มัทธิว 23

พระผู้ช่วยให้รอดทรงประณามความหน้าซื่อใจคด

ในช่วงสัปดาห์สุดท้ายของการปฏิบัติศาสนกิจบนแผ่นดินโลกของพระผู้ช่วยให้รอด พระองค์ทรงประณามความหน้าซื่อใจคดของพวกธรรมาจารย์และพวกฟาริสี บทเรียนนี้จะช่วยให้ท่านหลีกเลี่ยงความหน้าซื่อใจคดและเป็นผู้ติดตามที่อ่อนน้อมถ่อมตนของพระเยซูคริสต์

เข้าใจบริบทของพระคัมภีร์ การเรียนรู้วัฒนธรรมและประเพณีในสมัยพันธสัญญาใหม่จะช่วยให้นักเรียนเข้าใจพันธสัญญาใหม่ได้ดียิ่งขึ้น การเข้าใจบริบทของพระคัมภีร์จะเตรียมนักเรียนให้พร้อมรับรู้ข่าวสารของผู้เขียนที่ได้รับการดลใจ

การเตรียมของนักเรียน: เชื้อเชิญให้นักเรียนนึกถึงผู้คนที่พยายามติดตามพระผู้ช่วยให้รอดอย่างจริงใจและด้วยเจตนาแท้จริงขณะพวกเขารับใช้ผู้อื่น

กิจกรรมการเรียนรู้ที่อาจทำได้

ถ้านักเรียนจะได้รับประโยชน์จากการเรียนรู้เกี่ยวกับการปกป้องที่พระผู้ช่วยให้รอดประทานแก่เรามากกว่าคำสอนของพระองค์เกี่ยวกับความหน้าซื่อใจคด ท่านอาจสอนกิจกรรมที่เกี่ยวกับ มัทธิว 23:37 ในหมวด “กิจกรรมการเรียนรู้เพิ่มเติม”

ความหน้าซื่อใจคดคืออะไร?

เตรียมแก้วน้ำที่ไม่โปร่งใสสามใบ ทำให้ด้านนอกของแก้วน้ำใบแรกสกปรกและด้านในของแก้วน้ำใบที่สองด้วย ปล่อยใบที่สามไว้ให้สะอาด ให้นักเรียนดูแก้วน้ำทั้งสามใบ และถามชั้นเรียนว่าแก้วน้ำใบไหนที่พวกเขาอยากจะใช้ดื่ม เชื้อเชิญให้นักเรียนคนหนึ่งสำรวจด้านในของแก้วน้ำและอธิบายว่าแก้วน้ำใบไหนที่เขาอยากใช้ดื่มและเพราะเหตุใด

• แก้วน้ำที่สกปรกหมายถึงคนหน้าซื่อใจคดในด้านใดบ้าง?

ขณะนักเรียนสนทนาเรื่องความหน้าซื่อใจคด พวกเขาควรมองเข้าไปข้างในและมุ่งเน้นที่ตนเอง หลีกเลี่ยงการให้นักเรียนชี้ให้เห็นความหน้าซื่อใจคดในตัวผู้อื่น

คำว่า หน้าซื่อใจคด แปลจากคำในภาษากรีกที่หมายถึง “นักแสดง” และหมายถึงคนที่เสแสร้ง ขยายเกินความจริงส่วนใดส่วนหนึ่ง หรือเป็นคนหลอกลวง ไม่เสมอต้นเสมอปลายในการกระทำของตน คำนี้ “โดยปกติหมายถึงคนที่เสแสร้งเป็นคนเคร่งศาสนาทั้งที่ไม่ใช่” (Bible Dictionary, “ Hypocrite ”) อาจหมายถึงคนที่เสแสร้งเป็นคนไม่เคร่งศาสนาทั้งๆ ที่เคร่งด้วย)

เมื่อท่านศึกษา มัทธิว 23 ให้มองหาความจริงที่จะช่วยท่านหลีกเลี่ยงความหน้าซื่อใจคดและเป็นเหมือนพระเยซูคริสต์มากขึ้น

ในส่วนหนึ่งของข่าวสารสุดท้ายต่อสาธารณชนของพระผู้ช่วยให้รอดระหว่างการปฏิบัติศาสนกิจขณะทรงเป็นมรรตัย พระองค์ทรงประณามความหน้าซื่อใจคดของพวกธรรมาจารย์และพวกฟาริสี พระองค์ทรงชี้ให้เห็นว่าพวกธรรมาจารย์และพวกฟาริสี “นั่งบนที่นั่งของโมเสส” ( มัทธิว 23:2) ซึ่งหมายความว่าพวกเขามีตำแหน่งที่มีอำนาจในการสอนหลักคำสอนและตีความ รวมทั้งบริหารกฎหมาย พวกเขามองว่าตนเองมีค่าควรมากกว่าใครทั้งหมดในธรรมศาลา

อ่าน มัทธิว 23:3–7 มองหาว่าพระผู้ช่วยให้รอดตรัสเกี่ยวกับพวกธรรมาจารย์และพวกฟาริสีว่าหน้าซื่อใจคดอย่างไร ก่อนที่ท่านจะอ่าน อาจเป็นประโยชน์ที่จะรู้ว่า “กลักพระธรรม” ( ข้อ 5) เป็นกล่องหนังขนาดเล็กที่ชาวยิวรัดไว้กับหน้าผากและแขนซ้าย ในกลักพระธรรมมีม้วนหนังเล็กๆ ที่มีข้อความพระคัมภีร์เฉพาะเจาะจงจากพันธสัญญาเดิม ชาวยิวใส่กลักพระธรรมเพื่อช่วยให้จดจำที่จะทำตามพระบัญญัติของพระผู้เป็นเจ้า

.

• ตามที่กล่าวไว้ใน ข้อ 5 เหตุใดพวกธรรมาจารย์และพวกฟาริสีจึงขยายกลักพระธรรมและ “เสื้อที่มีพู่ห้อยยาว” ของตนให้ใหญ่ขึ้น?

พระเจ้าไม่ทรงประณามผู้ที่ใส่กลักพระธรรม แต่พระองค์ทรงประณามผู้ที่ใช้กลักพระธรรมอย่างหน้าซื่อใจคดหรือขยายกลักให้ใหญ่ขึ้นเพื่อให้คนอื่นสังเกตเห็นหรือเพื่อให้ตนเองดูสำคัญมากขึ้น

• มีอันตรายใดบ้างจากการนมัสการพระผู้เป็นเจ้าด้วยการกระทำภายนอกเพราะท่านต้องการให้ผู้อื่นสังเกตเห็น?

• เหตุใดท่านจึงคิดว่าพระผู้เป็นเจ้าทรงต้องการให้ท่านนมัสการพระองค์ด้วยความจริงใจและด้วยเจตนาอันชอบธรรม?

นอกเหนือจากการเตือนผู้คนไม่ให้ทำตามพฤติกรรมของพวกธรรมาจารย์และพวกฟาริสี พระผู้ช่วยให้รอดตรัสโดยตรงกับพวกธรรมาจารย์และพวกฟาริสีด้วย พระองค์ทรงประกาศความวิบัติหลายประการที่จะเกิดขึ้นกับพวกเขาเพราะความหน้าซื่อใจคดของพวกเขา (ดู มัทธิว 23:13–33) วิบัติ หมายถึงสภาพความเศร้าหมอง ปวดร้าว และโทมนัส

อ่าน มัทธิว 23:23–28 โดยมองหาสิ่งที่พระผู้ช่วยให้รอดตรัสกับพวกธรรมาจารย์และพวกฟาริสี

• ข้อเหล่านี้ช่วยเพิ่มความเข้าใจของท่านเกี่ยวกับความหน้าซื่อใจคดอย่างไร?

ช่วยให้นักเรียนเข้าใจว่าปัญหาอย่างหนึ่งที่เกิดจากความหน้าซื่อใจคดคือสิ่งนี้ขัดขวางไม่ให้เราเป็นเหมือนพระบิดาบนสวรรค์และพระเยซูคริสต์อย่างแท้จริง เมื่อเราหน้าซื่อใจคด เราให้ความสำคัญกับภาพลักษณ์ของเราในสายตาผู้อื่นมากกว่าการคำนึงว่าเรากำลังจะเป็นใคร

• ท่านจะกล่าวอะไรกับคนที่กังวลเกี่ยวกับการเป็นคนหน้าซื่อใจคดเมื่อเขาทำผิดพลาดขณะพยายามดำเนินชีวิตตามพระกิตติคุณ?

หากนักเรียนต้องการความช่วยเหลือในคำถามข้างต้นให้แบ่งปันข้อความจากเอ็ลเดอร์เจฟฟรีย์ อาร์ ฮอลแลนด์ในหมวด “บทวิจารณ์และข้อมูลภูมิหลัง”

วิธีที่เราจะหลีกเลี่ยงและเอาชนะความหน้าซื่อใจคด

ตรงข้ามกับพวกธรรมาจารย์และพวกฟาริสี พระผู้ช่วยให้รอดไม่ทรงกระทำด้วยความหน้าซื่อใจคด พระองค์ทรงสอนผู้คนไม่ให้คิดว่าตนเองดีกว่าผู้อื่น เพราะพวกเขาทุกคนเป็นบุตรธิดาของพระผู้เป็นเจ้า เท่าเทียมกันในสายพระเนตรของพระองค์ พระองค์ทรงเป็นพยานว่าพระบิดาบนสวรรค์ทรงเป็นพระผู้สร้างของเราและพระบิดาทรงส่งพระคริสต์ พระองค์ผู้ทรงเป็นพระอาจารย์ที่แท้จริงของเราซึ่งประทานชีวิต (ดู งานแปลของโจเซฟ สมิธ, มัทธิว 23:6 )

อ่าน มัทธิว 23:11–12 และมองหาคำสอนที่สามารถช่วยให้เราเอาชนะและหลีกเลี่ยงความหน้าซื่อใจคด ใน ข้อ 12 คำว่า ยกขึ้น หมายถึงยกให้สูงและ ทำให้ต่ำลง หมายถึงลดลง ดูหมิ่นเหยียดหยามหรือให้ความนับถือน้อยลง

• ท่านคิดว่าพระเยซูคริสต์ทรงสอนหลักธรรมอะไรแก่เราในข้อพระคัมภีร์เหล่านี้?

พระผู้ช่วยให้รอดทรงสอนว่า หากเราอ่อนน้อมถ่อมตนและรับใช้ผู้อื่น พระเจ้าจะทรงยกเราขึ้น พระองค์จะทรงช่วยให้เราเป็นเหมือนพระองค์มากขึ้น และด้วยการเชื่อฟังพระบัญญัติของพระองค์และการกลับใจอย่างแท้จริง พระผู้เป็นเจ้าจะประทานความสูงส่งให้เราในอาณาจักรซีเลสเชียล

• พระเยซูคริสต์ทรงเป็นแบบอย่างของความอ่อนน้อมถ่อมตน รับใช้ผู้อื่น และหลีกเลี่ยงความหน้าซื่อใจคดอย่างไร?

• ความอ่อนน้อมถ่อมตนและการรับใช้ผู้อื่นจะช่วยท่านหลีกเลี่ยงความหน้าซื่อใจคดและเป็นเหมือนพระผู้ช่วยให้รอดมากขึ้นได้อย่างไร?

ให้ดูข้อความต่อไปนี้และเชื้อเชิญให้นักเรียนใคร่ครวญว่าข้อความใดที่พวกเขารู้สึกว่าคล้ายตนเองซึ่งพวกเขาพบบ่อยที่สุด กระตุ้นให้นักเรียนแสวงหาการนำทางจากพระวิญญาณขณะที่พวกเขาใคร่ครวญ ย้ำเตือนว่าพระบิดาบนสวรรค์และพระเยซูคริสต์ทรงรักพวกเขาและทรงต้องการช่วยพวกเขาเอาชนะความหน้าซื่อใจคด นักเรียนอาจบันทึกความคิดไว้ในสมุดบันทึกการศึกษาของพวกเขา

• ฉันแกล้งเป็นคนที่ฉันไม่ได้เป็น

• ฉันทำความดีเพื่อจะได้เป็นที่สังเกตจากผู้อื่น

• ฉันมักจะคิดว่าฉันดีกว่าคนอื่น

• แม้ว่าฉันจะทำผิดพลาด แต่ฉันมุ่งมั่นอย่างจริงใจที่จะดำเนินชีวิตตามพระกิตติคุณ

• ฉันพยายามรับใช้ผู้อื่นและทำดีโดยไม่แสวงหาคำชม

• ฉันพยายามอ่อนน้อมถ่อมตนและไม่มองว่าตนเองดีกว่าผู้อื่น

แสวงหาการนำทางจากพระวิญญาณบริสุทธิ์ขณะท่านระบุเรื่องที่ท่านสามารถปรับปรุงได้ จำไว้ว่าพระบิดาบนสวรรค์และพระเยซูคริสต์ทรงรักท่านและทรงตระหนักถึงความพยายามอย่างจริงใจใดๆ ก็ตามในการดำเนินชีวิตตามพระกิตติคุณ ขณะท่านทูลขอความช่วยเหลือจากพระบิดาบนสวรรค์ พระองค์จะทรงช่วยให้ท่านเอาชนะความอ่อนแอหรือความหน้าซื่อใจคดทุกอย่าง

บทวิจารณ์และข้อมูลภูมิหลัง

พระผู้ช่วยให้รอดทรงมองพวกธรรมาจารย์และพวกฟาริสีที่หน้าซื่อใจคดอย่างไร?

ในคำปราศรัยของท่าน “เสียงเตือน” เอ็ลเดอร์ดี. ทอดด์ คริสทอฟเฟอร์สันแห่งโควรัมอัครสาวกสิบสองสอนวิธีที่พระเยซูทรงประณามความหน้าซื่อใจคดของพวกธรรมาจารย์และพวกฟาริสี ( เลียโฮนา, พ.ค. 2017, 108–111)

ฉันเป็นคนหน้าซื่อใจคดหรือไม่หากฉันทำผิดพลาดขณะพยายามดำเนินชีวิตตามพระกิตติคุณ?

เอ็ลเดอร์เจฟฟรีย์ อาร์. ฮอลแลนด์ แห่งโควรัมอัครสาวกสิบสองสอนว่า

พี่น้องทั้งหลาย เราทุกคนปรารถนาจะมีชีวิตเหมือนพระคริสต์มากกว่าที่เรามักประสบความสำเร็จในการใช้ชีวิต หากเรายอมรับสิ่งนั้นอย่างจริงใจและพยายามปรับปรุง เราไม่ใช่คนหน้าซื่อใจคด เราเป็นมนุษย์

(เจฟฟรีย์ อาร์. ฮอลแลนด์, “เพราะฉะนั้นพวกท่านจงเป็นคนดีพร้อม—ในที่สุด,” เลียโฮนา, พ.ย. 2017, 42)

กิจกรรมการเรียนรู้เพิ่มเติม

อีกวิธีหนึ่งในการเริ่มต้นบทเรียน

ช่วยนักเรียนประเมินปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในแต่ละสถานการณ์ต่อไปนี้ (ถ้าต้องการ ท่านอาจปรับเปลี่ยนสถานการณ์ให้สะท้อนถึงขนบธรรมเนียมประเพณีในท้องที่ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับนักเรียนมากกว่า)

1. ใครบางคนที่เข้าร่วมการประชุมของศาสนจักรแต่กังวลเรื่องให้ผู้อื่นเห็นมากกว่าการนมัสการพระผู้เป็นเจ้า

2. สมาชิกคนหนึ่งที่อ้างว่าสนับสนุนผู้นำศาสนจักร และจากนั้นวิพากษ์วิจารณ์การตัดสินใจของพวกเขา

3. บุคคลหนึ่งที่โพสต์เนื้อหาบนโซเชียลมีเดียกล่าวเกินจริงเกี่ยวกับคุณงามความดีของตนเอง

หลังจากนักเรียนทำการประเมินสถานการณ์เหล่านี้แล้ว อธิบายว่าความหน้าซื่อใจคดคืออะไร และดูว่านักเรียนสามารถอธิบายได้หรือไม่ว่าสถานการณ์สมมุติเหล่านี้เป็นตัวอย่างของความหน้าซื่อใจคด จากนั้นเริ่มศึกษา มัทธิว 23

.

จากนั้นนักเรียนอาจแบ่งปันสิ่งที่พวกเขาเรียนรู้เกี่ยวกับความหน้าซื่อใจคดและวิธีที่เราจะหลีกเลี่ยงได้

มัทธิว 23:37 “เหมือนแม่ไก่กกลูกอยู่ใต้ปีกของมัน”

ใน มัทธิว 23:34–39 พระผู้ช่วยให้รอดทรงเตือนผู้อยู่อาศัยในเมืองเยรูซาเล็มว่าเพราะพวกเขาปฏิเสธศาสดาพยากรณ์พวกเขาจะถูกทอดทิ้งให้ร้างเปล่า

ท่านอาจให้ดูภาพแม่ไก่ตัวหนึ่งกับลูกเจี๊ยบและถามว่า “แม่ไก่ปกป้องลูกเจี๊ยบของมันอย่างไร?”

เชื้อเชิญให้นักเรียนอ่าน มัทธิว 23:37–39 โดยมองหาว่าผู้คนในเยรูซาเล็มตอบสนองต่อความพยายามของพระเยซูในการรวบรวมพวกเขาอย่างที่แม่ไก่รวบรวมลูกเจี๊ยบของมันอย่างไร

พระเยซูประทานข่าวสารที่คล้ายกันให้แก่ผู้คนในพระคัมภีร์มอรมอน ผู้ที่ปฏิเสธศาสดาพยากรณ์ตายในความพินาศหลังจากพระองค์สิ้นพระชนม์ (ดู 3 นีไฟ 9:1–12) จากนั้นพระผู้ไถ่ทรงเชื้อเชิญผู้ที่ได้รับการไว้ชีวิต

ให้นักเรียนอ่าน 3 นีไฟ 9:13–14 ; 10:4–6 โดยมองหาพระดำรัสเชิญของพระผู้ช่วยให้รอด

ท่านอาจใช้คำถามเช่นคำถามต่อไปนี้

• ข้อเหล่านี้สอนอะไรท่านเกี่ยวกับพระผู้ช่วยให้รอด?

• พระผู้ช่วยให้รอดจะทรงรวบรวม ปกป้อง และช่วยเราให้รอดโดยวิธีใดได้บ้าง?

• ท่านคิดว่าการติดตามศาสดาพยากรณ์เป็นวิธีหนึ่งที่เราจะได้รับการปกป้องจากพระผู้ช่วยให้รอดได้อย่างไร?

• ท่านจะทำอะไรเพื่อรวบรวมกันไปสู่พระผู้ช่วยให้รอดเพื่อท่านจะได้รับการดูแลและปกป้องจากพระองค์ต่อไป?

• ข้อเหล่านี้มีผลต่อความรู้สึกของท่านเกี่ยวกับพระเยซูคริสต์อย่างไร?