บ้านเรา ครอบครัวเรา
เร็วเป็นประวัติการณ์
ผู้เขียนอาศัยอยู่ในแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา ในเวลาที่ประสบการณ์นี้เกิดขึ้น
คงต้องเกิดเรื่องมหัศจรรย์บางอย่างผมจึงจะกลับบ้านมาร่วมบัพติศมาของลูกสาวได้
ลูกสาวของผมเพิ่งอายุครบแปดขวบและตื่นเต้นที่ผมจะให้บัพติศมาเธอ ปู่ย่าตายายของเธอจะมาร่วมโอกาสพิเศษครั้งนี้ด้วย ซึ่งทำให้เธอตื่นเต้นและคาดหวังยิ่งขึ้นไปอีก แต่เมื่อใกล้ถึงวันสำคัญผมน่าจะอยู่ที่พิธีบัพติศมาไม่ได้
อาชีพนักบินประจำการกองทัพและผู้ช่วยฝ่ายปฏิบัติการฝูงบินของผมน่าเบื่อบ้างนานๆ ครั้งแต่สภาพการทำงานตึงเครียดยิ่งกว่าเดิมเมื่อฝ่ายปฏิบัติการของผมต้องไปทำงานมอบหมายอีกอย่างหนึ่ง ผมขับเคี่ยวกับภารกิจระลอกแล้วระลอกเล่า เพื่อผลิตบุคลากรการบินตามจำนวนที่กำหนด ผมจำต้องยกเลิกการฝึก งดปฏิบัติหน้าที่ฝูงบินบางอย่างไว้ชั่วคราว และยกเลิกวันลาพักร้อนที่วางแผนไว้หลายเดือน
ลูกเรือบนเครื่องกำลังจะออกเดินทางตามคำสั่งบิน 21 วัน โอกาสกลับบ้านก่อนกำหนดจึงน้อยมาก และเมื่อฝ่ายปฏิบัติการของผมและผู้ช่วยฝ่ายปฏิบัติการอีกคนกลับมา จึงเป็นไปได้ยากที่ผมจะอยู่รอไปงานครอบครัว ผมจะสองจิตสองใจได้อย่างไรในเมื่ออีกหลายคนต้องเสียสละเพื่อผม
ผมรู้สึกสับสนมาก ผมพยายามให้ครอบครัวมาก่อนอาชีพเสมอ แต่นี่เป็นสภาวการณ์ผิดปรกติ และผมมีหน้าที่รับใช้ชาติเช่นกัน ฝ่ายปฏิบัติการของผม แม้ไม่เป็นสมาชิกศาสนจักร แต่เข้าใจว่าเหตุการณ์นี้สำคัญต่อครอบครัวผมและให้ผมตัดสินใจด้วยตนเอง หลังจากสวดอ้อนวอนมากและพูดคุยกับครอบครัว ผมทำสิ่งที่รู้สึกว่าถูกต้องและจัดตารางให้ตัวผมทำภารกิจครั้งหน้าแทนที่จะไปทำภารกิจครั้งนี้
เมื่อลูกเรือของผมได้รับแจ้งเตือนว่าภารกิจครั้งหน้าจะเริ่มวันจันทร์เช้า ดูท่าผมคงไม่มีโอกาสกลับไปบัพติศมาของลูกสาวในวันเสาร์เสียแล้ว เราต้องบินไปยังจุดรับสินค้า แล้วไปฐานจอดพัก เราจะต้องพักที่นั่นก่อนบินอีกครั้ง ต่อจากนั้นเราจะบินไปอีกจุดหนึ่งและพัก จากนั้นจึงส่งสินค้าไปยังจุดที่อยู่ไกลมาก และหยุดให้ลูกเรือพักอีกครั้งระหว่างเที่ยวบินขากลับ แล้วกลับฐานมาลำเลียงสินค้าเพิ่มและวนกลับไปอีกครั้ง ปกติใช้เวลาอย่างน้อยเจ็ดวันกว่าจะวนครบหนึ่งรอบ แต่ผมรู้ว่าครอบครัวกำลังสวดอ้อนวอนให้ผมกลับไป ศรัทธาและคำสวดอ้อนวอนของพวกเขาช่วยให้ผมมีศรัทธา และกลับกลายเป็นว่าภารกิจครั้งนี้จะไม่เหมือนครั้งอื่น
หนึ่ง แทนที่จะแวะพักวันเดียวหรือสองวัน ภารกิจของเราถูกกำหนดให้เติมเชื้อเพลิงโดยไม่ลงจอดและบินต่อไปยังจุดระหว่างประเทศจุดแรกของเราโดยไม่แวะพัก จากนั้น หลังจากช่วงพักขั้นต่ำตามกฎหมายของลูกเรือ เราได้รับคำสั่งให้บินทำภารกิจอย่างหนึ่งและกลับไปจุดส่งสินค้าที่อยู่ไกลลิบ การลำเลียงสินค้าออกจากเครื่องและการเติมเชื้อเพลิงขณะลงจอดที่จุดหมายของเราราบรื่นด้วยดี และหลังจากช่วงพักอีกครั้งของลูกเรือ เราได้รับคำสั่งให้ตรงดิ่งกลับฐานประจำการ เราจะกลับบ้านหนึ่งวันหรือราวนั้น!
ผมตื่นเต้นดีใจมากขณะบอกครอบครัวว่าใกล้จะกลับบ้านแล้ว แต่จากนั้นภรรยาบอกผมว่าพิธีบัพติศมาเพิ่งเลื่อนจาก 5 โมงเย็นเป็นสองทุ่มเพื่อให้มีที่จัดกิจกรรมเยาวชนสเตค ผมโทรบอกผู้กำกับการลำเลียงทางอากาศและอธิบายสถานการณ์ให้เขาฟัง หลังจากหยุดครู่หนึ่ง เขาตอบว่ามีลูกเรือมากพอให้เลื่อนคำสั่งถัดไปของเราจนถึง 5 โมงเย็นวันเสาร์—เวลาที่กำหนดไว้แต่แรกว่าจะเริ่มพิธีบัพติศมา!
ระหว่างบินกลับบ้าน ขณะบินทะลุทิวเขาใกล้บ้านเรา ผมเห็นว่าผมยังเหลือการทดลองศรัทธาอีกอย่างนั่นคือแสงไฟของเมืองด้านล่างปกคลุมไปด้วยหมอก นี่คงจะเป็นทัศนวิสัยเลวร้ายที่สุดเท่าที่ผมเคยบินเข้าไป เราคิดแผนใหม่อย่างรวดเร็วว่าจะเบนเส้นทางไปสนามบินอีกแห่งหากจำเป็น เราทำรายการตรวจสอบ และบินลงไปดู
ขณะเร่งความเร็วไปยังรันเวย์ที่ 200 ฟุต (60 เมตร) เหนือระดับพื้นดิน เราถูกหมอกคุลมจนมิด ทันใดนั้น ขณะบินผ่านระดับ 120 ฟุต (37 เมตร) เราเห็นรันเวย์สว่างอยู่ข้างหน้า และไม่กี่วินาทีต่อมาเราลงจอดอย่างปลอดภัย ทุกคนถอนหายใจด้วยความโล่งอก
ความต่อเนื่องของหตุการณ์เหมือนบังเอิญที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนทำให้ลูกเรือของผมสามารถเดินทางหลายขั้นตอนไปอีกซีกหนึ่งของโลกและกลับมาเร็วเป็นประวัติการณ์ และผมสามารถอยู่บ้านช่วงสั้นๆ ได้ประจวบกับบัพติศมาของลูกสาวผมพอดี ด้วยความช่วยเหลือจากพระเจ้าผมสามารถทำหน้าที่ต่อประเทศชาติ ฝูงบินของผม และที่สำคัญที่สุดคือต่อครอบครัวผมได้สำเร็จ แม้ชีวิตจะเกิดเหตุให้เราต้องเปลี่ยนเวลาบัพติศมาของลูกสาวเรา แต่พระบิดาบนสวรรค์ทรงให้เรารู้ว่าพระองค์ทรงรักเราและทรงได้ยินคำสวดอ้อนวอนของเรา พระองค์ประทานความทรงจำของเหตุการณ์อันน่าอัศจรรย์เหล่านั้นแก่ลูกสาวผมเพื่อเป็นพยานว่าพระองค์ทรงรักเธอ และผมกับภรรยาต่างได้รับพยานแรงกล้าขึ้นว่า “อะไรก็ตามที่เจ้าจะทูลขอพระบิดาในนามของเรา, ซึ่งถูกต้อง, โดยเชื่อว่าเจ้าจะได้รับ, ดูเถิดพระองค์จะประทานให้เจ้า” (3 นีไฟ 18:20)