กล้าเลือกความสุภาพเรียบร้อย
จากคำปราศรัยเมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม ค.ศ. 2013 ที่การประชุมใหญ่สตรีของมหาวิทยาลัยบริคัม ยังก์
เราสอนอะไรบุตรธิดาของเราได้บ้างเพื่อช่วยให้พวกเขากล้าเลือกความสุภาพเรียบร้อยในโลกที่จะเย้ยหยันการเลือกที่ดีงามของพวกเขา
เหตุใดความสุภาพเรียบร้อยจึงสำคัญมาก เหตุใดชายเสื้อ ชายกระโปรง คอเสื้อ หรือเสื้อยืดจึงเป็นเรื่องสำคัญต่อพระเจ้า ดิฉันเป็นคุณแม่ของลูกสาวห้าคนและลูกชายสองคน และท่านคงนึกภาพออก หัวข้อเรื่องความสุภาพเรียบร้อยถูกกล่าวถึงในบ้านของเราเป็นครั้งคราว แต่ตลอดหลายปีมานี้ ดิฉันเรียนรู้ว่าเราสอนเรื่องความสุภาพเรียบร้อยได้ดีที่สุดโดยสอนหลักคำสอนและเป็นแบบอย่างที่ดี หลักคำสอนจะช่วยให้ลูกๆ ของเราเข้าใจว่าเหตุใดความสุภาพเรียบร้อยจึงสำคัญมาก และแบบอย่างของเราจะแสดงให้เห็นพรของความสุภาพเรียบร้อยในลักษณะที่น่าพอใจ
ความสุภาพเรียบร้อยคืออะไร
ความสุภาพเรียบร้อยคือหลักธรรมที่พระผู้เป็นเจ้าประทานเพื่อช่วยให้เราเรียนรู้การใช้ร่างกายอย่างเหมาะสมในความเป็นมรรตัย นิยามของความสุภาพเรียบร้อยใน แน่วแน่ต่อศรัทธา คือ “เจตคติของความถ่อมใจและความเหมาะสมในเครื่องแต่งกาย การแต่งตัว ภาษา และความประพฤติ”1 ความสุภาพเรียบร้อยไม่ใช่การหลงตัวเองหรือโอ้อวด คนสุภาพเรียบร้อยไม่ใช้ร่างกายของตนหรือความประพฤติของตนแสวงหาการยอมรับจากโลกหรือดึงความสนใจมาที่ความสำเร็จที่แท้จริงหรือที่คิดไปเองของตน หรือคุณลักษณะที่ตนปรารถนา
โปรดจำไว้ว่าหลักธรรมแห่งความสุภาพเรียบร้อยดังกล่าวไว้ข้างต้นใช้ได้ทั้งกับชายและหญิง บุตรและธิดา พึงระลึกว่าแม้เมื่อเราสอนและยกตัวอย่างเรื่องความสุภาพเรียบร้อย เราจะไม่ประณามคนที่เลือกใส่กระโปรงสั้นหรือ “ผมสีรุ้งและวงแหวนหลายวงที่หูและจมูก”2 เราเป็นแบบอย่างของความเห็นใจและความรักเฉกเช่นพระคริสต์ต่อคนอื่นๆ เสมอขณะที่เรายังคงภักดีต่อมาตรฐานที่พระเจ้าทรงกำหนด
ดิฉันเป็นพยานว่าลักษณะภายนอกและความประพฤติสุภาพเรียบร้อยที่เราเลือกทำส่งข่าวสารอันทรงพลังว่าเราเข้าใจอัตลักษณ์ของเราในฐานะบุตรและธิดาของพระผู้เป็นเจ้าและเราได้เลือกยืนในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์
ดิฉันรักพระคัมภีร์ข้อนี้ “ท่านทั้งหลายรู้แล้วไม่ใช่หรือว่าพวกท่านเป็นวิหารของพระเจ้า และพระวิญญาณของพระเจ้าสถิตอยู่ในพวกท่าน? … วิหารของพระเจ้าเป็นที่บริสุทธิ์ และพวกท่านเป็นวิหารนั้น” (1 โครินธ์ 3:16–17) ร่างกายเราเป็นวิหารของวิญญาณเรา เราเชื้อเชิญความเป็นเพื่อนของพระวิญญาณบริสุทธิ์มาสู่วิหารทางกายนี้ ดิฉันเชื่อว่าเมื่อเราเลือกสวมเสื้อผ้าสุภาพเรียบร้อยและประพฤติสุภาพเรียบร้อย เราสวมและเราดำเนินชีวิตตามประจักษ์พยานของเรา เกี่ยวกับพระผู้เป็นเจ้าพระบิดานิรันดร์และพระบุตรของพระองค์พระเยซูคริสต์ เราเป็นพยานโดยรูปลักษณ์ทางกายของเราว่าเราเป็นสานุศิษย์ของพระคริสต์และเราดำเนินชีวิตตามพระกิตติคุณ
เหตุใดความสุภาพเรียบร้อยจึงสำคัญ
เราอยู่ในโลกของความดีและความชั่ว เราสามารถใช้ร่างกายเพื่อจุดประสงค์อันชอบธรรมหรือชั่วร้ายก็ได้ แต่เรารู้ว่าร่างกายอันล้ำค่าของเราเป็นของประทานจากพระผู้เป็นเจ้าที่ทรงมอบให้เราแต่ละคน ร่างกายเราศักดิ์สิทธิ์ เอ็ลเดอร์เดวิด เอ. เบดนาร์แห่งโควรัมอัครสาวกสิบสองสอนดังนี้ “สำหรับผู้ที่รู้และเข้าใจแผนแห่งความรอด การทำให้ร่างกายมีมลทินเป็นการกระทำของการกบฏ [ดู โมไซยาห์ 2:36–37] และเป็นการปฏิเสธอัตลักษณ์แท้จริงของเราในฐานะบุตรและธิดาของพระผู้เป็นเจ้า”3 เราเลือกดูแลและปกป้องร่างกายเราเพื่อให้เราเป็นเครื่องมือในพระหัตถ์ของพระผู้เป็นเจ้าในการทำให้บรรลุจุดประสงค์อันรุ่งโรจน์ของพระองค์ (ดู แอลมา 26:3) ถ้าเราปรารถนาจะเป็นตัวแทนของพระผู้ช่วยให้รอดและทำงานของพระองค์ เราต้องถามตัวเราว่า ถ้าพระผู้ช่วยให้รอดทรงยืนข้างเรา เราจะรู้สึกสบายใจกับเสื้อผ้าที่เราสวมใส่หรือไม่
ความสุภาพเรียบร้อยในเครื่องแต่งกาย รูปลักษณ์ภายนอก ความคิด และความประพฤติเป็นหลักฐานยืนยันว่าเราเข้าใจว่าพันธสัญญาที่ทำไว้เป็นพรแก่เรา คุ้มครองเรา และให้อำนาจเราในการเตรียมกลับไปยังที่ประทับของพระองค์ เมื่อเรารับบัพติศมาเราก้าวออกจากโลกเข้ามาในอาณาจักรของพระผู้เป็นเจ้า ทุกอย่างต้องต่างจากเดิมสำหรับเรา เอ็ลเดอร์โรเบิร์ต ดี. เฮลส์แห่งโควรัมอัครสาวกสิบสองสอนว่า “โดยการเลือกอยู่ในอาณาจักรของพระองค์ เราแยก—แต่ไม่ปลีก—ตัวเราจากโลก การแต่งกายของเราสุภาพ ความคิดของเราบริสุทธิ์ คำพูดของเราสะอาด”4
ความสุภาพเรียบร้อยคือหลักธรรมที่จะช่วยคุ้มครองเราให้ปลอดภัยบนเส้นทางพันธสัญญาขณะเจริญก้าวหน้าสู่ที่ประทับของพระผู้เป็นเจ้า ความสุภาพเรียบร้อยในการแต่งกายและรูปลักษณ์ภายนอก ในความคิดและความประพฤติ จะช่วยเตรียมเราให้พร้อมทำและรักษาพันธสัญญาศักดิ์สิทธิ์ของพระวิหาร เพื่ออวยพรและคุ้มครองอาดัมกับเอวา พระผู้เป็นเจ้าได้ประทานเสื้อจากหนังสัตว์ให้พวกท่านสวมใส่ก่อนส่งพวกท่านออกจากสวน ทำนองเดียวกันพระผู้เป็นเจ้าได้ประทานสิ่งคุ้มกันพันธสัญญาในความเป็นมรรตัยแก่เราโดยใช้การ์เมนท์พระวิหารศักดิ์สิทธิ์ของเราเป็นสัญลักษณ์
พรของความสุภาพเรียบร้อยมีอะไรบ้าง
เราสอนอะไรบุตรธิดาของเราได้บ้างเพื่อช่วยให้พวกเขากล้าเลือกความสุภาพเรียบร้อยในโลกที่จะเย้ยหยันและดูหมิ่นการเลือกที่บริสุทธิ์ดีงามของพวกเขา พวกเขาเห็นเราใช้ร่างกายดึงดูดความสนใจหรือใช้ยกย่องสรรเสริญพระผู้เป็นเจ้าหรือไม่
ความสุภาพเรียบร้อยในความคิด คำพูด รูปลักษณ์ภายนอก และความประพฤติช่วยให้เราได้รับพรสามประการที่ให้อำนาจเราและทำให้เราสูงส่ง
1. ความสุภาพเรียบร้อยเชื้อเชิญความเป็นเพื่อนที่ยั่งยืนของพระวิญญาณบริสุทธิ์ เอ็ลเดอร์เฮลส์สอนว่า “ความสุภาพเรียบร้อยเป็นพื้นฐานของการมีค่าควรต่อพระวิญญาณ”5
เราจงช่วยให้ลูกๆ ของเราเข้าใจว่าพวกเขาจะต้องไม่ทำสิ่งใดเพื่อปฏิเสธตนจาก “ของประทานแห่งพระวิญญาณบริสุทธิ์ซึ่งไม่อาจพูดถึงได้” (คพ. 121:26) จงช่วยให้พวกเขารู้ว่าของประทานฝ่ายวิญญาณอันล้ำค่าและเปี่ยมด้วยพลังมาควบคู่กับความเป็นเพื่อนอันศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์ พระผู้เป็นเจ้าทรงสัญญาไว้ว่า “เราจะเผยพระวิญญาณของเราส่วนหนึ่งให้เจ้า, ซึ่งจะให้ความสว่างแก่ความคิดเจ้า, ซึ่งจะทำให้จิตวิญญาณเจ้าเปี่ยมด้วยปีติ; … โดยสิ่งนี้เจ้าจะรู้, สิ่งทั้งปวงไม่ว่าอะไรก็ตามที่เจ้าปรารถนาจากเรา, ซึ่งเกี่ยวกับเรื่องของความชอบธรรม, ด้วยศรัทธาโดยเชื่อในเราว่าเจ้าจะได้รับ” (คพ. 11:13–14) ความรู้ ปัญญา และประจักษ์พยาน ปีติ สันติ และความสุข—สิ่งเหล่านี้เป็นพรประเสริฐบางประการที่เราสัญญากับลูกของเราได้ขณะเชื้อเชิญพวกเขาให้ดำเนินชีวิตอย่างสุภาพเรียบร้อยและคู่ควรกับพระวิญญาณบริสุทธิ์
การท้าทายอย่างหนึ่งของเครื่องแต่งกายที่สุภาพเรียบร้อยคือการที่แฟชั่นและความประพฤติที่สังคมยอมรับเปลี่ยนแปลงเป็นประจำ มาตรฐานของพระเจ้าไม่เคยเปลี่ยน จงสอนเยาวชนชายและเยาวชนหญิงให้ไวต่อพระวิญญาณขณะพวกเขาเลือกว่าจะสวมใส่อะไร พูด และทำอะไร ขณะพวกเขาดำเนินชีวิตใกล้ชิดพระวิญญาณ พวกเขาไม่จำเป็นต้องเหมือนชาวโลก
ลูกๆ ของเราได้รับของประทานแห่งพระวิญญาณบริสุทธิ์แล้ว พวกเขากำลังเดินทางตามเส้นทางพันธสัญญาที่นำไปสู่พระวิหารและจะกลับไปยังที่ประทับของพระผู้เป็นเจ้า พวกเขาต้องการให้เราทำให้พวกเขาเชื่อมั่นและเป็นแบบอย่างให้เห็นว่าพวกเขาจะได้รับการนำทาง ความคุ้มครอง การปลอบโยน และบริสุทธิ์ขณะดำเนินชีวิตให้คู่ควรกับพระวิญญาณบริสุทธิ์
2. เราสอนบุตรธิดาของเราได้ว่ารูปลักษณ์ภายนอกและความประพฤติที่สุภาพเรียบร้อยช่วยคุ้มครองเราจากอิทธิพลบ่อนทำลายของโลก อาวุธลวงตามากที่สุดอย่างหนึ่งที่ใช้กับเราทุกคนคือเจตคติที่สังคมยอมรับว่าศีลธรรมเป็นเรื่องล้าสมัย ความสุภาพเรียบร้อยเป็นการป้องกันอิทธิพลชั่วร้ายเช่นนั้นและคุ้มครองความบริสุทธิ์ทางเพศและคุณธรรม จงฟังถ้อยคำเหล่านี้ใน เพื่อความเข้มแข็งของเยาวชน “ก่อนแต่งงาน … อย่าทำสิ่งใดเพื่อปลุกความรู้สึกทางเพศ”6 รูปลักษณ์ภายนอกและความประพฤติที่ไม่สุภาพเรียบร้อยมักจะปลุกเร้าความรู้สึกทางเพศ จะทำลายสิ่งกีดขวาง และเชื้อเชิญการล่อลวงให้ฝ่าฝืนกฎแห่งความบริสุทธิ์ทางเพศเพิ่มมากขึ้น
เอ็ลเดอร์เฮลส์สอนว่า “ความสุภาพเรียบร้อยเป็นศูนย์รวมของความบริสุทธิ์และความสะอาดทางเพศ ทั้งในความคิดและการกระทำ ทั้งนี้เพราะความสุภาพเรียบร้อยนำทางและมีอิทธิพลต่อความคิด ความประพฤติ และการตัดสินใจของเรา ความสุภาพเรียบร้อยจึงเป็นส่วนสำคัญของอุปนิสัย”7 จงสอนและเป็นแบบอย่างของความสุภาพเรียบร้อยเพื่อช่วยให้เยาวชนชายและเยาวชนหญิงของเราพร้อมปกป้องและคุ้มครองอำนาจแห่งการสร้างในตัวพวกเขา จงช่วยให้พวกเขาสงวนการแสดงความรักระหว่างสามีภรรยาไว้สำหรับชีวิตแต่งงานและถือเป็นเรื่องศักดิ์สิทธิ์
3. ความสุภาพเรียบร้อยเปิดทางให้เรา “ยืนเป็นพยานเกี่ยวกับพระผู้เป็นเจ้าทุกเวลา” (โมไซยาห์ 18:9) พระผู้ช่วยให้รอดทรงสอนดังนี้ “จงชูแสงสว่างของเจ้าขึ้นเพื่อมันจะส่องโลก. ดูเถิดเราเป็นแสงสว่างซึ่งเจ้าจะชูขึ้น” (3 นีไฟ 18:24) เราได้รับบัญชาจากเบื้องบนให้เป็นประภาคารส่องโลก แสดงให้เห็นปีติของการดำเนินชีวิตตามพระกิตติคุณ สอนความชอบธรรม และสร้างอาณาจักรของพระผู้เป็นเจ้าบนแผ่นดินโลก เราแต่ละคนสะท้อนแสงสว่างของพระคริสต์เมื่อเราสุภาพเรียบร้อย บริสุทธิ์ และรักษาพระบัญญัติ ความสุภาพเรียบร้อยเป็นพยานยืนยันว่าเรามีประจักษ์พยานในพระผู้ช่วยให้รอดและพระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์
พวกเขาผู้ได้รับการนำทางจากพระวิญญาณบริสุทธิ์ ผู้ปกป้องตนเองจากความฝักใฝ่ทางโลก และผู้ยืนเป็นพยานของพระผู้เป็นเจ้าต่อโลกช่างสวยงามและได้รับพรมากเหลือเกิน ผู้ได้รับพรคือผู้เป็นแบบอย่างและสอนหลักคำสอนของความสุภาพเรียบร้อยแก่บุตรธิดาทั้งปวงของไซอัน
เมื่อเราทำพันธสัญญาว่าจะติดตามพระผู้ช่วยให้รอดและปรารถนาจะได้รับความบริบูรณ์ของพรแห่งการชดใช้ของพระองค์ในชีวิตเรา มีเสื้อผ้าเพียงชุดเดียวเท่านั้นที่สำคัญ โมโรไนบันทึกว่า “จงตื่น, และลุกขึ้นจากภัสมธุลี, … แท้จริงแล้ว, และสวม อาภรณ์งดงามของท่าน,, โอ้ธิดาของไซอัน; … เพื่อพันธสัญญาของพระบิดานิรันดร์ … จะเกิดสัมฤทธิผล” (โมโรไน 10:31; เน้นตัวเอน)
อาภรณ์งดงามคือเสื้อคลุมแห่งความชอบธรรม สวมโดยผู้รักษาพันธสัญญาของพวกเขา เรากำลังเตรียมลูกๆ ของเราให้พร้อมสวมอาภรณ์งดงามเหล่านี้หรือไม่
ดิฉันเป็นพยานว่าความรอดอยู่ในพระคริสต์และคนที่รักษาพันธสัญญาของพวกเขาจะ “มีความรู้อันสมบูรณ์เกี่ยวกับความเกษมศานต์ของพวกเขา, และความชอบธรรมของพวกเขา, โดยที่ห่อหุ้มไว้ด้วยความพิศุทธิ์, แท้จริงแล้ว, แม้ด้วยเสื้อคลุมแห่งความชอบธรรม” (2 นีไฟ 9:14)