เสียงวิสุทธิชนยุคสุดท้าย
เป็นแม่เหมือนพระคริสต์
ดิฉันกวาดเพรทเซล ซีเรียล ข้าวโพดคั่ว และมันฝรั่งทอดมากองรวมกัน
“ไม่ ฉันไม่ได้กินของพวกนี้เลย” ดิฉันพูดขณะกวาดเศษอาหารกองนั้นใส่ที่ตักขยะ
สามีของดิฉันนั่งอยู่ที่โต๊ะและพูดเบาๆ ว่า “นั่นคือการเสียสละของคนเป็นแม่”
ดิฉันยืดตัวตรง “อะไรนะคะ” ดิฉันถาม
เขาพูดเสียงดังขึ้นและชัดขึ้นระหว่างเคี้ยวอาหารเช้า “นั่นคือสิ่งที่คนเป็นแม่ทำ พวกเธอใช้ชีวิตทำความสะอาดสิ่งสกปรกทั้งหลายที่พวกเธอไม่ได้เป็นคนทำ—เหมือนพระผู้ช่วยให้รอด”
ความเห็นของเขาทำให้ดิฉันซาบซึ้งใจ ดิฉันน่าจะคิดว่าการเก็บกวาดเศษขนมพวกนี้เป็นเหมือนพระคริสต์มากกว่าที่ดิฉันเคยคิด แต่ดิฉันกลับรู้สึกผิดมาก ดิฉันรู้สึกไม่สบายใจกับการเปรียบเทียบ ดิฉันเคยพูดกับสามีหรือพูดกับตัวเองกี่ครั้งว่าดิฉันทำทุกอย่างเพื่อลูกโดยหวังว่าจะได้คำขอบคุณและความสำนึกคุณ ดูเหมือนไม่ผิดที่ดิฉันปรารถนาจะให้ลูกๆ สำนึกคุณมากกว่านี้ แต่ในช่วงเวลาแห่งความชัดเจน ดิฉันเห็นว่าดิฉันปรารถนาจะให้ ตนเอง ได้รับคำสรรเสริญหรือสิ่งตอบแทนมากกว่าจะให้พวกเขาเรียนรู้ความกตัญญู แต่พระผู้ช่วยให้รอดไม่เคยเรียกร้องคำสรรเสริญ พระองค์ไม่เคยขอหรือไม่ต้องการสิ่งนั้น
ดิฉันจำการสนทนากับลูกวัยรุ่นได้เมื่อพวกเขาเขียนทุกสิ่งที่พวกเขาเคยทำให้ดิฉันเพื่อพวกเขาจะได้ไม่ต้องทำงานที่ขอให้ทำ
ดิฉันมักจะตอบว่า “ถ้าลูกอยากจะเปรียบเทียบการรับใช้พวกนี้ ก็ได้นะ แต่ลูกแพ้แน่นอน ไปทำงานซะ!”
ดิฉันทราบดีว่าเจตนาของดิฉันไม่บริสุทธิ์พอสำหรับการเปรียบเทียบที่สามีพูดถึง พระผู้ช่วยให้รอดไม่เคยเขียนเปรียบเทียบสิ่งที่พระองค์ทรงทำกับสิ่งที่ดิฉันทำ ดิฉันจะแพ้ทุกครั้งแน่นอน
ไม้กวาดยังอยู่ในมือขณะดิฉันรับรู้แนวคิดใหม่ของการเป็นแม่—เป็นแม่เหมือน พระองค์ จะทรงเป็น ไม่ใช่เพื่อคำสรรเสริญ คำชมเชย การสวมกอด หรือแม้แต่คำขอบคุณ ดิฉันจะกวาดเศษขนมด้วยความรักเพราะนั่นคือสิ่งที่พระองค์จะทรงทำ
ทุกอย่างที่พระองค์ทรงทำล้วนอยู่ในการเชื่อฟังพระบิดาของพระองค์ ไม่เกี่ยวกับพระองค์เลย พระเจ้าทรงซ่อมของแตกหักและทรงทำความสะอาดสิ่งสกปรกของเราด้วยความรักที่สมบูรณ์แบบเสมอ เพื่อพระบิดาและเพื่อเรา ต่อจากนี้ไปดิฉันจะพยายามสอนและรับใช้ลูกๆ ด้วยความรักที่บริสุทธิ์ที่สุด ดิฉันจะทำเช่นนั้นได้ก็ต่อเมื่อดิฉันรู้สึกว่าตนกำลังมีส่วนในการเป็นแม่เหมือนพระคริสต์จริงๆ