2016
ช่วงสำคัญของผู้สอนศาสนาอาวุโส
เมษายน 2016


ช่วงสำคัญของผู้สอนศาสนาอาวุโส

หนึ่งในวิธีซึ่งดีที่สุดที่คู่สามีภรรยาอาวุโสสามารถสร้างความทรงจำที่งดงามคือรับใช้งานเผยแผ่ด้วยกัน

ภาพ
senior missionary couple

เมื่อเพื่อนๆ ของเราที่อายุ 60 หรือ 70 ปีลืมบางสิ่งบางอย่าง เรามักจะเรียกช่วงที่ความจำเสื่อมไปชั่วขณะแบบติดตลกว่า “ช่วงอาวุโส” แต่ข้าพเจ้าประสงค์จะพูดถึงช่วงอาวุโสอีกประเภทหนึ่ง—ช่วงที่งดงามมากจนความทรงจำของเราในช่วงนั้นจะดำรงอยู่ตลอดกาล ช่วงนั้นคือเมื่อผู้สอนศาสนาอาวุโสตระหนักว่าตนกำลังทำสิ่งที่พระเจ้าทรงประสงค์ให้ทำ ช่วงเวลาอันน่าจดจำเช่นนั้นเป็นช่วงที่พวกเขาทราบว่า

  • พวกเขามีประสบการณ์ชั่วชีวิตให้แบ่งปัน มีพรสวรรค์ ทักษะ และความเข้าใจในพระกิตติคุณที่พวกเขาสามารถใช้เป็นพรแก่ผู้อื่น

  • แบบอย่างของพวกเขาเป็นพรแก่บุตรหลานของพวกเขา

  • ขณะรับใช้พวกเขากำลังสร้างมิตรภาพอันยั่งยืน

  • ชีวิตแต่งงานของพวกเขามั่นคงขึ้นทุกวัน

  • การรับใช้ในพระนามของพระองค์เป็นสิ่งหอมหวาน

สร้างช่วงสำคัญ

เพื่อนคู่อาวุโสทั้งหลาย หลายท่านควรพยายามสร้างช่วงสำคัญเช่นนั้น ลองพิจารณาเรื่องที่เอ็ลเดอร์เจฟฟรีย์ อาร์. ฮอลแลนด์แห่งโควรัมอัครสาวกสิบสองเล่าเกี่ยวกับคู่อาวุโสที่กำลังรับใช้ในชิลีว่าพวกเขาสามารถทำอะไรได้บ้าง พ่อแม่ของเอ็ลเดอร์วัยหนุ่มคนหนึ่งสิ้นชีวิต ประธานคณะเผยแผ่อยู่ไกลเกินกว่าจะไปหาผู้สอนศาสนาคนนั้นได้ทันที

“แต่มีคู่ผู้สอนศาสนา [อาวุโส] ที่ใจดีมากรับใช้ในเขตนั้น” เอ็ลเดอร์ฮอลแลนด์กล่าว “พวกเขามานั่งอยู่กับเอ็ลเดอร์คนนั้น ดูแลและปลอบเขาอย่างอ่อนโยนจนประธานคณะเผยแผ่สามารถติดต่อกับเขาได้ เรามีผู้สอนศาสนาหนุ่มสาวที่ยอดเยี่ยมในคณะเผยแผ่ของเรา แต่ไม่มีผู้สอนศาสนาหนุ่มสาวโสดคนใดจะทำเพื่อเอ็ลเดอร์คนนั้นได้อย่างที่คู่สามีภรรยาคู่นั้นทำได้”1

ทักษะที่พวกเขาใช้ขณะนั้นเป็นเพียงการแสดงความเห็นอกเห็นใจในยามทุกข์ พวกเขาไม่กังวลเรื่องพูดภาษาอื่นที่ไม่ใช่ภาษาของความรักเฉกเช่นพระคริสต์ พวกเขาไม่ห่วงเรื่องพลาดวันคล้ายวันเกิดของหลานหรือการให้พรทารก แม้เหตุการณ์เหล่านั้นจะสำคัญก็ตาม พวกเขากังวลเฉพาะเรื่องที่พระเจ้าจะทรงใช้พวกเขาให้เป็นพรแก่ชีวิตลูกคนหนึ่งของพระองค์ได้ และเพราะพวกเขาเต็มใจ พระองค์จึงทรงสามารถทำให้พวกเขาเป็นตัวแทนของพระองค์

การรับใช้มักจะไม่สะดวก

ความจริงคือ ไม่มีผู้สอนศาสนาอาวุโสคนใดพบว่าตนสะดวกจะออกจากบ้าน โจเซฟ สมิธ, บริคัม ยังก์, จอห์น เทย์เลอร์ หรือวิลฟอร์ด วูดรัฟฟ์ก็ไม่สะดวก ท่านเหล่านั้นมีบุตรหลานเหมือนเรา และรักครอบครัวเช่นเดียวกับเรา แต่พวกท่านรักพระเจ้าและต้องการรับใช้พระองค์เช่นกัน สักวันหนึ่งเราอาจได้พบคนเด็ดเดี่ยวเหล่านั้นผู้ช่วยสถาปนาสมัยการประทานนี้ เมื่อเราพบ เราจะดีใจมากที่เราไม่เลี่ยงการรับใช้ในเมื่อเราควรจะได้รับใช้

บางคนอาจชอบรับใช้ขณะยังอยู่ที่บ้าน หลังจากโรคหลอดเลือดสมองทำให้อาเซ ชูมาเชอร์ เนลสัน (ไม่เกี่ยวข้องกับประธานเนลสัน) ต้องนั่งเก้าอี้เข็น เธอกลัวจะไม่สมปรารถนาเรื่องการเป็นผู้สอนศาสนาคู่กับดอนสามีของเธอ ครั้นแล้วเพื่อนบ้านคนหนึ่งก็มาพูดกับพวกเขาเกี่ยวกับการเป็นผู้สอนศาสนาบำเพ็ญประโยชน์ของศาสนจักรที่คลังอธิการ พวกเขาได้รับการกระตุ้นให้พูดกับผู้ดูแล กรอกแบบฟอร์มเสนอชื่อ และได้รับเรียกให้รับใช้สัปดาห์ละสองวันที่คลังอธิการใกล้บ้าน

“มันง่ายที่จะทำตัวสบายๆ และคิดว่า ‘โอ้ ศาสนจักรไม่ต้องการฉันอีกแล้ว’” อาเซ เนลสันกล่าว “แต่ตอนนี้ดิฉันรู้สึกว่าศาสนจักร ต้องการ ดิฉัน และนั่นเป็นประจักษ์พยานต่อดิฉัน”

เราต้องการท่านมาก

หากท่านถูกล่อลวงให้คิดว่าไม่มีใครต้องการท่าน ข้าพเจ้าขอยืนยันกับท่านว่าเราต้องการท่าน ไม่มีประธานคณะเผยแผ่คนใดในศาสนจักรไม่อยากมีคู่สามีภรรยารับใช้ในคณะเผยแผ่ของเขาเพิ่ม ผู้อาวุโสทำให้เอ็ลเดอร์และซิสเตอร์หนุ่มสาวเข้มแข็ง พวกเขาให้การสนับสนุนที่ช่วยให้คนอื่นๆ รับใช้ได้ดีขึ้นในหน้าที่รับผิดชอบของพวกเขา ท่านนึกภาพออกไหมเมื่อผู้นำที่เป็นสมาชิกเพียงไม่กี่ปีสามารถเข้าไปขอความช่วยเหลือจากสมาชิกศาสนจักรที่ผ่านประสบการณ์มามากมาย คู่อาวุโสมักเป็นคำตอบการสวดอ้อนวอนของอธิการและประธานสาขา

เรากระตุ้นให้ประธานคณะเผยแผ่ค้นหาคู่สามีภรรยามาช่วยงานในคณะเผยแผ่ของพวกเขา อธิการควรค้นหาคู่สามีภรรยาที่รับใช้ได้ LDS.org ระบุโอกาสมากมายให้คู่อาวุโสรับใช้ แต่สำคัญที่สุดคือ คู่สามีภรรยาจะคุกเข่าทูลถามพระบิดาบนสวรรค์ว่านั่นใช่เวลาที่พวกเขาจะรับใช้งานเผยแผ่ด้วยกันหรือไม่ ในบรรดาคุณสมบัติทั้งหมด ความปรารถนา จะรับใช้เป็นคุณสมบัติสำคัญที่สุด (ดู คพ. 4:3)

ขณะข้าพเจ้าชื่นชมงานของผู้สอนศาสนาอาวุโส ข้าพเจ้าทราบดีว่ามีหลายคู่ประสงค์จะรับใช้แต่ไม่สามารถทำได้ ขีดจำกัดอันเกิดจากความชราหรือปัญหาด้านสุขภาพควรนำมาพิจารณาเช่นเดียวกับความต้องการสำคัญๆ ของสมาชิกครอบครัว เมื่อมีความปรารถนาแรงกล้าทว่ามีขีดจำกัดเช่นนั้น คนอื่นๆ จะเป็นแขนขาของท่านได้ และท่านสามารถให้เงินทุนสนับสนุนพวกเขา

คู่อาวุโสทั้งหลาย ไม่ว่าท่านเป็นใครหรืออยู่ที่ใด ขอให้สวดอ้อนวอนเกี่ยวกับโอกาสนี้เพื่อสร้างช่วงสำคัญของผู้สอนศาสนาอาวุโสด้วยกัน พระบิดาบนสวรรค์จะทรงช่วยให้ท่านรู้ว่าท่านจะทำอะไรได้บ้าง

หมายเหตุ

  1. เจฟฟรีย์ อาร์. ฮอลแลนด์ใน โจเซฟ วอล์คเกอร์, “Elder Jeffrey Holland: LDS Church Desperately Needs More Senior Missionaries,” Deseret News, Sept. 14, 2011, 3.

พิมพ์