การอบรมหลักสูตร
การอบรมบทเรียนการเตรียมตัวสำหรับชีวิต


“การอบรมบทเรียนการเตรียมตัวสําหรับชีวิต,” การอบรมหลักสูตรเซมินารี (2025)

เยาวชนหญิงศึกษาพระคัมภีร์

การอบรมบทเรียนการเตรียมตัวสำหรับชีวิต

ภาพรวม

หลังจากชมเชยครูที่พยายามเป็นพรแก่เยาวชน ประธานเฮนรีย์ บี.อายริงก์แห่งฝ่ายประธานสูงสุดกล่าวว่า “แต่ [นักเรียนของเรา] ต้องการมากกว่านั้น นักเรียนเซมินารีจํานวนมากที่เรียนจบแล้วไม่มีคุณสมบัติสำหรับงานเผยแผ่ศาสนา นักเรียนที่ซื่อสัตย์จํานวนมากมายไม่เคยได้รับพรของศาสนพิธีพระวิหาร สัดส่วนของผู้คนที่น่าเศร้าเหล่านั้นในหมู่พวกเขาจะเพิ่มขึ้นถ้าเราไม่เปลี่ยน” (“We Must Raise Our Sights” [CES Conference, Aug. 14, 2001], Gospel Library)

20 กว่าปีมาแล้วตั้งแต่ประธานอายริงก์กล่าวเช่นนั้น เยาวชนของเราเผชิญความท้าทายและการต่อต้านที่รุนแรงกว่าเดิม—ไม่เพียงศรัทธาของพวกเขาเท่านั้นแต่ในด้านอื่นๆ ของชีวิตด้วย บทเรียนการเตรียมตัวสําหรับชีวิตออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการของเยาวชนรุ่นนี้ บทเรียนการเตรียมตัวสําหรับชีวิตเหล่านี้เปิดโอกาสให้นักเรียนประยุกต์ใช้คําสอนของพระผู้ช่วยให้รอดเพื่อ:

  • จัดการกับคําถามที่ยากและสภาวการณ์ที่ท้าทายในชีวิต

  • สร้างการพึ่งพาตนเองเพื่อเลี้ยงดูตนเองและครอบครัว

  • มีสุขภาพดีขึ้นทั้งทางร่างกายและทางอารมณ์

  • พัฒนาทักษะเพื่อประสบความสำเร็จในการเรียน

  • วางแผนเตรียมตัวสําหรับการศึกษาและงานอาชีพในอนาคต

  • เตรียมพร้อมสําหรับงานเผยแผ่ศาสนาและการรับใช้ในศาสนจักร

  • เตรียมทําและรักษาพันธสัญญาในพระวิหาร

บทเรียนเหล่านี้จะช่วยจัดการกับความท้าทายที่เยาวชนเผชิญในวิธีที่พระวิญญาณทรงนําโดยมีพระคริสต์เป็นศูนย์กลาง อิงตามพระคัมภีร์ และเน้นที่ผู้เรียน นอกจากบทเรียนหลักสูตรพระคัมภีร์แล้ว บทเรียนการเตรียมตัวสําหรับชีวิตยังสามารถช่วยให้การเปลี่ยนใจเลื่อมใสของนักเรียนในพระเยซูคริสต์และพระกิตติคุณที่ได้รับการฟื้นฟูของพระองค์ลึกซึ้งยิ่งขึ้นด้วย

บทเรียนการเตรียมตัวสำหรับชีวิตและวัตถุประสงค์

ในการอบรมนี้ ท่านจะมีโอกาสสํารวจว่าบทเรียนการเตรียมตัวสําหรับชีวิตได้รับการออกแบบมาเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ S&I อย่างไร เช่นเดียวกับบทเรียนหลักสูตรพระคัมภีร์ บทเรียนการเตรียมตัวสําหรับชีวิตแต่ละบทเขียนตามมาตรฐานต่อไปนี้ในย่อหน้า “สอน” ของวัตถุประสงค์ S&I:

เราให้ประสบการณ์การเรียนรู้แต่ละอย่างมีศูนย์กลางในพระเยซูคริสต์ ในแบบอย่าง พระคุณลักษณะ และอำนาจการไถ่ของพระองค์ เราช่วยให้นักเรียนเรียนรู้พระกิตติคุณที่ได้รับการฟื้นฟูของพระเยซูคริสต์ตามที่พบในพระคัมภีร์และถ้อยคำของศาสดาพยากรณ์ เราช่วยนักเรียนทำบทบาทการเรียนรู้ของตนให้เกิดสัมฤทธิผล เราเพียรพยายามอัญเชิญพระวิญญาณบริสุทธิ์ให้มีสัมฤทธิผลในบทบาทของพระองค์ในประสบการณ์การเรียนรู้แต่ละครั้ง

บทเรียนการเตรียมตัวสําหรับชีวิตช่วยให้บรรลุวัตถุประสงค์ S&I

นิยาม

ขณะที่ท่านเตรียมบทเรียน รวมถึงบทเรียนการเตรียมตัวสําหรับชีวิต อาจเป็นประโยชน์ที่จะดูว่าบทเรียนทําให้แต่ละประโยคจากย่อหน้า “สอน” ของวัตถุประสงค์บรรลุผลสําเร็จได้อย่างไร

ตัวอย่าง

ด้านล่างนี้คือสองรายการที่เลือกมาจากบทเรียนการเตรียมตัวสําหรับชีวิตสําหรับปี 2025 บทเรียนแรกเป็นบทเรียนเกี่ยวกับสุขภาพทางกายและทางอารมณ์เรื่อง “การพัฒนารูปแบบความคิดที่ดี” บทเรียนที่สองคือบทเรียนเกี่ยวกับการประสบความสำเร็จในการเรียนเรื่อง “ค้นพบข้อดีและความสามารถของท่าน” ดูว่ากิจกรรมการเรียนรู้เหล่านี้ ซึ่งมุ่งเน้นหัวข้อที่แตกต่างกันมาก ได้รับการออกแบบมาเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ของ S&I อย่างไร

บทเรียนที่ 186: การพัฒนารูปแบบความคิดที่ดี

มีพระคริสต์เป็นศูนย์กลาง: ต่อไปนี้คือตัวอย่างบางส่วนจากบทเรียนนี้ที่ช่วยทำให้ประสบการณ์การเรียนรู้มีศูนย์กลางอยู่ที่พระเยซูคริสต์ สังเกตว่าในกรณีเหล่านี้ขอให้นักเรียนแสวงหาความช่วยเหลือจากพระผู้ช่วยให้รอดและเรียนรู้จากแบบอย่างและคําสอนของพระองค์อย่างไร

  • ท่านอาจแบ่งปันกับนักเรียนว่าพวกเขาจะฝึกเชื้อเชิญให้พระผู้ช่วยให้รอดทรงช่วยเหลือเพื่อแก้ไขความคิดที่ไม่ถูกต้องหรือความคิดที่ไม่ดี

  • ท่านคิดว่าการดูที่พระผู้ช่วยให้รอดในความนึกคิดของเราหมายความว่าอย่างไร? (บางตัวอย่างรวมถึงตัวอย่างต่อไปนี้: ไตร่ตรองว่าพระผู้ช่วยให้รอดอาจทรงทําอย่างไรในสถานการณ์ที่เราเผชิญ มองหาวิธีประยุกต์ใช้คําสอนของพระองค์กับสถานการณ์นั้น และจดจําความรักของพระองค์)

อิงตามพระคัมภีร์: ต่อไปนี้คือตัวอย่างบางส่วนจากบทเรียนนี้ที่ช่วยให้นักเรียนเรียนรู้จากพระคัมภีร์และถ้อยคําของศาสดาพยากรณ์ สังเกตว่านักเรียนมีโอกาสศึกษาพระคัมภีร์และถ้อยคําของประธานรัสเซลล์ เอ็ม. เนลสันอาจช่วยให้นักเรียนเข้าใจพระคัมภีร์ข้อนี้

  • อ่าน หลักคำสอนและพันธสัญญา 6:36 โดยมองหาสิ่งที่พระเจ้าทรงเชื้อเชิญให้เราทำ

  • เมื่อกล่าวถึงพระคัมภีร์ข้อนี้ ประธานเนลสันสอนว่า: “เราต้องมุ่งไปที่พระผู้ช่วยให้รอดและพระกิตติคุณของพระองค์ ต้องใช้ความพยายามทางจิตใจอย่างมากที่จะมองดูพระองค์ในความนึกคิด ทุกอย่าง แต่เมื่อเราทำเช่นนั้น ความสงสัยและความกลัวจะหายไป” (รัสเซลล์ เอ็ม. เนลสัน, “ดึงพลังของพระเยซูคริสต์เข้ามาในชีวิตเรา,” เลียโฮนา, พ.ค. 2017, 41)

เน้นที่ผู้เรียน: ต่อไปนี้คือตัวอย่างบางส่วนจากบทเรียนนี้ที่ช่วยให้นักเรียนมีสัมฤทธิผลในบทบาทการเรียนรู้ด้วยตนเอง สังเกตว่านักเรียนได้รับเชิญให้รับรู้ความต้องการของตนเองเพื่อกระตุ้นให้พวกเขามีส่วนร่วมในประสบการณ์การเรียนรู้ นักเรียนยังได้รับเชิญให้แบ่งปันความคิดและแนวคิดที่เป็นเอกลักษณ์ของตนเอง

  • เชื้อเชิญให้นักเรียนไตร่ตรองว่าพวกเขาสังเกตเห็นรูปแบบความคิดของตนเองบ่อยเพียงใดและรูปแบบเหล่านั้นมีแนวโน้มว่าจะเป็นประโยชน์หรือถูกต้องหรือไม่

  • อะไรที่ทำให้ท่านประทับใจจากถ้อยคำของประธานเนลสัน?

ชี้นําโดยพระวิญญาณ: ต่อไปนี้เป็นตัวอย่างวิธีที่บทเรียนสามารถอัญเชิญพระวิญญาณบริสุทธิ์ให้มีสัมฤทธิผลในบทบาทของพระองค์ในประสบการณ์การเรียนรู้ ครูควรตั้งใจเชิญชวนนักเรียนให้แสวงหาการนําทางจากพระวิญญาณบริสุทธิ์ คําเชื้อเชิญเช่นนี้จะช่วยให้นักเรียนพยายามรับการดลใจจากพระวิญญาณบริสุทธิ์ในการเรียนรู้ของพวกเขา

  • เชื้อเชิญให้นักเรียนแสวงหาการนําทางผ่านพระวิญญาณบริสุทธิ์เพื่อเข้าใจรูปแบบความคิดของตนเองได้ดีขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อตอบสนองต่อสถานการณ์ที่ท้าทาย

บทเรียนที่ 193: ค้นพบข้อดีและความสามารถของท่าน

มีพระคริสต์เป็นศูนย์กลาง: ต่อไปนี้คือตัวอย่างบางส่วนจากบทเรียนนี้ที่ช่วยทำให้ประสบการณ์การเรียนรู้มีศูนย์กลางอยู่ที่พระเยซูคริสต์ สังเกตว่าความจริงที่เป็นตัวหนาในบทเรียนนี้เชื่อมโยงกับพระคริสต์อย่างไร และเชื้อเชิญให้นักเรียนหันไปหาพระองค์เพื่อทูลขอความช่วยเหลือ เตือนให้นักเรียนนึกถึงอัตลักษณ์อันสูงส่งของตนเอง ความเข้มแข็งและความสามารถที่นักเรียนมีเป็นการแสดงให้ประจักษ์ถึงความรักและพระเมตตาของพระผู้เป็นเจ้า

  • นักเรียนอาจชี้ให้เห็นความจริงทํานองนี้: พระเจ้าไม่ได้ทอดพระเนตรรูปร่างภายนอกแต่ทอดพระเนตรจิตใจ (ดู 1 ซามูเอล 16:7) เราสามารถทําทุกสิ่งได้โดยผ่านพระเยซูคริสต์ ผู้ทรงเสริมกําลังเราได้ (ดู ฟีลิปปี 4:13; แอลมา 26:12) ค่าของจิตวิญญาณยิ่งใหญ่ในสายพระเนตรของพระผู้เป็นเจ้า (ดู หลักคำสอนและพันธสัญญา 18:10)

  • เตือนนักเรียนว่าในฐานะบุตรธิดาของพระผู้เป็นเจ้าผู้ได้รับการสร้างตามรูปลักษณ์ของพระองค์ เราแต่ละคนได้รับพรด้วยข้อดีและความสามารถที่แตกต่างกัน อาจมีนักเรียนที่มีปัญหาในการรับรู้ถึงข้อดีและความสามารถที่พระผู้เป็นเจ้าประทานแก่พวกเขา

อิงตามพระคัมภีร์: ต่อไปนี้คือตัวอย่างบางส่วนจากบทเรียนนี้ที่ช่วยให้นักเรียนเรียนรู้จากพระคัมภีร์และถ้อยคําของศาสดาพยากรณ์ สังเกตว่าพระคัมภีร์ที่นักเรียนจะศึกษาถูกเลือกอย่างมีจุดประสงค์เพื่อให้นักเรียนหันไปหาพระเยซูคริสต์เพื่อขอความช่วยเหลือจากพระองค์ จากนั้นนักเรียนจะมีโอกาสศึกษาคําแนะนําจากอัครสาวกเกี่ยวกับวิธีค้นพบของประทานที่พระผู้เป็นเจ้าประทานแก่พวกเขา

  • ศึกษาข้อพระคัมภีร์ต่อไปนี้สองสามข้อ โดยมองหาความจริงนิรันดร์ที่อาจช่วยให้เรารับรู้ความสามารถของเราในการบรรลุศักยภาพของเราผ่านพระเยซูคริสต์ 1 ซามูเอล 16:7; ฟิลิปปี 4:13; เจคอบ 4:7; แอลมา 26:12; หลักคําสอนและพันธสัญญา 18:10.

  • เอ็ลเดอร์โรนัลด์ เอ. ราสแบนด์แห่งโควรัมอัครสาวกสิบสองแบ่งปันวิธีที่เราสามารถรับรู้พรสวรรค์ ข้อดี และความสามารถที่พระบิดาบนสวรรค์ประทานแก่เรา: “พรสวรรค์ที่พระผู้เป็นเจ้าประทานแก่เราก่อนปรากฏชัดในความสนใจที่เราเสาะแสวงหา หากท่านสงสัยเกี่ยวกับพรสวรรค์ของท่าน ให้เขียนรายการสิ่งที่ท่านชอบทํา รวมกิจกรรมทั้งหมดที่ท่านชอบจากมิติต่างๆ ของชีวิตท่านไว้ด้วย—ทางวิญญาณ ดนตรี การละคร วิชาการ กีฬา และอื่นๆ ศึกษาและไตร่ตรองปิตุพรของท่านเพื่อให้ได้ข้อคิดและการดลใจ ปรึกษาสมาชิกในครอบครัว เพื่อน ครู และผู้นําที่ไว้ใจได้ คนอื่นมักจะเห็นในเราในสิ่งที่เราพบว่ามองเห็นได้ยากในตัวเรา” (Ronald A. Rasband, “Parables of Jesus: The Parable of the Talents,” Ensign, Aug. 2003, 34)

เน้นที่ผู้เรียน: ต่อไปนี้คือตัวอย่างบางส่วนจากบทเรียนนี้ที่ช่วยให้นักเรียนมีสัมฤทธิผลในบทบาทการเรียนรู้ด้วยตนเอง สังเกตว่ากิจกรรมเหล่านี้ช่วยให้นักเรียนนึกถึงประสบการณ์และสภาวการณ์ของตนเองอย่างไร กิจกรรมเหล่านี้มีจุดประสงค์เพื่อช่วยให้นักเรียนรู้สึกมีแรงจูงใจที่จะทุ่มเทหัวใจและความนึกคิดในประสบการณ์การเรียนรู้เพื่อตอบสนองความต้องการที่มีอยู่ในปัจจุบัน นักเรียนยังมีโอกาสนึกถึงความท้าทายที่เกิดขึ้นจริงที่พวกเขาเผชิญและความจริงที่พบในพระคัมภีร์จะช่วยพวกเขาได้อย่างไร

  • นึกถึงความรับผิดชอบหรือโอกาสด้านงานอาชีพที่ท่านสนใจจะทําในอนาคต พยายามระบุทักษะและความสามารถที่ยังต้องพัฒนาซึ่งจะช่วยให้ท่านพร้อมมากขึ้นสําหรับอนาคต

  • ความจริงเหล่านี้จะช่วยเราได้อย่างไรเมื่อเรารู้สึกท้อกับความสามารถของเรา?

ชี้นําโดยพระวิญญาณ: ต่อไปนี้เป็นตัวอย่างวิธีที่บทเรียนสามารถอัญเชิญพระวิญญาณบริสุทธิ์ให้มีสัมฤทธิผลในบทบาทของพระองค์ในประสบการณ์การเรียนรู้ สังเกตว่านักเรียนได้รับการเชื้อเชิญให้แสวงหาการดลใจจากพระวิญญาณบริสุทธิ์เพื่อให้เห็นความต้องการในปัจจุบันของตนเองชัดเจนยิ่งขึ้นและก้าวต่อไปเพื่อเตรียมพร้อมสําหรับชีวิตให้ดียิ่งขึ้น

  • ขณะศึกษาในวันนี้ ให้แสวงหาการนําทางจากพระบิดาบนสวรรค์ผ่านพระวิญญาณบริสุทธิ์เพื่อช่วยให้ท่านทราบข้อดีและทักษะที่ท่านมีอยู่แล้วซึ่งจะเตรียมท่านให้พร้อมสําหรับความรับผิดชอบเหล่านี้

ฝึก

ระบุบทเรียนการเตรียมตัวสําหรับชีวิตที่ท่านจะสอนเร็วๆ นี้ โดยอิงตามแนวทางกําหนดอัตราการสอนในท้องที่ของท่าน ทบทวนบทเรียนนี้โดยมองหาคําตอบของคําถามต่อไปนี้:

  • ประสบการณ์การเรียนรู้มีพระเยซูคริสต์เป็นศูนย์กลางอย่างไร?

  • บทเรียนนี้ช่วยให้นักเรียนเรียนรู้พระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์ตามที่พบในพระคัมภีร์และถ้อยคําของศาสดาพยากรณ์อย่างไร?

  • บทเรียนช่วยนักเรียนทำบทบาทการเรียนรู้ของตนให้เกิดสัมฤทธิผลอย่างไร?

  • บทเรียนช่วยอัญเชิญพระวิญญาณบริสุทธิ์ให้มีสัมฤทธิผลในบทบาทของพระองค์ในประสบการณ์การเรียนรู้อย่างไร?

การสื่อสารตารางบทเรียนให้ชัดเจน

อาจสับสนสําหรับนักเรียนที่มีบทเรียนหลักสูตรพระคัมภีร์หนึ่งวันแล้วมีบทเรียนการเตรียมตัวสำหรับชีวิตในวันถัดไป เมื่อนักเรียนมีวิสัยทัศน์กว้างขึ้นเกี่ยวกับสิ่งที่พวกเขาจะศึกษาระหว่างสัปดาห์ นั่นจะช่วยให้พวกเขาพร้อมเรียนรู้มากขึ้น ทักษะต่อไปนี้เป็นสองสามวิธีที่ท่านอาจทําได้ หากท่านสังเกตเห็นว่านักเรียนของท่านสับสนเมื่อท่านย้ายไปมาระหว่างบทเรียนประเภทต่างๆ ท่านอาจลองทําตามคําแนะนําเหล่านี้อย่างน้อยหนึ่งข้อหรือบางสิ่งที่ท่านคิดด้วยตนเอง การอบรมนี้จะช่วยให้ท่าน:

  • สื่อสารให้ชัดเจนว่าจะสอนอะไรระหว่างสัปดาห์และเพราะเหตุใด

  • สื่อสารอย่างชัดเจนระหว่างสัปดาห์เมื่อบทเรียนหรือหัวข้อเปลี่ยนจากบทเรียนหลักสูตรพระคัมภีร์เป็นบทเรียนการเตรียมตัวสําหรับชีวิต

สื่อสารให้ชัดเจนว่าจะสอนอะไรระหว่างสัปดาห์และเพราะเหตุใด

นิยาม

ในช่วงต้นของแต่ละสัปดาห์ ท่านสามารถแนะนําให้นักเรียนรู้จักบทเรียนและหัวข้อที่วางแผนไว้ในแต่ละวันของสัปดาห์ เมื่อนักเรียนเข้าใจทิศทางของสัปดาห์และจุดประสงค์ของบทเรียน พวกเขาจะพร้อมมีส่วนร่วมในประสบการณ์การเรียนรู้มากขึ้น วิธีหนึ่งที่ท่านจะสื่อสารสิ่งที่จะสอนระหว่างสัปดาห์คือให้ดูชื่อบทเรียนแต่ละบทของสัปดาห์นั้น พร้อมสรุปสั้นๆ ว่านักเรียนคาดหวังจะเรียนรู้อะไรในบทเรียนเหล่านั้น

ตัวอย่าง

นักเรียนทั้งหลาย ฉันตื่นเต้นกับบทเรียนที่จะมาถึงในสัปดาห์นี้ [ครูแสดงภาพประกอบที่มีแผนภูมิต่อไปนี้]

วันจันทร์

หลักคำสอนและพันธสัญญา 3

วันอังคาร

หลักคำสอนและพันธสัญญา 4

วันพุธ

หลักคำสอนและพันธสัญญา 5

วันพฤหัสบดี

บทเรียนประเมินผลการเรียนรู้ของท่าน

วันศุกร์

การจัดการความเครียดและความวิตกกังวล

สัปดาห์นี้ วันจันทร์ถึงวันพุธเราจะศึกษาหลักคําสอนและพันธสัญญาภาคที่ 3–5 นี่เป็นช่วงเวลาตึงเครียดสำหรับศาสดาพยากรณ์โจเซฟ สมิธขณะฟันฝ่าการทดลองที่ยากมาก จากภาคเหล่านี้ เราจะเรียนรู้ความจริงสําคัญที่พระผู้เป็นเจ้าทรงเปิดเผยซึ่งจะช่วยให้เราหันไปหาพระเยซูคริสต์และยืนหยัดในช่วงเวลาที่ตึงเครียด วันพฤหัสบดี ท่านจะมีโอกาสใคร่ครวญสิ่งที่เรียนรู้ในบทเรียนประเมินผลการเรียนรู้ของท่าน วันศุกร์ เราจะสนทนาวิธีจัดการกับความเครียดและความวิตกกังวลด้วยความช่วยเหลือและความเข้มแข็งจากพระบิดาบนสวรรค์และพระเยซูคริสต์

ฝึก

ดูแนวทางกําหนดอัตราการสอนของสัปดาห์ถัดไปและภาพรวม เขียนสิ่งที่ท่านจะทําเพื่อสื่อสารอย่างชัดเจนถึงสิ่งที่จะสอนระหว่างสัปดาห์

สื่อสารอย่างชัดเจนระหว่างสัปดาห์เมื่อบทเรียนหรือหัวข้อเปลี่ยนจากบทเรียนหลักสูตรพระคัมภีร์เป็นบทเรียนการเตรียมตัวสําหรับชีวิต

นิยาม

เมื่อเปลี่ยนจากบทเรียนหลักสูตรพระคัมภีร์เป็นบทเรียนการเตรียมตัวสําหรับชีวิต ท่านสามารถบอกหัวข้อและจุดประสงค์ของบทเรียนวันนั้นแก่นักเรียนได้ อาจเป็นประโยชน์ที่จะแบ่งปันว่าบทเรียนและเนื้อหามีความคล้ายคลึงหรือแตกต่างจากชั้นเรียนก่อนหน้านี้อย่างไร ไม่จําเป็นต้องทําเช่นนี้ทุกครั้ง แต่บางครั้งอาจเป็นประโยชน์สําหรับนักเรียนที่จะเข้าใจจุดประสงค์และทิศทาง

ตัวอย่าง

ด้านล่างท่านจะเห็นตัวอย่างที่จุดประสงค์ของบทเรียนหลักสูตรพระคัมภีร์และบทเรียนการเตรียมตัวสําหรับชีวิตสอดคล้องกันและแบบที่ไม่สอดคล้องกัน

  1. สัปดาห์นี้เราได้เรียนรู้เกี่ยวกับสถานการณ์ที่ตึงเครียดมากมายที่ศาสดาพยากรณ์โจเซฟเผชิญ คุณจําได้ไหมว่าสถานการณ์เหล่านั้นมีอะไรบ้าง? [คําตอบของนักเรียน] ตอนนี้เราจะเปลี่ยนจากการศึกษาเรื่องราวเหล่านี้ในหลักคําสอนและพันธสัญญาเป็นการศึกษาพระคัมภีร์และถ้อยคําของผู้นําศาสนจักรเพื่อช่วยให้ท่านพบพลังจากพระบิดาบนสวรรค์และพระเยซูคริสต์ในการเผชิญสถานการณ์ที่ตึงเครียดของท่านเอง

  2. เมื่อเราศึกษาเรื่องราวเหล่านี้ในพระคัมภีร์หลักคําสอนและพันธสัญญา เราได้เรียนรู้วิธีดึงพลังจากพระเจ้ามาเผชิญสถานการณ์ที่ตึงเครียด ตอนนี้เราจะเปลี่ยนเป็นการเรียนรู้ว่าเราจะดึงพลังมาจากพระเจ้าเพื่อให้มีค่าควรเข้าไปนมัสการพระองค์ในพระวิหารของพระองค์ได้อย่างไร

ฝึก

ดูหลักสูตรสําหรับแนวทางของสัปดาห์นี้ เขียนวิธีสื่อสารให้ชัดเจนว่าชั้นเรียนจะเน้นเรื่องอะไรในแต่ละวัน

ข้อควรระวัง

บทเรียนการเตรียมตัวสําหรับชีวิตเปิดโอกาสให้นักเรียนในเซมินารีได้เรียนรู้ว่าพระบิดาบนสวรรค์และพระเยซูคริสต์จะทรงช่วยพวกเขาผ่านความท้าทายของความเป็นมรรตัยได้อย่างไร ขณะที่ท่านสอนบทเรียนเหล่านี้ ขอให้ใส่ใจกับข้อควรระวังต่อไปนี้:

ประสบการณ์การเรียนรู้ทุกอย่างควรมีพระคริสต์เป็นศูนย์กลาง อิงตามพระคัมภีร์ และเน้นที่ผู้เรียน

ประสบการณ์การเรียนรู้ทุกอย่างในเซมินารีควรช่วยให้บรรลุวัตถุประสงค์ของเซมินารีและสถาบันศาสนา ซึ่งหมายความว่าประสบการณ์เหล่านั้นจะมีพระคริสต์เป็นศูนย์กลาง เน้นที่ผู้เรียน อิงตามพระคัมภีร์ และได้รับการชี้นําจากพระวิญญาณเสมอ บทเรียนการเตรียมตัวสําหรับชีวิตอาจมีความไม่สมดุลได้ง่าย ตัวอย่างเช่น ครูอาจมีประสบการณ์มากมายในหัวข้อใดหัวข้อหนึ่งและอาจตัดสินใจที่จะมุ่งเน้นอย่างครอบคลุมในการทําให้ประสบการณ์มุ่งเน้นที่ผู้เรียน โดยเน้นทักษะและกลยุทธ์มากมายในวิธีจัดการกับความต้องการของนักเรียน อย่างไรก็ตาม ในกระบวนการนี้ ครูอาจมองข้ามความจําเป็นในการเชื่อมโยงนักเรียนกับพระคริสต์และสอนพวกเขาจากถ้อยคําของพระคัมภีร์และศาสดาพยากรณ์ได้อย่างง่ายดาย

กรณีศึกษา: ซิสเตอร์โจนส์มีประสบการณ์มากมายเกี่ยวกับการวางแผนทางการเงิน ซิสเตอร์โจนส์ตัดสินใจสอนทักษะมากมายเกี่ยวกับการวางแผนการเงินให้กับนักเรียนโดยเน้นที่ผู้เรียนเป็นหลัก

อะไรคือผลที่อาจเกิดขึ้นจากการที่ซิสเตอร์โจนส์เตรียมบทเรียนด้วยวิธีนี้?

ปรับจํานวนบทเรียนการเตรียมตัวสำหรับชีวิตให้สมดุลตามที่ระบุไว้ในหลักสูตร

อาจมีบทเรียนบางประเภทหรือบางหัวข้อที่ครูบางคนต้องการใช้เวลาในชั้นเรียนมากกว่าหรือน้อยกว่าบทเรียนอื่นๆ พึงระลึกไว้เสมอว่าหลายคน รวมทั้งคนที่มาจากแผนกอื่นของศาสนจักรปรึกษากันเพื่อกําหนดจํานวนบทเรียนในแต่ละหมวดหมู่ แม้แต่หัวข้อที่ดูไม่ค่อยน่าสนใจสําหรับครูก็อาจจะมีค่ามากสําหรับนักเรียนบางคน การใช้เวลาในชั้นเรียนกับบทเรียนบางบทมากกว่าที่ระบุไว้ในหลักสูตรอาจนําไปสู่การลดผลลัพธ์จากการเรียนรู้ที่สําคัญอื่นๆ ไป “สร้างการอบรมแนวทางกำหนดอัตราการสอน” แนะนําว่าโดยปกติควรมีบทเรียนหลักสูตรพระคัมภีร์มากกว่าบทเรียนการเตรียมตัวสําหรับชีวิตในแนวทางกําหนดอัตราการสอนของท่าน จํานวนบทเรียนสําหรับแต่ละหมวดการเตรียมตัวสําหรับชีวิตยังบ่งชี้ถึงความสมดุลที่แนะนําด้วย ทําตามแนวทางเหล่านี้โดยมีข้อยกเว้นเล็กน้อย

กรณีศึกษา: บราเดอร์เฮนดริคส์ตื่นเต้นที่ในที่สุดก็มีการสอนถึงความพยายามในเซมินารีเพื่อเตรียมเยาวชนให้พร้อมสําหรับงานเผยแผ่ แทนที่จะสอนบทเรียนเพียงห้าบทเกี่ยวกับการเตรียมตัวเป็นผู้สอนศาสนา เขากลับใช้เวลาสองสัปดาห์สอนบทเรียนเหล่านี้และอีกหลายบทเรียนที่เขาสร้างขึ้นเอง

วิธีสอนบทเรียนการเตรียมตัวเป็นผู้สอนศาสนาของบราเดอร์เฮนดริกส์อาจเกิดผลอะไรบ้าง?

ใช้หลักสูตรโดยไม่คํานึงถึงระดับประสบการณ์ของท่าน

เช่นเดียวกับจํานวนบทเรียน แต่ละจุดประสงค์ของบทเรียนถูกกําหนดโดยความร่วมมือจากผู้คนมากมาย รวมถึงสมาชิกในแผนกอื่นๆ ของศาสนจักร แผนกเหล่านี้มักอิงงานวิจัยที่แผนกวิจัยเชิงสหสัมพันธ์ของศาสนจักรทำเสร็จสมบูรณ์จากข้อมูลที่พวกเขาให้ไว้ เช่นเดียวกับบทเรียนหลักสูตร S&I ทั้งหมด แผนกวิจัยเชิงสหสัมพันธ์ของศาสนจักรได้ทบทวนบทเรียนการเตรียมตัวสําหรับชีวิตอย่างละเอียดเพื่อความถูกต้องและเหมาะสมของหลักคําสอน บทเรียนออกแบบมาให้เป็นแนวทางง่ายๆ สําหรับหัวข้อที่กล่าวถึง ไม่ใช่หลักสูตรที่ครอบคลุมในเรื่องนี้ หากท่านมีประสบการณ์ในหัวข้อนี้ ท่านอาจรู้สึกว่าแนวคิดที่สําคัญถูกละเลยไป ให้ระมัดระวังอย่างมากเกี่ยวกับการเพิ่มสิ่งที่ยังไม่ได้มีไว้ ไม่ว่าท่านจะมีประสบการณ์มากหรือน้อยเพียงใดกับหัวข้อที่กําหนด จงใช้หลักสูตรเป็นพื้นฐานสําหรับประสบการณ์การเรียนรู้ที่ท่านจะให้ เริ่มต้นด้วยการนําบทเรียนมาใช้ก่อนตัดสินใจว่าจะปรับอะไร ดูเพิ่มเติมที่ “การใช้และการประยุกต์การอบรมหลักสูตรเซมินารี” ที่มีอยู่ใน การอบรมหลักสูตรเซมินารี

กรณีศึกษา: ซิสเตอร์เบ็นสันเป็นนักสังคมสงเคราะห์คลินิกที่มีใบอนุญาต ปัจจุบันเธอประสบความสําเร็จอย่างมากกับแนวทางใหม่ในการช่วยเหลือลูกค้าของเธอที่ติดสารเสพติด เธอตัดสินใจสอนทักษะที่เกี่ยวข้องกับวิธีการใหม่นี้ให้กับนักเรียนของเธอแทนบทเรียนด้านสุขภาพทางอารมณ์

วิธีสอนบทเรียนด้านสุขภาพทางอารมณ์ของซิสเตอร์เบ็นสันอาจเกิดผลอะไรบ้าง?

โปรดจำบทบาทของท่านในฐานะครู

ขณะที่ท่านสอนบทเรียนการเตรียมตัวสําหรับชีวิต ขอให้จดจําบทบาทของท่านในฐานะครูเซมินารี นักเรียนอาจแบ่งปันสถานการณ์ท้าทายที่พวกเขาเผชิญ บทบาทของท่านคือชี้นําพวกเขาไปหาบิดามารดาและผู้นําฐานะปุโรหิตผู้ที่สามารถแนะนำความช่วยเหลือที่พวกเขาต้องการ สําหรับความช่วยเหลือในสถานการณ์ที่อาจเกี่ยวข้องกับการทารุณกรรม โปรดดู “การทารุณกรรม” ใน แนวทางการรับมือสถานการณ์ฉุกเฉินของเซมินารีและสถาบัน

กรณีศึกษา: ซิสเตอร์เบ็นสันพบว่าหลังจากสอนบทเรียน นักเรียนหลายคนอยู่หลังเลิกเรียน พวกเขาต้องการแบ่งปันรายละเอียดส่วนตัวเกี่ยวกับชีวิตของพวกเขา เธอพบกับพวกเขาเป็นรายบุคคลในห้องทํางานของเธอหลังเลิกเรียน

การปฏิสัมพันธ์ของซิสเตอร์เบ็นสันกับนักเรียนน่าจะเกิดผลอะไรบ้าง?

สรุป

ตลอดหลักสูตรสี่ปีในเซมินารี นักเรียนจะมีโอกาสมากมายที่จะเรียนรู้วิธีประยุกต์ใช้คําสอนของพระผู้ช่วยให้รอดกับสภาวการณ์และสถานการณ์ต่างๆ ประสบการณ์การเรียนรู้ที่บทเรียนการเตรียมตัวสำหรับชีวิตเพิ่มเข้าไปในบทเรียนหลักสูตรพระคัมภีร์จะเตรียมคนทั้งรุ่นให้พร้อมเผชิญความท้าทายของชีวิตได้ดีขึ้นโดยดึงความเข้มแข็ง คําสอน และพระกิตติคุณของพระผู้ช่วยให้รอดมาใช้ ตลอดจนเตรียมตนเอง ครอบครัว และคนอื่นๆ ให้พร้อมมีชีวิตนิรันดร์อยู่กับพระบิดาในสวรรค์ของพวกเขา