พร ของวันสะบาโต
วิสุทธิชนทั่วโลกบอกว่าชีวิตพวกเขาได้รับพรเฉพาะด้านอย่างไรจากวันศักดิ์สิทธิ์และพิเศษนี้
ภาพประกอบโดย ปาสคาล แคมเปียน
ลองนึกภาพตัวท่านได้รับคำเชิญครั้งสำคัญที่สุดของชีวิตท่านคือโอกาสในการใช้เวลาหนึ่งวันกับพระเยซูคริสต์ ท่านจะเตรียมตัวอย่างไรทางวิญญาณและทางร่างกายสำหรับวันนั้น ท่านหวังจะได้พรอะไรบ้างจากการเยือนเช่นนั้น
พระเจ้าทรงเชื้อเชิญให้เราแต่ละคนกำหนดเวลาไว้หนึ่งวันเพื่อสื่อสารกับพระองค์—วันสะบาโต ซึ่งพระองค์ทรงอวยพรและทำให้ศักดิ์สิทธิ์ (ดู อพยพ 20:11) ท่านได้รับพรอะไรบ้างเมื่อท่านรักษาวันสะบาโตให้ศักดิ์สิทธิ์ ความคิดต่อไปนี้จากวิสุทธิชนทั่วโลกอาจกระตุ้นแนวคิดและความรู้สึกของท่าน
ความใกล้ชิดกับพระผู้เป็นเจ้าและพระคริสต์
ซิสเตอร์แอนเดรีย จูลิโอ จากเซาเปาลู บราซิลค้นพบว่าความสัมพันธ์กับเพื่อนทางโลกแน่นแฟ้นขึ้นเมื่อเราใช้เวลาด้วยกันฉันใด ความสัมพันธ์ของเรากับพระบิดาบนสวรรค์แน่นแฟ้นขึ้นเมื่อใจเราจดจ่ออยู่ที่พระองค์ผ่านการนมัสการในวันสะบาโตฉันนั้น
ระหว่างไปเยี่ยมครอบครัวเธอซึ่งไม่ได้เป็นสมาชิกศาสนจักร ซิสเตอร์จูลิโอตัดสินใจตื่นแต่เช้าในวันอาทิตย์และพยายามหาโบสถ์วิสุทธิชนยุคสุดท้ายในละแวกนั้น ขณะครอบครัวเธอเตรียมไปเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจวันนั้น ซิสเตอร์จูลิโอพยายามเสาะหาในละแวกใกล้เคียงจนพบคนที่ชี้ให้ดูยอดแหลมในระยะไกล ซิสเตอร์จูลิโอสามารถเข้าร่วมพิธีนมัสการได้ “ดิฉันมีวันสะบาโตที่ยอดเยี่ยมที่สุด” เธอกล่าว “ดิฉันรู้สึกถึงความรักของพระบิดาบนสวรรค์อย่างแรงกล้า ดิฉันรู้สึกว่าพระองค์เบิกบานพระทัยเมื่อบุตรธิดาเชื่อฟังคำสอนของพระองค์ ดิฉันมีประจักษ์พยานเข้มแข็งขึ้นเกี่ยวกับศาสนจักรของพระเยซูคริสต์”
การเยียวยาและการบรรเทาทุกข์
ประธานรัสเซลล์ เอ็ม. เนลสัน ประธานโควรัมอัครสาวกสิบสองบอกเราว่าวันสะบาโตเป็นพรแก่ชีวิตท่านสมัยเป็นแพทย์วัยหนุ่มอย่างไร “ข้าพเจ้าพบความปีติยินดีครั้งแรกในวันสะบาโตหลายปีก่อนสมัยเป็นศัลยแพทย์ที่งานล้นมือเมื่อข้าพเจ้าทราบว่าวันสะบาโตกลายเป็นวันสำหรับเยียวยาตนเอง เมื่อสิ้นสุดแต่ละสัปดาห์ มือข้าพเจ้าเป็นแผลจากการล้างมือก่อนผ่าตัดด้วยสบู่ น้ำ และแปรงขนหยาบ ข้าพเจ้าต้องการพักหายใจจากภาระของงานอาชีพที่เรียกร้องมาก วันอาทิตย์ให้การผ่อนคลายที่ข้าพเจ้าต้องการอย่างมาก”1
เวลาสำหรับประวัติครอบครัว
เมื่อไม่นานมานี้ เอลิซาวัย 10 ขวบจากเมืองเอดมันตัน รัฐแอลเบอร์ตา แคนาดาเป็นผู้พูดในการประชุมศีลระลึกเกี่ยวกับวิธีหนึ่งที่การมุ่งทำกิจกรรมที่เหมาะสมในวันสะบาโตเป็นพรแก่ชีวิตเธอ เพราะบางครั้งเอลิซาเกิดความเบื่อหน่ายในวันอาทิตย์ เธอกับครอบครัวจึงตัดสินใจว่าการทำดัชนีเป็นกิจกรรมที่ดีที่น่าจะลองทำดู ไม่นานเอลิซาก็ค้นพบว่าเธอชอบทำงานกับรายชื่อและบันทึก “เมื่อดิฉันเริ่มทำ ดิฉันแค่อยากทำไปเรื่อยๆ” เธอแบ่งปันกับที่ประชุม
เมื่อคุณยายทวดของเอลิซาได้ยินว่าเธอชอบประวัติครอบครัวมาก เธอจึงสอนเอลิซาให้รู้วิธีเพิ่มเรื่องราวและรูปภาพเข้าไปในออนไลน์สายสกุลครอบครัว “สนุกมากค่ะ ดิฉันชอบ!” เอลิซาบอก “เมื่อดิฉันทำงานประวัติครอบครัว ดิฉันรู้สึกถึงวิญญาณของเอลียาห์ เป็นความรู้สึกที่ดีมากๆ”
จิตวิญญาณเบิกบาน
ซิสเตอร์เชอริล เอ. เอสพลิน ที่ปรึกษาที่หนึ่งในฝ่ายประธานปฐมวัยสามัญเป็นพยานถึงพรของการรับส่วนศีลระลึกในวันสะบาโตว่า “เมื่อดิฉันรับส่วนศีลระลึก บางครั้งดิฉันนึกถึงภาพวาดที่พระผู้ช่วยให้รอดผู้ฟื้นคืนพระชนม์ทรงกางพระพาหุประหนึ่งพระองค์ทรงพร้อมรับเราเข้าสู่อ้อมพระพาหุอันเปี่ยมด้วยความรักของพระองค์ ดิฉันชอบภาพนี้ เมื่อดิฉันนึกถึงภาพนี้ระหว่างการปฏิบัติศีลระลึก จิตวิญญาณดิฉันเบิกบานเพราะดิฉันแทบจะได้ยินพระดำรัสของพระผู้ช่วยให้รอดที่ว่า ‘ดูเถิด, แขนแห่งความเมตตาของเรายื่นมายังเจ้า, และผู้ใดก็ตามที่จะมา, ผู้นั้นเราจะรับ; และคนที่มาหาเราจะเป็นสุข’ [3 นีไฟ 9:14]”2
โอกาสปฏิบัติศาสนกิจ
เอ็ลเดอร์แอล. ทอม เพอร์รีย์ (1922–2015) แห่งโควรัมอัครสาวกสิบสองสอนว่า เหตุผลหนึ่งที่เราต้องพักจากการทำงานของเราในวันอาทิตย์คืองานทำให้เราพลาด “โอกาสปฏิบัติศาสนกิจต่อผู้อื่น”3
การปฏิบัติศาสนกิจในวันสะบาโตเป็นสิ่งที่ซิสเตอร์โซลา อัดไจรักขณะเติบใหญ่ในสาขากะปงในกานา เมื่อกลับจากโรงเรียนประจำมาอยู่บ้านช่วงฤดูร้อน เธอกับเยาวชนคนอื่นๆ จะรวมกลุ่มกันไปเยี่ยมสมาชิกของสาขาที่พวกเขาไม่เห็นมาระยะหนึ่งแล้ว “นั่นเป็นการเสียสละเพราะพวกเราส่วนใหญ่รู้สึกหิวมากหลังเลิกโบสถ์ และเราอยู่ไกลบ้านจนเราไม่มีเวลากลับไปรับประทานอาหารแล้วมารวมตัวกันอีก” ซิสเตอร์อัดไจกล่าว แต่การเสียสละนั้นคุ้มค่า เพราะพวกเขามีโอกาสสวดอ้อนวอนและร้องเพลงสวดกับเพื่อนสมาชิกในสาขาพร้อมทั้งชวนพวกเขามาโบสถ์และมาร่วมกิจกรรม เยาวชนคนหนึ่งยินดีจะเดินมาโบสถ์กับพวกเขาวันอาทิตย์ถัดไป
“การปฏิบัติเช่นนี้สร้างความผูกพันระหว่างเรา” ซิสเตอร์อัดไจกล่าว “พวกเราบางคนยังคงเป็นเพื่อนกันเหนียวแน่นจากการตัดสินใจว่าจะออกไปนำเพื่อนที่หายไปกลับมาโดยสละเวลาสองสามชั่วโมงในวันสะบาโตของเรา”
โอกาสเผยแผ่ศาสนา
ในโลกทุกวันนี้ การทำให้วันสะบาโตศักดิ์สิทธิ์จะแยกเราออกมาแน่นอน—ให้โอกาสเราได้แบ่งปันพระกิตติคุณอย่างเป็นธรรมชาติเมื่อคนอื่นสังเกตเห็นความแตกต่างในกิจวัตรประจำสัปดาห์ของเรา ครอบครัวเดวีสประสบสิ่งนี้ขณะอาศัยอยู่บนเกาะเกรนาดากับเอเดรียลลูกสาววัยเยาว์ของพวกเขา “เพื่อนๆ ของเอเดรียลไม่มีใครเป็นสมาชิกของศาสนจักร และถึงแม้หลายคนเชื่อในพระผู้เป็นเจ้า แต่วันอาทิตย์สำหรับพวกเขาเป็นเพียงอีกวันหนึ่งของสัปดาห์” ซิสเตอร์แมคเคนซี ลอว์เยอร์ เดวีสมารดาของเอเดรียลอธิบาย
ไม่กี่เดือนก่อน อาเดรียลลีได้รับเชิญไปงานวันเกิดที่โรงภาพยนตร์แห่งหนึ่งในวันอาทิตย์ ครอบครัวเธอตัดสินใจฝากของขวัญไว้แทนการไปงานเลี้ยงและดูภาพยนตร์ “เพราะเราแค่แวะอวยพรพวกเขา เราจึงสามารถแบ่งปันความเชื่อเกี่ยวกับสะบาโตกับพวกเขาอย่างเป็นมิตรและเปิดเผย” ซิสเตอร์ลอว์เยอร์ เดวีสกล่าว “นั่นทำให้ดิฉันมีความสุขที่ลูกสาวของดิฉันกำลังแบ่งปันพระกิตติคุณ”
ความคุ้มครองจากความฝักใฝ่ทางโลก
หลักคำสอนและพันธสัญญา 59:9 กล่าวว่า “และเพื่อเจ้าจะรักษาตัวให้หมดจดจากโลกได้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น, เจ้าจงไปยังบ้านแห่งการสวดอ้อนวอนและถวายศีลระลึกของเจ้าในวันศักดิ์สิทธิ์ของเรา” ศาสดาพยากรณ์และอัครสาวกยุคปัจจุบันสอนไว้ว่าแนวคิดเรื่องการรักษาตัวให้ “หมดจดจากโลก” เป็นทั้งคำเชื้อเชิญและพรที่สัญญาไว้ซึ่งมาคู่กัน
ตัวอย่างเช่น ประธานเจมส์ อี. เฟาสท์ (1920–2007) ที่ปรึกษาที่สองในฝ่ายประธานสูงสุด สอนว่าเมื่อเราหลีกเลี่ยงสิ่งที่ทำให้เขวไปทางโลกในวันสะบาโต เราได้รับความคุ้มครองจากการหมกมุ่นกับสิ่งของทางโลก “ในสมัยนี้ที่การเข้าถึงและการมีใจหมกมุ่นกับวัตถุนิยมเพิ่มขึ้น มีสิ่งหนึ่งคุ้มครองเราและลูกๆ ของเราให้รอดพ้นจากโรคระบาดในสมัยของเราได้แน่นอน นึกไม่ถึงว่ากุญแจสู่การได้รับความคุ้มครองที่แน่นอนนี้อยู่ในการถือปฏิบัติวันสะบาโต”4
เวลาคุณภาพของครอบครัว
ครอบครัวโอลสันในบริคัมซิตี ยูทาห์ สหรัฐอเมริกา พบว่าแม้แต่การเปลี่ยนมุมเล็กๆ มุมหนึ่งของวันสะบาโตก็ทำให้เกิดพรมากมาย แทนที่จะดูโทรทัศน์รายการปกติในวันอาทิตย์ พวกเขาดูสื่อของศาสนจักรแทน พวกเขาพบว่าการดู Bible.videos (ดู BibleVideos.org) กับลูกๆ อัญเชิญพระวิญญาณและมีคำถามจากลูกๆ ที่ส่งเสริมให้เกิดการสนทนาที่ดีในครอบครัว
“การไม่ดูโทรทัศน์ในวันสะบาโตทำให้เกิดการเปลี่ยนจุดสนใจครั้งใหญ่ที่สุดสำหรับดิฉัน” ซิสเตอร์เลซีย์ โอลสันกล่าว “เราอาจรู้สึกเหมือนมีกฎเกณฑ์มากมายเกี่ยวกับวันอาทิตย์ แต่ดิฉันคิดว่าสะบาโตเป็นวันที่ไม่จำกัดเรื่องการรับใช้และจิตกุศล ถ้าเราเลือก วันสะบาโตสามารถทำให้เรามีพลังพร้อมกลับมาเผชิญโลกในสัปดาห์ต่อไป”
พระเจ้าทรงสอนเราในพระคัมภีร์ว่าเราควร “ระลึกถึงวันสะบาโต ถือเป็นวันบริสุทธิ์” (อพยพ 20:8) เมื่อเรายอมรับว่าสะบาโตเป็นโอกาสล้ำค่าให้เราเรียกร้องพรทางวิญญาณ ถ้อยคำเหล่านั้นจะกลายเป็นพระดำรัสเชื้อเชิญจากพระองค์ เราจะตอบสนองอย่างไร มีสัญญาอะไรเตรียมไว้ให้เราและครอบครัวของเรา