พระคัมภีร์: วันละ สิบนาที
เราขอให้เยาวชนห้าคนลองทำตามคำเชื้อเชิญของเอ็ลเดอร์สตีเวนสันให้ใช้เวลา 10 นาทีที่อยู่หน้าจอทุกวันมาอ่านพระคัมภีร์
ท่านเคยตั้้งเป้าหมายศึกษาพระคัมภีร์คล้ายๆ แบบนี้หรือไม่ “นับจากวันนี้เป็นต้นไปฉัน จะ ศึกษาพระคัมภีร์วันละหนึ่งชั่วโมงทุกวัน—และฉันจะทำ ให้ได้อย่างดี”
ถ้าท่านตั้งเป้าหมายแบบนี้ ผลเป็นอย่างไร ดูเหมือนว่าท่านจะทำได้ไม่ดี การพยายามสร้างนิสัยใหม่ท้าทายไม่ใช่เล่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพราะเรามักจะตั้งเป้าหมายเกินจริง (เหมือนเป้าหมายข้างต้น) ที่ทำให้เราหนักใจหรือเหนื่อยหน่ายอย่างรวดเร็ว
วิธีสร้างนิสัยของการศึกษาพระคัมภีร์ที่ดีที่สุดคือเริ่มทีละน้อย เอ็ลเดอร์แกรีย์ อี. สตีเวนสันแห่งโควรัมอัครสาวกสิบสองให้คำแนะนำที่ดีเยี่ยมดังนี้ “เยาวชนคนหนุ่มสาวมากมายใช้เวลาดูทีวี คอมพิวเตอร์ และจอสมาร์ทโฟนเฉลี่ยวันละเจ็ดชั่วโมง … ขอให้ท่านนำเอาเวลาที่อยู่หน้าจอทุกวัน—โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลาที่ใช้ไปกับสื่อสังคม อินเทอร์เน็ต เล่นเกม หรือดูโทรทัศน์—มาอ่านพระคัมภีร์มอรมอนบ้างได้หรือไม่ … แค่วันละ 10 นาทีก็ยังดี”1
เราขอให้เยาวชนห้าคนรับคำท้าของเอ็ลเดอร์สตีเวนสัน พวกเขาบันทึกเวลาอยู่หน้าจอของพวกเขาแต่ละวัน จากนั้นก็นำเอาเวลาอยู่หน้าจอมาศึกษาพระคัมภีร์มอรมอน 10 นาที ลองมาดูว่าผลออกมาเป็นอย่างไร—พวกเขาอาจจะสร้างแรงบันดาลใจให้ท่านลองทำบ้างก็ได้!
“หลังจากจดเวลาที่ผมใช้กับสื่อสังคม สัปดาห์แรก ผมตกใจเล็กน้อยกับจำนวนเวลาที่ผมใช้เล่นโทรศัพท์ สำหรับผมการใช้เวลานั้นอ่านพระคัมภีร์มอรมอนบ้างนับเป็นความคิดที่ไม่เลว เพราะการขยันอ่านพระคัมภีร์ไม่ใช่ข้อดีของผม
“ไม่อยากเชื่อเลยว่าวันหนึ่งของช่วงแรกๆ ที่ผมอ่านพระคัมภีร์ตอนเช้าเป็นวันที่ แย่มาก แต่ผมรู้ว่าการอ่านพระคัมภีร์มีแต่จะทำให้ชีวิตผมดีขึ้น ผมจึงอ่านไปเรื่อยๆ
“ผมคิดว่าผลดีที่สุดที่ได้รับจากการอ่านทุกวันคือผมรู้สึกรับพระวิญญาณได้มากขึ้น ผมตัดสินใจได้ง่ายขึ้นมาก ผมรู้สึกรักคนรอบข้างมากขึ้นและปรารถนาจะรับใช้มากขึ้น เมื่อผมอ่านพระคัมภีร์ตอนเช้า วันนั้นดีขึ้นมาก เมื่อผมอ่านตอนกลางคืน ผมหลับสบาย ผมขอแนะนำให้ทุกคนลองทำดู ชีวิตคุณจะต่างจากเดิม!”
ไบรน์ ซี., อายุ 18 ปี, ยูทาห์ สหรัฐอเมริกา
“เมื่อผมบันทึกเวลาใช้โทรศัพท์ของผม ผมรู้เลยว่าผมเล่นโทรศัพท์มากที่สุดในวันอาทิตย์ ผมคิดว่าน่าเสียดายเพราะนั่นเป็นเวลาที่ผมควรพยายามใกล้ชิดพระผู้ช่วยให้รอดของผมมากขึ้น—แทนที่จะมัวแต่จ้องหน้าจอ
“เมื่อผมเริ่มอ่านพระคัมภีร์ ผมจะอ่าน 10 นาทีทุกคืนก่อนเข้านอน ซึ่งสำหรับผมแล้วประมาณคืนละบท เมื่อทำเช่นนี้ ผมสังเกตว่าผมหลับง่ายขึ้นมาก ผมพบด้วยว่าผมตัดสินใจได้ดีขึ้นตลอดสัปดาห์ และสรุปคือผมรู้สึกดีขึ้นต่อตัวผมเอง
“ผมรู้สึกตื้นตันใจที่ผมสามารถรับคำเชื้อเชิญนี้ ผมวางแผนจะอ่านวันละ 10 นาทีและสวดอ้อนวอนทุกคืนต่อไป”
ไรอัน อี. อายุ 16 ปี, แอละแบมา สหรัฐอเมริกา
“ดิฉันนึกไม่ถึงว่าดิฉันอยู่กับสื่อสังคม มากขนาดนั้น จนกระทั่งผู้นำขอให้ดิฉันบันทึกเวลาใช้สื่อของตน และตอนนั้นเองที่ดิฉันรู้ตัวว่าดิฉันใช้ชีวิตไปกับสื่อสังคมมากเกินไป
“ทันทีที่เริ่มจริงจังกับการอ่านพระคัมภีร์ทุกวัน ดิฉันรู้สึกกระตือรือร้นมากกับการอ่านพระคัมภีร์มอรมอนและต้องการเรียนรู้จากในนั้น เมื่อดิฉันอ่านวันละ 10 นาที ดิฉันสนใจเรื่องราวต่างๆ มากขึ้นเรื่อยๆ พออ่านไปได้ครึ่งทาง ดิฉันตัดสินใจว่าก่อนอ่านดิฉันจะสวดอ้อนวอนขอให้พบคำตอบสำหรับคำถามของดิฉัน และแน่นอนว่าดิฉันได้รับคำตอบเหล่านั้นผ่านพระวิญญาณบริสุทธิ์
“ดิฉันรู้ว่าพระผู้เป็นเจ้าตรัสกับเราผ่านพระคัมภีร์และพระคัมภีร์มอรมอนเป็นพยานหลักฐานอีกเล่มหนึ่งของพระเยซูคริสต์ นั่นจะเป็นพรแก่ชีวิตเราจริงๆ ผ่านการศึกษาอย่างจริงจังร่วมกับการสวดอ้อนวอน ดิฉันขอบพระทัยสำหรับโอกาสที่มีส่วนในเรื่องนี้ และดิฉันเชื้อเชิญให้ทุกคนทำแบบเดียวกัน นั่นเป็นประสบการณ์ที่เปลี่ยนชีวิต”
ซิดนีย์ บี. อายุ 16 ปี, แอริโซนา สหรัฐอเมริกา
“ก่อนบันทึกเวลาที่ดิฉันใช้ ดิฉันคิดว่าการแบ่งเวลาอ่านพระคัมภีร์คงจะทำได้ยาก—แต่หลังจากรู้ตัวว่าดิฉันใช้เวลากับสื่อสังคมมากเกินไป การแบ่ง 10 นาทีออกมามันง่ายมากๆ! ดิฉันสามารถอ่านในช่วงเวลาอาหารกลางวันหรือก่อนเริ่มชั้นเรียนเซมินารี
“หลังจากอ่านพระคัมภีร์ ดิฉันระวังมากขึ้นกับสิ่งที่ดิฉันดูทางสื่อสังคม ถ้าบังเอิญเห็นบางอย่างไม่ดี ใช้ภาษาไม่ดีหรือมีข้อความในแง่ลบ ดิฉันสังเกตว่าดิฉันพยายามเลี่ยงมากกว่าแต่ก่อน ดิฉันสังเกตด้วยว่าคำสวดอ้อนวอนของดิฉันจริงใจมากขึ้นและดิฉันได้รับคำตอบมากขึ้น ดิฉันหวังอย่างยิ่งว่าจะเป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ!”
อิสซี เจ. อายุ 16 ปี, แคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา
“แม้จะลืมอ่านไปบ้าง แต่โดยรวมก็ถือว่าประสบความสำเร็จ ดิฉันรู้ตัวว่าก่อนเริ่มทำตามคำเชื้อเชิญของเอ็ลเดอร์สตีเวนสัน ดิฉันอ่านแค่คืนละประมาณ 3 นาที และเมื่ออ่านเพิ่มเป็นคืนละ 10 นาทีดิฉันเห็นความแตกต่างในชีวิต เมื่ออ่าน ดิฉันรู้สึกถึงพระวิญญาณมากขึ้นและรู้สึกถึงพรของความคุ้มครองทางวิญญาณทุกวัน การเริ่มอ่านพระคัมภีร์หลังจากไม่ได้อ่านไประยะหนึ่งอาจทำได้ยาก แต่พอเริ่มนิสัยการอ่าน ดิฉันหยุดไม่ได้
“ดิฉันสังเกตว่า เมื่อดิฉันอ่านพระคัมภีร์ก่อนเข้านอน ดิฉันจะง่วงหรือไม่ได้ประโยชน์จากการอ่านมากนัก การอ่านตอนเช้าหรือหลังเลิกเรียนจะได้ผลที่สุด
“ดิฉันชอบอ่านมากและขอท้าทายทุกคนให้ลอง”
ราเชล เอ. อายุ 15 ปี, โคโลราโด สหรัฐอเมริกา