ชั้นเรียนเซมินารี

การอบรมการประเมินผล

บทนำ

การประเมินผลเป็นส่วนสำคัญของการเรียนรู้ เอ็ลเดอร์เดวิด เอ. เบดนาร์แห่งโควรัมอัครสาวกสิบสอง เน้นความสำคัญของการประเมินเมื่อท่านกล่าวถึงบทบาทของการทดสอบในการเรียนรู้เชิงวิชาการ

เอ็ลเดอร์เดวิด เอ. เบดนาร์

การทดสอบเป็นระยะๆ จำเป็นแน่นอนต่อการเรียนรู้ การทดสอบที่มีประสิทธิภาพช่วยเราเปรียบเทียบสิ่งที่เราจำเป็นต้องรู้กับสิ่งที่เรารู้จริงๆ เกี่ยวกับวิชานั้นๆ อีกทั้งให้มาตรฐานซึ่งเราสามารถใช้ประเมินการเรียนรู้และการพัฒนาของเราด้วย (เดวิด เอ. เบดนาร์, “พวกเราจะพิสูจน์พวกเขาโดยวิธีนี้,” เลียโฮนา, พ.ย. 2020, 8)

การประเมินผลในเซมินารีมีจุดประสงค์คล้ายกับการสอบในการเรียนรู้ทางวิชาการ การประเมินผลสามารถช่วยให้นักเรียนแสดงถึงความรู้ทางวิญญาณ ความเข้าใจ และ การอุทิศตนต่อพระบิดาบนสวรรค์และพระเยซูคริสต์ การประเมินผลการจัดรูปแบบนี้สามารถช่วยให้นักเรียนตระหนักถึงสิ่งที่พวกเขากำลังเรียนรู้และวิธีที่พวกเขากำลังเติบโตมากขึ้น

มีมการตระหนักถึงการเรียนรู้และการเติบโต

การตระหนักถึงการเรียนรู้และการเติบโตของพวกเขาจะเป็นประสบการณ์ที่คุ้มค่าและสร้างแรงจูงใจให้กับนักเรียน สิ่งนี้คล้ายกับเมื่อนักวิ่งที่แข่งขันเห็นเวลาของเธอบนนาฬิกาจับเวลาหรือเมื่อเด็กเล็กเห็นการเติบโตของเขาบนแผนภูมิความสูง นักเรียนมักไม่ตระหนักว่าพวกเขาเติบโตอย่างไรหากไม่มีโอกาสเป็นประจำในการประเมินผลการเรียนรู้ของตน แม้แต่โอกาสที่จะเห็นว่าพวกเขาไม่มีความก้าวหน้าหรือแม้กระทั่งการเติบโตช้าลงก็อาจเป็นประสบการณ์การเรียนรู้ที่มีคุณค่าได้ การประเมินผลเป็นประจําจะเชื้อเชิญการเปิดเผยส่วนตัวเข้ามาในชีวิตพวกเขามากขึ้นและช่วยให้นักเรียนสร้างแผนสําหรับการเติบโตและการเรียนรู้ในอนาคต ตัวอย่างกิจกรรมการประเมินผลในหลักสูตรเซมินารี ได้แก่ บทเรียนประเมินผลการเรียนรู้ของท่านและแบบฝึกหัดผู้เชี่ยวชาญหลักคําสอน การอบรมนี้จะมุ่งเน้นกิจกรรมการประเมินผลที่พบในบทเรียนประเมินผลการเรียนรู้ของท่าน

บทเรียนประเมินผลการเรียนรู้ของท่าน

ในหลักสูตรเซมินารีท่านจะพบบทเรียนประเมินผลการเรียนรู้ของท่าน บทเรียนเหล่านี้มีกำหนดทุก ๆ สี่ถึงหกสัปดาห์ และเปิดโอกาสให้นักเรียนประเมินตนเองเกี่ยวกับผลการเรียนรู้ระดับหลักสูตร ผลการเรียนรู้ระดับหลักสูตรเหล่านี้ช่วยให้นักเรียน:

• อธิบายหลักคําสอน ที่พวกเขาเรียนรู้

• ใคร่ครวญถึงความรู้สึก เจตคติ และความปรารถนาของพวกเขา ที่เกี่ยวข้องกับแผนของพระบิดาบนสวรรค์และพระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์

• ทบทวนแผนหรือเป้าหมายที่พวกเขากําลังทําอยู่ เพื่อประยุกต์ใช้สิ่งที่เรียนรู้และทําให้ความเป็นสานุศิษย์ของพวกเขาต่อพระเยซูคริสต์ลึกซึ้งขึ้น

อาจเป็นประโยชน์ที่จะใช้เวลาดูบทเรียนประเมินผลการเรียนรู้ของท่านอย่างน้อยหนึ่งบทเรียนเพื่อทําความคุ้นเคยกับบทเรียนเหล่านั้น ขณะที่ท่านดูบทเรียนหนึ่งหรือสองบท ให้สังเกตว่าแต่ละบทเริ่มในลักษณะทั่วไป โดยเปิดโอกาสให้นักเรียนแบ่งปันสิ่งที่พวกเขาเรียนรู้เมื่อเร็วๆ นี้จากการศึกษาพระคัมภีร์เป็นส่วนตัว กับครอบครัว ในการประชุมของศาสนจักร หรือในเซมินารี จากนั้นดูกิจกรรมการประเมินผลแต่ละกิจกรรมในบทเรียนประเมินผลการเรียนรู้ของท่าน ให้ความสนใจเป็นพิเศษกับกิจกรรมการประเมินผลแต่ละอย่าง:

• นําหน้าด้วยหัวข้อที่ระบุผลการเรียนรู้ระดับหลักสูตร

• อ้างถึงประสบการณ์การเรียนรู้จากบทเรียนก่อนหน้านี้ในหลักสูตร

• เปิดโอกาสให้นักเรียน ทํา บางอย่างเพื่อแสดงการเรียนรู้ของพวกเขา

รู้ผลลัพธ์จากการเรียนรู้อย่างชัดเจน

สิ่งสําคัญคือต้องจําไว้ว่าการเรียนรู้ของนักเรียนสามารถเร่งได้เมื่อนักเรียนเข้าใจอย่างชัดเจนว่าผลลัพธ์ของกิจกรรมการเรียนรู้คืออะไรและได้รับโอกาสในการแสดงการเรียนรู้ของพวกเขา การเปรียบเทียบอาจช่วยอธิบายเรื่องนี้ได้ หากชายหนุ่มคนหนึ่งกําลังเรียนรู้วิธียิงคันธนูและลูกธนู เขาต้องการเป้าหมายที่ชัดเจนเพื่อเล็งรวมถึงการอบรมเกี่ยวกับวิธีใส่ลูกศร ถือคันธนู เล็ง และปล่อย ถ้าเขาไม่เคยมีโอกาสลองยิงธนู เขาจะไม่มีวันรู้ว่าเขาได้เรียนรู้หรือไม่ เมื่อเขาปล่อยลูกศรเท่านั้นจึงจะเห็นชัดเจนว่าเขายิงโดนเป้าหรือไม่ ประสบการณ์การเรียนรู้พระกิตติคุณก็เช่นกัน นักเรียนต้องการการสอนและความช่วยเหลือ แต่พวกเขาต้องการโอกาสแสดงการเรียนรู้ของตนเช่นกัน วิธีที่นักเรียนแสดงการเรียนรู้ของพวกเขาต้องเชื่อมโยงกับผลลัพธ์อย่างชัดเจน ทุกประสบการณ์การเรียนรู้ในหลักสูตรออกแบบมาโดยคํานึงถึงสิ่งนี้ อย่างไรก็ตาม สิ่งนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนยิ่งขึ้นในบทเรียนประเมินผลการเรียนรู้ของท่าน ท่านอาจแบ่งปันกับนักเรียนว่าผลการเรียนรู้ในแต่ละบทเรียนเป็นอย่างไร

ครูและเพื่อนร่วมชั้นอาจเป็นแหล่งช่วยที่จะช่วยให้นักเรียนตระหนักถึงการเรียนรู้ของตนได้ชัดเจนยิ่งขึ้น ท่านในฐานะครูสามารถให้คําติชมเกี่ยวกับความก้าวหน้าที่พวกเขาทําอยู่หรือพยายามทํา ท่านสามารถระดมความคิดหรือแบ่งปันประสบการณ์จากชีวิตของท่านเอง โปรดจำไว้ว่าไม่ควรคาดหวังว่านักเรียนจะรายงานเป้าหมายหรือแผนของตนเองให้ท่านหรือชั้นเรียนทราบ เป้าหมายและแผนบางอย่างอาจเป็นเรื่องส่วนตัวอย่างยิ่ง อย่างไรก็ตามอาจมีบางครั้งที่นักเรียนรู้สึกสบายใจที่จะแบ่งปันแผนหรือเป้าหมายของเขากับท่าน หารือกับนักเรียนเมื่อเห็นเหมาะสม อาจมีหลายครั้งที่นักเรียนควรได้การชี้แนะไปยังบิดามารดา อธิการ หรือประธานสาขา

กิจกรรมบางอย่างในบทเรียนประเมินการเรียนรู้ของท่านออกแบบมาเพื่อให้นักเรียนแบ่งปันความคิดและประสบการณ์กับเพื่อนร่วมชั้น ขณะที่กิจกรรมอื่นๆ จะเป็นเรื่องส่วนตัวมากกว่า ตัวอย่างเช่น เมื่อนักเรียนอธิบายหลักคำสอน อาจเป็นช่วงเวลาที่ดีที่จะให้พวกเขาทำงานร่วมกันเพื่อฝึกอธิบายหรือแสดงบทบาทสมมติ เมื่อนักเรียนประเมินความรู้สึก เจตคติ และความปรารถนาของตน อาจเป็นกิจกรรมที่เหมาะสมกว่าสําหรับการไตร่ตรองส่วนตัว

มีมพระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงเป็นเพื่อน

สําคัญที่สุดคือ ขณะที่ท่านสอนบทเรียนเหล่านี้ ให้เชื้อเชิญนักเรียนแสวงหาความช่วยเหลือและการนําทางจากพระบิดาในสวรรค์ผ่านพระวิญญาณบริสุทธิ์ ไม่มีเพื่อนใดที่ดีไปกว่าพระวิญญาณบริสุทธิ์ที่จะช่วยให้นักเรียนเห็นได้อย่างชัดเจนว่าพวกเขาเรียนรู้และก้าวหน้าอย่างไรบนเส้นทางกลับไปหาพระบิดาบนสวรรค์ ให้โอกาสนักเรียนในการแสวงหาความช่วยเหลือจากพระวิญญาณบริสุทธิ์เป็นประจําในการประเมินการเรียนรู้และการเติบโตในฐานะสานุศิษย์ของพระเยซูคริสต์

หน่วยกิตของหลักสูตรสําหรับการประเมินผล

นักเรียนต้องเข้าร่วมบทเรียนประเมินผลการเรียนรู้ของท่านอย่างน้อยหนึ่งบทในแต่ละครึ่งหลักสูตรเพื่อรับหน่วยกิตสําหรับการสําเร็จการศึกษาเซมินารี

หากนักเรียนไม่เข้าร่วมบทเรียนประเมินผลการเรียนรู้ของท่านระหว่างภาคเรียน ท่านจะต้องจัดเตรียมบทเรียนประเมินผลการเรียนรู้ของท่านที่เหมาะสมซึ่งอยู่ในภาคผนวกของคู่มือครูเซมินารี ท่านสามารถให้ “ประเมินผลการเรียนรู้ของท่าน ส่วนที่ 1” กับนักเรียนเพื่อทําการประเมินสําหรับครึ่งแรกของหลักสูตร ท่านสามารถให้ “ประเมินการเรียนรู้ของท่าน ส่วนที่ 2” กับนักเรียนเพื่อทําการประเมินสําหรับครึ่งหลังของหลักสูตร เชื้อเชิญให้นักเรียนบันทึกคําตอบของพวกเขาสำหรับกิจกรรมการประเมินผลแต่ละอย่าง กระตุ้นให้พวกเขาแบ่งปันคําตอบที่ไม่เป็นส่วนตัวมากเกินไปกับบิดามารดา พี่น้อง หรือผู้นําศาสนจักร โอกาสนี้สําหรับนักเรียนที่จะแบ่งปันสามารถช่วยให้พระวิญญาณบริสุทธิ์สอนและเป็นพยานต่อพวกเขาเกี่ยวกับความจริงของพระกิตติคุณและเชื้อเชิญให้พวกเขาก้าวหน้าเพิ่มเติมในการเป็นสานุศิษย์ที่มีพระคริสต์เป็นศูนย์กลาง เมื่อพวกเขาคืนแบบประเมินให้ท่าน ท่านอาจเชื้อเชิญให้พวกเขาแบ่งปันคําตอบหนึ่งหรือสองข้อหากไม่เป็นส่วนตัวมากเกินไป

ประยุกต์บทเรียนประเมินผลการเรียนรู้ของท่าน

บางครั้งท่านอาจต้องประยุกต์บทเรียนประเมินผลการเรียนรู้ของท่าน เนื่องจากตารางเรียนของโรงเรียน นักเรียนอาจไม่ได้ศึกษาบทเรียนที่บทเรียนประเมินผลการเรียนรู้ของท่านอ้างถึง อาจมีบางครั้งที่ความจริงมีความหมายต่อนักเรียนเป็นพิเศษแต่ไม่ได้กล่าวไว้ในบทเรียนประเมินผลการเรียนรู้ของท่าน ในกรณีเหล่านี้ ท่านอาจตัดสินใจแทนที่หนึ่งในกิจกรรมในบทเรียนประเมินผลการเรียนรู้ของท่านด้วยกิจกรรมที่ท่านสร้างขึ้นเพื่อช่วยนักเรียนประเมินความเข้าใจหรือความก้าวหน้าของพวกเขาในหัวข้อนั้น

ขั้นตอนต่อไปนี้สามารถช่วยให้ท่านประยุกต์หรือสร้างกิจกรรมการประเมินผลที่มีประสิทธิภาพได้

• ขั้นตอนที่ 1: เริ่มต้นด้วยการระบุจุดประสงค์ของบทเรียนที่ท่านต้องการประเมิน

  จุดประสงค์ของบทเรียนแต่ละบทระบุไว้ในประโยคสุดท้ายของย่อหน้าเกริ่นนําของบทเรียนนั้นและในเอกสารภาพรวมของสัปดาห์นั้น

• ขั้นตอนที่ 2: พิจารณาสิ่งที่นักเรียนสามารถทําได้เพื่อประเมินผลการเติบโตและการเรียนรู้ของพวกเขาสําหรับจุดประสงค์ของบทเรียนนั้น ตัวอย่างได้แก่:

  • ความเข้าใจ: นักเรียนสามารถสอนหรืออธิบายแนวคิดหลักคำสอนได้ด้วยคำพูดหรือการเขียน ซึ่งสามารถทําได้หลายวิธี เช่น ในการตอบสนองต่อสถานการณ์สมมติหรือข้อความในสมุดบันทึก

  • ความรู้สึก เจตคติ หรือความปรารถนา: ในบทเรียนก่อนหน้านี้อาจเชื้อเชิญให้นักเรียนประเมินความรู้สึก เจตคติ หรือความปรารถนาของตนผ่านรายการในสมุดบันทึก แบบสํารวจ หรือวิธีอื่นๆ หากเป็นเช่นนั้น อาจเชื้อเชิญให้นักเรียนทํากิจกรรมนั้นอีกครั้ง จากนั้นพวกเขาจะเปรียบเทียบคําตอบจากบทเรียนครั้งก่อนกับคําตอบระหว่างบทเรียนประเมินผลการเรียนรู้ของท่าน

  • การนำไปใช้: นักเรียนสามารถทบทวนสิ่งที่พวกเขารู้สึกประทับใจให้ทำหรือแผนที่พวกเขาสร้างขึ้นอันเป็นส่วนหนึ่งของบทเรียน จากนั้นพวกเขาอาจใคร่ครวญว่าได้ทำตามแผนของตนอย่างไร นักเรียนสองสามคนที่เต็มใจอาจแบ่งปันประสบการณ์ของตนหากไม่ได้เป็นเรื่องส่วนตัวมากเกินไป พวกเขาสามารถแสดงสิ่งที่พวกเขาทำ เช่น การใช้แอป FamilySearch Family Tree หรือใช้ทักษะการศึกษาพระคัมภีร์

พยายามหาวิธีทําให้กิจกรรมมีความหมายและสนุกสนาน และให้เวลานักเรียนมากพอที่จะใคร่ครวญและประเมินผลการเติบโตของตน กิจกรรมไม่ควรทำให้นักเรียนเปรียบเทียบการเติบโตของตนกับผู้อื่นแต่ช่วยพวกเขาประเมินผลประสบการณ์ ของตนเอง นักเรียนบางคนอาจรู้สึกผิดหวังกับการเติบโตในปัจจุบันของพวกเขา ช่วยให้พวกเขาเข้าใจว่าการประเมินเหล่านี้ไม่ควรถือเป็นที่สิ้นสุด แต่นักเรียนควรได้รับการกระตุ้นให้พิจารณาว่าขั้นตอนต่อไปในการเรียนรู้หรือการเติบโตของพวกเขาจะเป็นเช่นไร และพวกเขาจะหันไปพึ่งพระเจ้าเพื่อขอความช่วยเหลือได้อย่างไร

หมายเหตุ: ครูเซมินารีสามารถปรับปรุงบทเรียนประเมินการเรียนรู้ของท่านในครั้งถัดไปโดยรวมกิจกรรมการประเมินที่เกี่ยวข้องกับหมวดหมู่การเตรียมตัวสําหรับชีวิตที่นักเรียนเพิ่งศึกษาในเซมินารีได้ พวกเขาสามารถเพิ่มกิจกรรมเหล่านี้ลงในบทเรียนประเมินผลการเรียนรู้ของท่านหรือแทนที่การประเมินผลที่มีอยู่ ท่านสามารถดูการประเมินผลที่แนะนําสําหรับบทเรียนการเตรียมตัวสําหรับชีวิตแต่ละหมวดหมู่ได้ในภาคผนวกของคู่มือครูเซมินารี

สรุป

มีมภาชนะ เทียบกับ ไฟ

เอ็ลเดอร์เจฟฟรีย์ อาร์. ฮอลแลนด์แห่งโควรัมอัครสาวกสิบสองสอนครูว่า “นักเรียนไม่ใช่ภาชนะที่ต้องเติมให้เต็ม แต่นักเรียนคือไฟที่ต้องจุดให้ติด” (“Angels and Astonishment,” [Church Educational System training broadcast], June 12, 2019, broadcasts.ChurchofJesusChrist.org) โอกาสที่นักเรียนมีในฐานะส่วนหนึ่งของกิจกรรมการประเมินผลในเซมินารีเป็นวิธีสําคัญในการจูงใจนักเรียนในการเรียนรู้ของพวกเขา โอกาสเหล่านี้สามารถช่วยจุดประกายความปรารถนาที่จะทําให้การเปลี่ยนใจเลื่อมใสของนักเรียนในพระเยซูคริสต์และพระกิตติคุณของพระองค์ลึกซึ้งขึ้น การให้โอกาสนักเรียนอธิบายหลักคำสอน ใคร่ครวญถึงความรู้สึก เจตคติ และความปรารถนาของพวกเขา และการทบทวนแผนหรือเป้าหมายที่พวกเขากำลังทำอยู่จะช่วยให้พวกเขาตั้งใจมากขึ้นในการพยายามเป็นเหมือนพระบิดาบนสวรรค์และพระเยซูคริสต์