2019
การเลือกเล็กนิดเดียว ผลลัพธ์ใหญ่มหึมา
สิงหาคม 2019


บทเรียนจากพันธสัญญาใหม่

การเลือกเล็กนิดเดียว ผลลัพธ์ใหญ่มหึมา

เราจะตอบอย่างไรเมื่อโลกถามว่า “คุณไม่อยากไปด้วยหรือ”

ข้าพเจ้ารักพันธสัญญาใหม่มาตั้งแต่เด็ก ข้าพเจ้าชอบอ่านเกี่ยวกับพระผู้ช่วยให้รอดทรงสอนหลักธรรมนิรันดร์ที่เปลี่ยนชีวิตเหล่าสานุศิษย์ของพระองค์ตลอดกาล

ข้าพเจ้าพบเช่นกันว่าหลักธรรมเดียวกันนั้นได้เปลี่ยนชีวิตข้าพเจ้าอย่างน่าทึ่งในหลายๆ ด้าน ข้าพเจ้าเห็นหลายต่อหลายครั้งว่าเมื่อเราประยุกต์ใช้คำสอนของพระอาจารย์ การตัดสินใจของเรา แม้แต่การตัดสินใจเล็กน้อย มักเกิดผลลัพธ์ใหญ่โต

การเลือก “เล็กนิดเดียว” ของข้าพเจ้า

หลายปีก่อน สมัยเป็นผู้จัดการคนใหม่ ข้าพเจ้าเดินทางไปอเมริกาใต้เพื่อเข้าร่วมสัมมนางานสำคัญที่จัดโดยเจ้าหน้าที่ระดับสูงของหน่วยงานราชการที่ข้าพเจ้าทำงานให้

เมื่อจบการประชุมคืนแรก “เจ้านายใหญ่” ของหน่วยงานประกาศกิจกรรมพิเศษสำหรับคืนนั้น แน่นอนว่าทุกคนชื่นชอบข้อเสนอของเขา เขาประกาศอย่างภาคภูมิใจว่า “เพื่อแสดงให้เห็นว่าเราเห็นคุณค่าของพวกคุณมากขนาดไหน คืนนี้เราขอเชิญทุกคนไปร่วมงานพิเศษข้างนอก ไปบาร์หลายๆ แห่งในเมืองที่มีชื่อเรื่องเครื่องดื่มค็อกเทลพิเศษ เราทุกคนจะชิมเครื่องดื่มหลายๆ แบบและลงคะแนนว่าบาร์ไหนผสมเครื่องดื่มได้เก่งที่สุด จะมีการแข่งขันและผู้ชนะ ไม่ต้องห่วง ผมเป็นเจ้ามือเลี้ยงพวกคุณเอง”

ขณะที่ทุกคนปรบมือให้แผนของเขา เขาถามคำถามที่ไม่ต้องการคำตอบว่า “ใครไม่ไปบ้าง ให้บอกมาเลยไม่งั้นต้องไป!”

ขณะทุกคนปรบมืออีกครั้ง ข้าพเจ้าคิดว่าข้าพเจ้าคงขายหน้ามากถ้าจะพูดบางอย่างต่อหน้าทุกคน ขัดกับความคาดหวังของเจ้านายที่ว่านี่เป็นข้อเสนอที่ดีเหลือเชื่อ

แต่ข้าพเจ้าตัดสินใจในเวลาเพียงไม่กี่วินาทีว่าต้องทำอะไร ข้าพเจ้ายกมือ คนเดียวที่ยก จากนั้นเขาถามอย่างน่ากลัวว่าข้าพเจ้าอยากพูดอะไร ข้าพเจ้าไม่เคยได้ยินความเงียบขนาดนี้มาก่อนในชีวิต!

ข้าพเจ้าตอบว่า “ท่านครับ ผมขอบคุณสำหรับความเอื้อเฟื้อของท่าน แต่ผมจะไม่ไปร่วมงานคืนนี้ครับ”

หลังจากเกิดความเงียบอีกครั้ง เงียบกว่าที่ข้าพเจ้าคิด เขาถามว่า “ทำไม” ในขณะนั้น ข้าพเจ้าจะใช้ข้ออ้างดีๆ อะไรก็ได้—อ้างว่าข้าพเจ้าไม่สบายหรือมีโทรศัพท์นัดสำคัญกับอีกซีกหนึ่งของโลกหรือเหตุผลอื่นที่จะช่วยให้ข้าพเจ้าพ้นความขายหน้า แต่ข้าพเจ้าบอกความจริงไปว่าข้าพเจ้าเป็นสมาชิกศาสนจักรของพระเยซูคริสต์แห่งวิสุทธิชนยุคสุดท้าย ข้าพเจ้าไม่ดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์

“เราจะสนุกโดยไม่มีคุณนะ”

หลังจากไตร่ตรองอยู่ครู่หนึ่ง เขาพูดขึ้นมาว่า “ถ้าอย่างนั้นเราจะสนุกโดยไม่มีคุณนะ” และเขาพูดกับคนอื่นๆ ว่า “ตามผมมา ไปสนุกกัน! ไม่ต้องไปยุ่งกับเขา”

ข้าพเจ้ายังจำเสียงหัวเราะกึกก้องของพวกเขาได้ขณะออกจากห้องประชุมและทิ้งให้ข้าพเจ้าอยู่คนเดียว ข้าพเจ้าตระหนักว่าหลายครั้งการเลือกพระเจ้าเป็นเหมือนประธานโธมัส เอส. มอนสัน (1927–2018) สอน คือล้วนเกี่ยวข้องกับการเลือก “สิ่งถูกต้องที่ยากกว่าแทนการเลือกสิ่งผิดที่ง่ายกว่า”1 แม้ต้องเสี่ยงกับการถูกทิ้งให้อยู่คนเดียวก็ตาม

ขณะข้าพเจ้าเดินเข้าห้องพัก ข้าพเจ้าจำได้ว่าได้ยินเสียงไกลๆ ในความคิดว่า “เจ้าไม่อยากไปด้วยหรือ” ข้าพเจ้าผงะครู่หนึ่ง แต่จู่ๆ คำที่ซีโมนเปโตรทูลพระผู้ช่วยให้รอดก็เข้ามาในความคิดข้าพเจ้า เขาตอบคำถามเดียวกันนั้นว่า “องค์พระผู้เป็นเจ้า พวกข้าพระองค์จะจากไปหาใครได้? พระองค์ทรงมีถ้อยคำแห่งชีวิตนิรันดร์” (ยอห์น 6:68)

ข้าพเจ้ารู้สึกสงบอีกครั้งประหนึ่งมีเหล่าเทพห้อมล้อมและประคองข้าพเจ้าไว้ แม้จะอยู่คนเดียว แต่ข้าพเจ้าไม่รู้สึกเดียวดาย เมื่อข้าพเจ้าเลือกพระเจ้าและยึดมั่นหลักธรรม ข้าพเจ้าเห็นว่าเมื่อเราเลือกพระเจ้าเราอาจถูกทิ้งให้อยู่คนเดียวในโลก แต่พระผู้ช่วยให้รอดจะไม่มีวันทอดทิ้งเรา

เล็กนิดเดียวแต่ใหญ่มหึมา

การตัดสินใจที่เราทำทุกวันอาจดูเหมือนเล็กนิดเดียวแต่มักมีผลใหญ่มหึมาและตามมาจริงๆ ไม่ดีก็เลว

ไม่กี่ปีหลังจากวันนั้น เจ้านายคนเดียวกันนี้มาเยี่ยมสำนักงานของเราในโรม เขายังเหมือนเดิม เต็มไปด้วยพลังและอำนาจ เขาดูน่ากลัวสำหรับเราทุกคน

คราวนี้ หลังจากการประชุมทั้งหมด เขาเดินเข้ามาหาข้าพเจ้าด้วยท่าทีต่างจากเดิม เขาใจดีอย่างประหลาด เขาบอกข้าพเจ้าว่าเขายังจำวันนั้นได้เมื่อข้าพเจ้ายึดมั่นความเชื่อของตน ยังความประหลาดใจแก่ข้าพเจ้า เขาถามต่อจากนั้นว่าข้าพเจ้าจะยอมเป็นผู้จัดการของหน่วยงานในยุโรปทั้งหมดหรือไม่ ซึ่งเป็นโอกาสดีมากสำหรับงานอาชีพของข้าพเจ้า ขณะเขาพยายามโน้มน้าวข้าพเจ้าให้เชื่อว่างานใหม่น่าสนใจในแง่ของเงินเดือน การเดินทาง และผลประโยชน์ แต่ที่ทำให้เกิดความแตกต่างจริงๆ คือเขาพูดว่า “เราไม่ได้มองแค่คุณสมบัติที่ดีเท่านั้น แต่เราต้องการคนซื่อสัตย์สุจริต คนที่ยึดมั่นหลักการของตน เราต้องการคนแบบคุณ”

ข้าพเจ้าประหลาดใจเมื่อได้ยินคำพูดเหล่านั้น ได้เห็นว่าการตัดสินใจเล็กนิดเดียวเพื่อยึดมั่นความเชื่อของข้าพเจ้าเมื่อหลายปีก่อนมีผลต่อเขามาก สุดท้ายแล้วการตัดสินใจเล็กนิดเดียวของข้าพเจ้าเป็นพรใหญ่หลวงสำหรับข้าพเจ้า ทั้งทางโลกและทางวิญญาณ น่าขันตรงที่งานมอบหมายใหม่ส่วนหนึ่งของข้าพเจ้าคือข้าพเจ้าได้เป็นหัวหน้าของผู้จัดการส่วนใหญ่ที่เคยหัวเราะเยาะข้าพเจ้าเมื่อหลายปีก่อน

การเลือกที่ถูกต้อง

ประธานมอนสันกล่าวว่า “เมื่อเราใคร่ครวญการตัดสินใจที่เราทำในชีวิตแต่ละวัน—ไม่ว่าจะเป็นการเลือกใด—หากเราเลือกพระคริสต์ เราจะเลือกได้ถูกต้อง”2

อัครสาวกเปาโลสอนเช่นกันว่าการเลือกพระเจ้าเป็นการเลือกที่ดีที่สุดเสมอ แม้การเลือกนั้นจะยากเพียงใดก็ตาม “เรารู้ว่าเหตุการณ์ทุกอย่างรวมกันก่อผลดีแก่คนที่รักพระเจ้า” (โรม 8:28)

ทุกวันการเลือกที่เราทำจะกำหนดสิ่งที่เราจะเป็น ถ้าเราเลือกพระเจ้า ดังที่ประธานมอนสันกล่าว “เราจะเลือกได้ถูกต้อง” เพราะดังที่เปาโลกล่าว “เหตุการณ์ทุกอย่างรวมกันก่อผลดีแก่คนที่รักพระเจ้า”

หลายครั้งเราลังเลไม่กล้าเลือกสิ่งถูกต้องเพราะเราพยายาามทำให้พระเจ้าพอพระทัยโดยไม่ทำให้ซาตานขุ่นเคือง แต่เราจะทำให้พระผู้เป็นเจ้าพอพระทัยโดยไม่ทำให้ซาตานอารมณ์เสียไม่ได้ เราไม่สามารถรับใช้นายสองคนได้ การตัดสินใจท้ายที่สุดของเรามักจะเป็นว่าเราดำเนินชีวิตตามพระบัญญัติสองข้อแรกถูกต้องตามลำดับหรือไม่ นั่นคือ รับใช้พระผู้เป็นเจ้าก่อนและจากนั้นรับใช้เพื่อนบ้านของเรา หรือให้พระบัญญัติข้อสองมาก่อนข้อแรกโดยพยายามทำให้ผู้อื่นพอใจก่อนทำให้พระผู้เป็นเจ้าพอพระทัย (ดู มัทธิว 22:37–39)

ยืนเป็นพยาน

พันธสัญญาสากลที่สุดที่เราทำเมื่อรับบัพติศมาคือ “ยืนเป็นพยานเกี่ยวกับพระผู้เป็นเจ้าทุกเวลาและในทุกสิ่ง, และในทุกแห่งที่ [เรา] อยู่” (โมไซยาห์ 18:9; เน้นตัวเอน) พันธสัญญาดังกล่าวเป็นการตัดสินใจที่เราทำครั้งเดียวและตลอดไปว่าเราจะยึดมั่นความเชื่อของเราในฐานะพยานของพระผู้เป็นเจ้าทุกขณะของชีวิตเรา พรที่สัญญาไว้คือเราจะมีพระวิญญาณสถิตกับเรามากมายยิ่งขึ้น (ดู โมไซยาห์ 18:10)

โลก เพื่อนวัยเดียวกับเรา และคนที่มีค่านิยมไม่เหมือนเรามักจะกดดันเราในบางเรื่องเสมอ แรงกดดันที่เกิดขึ้นเมื่อเราพยายามดำเนินชีวิตตามกฎซีเลสเชียลในโลกทีเลสเชียล ความจริงแล้วการดำเนินชีวิตอย่างชอบธรรมในโลกที่ชั่วร้ายไม่ใช่งานง่ายเลย บางครั้งเหมือนจะเป็นความท้าทายใหญ่มาก บางครั้งเหมือนจะเป็นความขัดแย้งประจำวัน แต่เรามีสัญญาว่าเราจะได้รับพระวิญญาณมากมายยิ่งขึ้นเมื่อเรายืนเป็นพยานแท้จริงของพระผู้เป็นเจ้า เมื่อเราสวดอ้อนวอนพระบิดาบนสวรรค์ พระองค์จะประทานพรเราด้วยอำนาจของพระวิญญาณบริสุทธิ์ โดยทรงให้ความช่วยเหลือพิเศษที่เราต้องการในยามวิกฤติ พระคุณของพระเจ้าจะเติมช่องว่างทางวิญญาณที่เราทุกคนประสบในฐานะสัตภาวะที่ไม่ดีพร้อมขณะพยายามดำเนินชีวิตให้ดีขึ้นและศักดิ์สิทธิ์ขึ้น

ผลลัพธ์นิรันดร์

การเลือกที่อาจดูเหมือนเล็กนิดเดียวตอนนั้นอาจมีผลลัพธ์นิรันดร์ แต่เพราะเราทำพันธสัญญาแล้ว เราจึงมีสัญญา เมื่อใดที่เราเลือกพระเจ้า—เมื่อใดที่เรายืนเป็นพยานทุกเวลา ในทุกสิ่ง และในทุกแห่ง—เมื่อนั้นเหตุการณ์ทุกอย่างจะรวมกันก่อผลดีแก่คนที่รักพระผู้เป็นเจ้า เมื่อเราเลือกพระเจ้า แม้บางครั้งจะเหลือเราคนเดียว แต่เหล่าเทพจะอยู่รอบเรา ประคองเรา และเราจะไม่รู้สึกโดดเดี่ยวอีกเลย (ดู หลักคำสอนและพันธสัญญา 84:88)

ข้าพเจ้าเป็นพยานอย่างจริงจังว่าในชั่วขณะอันศักดิ์สิทธิ์เหล่านั้นของการตัดสินใจเล็กนิดเดียวแต่ผลลัพธ์ใหญ่มหึมา เราจะพบสันติสุขและการพักผ่อนผ่านพระบิดาบนสวรรค์และพระบุตรของพระองค์พระเยซูคริสต์เท่านั้น หลายครั้งจะมีคนถามว่าเราจะไปกับโลกหรือจะยืดมั่นหลักธรรมของเรา เราจะตอบอย่างไรเมื่อถามว่า “เจ้าไม่ไปด้วยหรือ” เราจะไปกับโลกหรือเราจะอยู่กับพระเจ้า เราจะอยู่เงียบๆ และถูกกระทำ หรือเราจะยึดมั่นความเชื่อของเราและลงมือทำ

ขอให้เราเลือกพระเจ้าเสมอและพร้อมตอบว่า “พวกข้าพระองค์จะจากไปหาใครได้? พระองค์ทรงมีถ้อยคำแห่งชีวิตนิรันดร์” เมื่อนั้นเราจะได้รับพรจากการตัดสินใจอย่างชอบธรรมของเรา ทั้งทางโลกและทางวิญญาณ ในชีวิตนี้และสำหรับนิรันดร

อ้างอิง

  1. โธมัส เอส. มอนสัน, “การเลือก,” เลียโฮนา, พ.ค. 2016, 86.

  2. โธมัส เอส. มอนสัน “การเลือก” 86.