องทำหลังจากเรารับบัพติศมา

นีไฟกล่าวว่าอะไรอยู่เลยประตูออกไป (ทางคับแคบและแคบที่นำไปสู่ชีวิตนิรันดร์)
ตามที่นีไฟกล่าว บุคคลต้องทำอะไรหลังจากรับบัพติศมาจึงจะได้รับชีวิตนิรันดร์
การอดทนจนกว่าชีวิตจะหาไม่เกี่ยวข้องอย่างไรกับการทำตามแบบอย่างของพระผู้ช่วยให้รอด

ขอให้นักเรียนอ่านหัวข้อเรื่อง “อดทนจนกว่าชีวิตจะหาไม่” ในหน้า 66 ของ สั่งสอนกิตติคุณของเรา กระตุ้นให้พวกเขามองหาสิ่งที่เราทำได้เพื่ออดทนจนกว่าชีวิตจะหาไม่ จากนั้นให้ถามว่า

เหตุใดจึงสำคัญที่เราต้องอดทนจนกว่าชีวิตจะหาไม่ (นักเรียนควรค้นพบหลักธรรมนี้: เมื่อเราพยายามตั้งใจอดทนจนกว่าชีวิตจะหาไม่ เราจะมีคุณสมบัติคู่ควรรับชีวิตนิรันดร์)
การทำตามแบบอย่างของพระผู้ช่วยให้รอดจะช่วยให้ท่านอดทนจนกว่าชีวิตจะหาไม่อย่างไร

สรุปโดยแบ่งปันประจักษ์พยานของท่านเองเกี่ยวกับความสำคัญของพระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์ โดยเฉพาะเรื่องบัพติศมา ของประทานแห่งพระวิญญาณบริสุทธิ์ และการอดทนจนกว่าชีวิตจะหาไม่

การเชื้อเชิญให้ปฏิบัติ

ท่านอาจจะเชื้อเชิญให้นักเรียนทำความเข้าใจเรื่องพระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์ให้ลึกซึ้งขึ้นโดยทำกิจกรรมต่อไปนี้หนึ่งอย่างหรือมากกว่านั้นในระหว่างสัปดาห์ที่จะมาถึง

ฝึกอธิบายข้อกำหนดสำหรับบัพติศมาตามที่พบใน หลักคำสอนและพันธสัญญา 20:37 เขียนสองประโยคในสมุดบันทึกการศึกษาของท่านที่บอกว่าท่านกำลังทำอะไรเวลานี้เพื่อดำเนินชีวิตตามพันธสัญญาบัพติศมาดังสรุปไว้ในข้อนี้
อ่านข้อพระคัมภีร์เกี่ยวกับของประทานแห่งพระวิญญาณบริสุทธิ์ตามที่พบในกรอบ ศึกษาพระคัมภีร์ หน้า 66 ของ สั่งสอนกิตติคุณของเรา อ่านข้อมูล “พระวิญญาณบริสุทธิ์” ในคู่มือพระคัมภีร์ด้วย ทำเครื่องหมายข้อที่ท่านต้องการใช้เมื่อกำลังสอนคนบางคนเรื่องของประทานแห่งพระวิญญาณบริสุทธิ์ในพระคัมภีร์ของท่านหรือเขียนในสมุดบันทึกการศึกษาของท่าน
สอนหลักธรรมของ “บทที่ 3: พระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์” กับสมาชิกครอบครัวหรือเพื่อน (อาจจะสอนคนที่ไม่ได้เป็นสมาชิกของศาสนจักร หรือคนที่แข็งขันน้อย) เป็นส่วนตัวหรือออนไลน์ แบ่งปันประจักษ์พยานของท่านเกี่ยวกับหลักธรรมเหล่านี้ขณะที่ท่านสอน